Halal Life Magazine #1

Page 1

December‘10 ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 ธันวาคม 2001

I am traveling in poetry Zakariya Amataya

1


2


Editor’s Note บทบรรณาธิการ

อัสลามุอลัยกุมฯ ครับ ขออนุญาตทักทายกันก่อนครับ เนือ่ งจากเป็นครัง้ แรกทีเ่ ราได้พบกันผ่านตัวอักษรบนหน้ากระดาษของนิตยสารเล็กๆฉบับนี้ และหลังจากนี้หากพระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์ เราคงได้พบกันแบบนี้เป็นประจำ�ทุกๆเดือนครับ พบกันครั้งแรกผมมีเรื่องหนึ่งอยากจะเล่าให้ฟังครับ เรื่องมีอยู่ว่า หลายปีก่อนเพื่อนสาวชาวพุธคนหนึ่งถามผมด้วย น้ำ�เสียงและสีหน้าชวนสงสัยอย่างยิ่งหลังจากที่เธอได้รับรู้ถึงหลักปฏิบัตรต่างๆของมุสลิม เธอโพล่งถามผมกลาง วงสนทนาว่า “ลำ�บากเนอะเป็นมุสลิม ไหนจะต้องละหมาดวันละตั้ง 5 เวลา จะกินอะไรทั้งทีก็ต้องเลือกเฉพาะร้านมุสลิม อยู่กรุงเทพฯแบบนี้แก(หมายถึงผม)ทำ�ได้งัย” ในวันนั้นผมทำ�ได้แค่เพียงนิ่งเงียบ ไม่มีคำ�ตอบใดๆออกจากปาก อาจเป็นเพราะสมองของผมที่ประมวลผลช้า เสียยิ่งกว่าคอมพิวเตอร์รุ่น 486 กำ�ลังครุ่นคิดถึงประโยคคำ�ถามของเธอ – เป็นมุสลิมมันลำ�บากจริงเหรอ - ไปเดินห้างจะ ละหมาดยังงัย จะกินข้าวร้านไหน - แล้วเวลาไปทำ�งานล่ะ เราจะมีเวลาละหมาดไหม ฯลฯ – หลายต่อหลายคำ�ถามผุด ขึ้นมาและวนเวียนซอกแซกอยู่ในหัวอยู่นาน ผมมองว่าในขณะที่มีความพยายามเป็นอย่างมากจากใครหรือกลุ่มไหนก็ตามที ที่จะสร้างความจงเกลียดจงชัง หรือสร้างภาพแห่งความเลวร้ายและน่ากลัวให้อิสลามและคนมุสลิม แต่ในมุมเล็กๆของสังคม เรากลับพบแนวโน้มที่ดี ขึ้นของการยอมรับ เคารพและให้เกียรติมุสลิมมากขึ้น ในวันนี้เราได้เห็นมุสลิมะฮ์สามารถคลุมฮิญาบเข้าเรียนได้ในทุก ระดับการศึกษา เราได้เห็นห้องละหมาดตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ เราได้เห็นร้านอาหารฮาลาลอยู่ทั่วทุกหนแห่ง เราได้ เห็นบริการฮาลาลทีห่ ลากหลายมากขึน้ ไม่วา่ จะเป็นโรงพยาบาลหรือแม้แต่เรือ่ งทีไ่ ม่นา่ เชือ่ อย่างการขนส่ง (Halal Logistic) หลายวันก่อนผมได้เห็นโพสต์แนะนำ�ห้องละหมาดตามห้างสรรพสินค้าและสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุเทพฯและ ต่างจังหวัดจากเฟสบุ๊คของมุสลิมะฮ์ท่านหนึ่ง และโพสต์นี้ก็ถูกแชร์หรือแบ่งปันอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นกระแสไปพัก ใหญ่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเฟสบุ๊ค โพสต์เล็กๆของมุสลิมะฮ์ท่านนี้ทำ�ให้ผมกลับมาคิดถึงคำ�ถามของเพื่อนสาวชาวพุธคนนั้นอีกครั้ง ถึงแม้ว่าวันเวลา จะผ่านมานานนับสิบปีแล้วก็ตาม เป็นเวลานับสิบปีทผ่ี มปล่อยให้เธอเข้าใจผิดคิดว่า การเป็นมุสลิมนัน้ ลำ�บาก ไม่เหมาะกับ สภาพสังคมเมืองแบบปัจจุบัน หากเธอคนนั้นกลับมาถามผมอีกครั้งในวันนี้ ผมจะรีบตอบกลับไปด้วยแววตาที่มั่นใจว่า “เป็นมุสลิมไม่ลำ�บาก หรอก ตรงกันข้าม ศาสนาอิสลามนี่แหละเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ที่สุดแล้ว หากไม่เชื่อลองศึกษาดูซิ แล้วชีวิตจะเจอ อะไรดีๆอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน” วิทยากร อิสมาแอล

CONTETS halalLife Magazine บรรณาธิการบริหาร วิทยากร อิสมาแอล หัวหน้ากองบรรณาธิการ หทัยรัตน์ บุญตามทัน กองบรรณาธิการ ฮาวา มัสเยาะ กอมารียะห์ สุเรรัตน์ ศิลปกรรม Chalit Design 081-351-8428 ผู้จัดการฝ่ายโฆษณา กฤษดา เรสลี ติดต่อโฆษณา โทรศัพท์ 084-985-7556 ฝ่ายสมาชิก ฮาวา มัสเยาะ โทรศัพท์ 081-563-2247 บรรณาธิการผู้พิมพ์โฆษณา วิทยากร อิสมาแอล พิมพ์ที่ SM Media สำ�นักงาน(ชั่วคราว) 378 ซ.ลาดพร้าว112 วังทองหลาง กทม Website: www.halallifemag.com email: hala.life.mag@gmail.com Facebook: halal life mag Twitter: twitter.com/halallife

20

7

December ปีที่ 1ฉบับที่ 1 ปี 2101

15 22 14

8 3


halal Update

TontonChami

belgium

ร้านฟาสต์ฟูดส์ฮาลาล เติบโตอย่างรวดเร็วใน เบลเยี่ยม Tonton Chami เครือข่ายร้านฟาสต์ฟด้ ู ส์ ฮาลาล เปิดบริการสองสาขาแล้วในเมือง อันเดอร์เลชและกรุงบรัสเซล และตัง้ เป้าเปิด ให้ บ ริ ก ารสาขาที่ ส ามในเมื อ งโมเลนบี ค ภายในปี 2011 El Mourabit เจ้าของกิจการกล่าวว่า เขามีแผนจะเปิดอีกห้าสาขาในกรุงบรัสเซลส์ ในเร็วๆนี้ และเขาต้องการทีจ่ ะเปิดบริการให้ ได้ไม่นอ้ ยกว่า 25 สาขาทัว่ ประเทศ ภายใน ปี 2013 El Mourabit กล่าวว่าความสำ�เร็จของ เขาเกิดจากความเป็นจริงทีว่ า่ ไม่มผี อู้ น่ื ให้ บริการอาหารฮาลาลเหมือนเช่นร้านของเขา นอกจากนีเ้ ขาก็ยงั กล่าวอีกว่าเครือข่ายร้าน ฟาสต์ฟ้ดู ส์ฮาลาลของเขาไม่ได้เจาะกลุ่ม เฉพาะตลาดชาวมุสลิมเท่านัน้

belgium

ครึ่งหนึ่งของเนื้อแกะในเบลเยี่ยมนั้นฮาลาล

สื่อในประเทศเบลเยี่ยมรายงานว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของ เนื้อแกะในซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารของเบลเยียมนั้น ฮาลาล เพราะผ่านการเชือดโดยกรรมวิธีฮาลาล ซึ่งหมายถึง ต้องเชือดโดยคนมุสลิมเท่านั้น เนื้อแกะในเบลเยี่ยมถูกนำ�เข้ามาจากนิวซีแลนด์ ซึ่งที่นั่น กระบวนการเชือดได้รับการรับรองฮาลาล เนื่องจากนิวซีแลนด์ เป็นฐานขนาดใหญ่ในการป้อนเนื้อสู่ตะวันออกกลาง ในทุกๆ ปี เนื้อแกะจากนิวซีแลนด์กว่า 12,000 ตันจะถูก นำ�เข้าสู่ประเทศเบลเยี่ยม โดยที่เนื้อจากนิวซีแลนด์มากกว่า 90% นั้นเป็นเนื้อฮาลาล "เราส่งออกไปยังตะวันออกกลางและ เอเชียเป็นจำ�นวนมาก เพราะที่นั่นมีความต้องการเนื้อฮาลาล

ฟาสต์ฟูดส์ยอดนิยม ของฝรั่งเศสเปลี่ยนเป็น เมนูฮาลาล

4

โดยเฉพาะ" Anne Berryman แห่ง New Zealand Meat Board องค์กรเครือข่ายระดับชาติสำ�หรับอุตสาหกรรม เนื้อสัตว์ กล่าว ส่วนอีกครึ่งหนึ่งของเนื้อแกะในเบลเยียมมาจาก ไอร์แลนด์และสหราชอาณาจักร ซึ่งหลังกระแสต่อต้าน อิสลามลุกลามไปในยุโรป ซุปเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง ในเบลเยี ย มต่ า งพยายามที่ จ ะปิ ด บั ง ความจริ ง ที่ ว่ า เนื้อที่มาจากนิวซีแลนด์นั้นเป็นเนื้อฮาลาล เนื่องเพราะ กลัวจะเสียลูกค้าที่ไม่ใช่มุสลิมไป "เราไม่อยากให้สาธารณชนรับรู้เรื่องนี้ เพราะลูกค้า บางคนอาจจะไม่ยอมรับมัน" เจ้าของร้านคนหนึ่งกล่าว

France: ฟาสต์ฟดู ส์ยอดนิยมในฝรัง่ เศสจะเริม่ ให้บริการแต่เฉพาะเมนูฮาลาลใน 22 สาขา หลังจากทีท่ �ำ การทดลอง ขายเมนูฮาลาลมาได้ระยะหนึง่ ซึง่ ผลปรากฏว่ายอดขายเพิม่ ขึน้ เป็นสองเท่า Quick ซึเ่ ป็นฟาสต์ฟดู ส์ยอดนิยมในฝรัง่ เศสอันดับสองรองจาก McDonald ได้ตดั สินใจเปลีย่ นเมนูของร้านให้เป็นเมนูฮาลาล เพือ่ หวังเจาะกลุม่ ตลาดมุสลิม ทีม่ อี ยูจ่ �ำ นวนมากในฝรัง่ เศสและยุโรป ซึง่ ทางร้านมองว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่ท่ี โดนปฏิเสธจากธุรกิจขนาดใหญ่ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดการถกเถียงเป็นอย่างมากในฝรั่งเศส ชาวฝรัง่ เศสทีค่ อ่ นข้างอ่อนไหวมองว่า การเปลีย่ นมาขายแต่เฉพาะอาหารฮา ลาลเช่นนีเ้ ป็นการเลือกปฏิบตั เิ กินไป และเกรงว่า Quick จะกลายเป็นสถานที่ เฉพาะของชาวมุสลิมไป ส่วนชาวมุสลิมบางคนในฝรั่งเศสที่ด้านหนึ่งก็ดีใจที่ไม่ต้องทนกินแต่แชนด์ วิชปลาอีกต่อไป แต่อีกด้านก็กลับกังวลใจต่อความคลางแคลงใจของเพือ่ น ร่วมชาติ


Movement

ibank

Thailand

ต้อนรับ รมช.คลังในงานมหกรรมการเงิน โคราช ครัง้ ที่ 4 Money Expo 2010

ดร.รัชสุวรรณ ปิดพยันต์ รองกรรมการผูจ้ ดั การ ธนาคาร อิสลามแห่งประเทศไทย(ibank) ให้การต้อนรับนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีชว่ ยว่าการกระทรวงการคลัง ในโอกาส เป็นประธานเปิดบูธ ibank ในงาน ”มหกรรมการเงินโคราช ครัง้ ที่ 4 Money Expo 2010” ซึง่ ibank ได้น�ำ โปรโมชัน่ สินเชือ่ ibank ยิง่ ผ่อน....ยิง่ สบาย ให้บริการภายในงาน ทีเ่ ดอะมอลล์ นครราชสีมา เมือ่ วันที่ 8 ตุลาคม 2553 การเข้าร่วมงานมหกรรมการเงิน Money Expo Korat 2010 ที่ จ.นครราชสีมา ในครัง้ นี้ ibank ได้จดั ทำ�โปรโมชัน่ พิ เศษร่วมกับผลิตภัณฑ์ทธ่ี นาคารมีอยู่ ภายใต้แนวคิด “สินเชือ่ ibank ยิง่ ผ่อน...ยิง่ สบาย” ด้วยการคิดอัตรากำ�ไรแบบ Step Down สำ�หรับพี่น้องในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มาใช้ บริการทางการเงินของธนาคารภายในงานนีเ้ ท่านัน้ สำ�หรับผลิตภัณฑ์ท่ี ibank นำ�เข้ามาร่วมในงานนี้ ประกอบด้วย สินเชือ่ เพือ่ ทีอ่ ยูอ่ าศัย ทีใ่ ห้วงเงินสูงถึง 15 ล้าน บาท แบบสบายกว่า ...สำ�หรับลูกค้าทีต่ อ้ งซือ้ ทีอ่ ยูอ่ าศัย ธนาคารให้วงเงิน100% ของราคาซือ้ ขาย/ราคาประเมิน กรณี ไถ่ถอนทีอ่ ยูอ่ าศัย ธนาคารให้วงเงินมากกว่า 100% ของ ภาระหนีค้ งเหลือ แต่ไม่เกิน 90% ของหลักประกัน แบบยิง่ ผ่อน...ยิง่ สบาย ด้วยการคิดอัตรากำ�ไรแบบ Step Down เริม่ ต้นเพียง 1.5% ลดลง 0.25% ทุก Quarter จนเหลืออัตรา

กำ�ไรต่�ำ สุดเพียง 0.75% ด้วยระยะเวลาผ่อนชำ�ระนานถึง 30 ปี และสบายแบบ ฟรี...ฟรี กับค่าธรรมเนียม Front End Free และค่าจัดทำ�นิตกิ รรมสัญญา โดย ibank ยังได้น�ำ สินเชือ่ วงเงินอเนกประสงค์/สิน เชือ่ รีไฟแนนซ์หนีบ้ ตั รเครดิต/สินเชือ่ บุคคล มาให้บริการ ในอัตรากำ�ไรพิเศษเพียง 14.25% วงเงินสูงสุด 20 เท่า ของรายได้ หรือไม่เกิน 100% ของภาระหนีค้ งเหลือ ด้วย ระยะเวลาผ่อนชำ�ระนานถึง 6 ปี และสำ�หรับลูกค้าที่

ประกอบธุรกิจและต้องการเงินทุนหมุนเวียน ibank มีสนิ เชือ่ ระยะยาว และสินเชือ่ หมุนเวียนมาให้บริการ และสำ�หรับลูกค้าเงินฝาก ibank ได้น�ำ ผลิตภัณฑ์เงิน ฝากทีใ่ ห้ผลตอบแทนสูง ทัง้ เงินฝาก ibank for five เงินฝาก ประจำ� 5 เดือน ให้ผลตอบแทนสูงถึง 2% และ ibank for you เงินฝากออมทรัพย์ ให้ผลตอบแทนสูงถึง 1.6% เงิน ฝากประจำ� จากวันแม่ถงึ วันพ่อ และเงินฝากออมทรัพย์ มุดอรอบะฮ์ 36 เดือน มาให้เลือกใช้บริการอีกด้วย

Matrix อิสลามและท่านนบีมูฮำ�หมัด

วางแผนสร้างหนังประวัติศาสตร์

ผู้สร้าง

Qatar:

เว็บไซต์ guardian.co.uk ของอังกฤษรายงานว่า Barrie Osborne หนึง่ ในทีมงานรางวัลออสการ์ จากหนังเรื่อง Lord of the Rings และ The Matirx เตรียมที่จะสร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการสร้าง หนังอัตชีวประวัติท่านนบีมูฮำ�หมัด (ศ็อลฯ) Barrie Osborne นักสร้างหนังชาวอเมริกันได้กล่าวถึงผลงานชิ้นใหม่ที่กำ�ลังจะเกิดขึ้นของเขา ว่าจะให้ความกระจ่างชัดแก่ผู้ชมเกี่ยวกับความหมายที่แท้จริงของอิสลาม โดยเขาได้กล่าวว่า "หนัง เรื่องนี้จะเป็นดั่งมหากาพย์ระดับนานาชาติที่บอกเล่าถึงความหมายที่แท้จริงของอิสลาม" ภาพยนต์เรือ่ งนีใ้ ช้งบในการสร้างราว 150 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย Alnoor Holdings ซึง่ เป็นบริษทั โปรดักชัน่ ของประเทศกาตาร์จะเริม่ ทำ�การคัดเลือกผูแ้ สดงมุสลิมทีพ่ ดู ภาษาอังกฤษได้ภายในปี 2011 นอกจากนีบ้ ริษทั ยังได้ท�ำ การแต่งตัง้ ให้ เชคยูซฟุ อัล-กอรอฎอวี อูลามาอฺทม่ี ชี อ่ื เสียงเป็นทีป่ รึกษาด้าน เนือ้ หาของเพือ่ ไม่ให้ขดั กับหลักการอิสลาม และจะต้องไม่ปรากฎภาพของท่านนบีมฮู มั หมัด Ahmed Abd Allah ผูอ้ �ำ นวยการบริษทั Alnoor Holdings ได้อธิบายว่า ภาพยนตร์เรือ่ งนีจ้ ะกล่าว ถึงชีวติ ของท่านนบีมฮู มั หมัด(ศ็อลฯ) ตัง้ แต่กอ่ นท่านเกิด จนถึงการจากไปของท่าน โดยเน้นให้เห็นว่า ท่านนบีมฮู มั หมัด(ศ็อลฯ) เป็นมนุษย์ทพ่ี ระเจ้าเลือกให้เป็นศาสนทูตคนสุดท้ายของประชาชาติ

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยได้ตรวจรับและส่งมอบเครื่องบิน โดยสารพาณิชย์ รุน่ โบอิง้ 747-412 ให้แก่ผบู้ ริหารบริษทั โอเรียนท์ไทย แอร์ไลน์ จำ�กัด หลังจากที่ ibank อนุมตั วิ งเงินสินเชือ่ จำ�นวน 500 ล้าน บาท ให้แก่บริษทั โอเรียนท์ไทยแอร์ไลน์ สำ�หรับการเช่าซือ้ เครือ่ งบินเพือ่ ใช้ นำ�ส่งผูแ้ สวงบุญชาวมุสลิมไปประกอบพิธฮี จั ย์ทป่ี ระเทศซาอุดอิ าระเบีย นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผูจ้ ดั การ ธนาคารอิสลามแห่ง ประเทศไทย กล่าวภายหลังพิธสี ง่ มอบเครือ่ งบินว่า “ibank ได้อนุมตั สิ นิ เชือ่ เช่าซือ้ ตามหลักอิญาเราะฮ์ วัลอิกตินาอ์ (Ijarah Wal Iqtina) แก่สาย การบินโอเรียนท์ไทย เพราะต้องการสนับสนุนการไปประกอบพิธฮี จั ย์ของ พีน่ อ้ งมุสลิมไทย เนือ่ งจากเห็นว่าทางสายการบินโอเรียนท์ไทย เคยให้ บริการเช่าเหมาเครือ่ งบินแก่ทางอินโดเนียเซียและปากีสถาน สำ�หรับส่ง ผูโ้ ดยสารไปประกอบพิธฮี จั ย์มาแล้ว ซึง่ การเช่าซือ้ เครือ่ งบินครัง้ นีจ้ ะสร้าง ความสะดวกแก่ชาวไทยมุสลิมมากยิง่ ขึน้ ”

โดย ibank ได้อนุมตั วิ งเงินสินเชือ่ เช่าซือ้ แก่บริษทั โอเรียนไทยแอร์ ไลน์ เป็นจำ�นวนเงิน 500 ล้านบาท ระยะเวลาการผ่อนชำ�ระ 4 ปี ซึง่ ถือ เป็นครัง้ แรกทีธ่ นาคารได้ให้บริการสินเชือ่ สำ�หรับเช่าซือ้ เครือ่ งบิน โดย บริษทั โอเรียนท์ไทยแอร์ไลน์ ได้ให้บริการเส้นทางสายการบินภายใน ประเทศ 9 เส้นทาง และให้บริการเครือ่ งบินแบบเช่าเหมาลำ�เพือ่ ขนส่ง ผูโ้ ดยสารไปทำ�พิธอี มุ เราะห์และพิธฮี จั ย์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิ อาราเบีย โดยมีลกู ค้าหลักเป็นองค์การสหประชาชาติและสายการบิน แห่งชาติของประเทศมุสลิม ทัง้ นี้ สินเชือ่ เช่าซือ้ ตามหลัก อิญาเราะฮ์ วัลอิกตินาอ์ (Ijarah Wal Iqtina) เป็นสินเชือ่ เช่าซือ้ ทีเ่ จ้าของทรัพย์สนิ ตกลงให้ผเู้ ช่า เช่าทรัพย์สนิ ในอัตราและระยะเวลาการเช่าทีท่ ง้ั สองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน เมือ่ ครบ กำ�หนดการเช่าแล้ว กรรมสิทธิท์ รัพย์สนิ จะตกเป็นของผูเ้ ช่าทันทีโดย ไม่มสี ญ ั ญาจะซือ้ โดยอัตราค่าเช่าจะมีการบวกราคาขายเข้าไปด้วย

Thailand

ibank ปล่อยสินเชือ่ โอเรียนท์ไทย 500 ล้านบาท

5


Recommend Website:

เมือ่ การค้นหาร้านอาหารฮาล

Halal.in.th เป็นเรือ่ งง่าย

คงจะดีไม่นอ้ ยหากเราสามารถค้นหาได้วา่ ทีไ่ หนมีรา้ นอาหารฮาลาลอยูบ่ า้ ง หรืออยากรูว้ า่ ร้านโน้นร้านนีท้ เ่ี ค้าว่ากันว่ามัน อร่อยนัน่ หนะตัง้ อยูต่ รงไหน แล้วจะเดินทางไปอย่างไร Halal.in.th คือคำ�คอบนัน้ Halal.in.th เป็นเว็บไซต์ทอ่ี าสารวบรวมร้านอาหารฮาลาลจากทุกสารทิศในเมืองไทย พร้อม ด้วยข้อมูลการเดินทางแบบละเอียดยิบ ด้วยการใช้เทคโลยีแผนทีจ่ าก Google Map ระบุพกิ ดั กันอย่างชัดเจน ส่งผลให้การเดิน ทางไปต่างถิน่ ครัง้ ต่อไปหมดกังวลไปอีกหลายขุม เอ้า! จะรอช้าอยูใ่ ย รีบคลิกเข้าไปกันเลย

Baby Arabia

Baby Arabia ผลงานเรื่องที่สองของกลุ่มนัก ทำ�หนังมุสลิม ได้แก่ ภาณุ อารี, ก้อง ฤทธิ์ดี และ กวีนิพนธ์ เกตุประสิทธ์ ซึ่งมีผลงานร่วมกันมาก่อน หน้านี้คือ The Convert หรือ มูอัลลัฟ Baby Arabia เป็นหนังทุนไทยเข้มแข็งเรือ่ งที่ สองที่ท�ำ เสร็จแล้วหลังจากภาพยนตร์เรื่อง”ลุงบุญมี ระลึกชาติ”ของอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ประเดิม เป็นเรื่องแรก ซึง่ หนังได้รบั เชิญไปฉายทีเ่ ทศกาลหนัง แวนคูเวอร์ และเปิดฉายในประเทศไทยในช่วงเดือน กันยายนทีห่ อ ศิลปกรุงเทพ ระหว่างเทศกาลหนังสัน้ ไทยครัง้ ที่ 14 Baby Arabia เป็นหนังสารคดีวา่ ด้วยเรือ่ งราว ของวงดนตรีแนวอาหรับ-มาเลย์ของมุสลิมทีก่ อ่ ตัง้ มา นานกว่า 35 ปี ซึง่ ปัจจุบนั กำ�ลังประสบกับปัญหาการ เสื่อมความนิยมในหมุ่คนรุ่นใหม่และแรงต่อต้าน จากชาวมุสลิมบางกลุม่ ในประเด็นความผิดหลักการ ทางศาสนา

Social Network:

Musliminside.com

เครือข่ายสังคมของมุสลิมไทย

คงจะเชยไม่นอ้ ยหากใครบอกว่าไม่รจู้ กั เว็บไซต์ บริการประเภทเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือ Social Network โซเชี่ ย ลเน็ ต เวิ ร์ ค ที่ ฮ๊ อ ตฮิ ต ที่ สุ ด ตอนนี้ คงจะหนีไม่พ้น Facebook ที่ตอนนี้มีสมาชิกลง ทะเบียนไปแล้วกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก นอก เหนือจากโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คใหญ่ๆอย่าง Facebook, Myspace, Hi5 แล้วยังมี โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ที่ เ จาะจงเฉพาะกลุ่ ม อยู่ อี ก มากมายหลายเว็ บ และหนึ่งในนั้นคือ Musliminside.com ความพิเศษของเว็บ Musliminside.com คือ เป็นเว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์ลักษณะเดียวกับ Facebook แต่ตกี รอบไว้วา่ สมาชิกเครือข่ายนัน้ ต้อง เป็นมุสลิมเท่านัน้ และทีส่ �ำ คัญเป็นเว็บสัญชาติไทย เพราะฉะนัน้ ใน Musliminside.com คุนมัน่ ใจได้ เลยว่าจะพบเจอกับพีน่ อ้ งชาวมุสลิมในประเทศไทย อย่างแน่นอน

Bicycle Club: @112 Bike Club คลับของนักปั่น ในร้าน @112 Coffee House

6

Book:

Film:

สำ�หรับสิงห์นักปั่น หากคุณกำ�ลังมองหา สถานที่ท่เี ป็นแหล่งพบปะพูดคุยหรือแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ แบ่งปันเรือ่ งเล่าระหว่างทางของคนคอ เดียวกัน เราขอแนะนำ� @112 Coffee House ร้านกาแฟบรรยากาศเป็นกันเองตั้งอยู่กลาง ซอย ลาดพร้าว112 ใกล้กับโรงเรียนอิสลามสันติ ชน ในทุกๆ เย็น เหล่าสิงห์นกั ปัน่ จากหลายสำ�นักแวะ เวียนมาวิสาสะกันอย่างออกรส หากคุณอยากจะ ออกทริป หรือไร้เพือ่ นร่วมปัน่ ทางร้านก็มที ริปปัน่ กัน อย่างเป็นประจำ� หากสนใจลองแวะเวียนไปกันดูครับ

ไม่มหี ญิงสาวในบทกวี โดย ซาการียย์ า อมตายา “ไม่มหี ญิงสาวในบทกวี” ของ ซะการียย์ า อมตยา (สำ�นักพิมพ์ หนึง่ ) ซึง่ ได้รบั รางวัลซีไรต์ปลี า่ สุด เป็นกวีนพิ นธ์แบบไร้ฉนั ทลักษณ์ (free verse) ทีม่ คี วามสัน้ -ยาวแตกต่างกันตัง้ แต่ 11 บรรทัดจบในครึง่ หน้า จนถึงร้อยกว่าบรรทัดหลายหน้าจบ รวม 36 บท โดยสือ่ ประสบการณ์ และทัศนะอันหลากหลายของผูแ้ ต่ง ตัง้ แต่การสำ�รวจตนเอง ทัศนะต่อ บทบาท ธรรมชาติ หน้าทีข่ องกวีและกวีนพิ นธ์ ไปจนถึงทัศนะต่อมนุษย์ ชีวติ ปรากฏการณ์และสถานการณ์รว่ มสมัยในสังคม ทัง้ ในระดับบุคคล และก้าวไปถึงระดับมนุษยชาติ โดยเชิญชวนให้ผอู้ า่ นร่วมคิดไปกับเขา แต่ทา้ ยทีส่ ดุ แล้วสิง่ ทีผ่ อู้ า่ นและผูแ้ ต่งมองเห็นหรือค้นพบอาจไม่ใช่สง่ิ คำ� ตอบเดียวกัน ซาการียย์ า อมตยา กวีซไี รต์มสุ ลิมคนแรก เติบโตทีห่ มูบ่ า้ นเล็กๆ ริม ตีนเขาบูโด สนใจศึกษางานเขียนของกวีตา่ งประเทศ เคยมีผลงานแปล ใน จุดประกายวรรณกรรม-หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และปาจารยสาร มีผลงานบทกวีตพี มิ พ์ตามหน้านิตยสารเป็นครัง้ คราว ออกเดินทางอ่าน บทกวีรว่ มกับผองเพือ่ นและนอกเหนืออืน่ ใดยังฝันทีจ่ ะถ่ายทอดเรือ่ งราว แผ่นดินเกิดผ่านตัวอักษรเหมือนนิทานทีเ่ ขาเคยฟังในวัยเยาว์ นอกจาก เขียนและแปลบทกวีแล้ว ซะการียย์ ายังเป็นเวบมาสเตอร์และผูก้ อ่ ตัง้ เว็บไซต์ www.thaipoetsociety.com เพือ่ เป็นสาธารณรัฐกวีนพิ นธ์หรือ ชุมชนทางเลือกสำ�หรับผูน้ ยิ มชมชอบงานเขียนกวี และยังจัดกิจกรรมส่ง เสริมกวีนพิ นธ์อกี ด้วย


finland:

Inspired

United Kingdom:

by Muhammad

มุสลิมในอังกฤษออกแคมเปญส่งเสริมภาพลักษณ์อสิ ลาม

แคมเปญนี้มีขึ้นภายหลังจากที่มีการสำ�รวจความคิดเห็นของคน อังกฤษแล้วพบว่า มากกว่าครึ่งมีความเชื่อว่าอิสลามนิยมความรุนแรง และการก่อการร้าย "Inspired by Muhammad" มีวตั ถุประสงค์เพือ่ โปรโมตอิสลามในแง่มมุ ของความความเชือ่ มุง่ หวังให้สงั คมอังกฤษมองอิสลามในแง่บวกมากขึน้ ภาพโปสเตอร์ของชาวมุสลิมที่มีข้อความ อย่างเช่น "ฉันเชื่อในสิทธิ สตรี...มูฮำ�หมัดก็เช่นกัน" จะปรากฏตามป้ายรถเมล์ สถานีรถไฟใต้ดิน และป้ายโฆษณาบนรถแทกซี่ในลอนดอน ทัง้ นีผ้ ลสำ�รวจจาก YouGov poll ปรากฏว่า 58% ของคนอังกฤษเชือ่ ว่าอิสลามเป็นศาสนาทีน่ ยิ มความรุนแรง 50% เชือ่ ว่าเป็นศาสนาทีส่ อน เรือ่ งการก่อการร้าย และ 68% รูส้ กึ ว่าอิสลามนัน้ จำ�กัดสิทธิสตรีมากเกินไป Kristiane Backer หนึ่งในพรีเซนเตอร์ทางทีวีของแคมเปญนี้ และ เป็นผู้ที่เพิ่งเข้ารับศาสนาอิสลาม กล่าวว่า "ภาพพจน์อิสลามในแง่ลบเป็น เหตุผลที่ทำ�ให้เกิดแคมเปญนี้ขึ้นมา และผลที่ต้องการคือข่าวในแง่บวก และการเผยแพร่ความจริงเกี่ยวกับอิสลาม" "คุณค่าของความเห็นอกเห็นใจ สันติภาพ สิทธิสตรี สังคมทีย่ ตุ ธิ รรม ทัง้ หมดนีล้ ว้ นเป็นส่วนหนึง่ ของอิสลาม เราพยายามทีจ่ ะเน้นหนักในเรือ่ ง คุณค่าของสิง่ เหล่านีเ้ พือ่ ทีจ่ ะสะท้อนให้เห็นถึงหลักสำ�คัญทีแ่ ท้จริงของอิสลาม" อนึ่งหลังเกิดเหตุการณ์โจมตีอังกฤษในปี 2005 และเหตุการณ์โจมตี สนามบิน Glasgow ในปี 2007 ส่งผลให้คนอังกฤษส่วนใหญ่มีความรู้สึก ต่อต้านอิสลามมากขึ้น

Umma

นิตยสารไลฟสไตล์ส�ำ หรับเยาวชนมุสลิม กลุ่มเยาวชนมุสลิมในฟินแลนด์เปิดตัวนิตยสาร Umma นิตยสารแนวไลฟสไตล์ฉบับใหม่ที่มีเนื้อหา ครอบคลุมเรื่องราวในชีวิตประจำ�วัน เรื่องแฟชั่น ไป จนถึงการกีฬาในมุมมองแบบมุสลิม โดยหวังเจาะกลุ่ม เยาวชนมุสลิมในฟินแลนด์ นิตยสาร Umma เกิดขึน้ จากการผลักดันของคณะ กรรมการเยาวชนมุสลิมของสมาคมมุสลิมฟินแลนด์ โดย มีบลิ า้ ล ซอและห์ บรรณาธิการบริหาร เป็นกำ�ลังสำ�คัญ บิล้าล ซอและห์ บรรณาธิการบริหาร ผู้ก่อตั้ง นิตยสารฉบับนี้กล่าวว่า "ในฟินแลนด์มีเยาวชนมุสลิม จำ�นวนมาก แต่พวกเราไม่มีกิจกรรมอะไรที่เปิดพื้นที่ให้ พวกเราได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเราและวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของเราเท่าใดนัก" "นิตยสารของเราเป็นนิตยสารไลฟ์สไตล์มุสลิม คุณ จะได้เห็นเรื่องแฟชั่น ได้รู้เรื่องกีฬา และแน่นอนเรื่องราว ของเยาวชนมุสลิม บทความประวัติศาสตร์ และคุณยัง ได้รับรู้ข่าวสารต่างๆอีกด้วย" นิตยสาร Umma จัดพิมพ์โดยสมาคมมุสลิมฟินแลนด์ และได้รบั งบประมาณบางส่วนจากฝ่ายกิจกรรมเยาวชน ของอียู ถึงแม้ว่าจะมีการจัดพิมพ์ในฟินแลนด์ แต่กอง บรรณาธิการทั้งสิบคนล้วนเป็นชาวต่างชาติทั้งสิ้น อาทิ เช่น จากประเทศโซมาเลีย ประเทศแถบอาหรับ โคโซโว และฟินแลนด์

Good News

german:

เยอรมันบรรจุอิสลามศึกษาใน หลักสูตรโรงเรียน

หนังสือพิมพ์ Asharq al-Awsat ซึ่งตีพิมพ์ใน กรุงลอนดอน รายงานว่า Dr.Bernd Althusmann รัฐมนตรีดูแลด้านการศึกษาในรัฐ Lower Saxony ทางตะวั น ตกเฉี ย งเหนื อ ของประเทศเยอรมั น ประกาศเพิ่ ม วิ ช าอิ ส ลามศึ ก ษาเข้ า ในหลั ก สู ต ร หลักของโรงเรียน โดยจะเริ่มใช้ในอีก 2 ปีการ ศึกษาถัดไป ซึ่งการประกาศครั้งนี้มีขึ้นระหว่างที่ เขาไปเยือนโรงเรียนประถมในเมือง Hanover ซึ่ง เปิดชั้นเรียนสอนอิสลามศึกษาไปก่อนแล้ว ปัจจุบันมีโรงเรียนไม่กี่แห่งที่ริเริ่มทดลองสอน วิชาอิสลาม โดยโรงเรียนประถมในเขต Lower Saxony มีอยู่ 42 แห่ง และมีนักเรียนมุสลิม จำ�นวนเกือบ 2,000 คน การริ เ ริ่ ม ครั้ ง นี้ ถู ก กระตุ้ น โดยกระแสความ รู้สึกจงชังอิสลามและมุสลิมที่ขยายตัวไปทั่วทวีป ยุโรป โดยมี Geert Wilders ส.ส.ชาวดัทช์ เป็นผู้ จุดกระแสการดูหมิ่นอิสลาม แนวคิดนี้ลามเข้ามา ในเยอรมันโดยพรรคการเมือง Freedom ซึ่งก่อตั้ง ขึ้นใหม่โดย ส.ส. Rene Stadtkewitz ซึ่งถูกขับออก จากพรรคคริสเตียน เดโมแครต ยูเนี่ยน ของนาง แองเจล่า เมอร์เกล เนื่องจากมีทัศนะในการต่อ ต้านอิสลาม และต้องการเชิญ ส.ส. Wilders เข้า มาแสดงปาฐกถาในกรุงเบอร์ลิน Dr.Althusmann กล่าวว่า การเรียนรู้เกี่ยวกับ อิสลามจะช่วยต่อต้านความเกลียดกลัวอิสลาม อย่างไม่มีเหตุผล และลดอคติที่มีต่อมุสลิมลงได้

france:

อิหม่ามนักคิดในฝรัง่ เศส สร้างมัสยิดเคลือ่ นที่

อิหม่าม Hassen Bounamcha แห่งเมือง Aubervilliers ในฝรั่งเศสคิดค้นสร้างมัสยิดเคลื่อนที่โดยให้ชื่อว่า Mirhbox มัสยิดเคลื่อนที่หลังนี้ใช้โครงสร้างที่ทำ�จากกระดาษแข็ง, แผ่นพลาสติกสังเคราะห์, ไม้อัด เสริมด้วยแผ่นอะลูมิเนียม พร้อมพรมตุรกีสำ�หรับปูนมาซ และภาพมิมบัรที่ทำ�เลียนแบบสถานที่ที่อิหม่ามยืนหันหน้าเมื่อนำ�นมาซในมัสยิด อิหม่าม Bounamcha กล่าวว่า เขาพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่า เมื่อทำ�นมาซในมัสยิดจะมีสมาธิมากกว่านมาซใน สถานที่ทั่วๆ ไป ดังนั้นจึงคิดทำ�มัสยิดเคลื่อนที่ขึ้น ซึ่งเมื่อโครงสร้างสูง 2 เมตรนี้ถูกประกอบขึ้นตรงหน้าของผู้นมาซ ก็จะ ดูเหมือนอยู่ในมัสยิด โดยหันทิศที่จะตั้งให้ตรงกับกิบลัต มัสยิดเคลื่อนที่นี้มีหลายราคา แพงสุดอยู่ที่ 450 ยูโร (ประมาณ 18,900 บาท) ซึ่งมีการติดตั้งลำ�โพงขยายเสียงให้ด้วย ส่วนที่ราคาต่ำ�สุดอยู่ที่ 69 ยูโร(ประมาณ 2,900 บาท) เป็นชนิดที่ใช้ สำ�หรับเด็ก เขาคาดหวังว่าจะขายได้อย่างน้อย 1 พันชิ้นภายใน 1 ปี และได้ส่งไปขายแล้วในหลายประเทศ

7

7


Hang out text : พระอาทิตย์กับพระจันทร์

Da Da Rotn ong ดาดา โรตีโอ่ง ช่วงเวลาปลายฝนต้นหนาว การผลัดเปลี่ยนแห่งฤดูกาลที่ กำ�ลังจะเริ่มขึ้น สายฝนที่โปรยปรายลงมาทั้งเช้า สาย บ่าย เย็น ในเกือบทุกวัน ใครใคร่ชอบอาจบอกว่า สายฝนที่ปรายลงมาใน แต่ละช่วงเวลาสร้างความฉุ่มชื่น ฉุ่มช่ำ� แต่หากใครไม่พิศวาส ในอากาศเช่นนี้ คงต้องบ่นออกในใจตามๆกันว่า ทั้งเฉอะแฉะ ผ้าไม่แห้ง ออกไปไหนก็ไม่ได้ วันนี้ฉันมีโปรแกรมจะไปเยี่ยมคุณย่า แถวอ่อนนุช ฝนตกก็ แค่กางร่ม..แค่นี้ก็เปียกน้อยลงแล้ว ระหว่างนั่งรถไป ฝนก็ยังคงตกลงมาอย่างไม่ขาดตอน .. ฝนตก รถติด แอร์ฉ่ำ�ๆ... ทำ�เอาหนังท้องที่ตึงดึงหนังตาให้ ปิดลงมาทันที ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง จึงพบว่าเลยเป้าหมายการเดินทางของ วันนีไ้ ปถึงสีแ่ ยกประเวศ ขณะเดียวกันกวาดสายตาหันมองรอบๆ พบว่า สายฝนนั้นหยุดหล่นลงมาจากฟากฟ้าเสียแล้ว พลันคิดขึ้นว่า ไหนๆ ก็เลยบ้านย่ามาตั้งหลายป้าย ไหนๆ ก็อยู่ตั้งแยกประเวศ ไหนๆ ก็ไหนๆ หาร้านกาแฟนั่งแก้เซ็งเลยดี กว่า ระหว่างครุ่นคิด รถตู้อุดมสุข ก็มาจอดอยู่ตรงหน้า เอาก็เอา ไปบ้านย่าช้าหน่อยแล้วกัน ริมถนนในซอยเฉลิมเกียรติ 66 (สวนหลวง ร.9) คือสถานี ปลายทาง เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีจากแยกประเวศถึงซอยเฉลิม พระเกียรติ 66 รถตู้ก็นำ�พาสู่ที่หมายด้วยความปลอดภัย มองซ้าย มองขวา ไหนหว่า ร้านกาแฟที่เคยได้ยินว่ามีโรตี โอ่งขายด้วย สายตาพลันจับจ้องไปยังร้านเป้าหมาย ทันใดนั้นป้ายดาดาโรตีโอ่งที่ถูกการันตีด้วยช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9 เครื่องหมายการันตีว่า ร้านนี้เด็ดจริง ก็ปรากฎอยู่ตรงหน้า ก้าวแรกขณะเข้าไปในร้าน สองหนุม่ กำ�ลังงุน้ ง่วนอยูก่ บั การนำ� โรตีออกมาจากโอ่ง..แต่ก็ยังมิวายหันมากล่าวคำ�ว่า อัสสลามมุ อลัยกุมครับ บรรยากาศภายในร้านนี้นะหรือ บอกได้คำ�เดียวว่า เยี่ยม!! มีหนังสือให้อา่ น มีสถานทีใ่ ห้เลือก ใครชอบแอร์กน็ ง่ั ตากแอร์ ก็อยูใ่ นร้าน ใครชอบบรรยากาศสบายก็นง่ั ให้ลมโกรกหน้าด้านนอก ความน่ารักของร้านนี้คือ โอ่งที่ใช้ทำ�โรตี ที่ออกมายื่นหน้า รับลูกค้าอยู่หน้าร้าน ให้ลูกค้าเห็นถึงกระบวนการทำ�ที่ต้องใช้ ความชำ�นาญพอสมควร คุณเล็ก เจ้าของร้านบอกว่า บางทีคิว มันไม่ทัน ก็เลยต้องออกมาทำ�ที่หน้าร้าน ที่นี่ขายกาแฟสดคู่กับโรตี โรตีไม่ธรรมดาซะด้วย โรตีโอ่ง ที่น่าจะเป็นโรตีที่ชื่อเสียงเรื่องระบือมานานกว่ายี่สิบปี หรืออาจ

8

จะมากกว่ า นั้ น (ผู้ เ ขี ย นอนุ ม านจากครั้ ง ที่ เ คยซื้ อ กิ น เมื่ อ สมั ย ประถมศึกษาปีที่สอง) ใครที่คุ้นเคยกับรถซูบารุเมื่อสมัยเกือบ สิบกว่าปีมาแล้ว ที่จากนั้นพัฒนามาเป็นรถกระบะ ขับเวียนไป ตามสถานที่ต่างๆ สัปดาห์ละ 6 ที่ ที่นี่กับรถที่เวียนไปนั้นเป็นที่ เดียวกัน เจ้าเดียวกัน ขายกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อยันรุ่นลูก ลืมบอกไปว่าไม่เฉพาะกาแฟสดเท่านั้นยังมีน้ำ�สารพัดชนิด ให้เลือกทานอีกด้วย สนนราคาโรตีต่อแผ่นก็เริ่มต้นกันตั้งแต่ 10 บาท 15 บาท เท่านั้น ปกติร้านกาแฟทั่วไปมักจะขายกาแฟ คู่กับเบเกอรี่ เค้กหน้านั้นหน้านี้ ราคาชิ้นนึงก็ปาไปครึ่งร้อย บาง ชิ้นก็ปาไปเกือบร้อย ทานเข้าไปทีก็ไม่ค่อยจะสาท้อง แถมไม่รู้ ว่าเค้กชิ้นนั้นผสมกับแอลกอฮอล์ชนิดไหนบ้าง โรตีใส่สังขยาหนึ่งแผ่น โรตีครีมข้าวโพด โรตีแกงกะหรี่ 1 ชุด กับชาเย็น 1 แก้ว กับบรรยากาศหลังฝนที่ค่อนข้างสดใส มัน ช่างเป็นอะไรที่เข้ากันดีเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีอีกสารพัด โรตีที่ขอบอกว่า แป้งโรตีร้านไหนก็สู้ที่นี่ไม่ได้จริงๆ บรรยากาศโดยรวมของร้านนี้เจ๋งมากค่ะ ... อยากรู้ว่าเจ๋ง ยังไงต้องลองไปค่ะ ร้านนี้ไปไม่ยาก ใครมีรถยิ่งง่ายใหญ่เลย ใครมีรถที่มีคนขับแถมมีเพื่อนร่วมทางที่ไม่รู้จักกัน(รถเมล์) ก็ยิ่งง่ายใหญ่ จากแยกประเวศเข้าไปทางถนนเฉลิมพระเกียรติ 66 ร้านอยู่ริมถนน ไปถึงไม่ทันจะหายเหนื่อยก็เจอกับร้านดาดา โรตีโอ่งแล้ว นั่งพริ้มดื่มด่ำ�กับบรรยากาศและผู้คนที่เดินเข้าออกได้ ซักพัก ระหว่างนั้นเองสายฝนก็โปรยปรายลงมาอีกครั้ง ยิ่งขับ บรรยากาศภายในร้านให้ยง่ิ น่าหลงไหลเข้าไปมากกว่าเดิม แต่เมือ่ ก้มลงดูนาฬิกาที่ข้อมือก็ปรากฏว่า เวลาเดินมาถึงสี่โมงเย็น อันสมควรแก่เวลาทีจ่ ะต้องเคลือ่ นตัวไปสูเ่ ป้าหมายทีแ่ ท้จริงกันแล้ว เวลาแห่งความสุขนี่มันช่างเดินเร็วเสียนี่กระไร ใช้เวลาอยู่ ในร้านนี้ราวๆ สองชั่วโมง แต่เหมือนเพิ่งผ่านไปแค่สิบห้า นาทีเอง วันไหนที่ท่านผู้อ่านพอจะมีเวลาว่างแล้วอยากเปลี่ยน บรรยากาศการกินโรตีแบบเดิมๆ ขอแนะนำ�ที่นี่ รับรอง ... แผ่น เดียวก็ไม่พอขอสองเลยแล้วกัน !!


halal Taste กองบรรณาธิการ

หากจะพูดถึงชือ่ โคบัง นับจากปีทแ่ี ล้วจนถึงปีน้ี อายุอานาม ของบุฟเฟ่ตโ์ คขุนร้านนีก้ ก็ นิ เวลามาได้ปกี ว่าเห็นจะได้ หลายครั้งหลายคราที่เมื่อถึงเวลานัดพบปะกันระหว่างเพื่อน ฝูง โคบังคือร้านแรกๆ ที่มักจะเป็นมติเอกฉันท์จากสมาชิกใน กลุ่มเพื่อนฝูง ที่ไปโคบังบ่อยๆ มักจะโดนแซวจากเพื่อนว่า เพราะเจ้าของ ร้านหรือเปล่า ประเด็นหนึง่ ก็อาจจะใช่ เพราะก็แหม่ ร้านเพือ่ นร้าน ฝูง เราก็ตอ้ งช่วยกันอุดหนุนกันหน่อย คนทำ�ธุรกิจจะได้ไม่ตาย โคบังเท่าทีไ่ ด้ยนิ จากคนรอบข้างบ่อยๆ ทีเ่ ป็นเรือ่ งทีแ่ ว่วมาอยู่ ตลอดเวลานัน่ ก็คอื เจ้าของร้านอายุยงั น้อย แถมยังอัธยาศัยดีอกี ต่างหาก ร้านนีจ้ งึ กลายเป็นร้านเนือ้ ย่างทีเ่ รียกลูกค้าให้แวะไปเยือน ได้อยูเ่ สมอ ใช่จะแค่อัธยาศัยของเจ้าของร้านที่ถูกกล่าวขานบ่อยที่สุด แต่เรื่องที่โด่งดังไม่แพ้อีกเช่นกัน นั้นคือเรื่องของบรรยากาศที่ เสมือนว่าคราใดที่ไปนั่งที่ร้านนี้ประดุจว่ากำ�ลังนั่งอยู่ที่สวนหลัง บ้าน สาเหตุที่ไปโคบังทีไรรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ที่สวนหลังบ้านทุกที นั่นเพราะนั่งๆอยู่หากรู้สึกอยากกินส้มตำ�ขึ้นมาก็ลุกขึ้นเดินไปตำ� ส้มตำ�กินเองได้เลย ไม่ว่าจะกินรสชาติอะไรก็ปรุงแต่งได้เองตาม ต้องการ อยากกินสเต็กที่เป็นสูตรเด็ดที่เจ้าของร้านคิดค้นสูตร ด้วยตัวเองซึ่งการันตีได้เลยว่า ความนุ่มของเนื้อนั้น ใครๆ ได้ทาน เป็นอันติดใจกันไปตามๆ กัน

โคบัง บุฟเฟต์ บุฟเฟ่ต์ เท่ห์ เท่ห์

เอ๊ะ เห็นว่า สเต็กรสชาติเยี่ยมเช่นนี้ อาจจะคิดว่าราคาคง เอาเรื่องแน่ๆ แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะสเต็กของโคบังก็มีไว้ เป็นบริการเสริม สำ�หรับทุกคนที่มาทานบุฟเฟ่ต์ที่โคบัง อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องขอยกนิ้วให้กับโคบังที่ลงมติเป็นเอกฉันท์ กับเพื่อนๆแล้วว่าอะไรที่ทำ�ให้เราต้องมากลับมาที่นี่ซ้ำ�แล้วซ้ำ�เล่า มาแล้วมาอีกมายังไงก็ไม่เบื่อ นั่นก็คือการบริการของที่นี่ต่างหาก ที่ทำ�ให้เราไม่ยอมเปลี่ยนใจไปที่อื่นกันง่ายๆ ไม่ว่าไปที่นี่ครั้งใด ยามใดที่จะเดินไปหยิบแตงโมแต่แตงโมดันหมด ขนาดว่าไม่มี ลูกค้าโต๊ะอื่นในร้านแล้ว แต่คุณลุงเจ้าของร้านที่สุดแสนจะใจดีก็ ยอมที่จะปลอกแตงโมลูกใหม่ให้ทุกครา ไม่เพียงแต่จะการบริการเพียงเท่านั้น ครั้งหนึ่งฉันเคยลืม Memory Card ทีห่ อ่ ไว้กบั ทิชชูแ่ ล้ววางไว้บนโต๊ะ ซึง่ ถ้าคนเก็บจาน ไม่สนใจก็จะต้องคิดว่า มันน่าจะเป็นขยะแน่ๆ แต่เมือ่ ถึงบ้านฉันก็ โทรกลับทวงถามว่าหลงลืมของเอาไว้ คุณลุงใจดีกเ็ ล่าติดตลก ว่า มันมีครัง้ นึงทีล่ กู ค้าห่อฝันปลอมไว้แบบนี้ แล้วลืมไว้บนโต๊ะ ทาง ร้านก็หาให้จนเจอ กระนัน้ ฉันก็ยงั แอบคิดในใจว่า Memory card มันเล็กกว่าฟันปลอม อย่างนีจ้ ะหาเจอไหมน๊า ผ่านไปไม่ถงึ สิบนาที คุณลุงโทรมาบอกว่า ... เจอแล้วนะครับ ว้าว นอกจากรสชาติจะดี บรรยากาศจะดียอดเยีย่ มแล้ว บริการ และความซือ่ สัตย์ของพนักงานทีน่ ก่ี ส็ ดุ ยอดของความยอดเยีย่ มอีก ด้วยอีกเช่นกัน ใครมีโอกาสผ่านไปผ่านมาแถวเส้นสุขาสาม ก็อยากจะแนะนำ� ว่า ลองแวะไปทีโ่ คบัง ร้านเนือ้ ย่างๆ เล็กๆ ทีอ่ บอวลไปด้วยมิตรภาพ ร้านนีด้ ู รับรองว่า ... โคบัง กินจุ แน่นอน !!

9


Calendar

10 11 Dec Volunteer Street Fair 2010 ตลาดนัดแห่งความสุขของการอาสาและการให้

เตรียมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ดว้ ยการส่งความสุขจากการอาสาสมัครให้แก่สงั คม และเตรียม พบกับกิจกรรมต่างๆภายในงาน อาทิ ตลาดนัดงานอาสาสมัครทีห่ ลากหลายและสนุกอย่างสร้างสรรค์, เสวนาพาสร้างแรงบันดานใจจากบุคคลต่างๆ อาทิ วรรณสิงค์ ประเสริญกุล, อาสาสมัครรับมือภัยพิบตั ิ 1500ไมล์, ผูท้ รงอิทธิพล(อาสาสมัคร)ในโลกทวิตเตอร์ ฯลฯ 10-11 ธันวาคม 53 ณ อุทยานเบญจสิริ (สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์)

11 Dec

11 Dec

เปิดโครงการก่อสร้างบ้านดุนยา สายใยที่ไหลริน มูลนิธศิ รัทธาชนเพือ่ การศึกษาและเด็กกำ�พร้า ขอเชิญท่านเป็นเกียรติ ชมสถานทีแ่ ละร่วมรับประทาน อาหาร งานเปิดโครงการก่อสร้างบ้านดุนยา สายใยทีไ่ หลริน (ศรัทธา การ์เด้น เพลส) วันเสาร์ท่ี 11 ธันวาคม 2553 เวลา 08.00-14.00 น. ณ สถานทีก่ อ่ สร้างอาคาร ถนนรามคำ�แหง 24 แยก 10 แขวงหัวหมาก เขต บางกะปิ กรุงเทพมหานคร ติดต่อประสานงาน โทร. 02-931-3495 มีอาหารเลีย้ งตลอดงาน

วันใต้ร่มเงาอิสลาม ครั้งที่ 6 วารสารใต้รม่ เงาอิสลามและศูนย์ภาษาธรรม ขอเชิญร่วมงานวันใต้ ร่มเงาอิสลามครัง้ ที่ 6 ในวันเสาร์ท่ี 11 ธันวาคม 2553 ตัง้ แต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป ณ สภายุวมุสลิมโลก(วามีย)์ สำ�นักงานประเทศไทย

11 Dec

“โลกอิสลาม” การตื่นตัวสู่อิสลาม และความเป็นจริง

สมาคมนิสติ นักศึกษาไทยมุสลิม หรือ สนท. ขอเชิญร่วมฟังอภิปรายในหัวข้อ “โลกอิสลาม การ ตืน่ ตัวสูอ่ สิ ลาม และความเป็นจริง” โดย ดร.จรัญ มะลูลมี อาจารย์ประจำ�คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ และ ดร.อับดุลฆอนีย์ สือแต อาจารย์ประจำ�วิทยาลัยอิสลามศึกษา มอ.ปัตตานี เสาร์ท่ี 11 ธันวาคม 53 เวลา 9.00 – 12.00 น. ณ โรงแรมรีเจนท์ รามคำ�แหง

12 Dec 10 10

ย ม ท . / ส ม า ค ม ยุ ว มุ ส ลิ ม แ ห่ ง ประเทศไทย องค์กรหลักของสังคมมุสลิม เราองค์กรหนึง่ ทีก่ อ่ ตัง้ ตัง้ แต่ปี 2500 เป็นต้นมา การประชุมครัง้ นี้ มีการประกาศ วิสยั ทัศน์ 10 ปีของยมท.[ วิสยั ทัศน์ 2020 ] จากนายกสมาคมฯ และฟังปาฐกถาพิเศษ โดย เชค ดร.อิสมาอีลลุฏฟีย์ จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา อุละ มาอ์อาวุโสของประเทศ ในหัวข้อ "การฟืน้ ฟู อิสลาม...ภารกิจของเราในวันนี"้ อาทิตย์ท่ี 12 ธันวาคม 53 เวลา 8.00 – 12.00 น. ณ ศูนย์กลางอิสลามฯ คลองตัน

19 Dec ฟัตวาออนไลน์ ครั้งที่ 6

เว็บไซต์ Mureed.com ขอเชิญร่วมงาน ฟัตวาออนไลน์ ครัง้ ที่ 6 รับฟังอภิปรายทีน่ า่ สนใจในหลายหัวข้อ วันอาทิตย์ท่ี 19 ธันวาคม 53 ณ มัสยิดอัลอะตีก๊ เจริญกรุง 103

19 Dec วันเพื่อนกำ�พร้า 53

งานหารายได้เพือ่ ใช้เลีย้ งดูเด็กกำ�พร้าหลัง ศูนย์กลางอิสลามฯ บ้านอัซซัยยิดะฮ์ นะฟีซะฮ์ ชัมส์ เพือ่ การสงเคราะห์และฝึกฝนวิชาชีพเด็ก กำ�พร้า อาทิตย์ท่ี 19 ธันวาคม 53 เวลา 16.00 – 18.00 น. ณ บ้านเด็กกำ�พร้า หลังศูนย์กลางอิส ลามฯ คลองตัน


Mainโดยhalal : ซัลมา บุญตามทัน

Zakariya Amataya

ท่ามกลางกวี ฉันคือคนใบ้

ก่อนเข้าเดือนรอมฎอนไม่กี่วัน มีคำ�ถามจากชายคนหนึ่ง ผ่านหน้าต่างเอ็มเอสเอ็นว่า ขอโทษนะครับ รอมฎอนปีนี้ ประมาณวันที่เท่าไหร่ คำ�ตอบถูกตอบกลับไปในเวลาอันรวดเร็ว และบทสนทนาก็จบลงไปเพียงเท่านั้น หลายวันต่อมา ซะการีย์ยา อมตยา ก็ปรากฏตัวในหน้าจอทีวี ในฐานะ กวีซีไรท์ ประจำ�ปี 2553 ณ เวลานั้น ภาพที่เห็น คือชายผมยาว สวมหมวก ผิวคล้ำ� ฉันหยุดความสนใจจากทุกการกระทำ�ไว้ที่สถานีโทรทัศน์ช่องดังกล่าว ด้วยเพราะชื่อของเขาคือ ซะการีย์ยา

11


วันถัดมา ข่าวการได้รบั รางวัลของซะการียย์ า แพร่ สะพัดไปทั่วทุกสื่อทั้งในสื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสาร รายการ วิทยุ แล้วรวมถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook บางส่วนบางตอนของ “ไม่มีหญิงสาวในบทกวี” ถูกนำ�มาขึ้นเป็นสถานะของเพื่อนๆ หลายคนร่วม แสดงความชื่ น ชมแสดงความยิ น ดี กั บ ชายคนที่ ชื่ อ ซะการีย์ยา อมตยา ซะการียย์ า อมตยา เป็นชายหนุม่ จากเทือกเขาบูโด จังหวัดนราธิวาส ซะการียย์ า อมตยา จบการศึกษาจากคณะอิสลาม ศาสตร์ สาขาภาษาและวรรณคดีอาหรับ วิทยาลัยนัด วะตุล อุลามาอ์ ประเทศอินเดีย ซะการีย์ยา อมตยา เข้าศึกษาต่อปริญญาโทด้าน ศาสนาเปรียบเทียบคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซะการีย์ยา อมตยา เป็นผู้ก่อตั้งเว็ปไซต์ www. thaipoetsociety.com ซึ่งถือเป็นแหล่งรวมพลของ ผู้คนที่รักในงานกวี ซะการีย์ยา อมตยา เป็นที่รู้จักกัน ในนาม “บังเช” “บังปุ”(ปุถุชน) แล้วแต่ยุคสมัยในขณะนั้นว่า ผู้คนจะ พาลพบกับเขาในช่วงเวลาใด ในภาพรวม ชื่อของ ซะการีย์ยา อมตยา หรือ เช ปุถุชน เป็นชื่อที่รู้จักกันดีในฐานะนักกวีคนหนึ่งที่มี ผลงานทางด้านกวีนับร้อยชิ้น ใช้เวลาบ่มเพาะผลงาน มาเป็นเวลา 10 ปี 10 ปี กับกว่าร้อยพันตัวอักษรที่เรียงร้อยเป็นคำ� กวีสร้างบันดาลใจให้กับคนผู้อ่านมานักต่อนัก แต่หากกับมุสลิมด้วยกันเอง ชือ่ ซะการียย์ า อมตยา ชื่อนี้ดูจะเป็นชื่อที่ไม่มีใครคุ้นเคย จนเมื่อ “ไม่มีหญิง สาวในบทกวี” ถูกคัดเลือกให้ได้รับรางวัลซีไรท์ประจำ� ปี 2553 ชื่อของเขาก็เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง คราแล้วคราเล่า ทีฉ่ นั นัง่ มองความเคลือ่ นไหวของ สังคม ทั้งในด้านที่ดีและไม่ดี ยามใดที่ ค นหมู่ เหล่าเชื้อชาติของตนมีชื่อเสียง ทางสังคม ความรู้สึกมีส่วนร่วมก็จะเกิดขึ้น เขาเป็นของเรา เขาเป็นมุสลิม เขาเป็นอย่างนั้น เขาเป็นอย่างนี้ ความภูมิใจในเขาก็จะเข้ามาอยู่ในเรา อย่างไม่รู้ตัว หากคราใดทีม่ ใี ครซักคนใส่เสือ้ มีสี สวมฮิญาบออก ไปม๊อบ หรือมีสัญลักษณ์บางอย่างที่แสดงออกว่าเป็น มุสลิม ออกไปขับเคลื่อนบางสิ่งบางอย่างทางสังคม ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับศาสนา คนเหล่านี้มักถูกตำ�หนิ จากคนในสังคมเดียวกันว่าทำ�ให้ศาสนาเปื้อนสี ทั้งๆ ที่ความจริงคนเหล่านั้นอาจเพียงต้องการแสดงพลัง ทางความคิดของเขาบ้างก็เพียงเท่านั้น “ไม่มีหญิงสาว ในบทกวี”เองก็เช่นกัน หลังจากได้ซีไรท์ ชีวิตเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน เปลี่ยนไป ชีวิตต้องมีตารางเวลา(เปิดสมุดบันทึก ที่มีคิวงานให้ดู) ตารางวันว่าจะต้องทำ�อะไรที่ไหนยัง ไง มันก็เป็นธรรมชาติของรางวัล ก่อนหน้านี้ชีวิตสบาย กว่านี้ ไม่ต้องรีบเร่ง ไม่ต้องมีอะไรมาก ตอนนี้เริ่มมี ตารางเวลาที่ชัดเจน

12

เป้าหมายของงานเขียน ไม่ใช่การเขียนเพื่อความสำ�เร็จ ไม่ใช่การประสบ ความสำ�เร็จโดยการเขียน การเขียนก็คือเขียนออกไป เรารู้สกึ ว่าเราได้สอ่ื แล้ว เรามีความสุขแล้ว เราสามารถ สื่อสารความคิดของเรากับคนอื่นได้ ถ้าคนถามว่าทำ� อย่างไรถึงจะเขียนแล้วได้รบั รางวัล ไม่แนะนำ� คิดอย่าง นี้ไม่ต้องเขียนดีกว่า ไม่ควรไปโฟกัสที่รางวัล ใช่ เพราะรางวัลเป็นหนึ่งในล้าน อาจจะมีมุสลิม คนที่สองหรืออาจจะไม่มีอีกหลายปีก็ได้ มันไม่ใช่ คน ที่เขียนหนังสือยังมีมุสลิมอีกหลายคนที่สามารถจะ เขียนหนังสือได้ แต่ถ้ามองไปที่รางวัลเมื่อไหร่ ก็อาจ จะไม่ได้ อีก 50 ปีก็อาจจะไม่ได้ ถ้าเราสร้างค่ายนัก เขียนมุสลิมขึน้ มา เอาผมเป็นตัวอย่างว่าได้รางวัล แล้ว พยายามโฟกัสให้เด็กเจริญรอยตามผม ผมก็ไม่เอา คือให้เขาเขียนดีกว่า ความสำ�เร็จมันไม่ใช่ที่รางวัล ถ้า เขามีสปิริตในการเขียนของเขาจริงๆ เขาก็จะเขียนไป เรื่อยๆ จะประสบความในด้านรางวัลหรืออะไรก็แล้ว แต่มันไม่ใช่เป้าหมาย เป้าหมายคือได้เขียน ได้ตีพิมพ์ แล้วค่อยๆ เดินไปในการเขียนหนังสือ แต่อย่าไปหวัง รางวัล เพราะจะอกหักแน่นอน ถ้าหวังรางวัล รางวัล ซีไรท์ก็มีปีละครั้ง ปีละคน รางวัลก็อาจจะมีแต่คน อาจจะไม่จำ� ทุกคนก็อยากได้ พอไม่ได้ก็เฟล ก็เลยไม่ อยากหวัง คือเราทำ�ยังไงก็ได้ ให้กับคนที่อยากสร้างแรง บันดาลใจ คนที่อยากสิ่งใดให้เขาได้มีความสุขกับการ ที่เขาได้ทำ� อย่างถ้าอยากทำ�หนังสั้น ทำ�ให้มันดีที่สุด ให้รู้สึกว่าปล่อยของแล้วมันดี ถ้าส่งประกวดก็อย่าไป หวัง อย่างที่สุดคือคุณทำ�ในสิ่งที่คุณชอบแล้วมีความ สุขกับมัน แล้วถ้าส่งไปประกวดแล้วมันไม่ได้รางวัล คุณก็จะไม่รู้สึกอะไร เพราะคุณรู้สึกดีใจแล้วที่คุณ ทำ�งานคุณออกมาแล้ว ทำ�ได้เต็มที่ ถ้าเมื่อไหร่ที่สร้าง เพือ่ จะชิงรางวัล หวังรางวัล หวังมาก แน่นอน เปอร์เซ็น ที่จะได้มนั น้อยอยูแ่ ล้ว เพราะคนก็แข่งขันกันเยอะ แต่ถา้ เรา สร้างคนให้สนใจในการทำ�งานในสิ่งที่เขาชอบ ก็คือให้ เขารู้จักตนเอง น่าจะดีกว่า แล้วเขาจะอยู่ยาวนานกว่า ก็จะทำ�ของเขา ค่อยๆ พัฒนาไปเรือ่ ยๆ ในทุกงานทุกแขนง ตั้งแต่ได้รางวัลมา ได้เขียนงานใหม่บ้างหรือยัง เขียนอยูช่ น้ิ หนึง่ ยังไม่ลงทีไ่ หน ส่งไปนิตยสารแห่ง หนึ่งแต่ยังไม่ได้ลง เป็นบทกวีสั้นๆ แต่ก็ยังไม่ได้ตั้งใจ เขียนจริงๆ สื่อต่างประเทศให้ความสนใจเพราะอะไร เพราะ เราเป็นคนสามจังหวัดหรือเพราะเป็นมุสลิมด้วย หรือเปล่า มีส่วนด้วย ด้วยความเป็นมุสลิม คนสามจังหวัด ด้วย เป็นบทกวีด้วย บทกวีไร้ฉันทลักษณ์ ในต่างประเทศเค้าสนใจในบทกวีประเภทนีห้ รือว่า มันเป็นปกติ มันเป็นปกติ แต่เมืองไทยยังไม่เคยได้รับรางวัล ใหญ่ระดับประเทศ ความเป็นมุสลิมภาคใต้ดว้ ยก็มสี ว่ น ด้วย มันก็บวกกันหมด แล้วก็เป็นมุสลิมคนแรกที่ได้ มั น เป็ น อะไรที่ น่ า สนใจที่ เ ราเป็ น คนส่ ว นน้ อ ยของ ประเทศ มันก็รวมๆ มันไม่ได้เจาะเฉพาะความเป็นภาคใต้

หรือมุสลิมอย่างเดียว มันทีง่ านเราด้วย งานเราน่าสนใจ แล้วเขาก็มาเชื่อม อย่าง New York Time เขาก็ดูงาน ที่เชื่อมกับสามจังหวัด มันก็มีตัวบทกวีหลายชิ้นที่เขา ได้อ่าน คิดอย่างไรที่สังคมมุสลิมมักคาดหวังกับมุสลิมที่ ประสบความสำ�เร็จหรือมีชอ่ื เสียง สังคมเราต้องสนใจคนๆหนึง่ ก่อนด้วยซ้�ำ ไป ไม่ตอ้ ง มาที่เรา หมายถึงคนอื่นคนมุสลิมคนที่เขาทำ�งานอะไร ก็ตาม เขาก็ทำ�ของเขาอยู่ คือต้องไปดึงเขามาก่อน ให้ ความสนใจเขาตอนนั้นก่อน มันเป็นวิธีการที่ถูกต้อง กว่า ให้เขามาช่วยงาน ไม่ใช่พอเห็นเขาได้รับความ สำ�เร็จถึงจะอยากให้เขามา มันก็ไม่ผดิ คนทีไ่ ด้รบั ความ สำ�เร็จก็มาช่วยงาน ก็ดี มันไม่ผิด แต่ถ้าหากได้ทำ�แบบ นี้ก่อน เห็นมุสลิมคนหนึ่งเขียนหนังสืออยู่ก็ให้ความ สนใจหน่อย เขายังไม่ได้รับความสำ�เร็จ ช่วยอะไรก็ ว่าไป แต่ว่าสังคมเรามักไม่ทำ�อย่างนั้น สังคมเรามัก ถ้าใครประสบความสำ�เร็จเราก็จะรู้สึกว่าเป็นของเรา ร่วมกัน ถ้าเราอยากได้อะไรเราต้องส่งเสริมก่อน เราถึงจะ ได้มีบุคลากรในด้านต่างๆ ไม่ใช่ต้องรอให้เขาสำ�เร็จก็ นาน ที่ผ่านมาสังคมรอให้คนสำ�เร็จแล้วก็ดึงให้เขาเข้า มา แต่ไมได้มีกระบวนการที่ผลักดันส่งเสริม แต่สังคม ก็อาจจะรอให้คนที่ประสบความสำ�เร็จเข้ามาช่วย เขาเรียกว่าวัฒนธรรมการเด็ดยอด ก็เหมือนผมใน เวลาที่ทุกที่จะเชิญเราไป ก็คือเขาเด็ดยอดเราไป คือ ตอนที่เราเป็นราก เป็นต้นกล้าเล็กๆ ก็ยังไม่ค่อยมีใคร สนใจ เราแตกกิ่ง ยังไม่ออกดอก เขาก็ยังไม่สนใจ ก็เห็นเราเป็นต้นไม้ต้นหนึ่งเท่านั้นเอง พอเราออกผล ดก ทุกคนก็เริ่มสนใจ ซึ่งถ้าอย่างนี้เราจะไม่สร้างคน ถ้าอยากสร้างคนต้องส่งเสริม มันจำ�เป็นไหมทีจ่ ะต้องส่งเสริม สร้างนักเขียนใหม่ๆ มีความจำ�เป็นมาก จริงๆ ในสังคมวรรณกรรมไทย ก็อยากอ่านงานวรรณกรรมของมุสลิมที่มุสลิมเขียน การเขียนก็คือการเล่าเรื่องชนิดหนึ่งไม่ว่าจะเรื่องสั้น นิยาย บทกวีก็ได้ ถ้าสมมุติมีนักเขียนมุสลิมคนหนึ่งใน หนองจอก ได้อธิบายถึงสภาพแวดล้อมของมุสลิมใน หนองจอก หรือความล่มสลายของสังคมมุสลิม หรือ ความรุ่งเรื่อง มันก็จะลึกซึ้งกว่าให้คนข้างนอกมาเขียน หรือคนในสามจังหวัดเขียนว่าด้วยเรื่องสามจังหวัด แต่เขียนยังไงให้มันเป็นงานชั้นดี ปัญหาคือไม่มหี น่วยงานไหนทำ�เรือ่ งนีอ้ ย่างจริงจัง มั น ก็ มี ห น่ ว ยงานที่ ทำ � กิ จ กรรมนี้ อ ยู่ เ หมื อ นกั น แต่มันก็ยังไม่เห็นเกิดเท่าไหร่ ก็มีคนทำ�กิจกรรม เป็น คนนอกที่ไม่ใช่มุสลิมทำ� ต้องทำ�ให้เยอะทำ�ให้บ่อย ที่อื่นเขาก็มีค่ายนักเขียน เราก็ต้องทำ� สังคมมุสลิมอาจ ต้องทำ�ค่ายนักเขียนและชวนนักเขียนที่เป็นมืออาชีพ มาเป็นวิทยากร ที่ไม่ประสบความสำ�เร็จเพราะเรายัง ไม่เปิดกว้าง เราทำ�กันเอง คิดเอง วางกรอบกันเอง เรา ไม่ได้สนใจว่าเราอยากสร้างนักเขียนให้ผลิตงานสู่ข้าง นอก เราแค่ผลิตงานเขียนสู่กลุ่มเราเท่านั้นเอง ซึ่งเราก็ จะได้แค่นั้น ถ้าเราพอใจแค่นั้นก็ได้ แต่ถ้าถามผม ผม รู้สึกว่าไม่พอ ผมอยากได้คนที่เขียนหนังสือเหมือนผม อีกหลายๆ คน ไม่ต้องได้รางวัลหรอก คือเป็นที่รู้จักใน


ความสุขแบบพอดีของ ปุถุชน วงการนักเขียนอีกซัก 10 คน เขียนแนวอื่น แต่ว่าเป็นที่ รู้จัก ในสังคมการเขียน คุณมองวงการหนังสือของมุสลิมในปัจจุบนั อย่างไร เราอยู่ในวงของเรา เป็นเพราะอะไร ก็ไม่รเู้ หมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร คือเราไม่สามารถ จะหาหนังสือมุสลิมตามร้านทัว่ ไปได้ จริงๆ คนทำ�หนังสือ ก็มีอยู่ไม่กี่เจ้า ตลาดทัว่ ไปเขาสนใจไหม ถ้าเราอยากผลิตงานให้คนอื่นมันก็จะเป็นงานอีก ชนิดหนึ่ง งานชนิดที่คนอื่นอ่านเข้าใจ ทำ�ยังไงก็ได้ ทำ� หนังสือให้คนอื่นอ่านเข้าใจ เป็นงานอิสลามก็ได้ แต่ว่า คนอื่นอ่านเข้าใจ ไม่จำ�เป็นต้องวรรณกรรม เป็นงาน วรรณกรรมก็ได้ แต่ว่าคนอื่นอ่านเข้าใจ อ่านได้ ที่อื่น ก็ทำ�มุสลิมในอังกฤษ ส่งตามร้านทั่วไป อย่างในมติ ชนสุดสัปดาห์ ดร.จรัญ เขียนให้ใครอ่าน พูดสิ่งเดียว กับที่อาจารย์พูดตามเวทีไหม พูดสิ่งเดียวกัน พูดถึง ปาเลสไตน์ไหม พูดถึง แต่ทำ�ไมถึงอ่านได้ มันต้องมี อีกชนิดหนึ่ง พอมาดูของเรา เราค่อนข้างที่จะจำ�กัด วงใน แต่ก็ไม่ได้บอกว่ามันเสียหาย แต่ถ้าเป็นไปได้ มันควรที่จะออกไปข้างนอกบ้าง ให้มุสลิมอ่านมันก็ดี อยู่แล้ว แต่ควรจะให้คนอื่นอ่านบ้าง ถ้าจะอ่านหนังสือ ผม ด้วยจิตวิญญาณอันเปี่ยมสุข เวลาคนอื่นจะอ่าน พอผมได้รางวัลคนก็ถาม มีงานนี้ด้วย คนก็จะหาซื้อ ยากต้องไปที่ศูนย์กลาง ซึ่งมันควรจะมีในดอกหญ้า หรือนายอินทร์ หากมีคนถามว่า จะใช้งานเขียนหรือบทกวีมารับใช้ งานดะห์วะห์อสิ ลามยังไง จะตอบว่าให้มันเป็นธรรมชาติ ให้มันเป็นไปตาม ที่เรารู้สึก ไม่ต้องตั้งใจ ว่าฉันตั้งใจที่จะใส่ ที่ผ่านมา เวลาเขียนก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแบบนั้น แต่ว่ามันมี ไหมในงานของผม มันมีเนื้อสาระที่เกี่ยวกับอิสลาม ไหมที่ผ่านมา ก็มี คำ�ถามเดียวกัน หากมีคนถามว่า จะใช้งานเขียนหรือ บทกวีมามีสว่ นช่วยในการบรรเทาปัญหาในภาคใต้ ได้อย่างไร เราก็คงทำ�ได้ในศักยภาพของเรา คือเท่าทีเ่ ราทำ�ได้ คงไม่สามารถแก้ปัญหาสามหวัดได้แน่นอน สิ่งที่เรา เขียนมันก็มีอยู่แล้ว ที่เราสะท้อนออกไป แต่เราคงไม่ ทำ�มากหรือน้อยกว่า อย่างจะเขียนนิยายก็ไม่ได้เขียน นิยายปัญหาปัจจุบัน จะเขียนถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ อยู่ริมภูเขา แต่ไม่ได้สโคปเรื่องความรุนแรงที่เกิดขึ้น หรือการแก้ปัญหา ไม่เขียน สังคมสนใจ แต่เรารู้สึกว่า มันไม่ใช่ ถ้าเราจะเขียนรู้สึกว่าอยากเขียนรากของเรา ถึงชุมชน บรรพบุรุษ ซึ่งเป็นต้นทุนของเราที่เรามีอยู่ เราเกิดเราโตที่นั่น เรื่องความขัดแย้ง คือถ้าคนอื่นจะ เขียนก็เขียนไป แต่ไม่ใช่เรื่องของผมที่จะเขียนเพื่อแก้ ปัญหา แต่ว่าถ้าเขียนสำ�เร็จเมื่อไหร่ มันก็จะเห็นบาง อย่าง เห็นชุมชน เห็นอะไรจากมุมของคนที่เกิดที่นั่น แต่มันไม่ใช่เรื่องจริงมันเป็นนิยาย แต่อย่างน้อยมันมี กลิ่นของความเป็นท้องถิ่นตรงนั้น

อินเดีย อินเดียเป็นประเทศที่คนยากจนเยอะ มันทำ�ให้เรา ได้เห็นอะไรเยอะ ณ เวลานี้เราก็พร้อมที่จะยากจน เรา ไม่ได้กลัวที่จะยากจน ที่ผ่านมาเลยไม่ได้ทำ�งานประจำ� ที่นั่นทำ�ให้เรามองโลกในแง่ดีมากขึ้น ทำ�ให้เรารู้สึกไม่ ต้องกอบโกย ชีวิตก็แค่นั้น ไม่ต้องอะไรมาก ยากจนก็ได้ ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ได้ก็มีความสุขแล้ว มีอาหาร มีที่พัก ทำ�งานเขียนได้ เขียนหนังสือได้อ่านหนังสือได้ก็พอแล้ว กับชีวิต ได้รางวัลก็ดี อัลฮัมดุลิลละฮฺ ไม่เคยคิดว่าจะได้ ไม่ได้ขวนขวาย มันก็เลยมีความสุขกับการทำ�งานเขียน ถ้าไม่มีความสุขก็ไปทำ�งานอย่างอื่น ไปทำ�อะไรที่ให้เงิน เป็นรายเดือน บางทีก็ไม่มีตังค์ใช้บ้าง ก็ลำ�บากถ้ามอง จากมุมคนอื่น ก็คงรู้สึกว่าลำ�บากมาก งานเขียน มันมีความสุข แม้มันจะไม่ได้รวยเหมือนคนอื่น แต่ เรามีความสุขกับงานเขียน เรารู้สึกว่ามันเป็นแนวทาง ของเรา ลำ�บากอย่างเราก็ยอม ถึงไม่ได้รางวัลก็ยังคง เขียนอยู่อย่างนี้ อาจจะลำ�บากก็อาจจะอยู่เหมือนเดิม โทรศัพท์มือถือ ไม่ใช้ดีกว่า มันก็สบายดี มันไม่ต้องเหมือนถูก ติดตามตัวตลอดเวลา ไปไหนมาไหน เราอยู่ตรงไหน มัน จะมีเสียงตามเราได้หมด บางครั้งในบางเวลาเราไม่ได้

อยากให้คนมารู้หรือมาตามเรา บางครั้งเรานั่งคิด มันก็ มีผลนอกจากว่าเราต้องปิดเครื่อง มันต่างกันนะ คนที่มีโทรศัพท์กับคนที่ไม่มี คือ ตอนที่ไม่มีเราก็เดินตรงไหนก็ได้ มันไม่ต้องมีเสียง โทรศัพท์มาทุกที่ทุกเวลาที่เราอยู่ ถ้ามันมีโทรศัพท์มา เราก็ต้องรับต้องคุย ซึ่งมันไม่ใช่ มันต้องมีเวลาของมัน การใช้โทรศัพท์มือถือ มันทำ�ให้บางอย่างในชีวิตของเรา หายไป ความเป็นส่วนตัว นอนๆอยู่ กินข้าว บางทีโทร มาตอนกินข้าวเราก็ต้องคุย ข้าวก็เย็นแล้ว บางครั้งเรา กำ�ลังคิดอะะไร พอโทรศัพท์มา ความคิดมันก็กระเจิงไปหมด สรุปแล้วการใช้มือถือมันก็ทำ �ให้เราสูญเสียอะไร บางอย่างในชีวิตเรา คนอื่นจะช่วงชิงจากเราได้ เราก็ เหมือนกันที่ไปช่วงชิงเวลาจากคนอื่น บางทีเราโทรไป ในเวลาทีไ่ ม่เหมาะสมบางทีเขาก็เกรงใจบางทีเขาก็ตอ้ งรับ รถเมล์ ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม มีคนถามเหมือนกันว่าทำ�ไม ไม่นั่งแท็กซี่ ก็เหมือนเดิมไง ถ้าเราไม่เร่ง ถ้าอันไหนที่ จำ�เป็นต้องนัง่ แท็กซีก่ น็ ง่ั ทีส่ ะดวกและไม่แพงมาก แท็กซี่ ก็ไม่อยากนั่งบ่อย เพราะมันก็แพงกว่าขนส่งมวลชน อยู่แล้ว ถึงจะมีชีวิต แต่ก็ไม่จำ�เป็นต้องนั่งแท็กซี่ตลอด เวลา หรือว่าต้องมีรถขับ ก็ยังไม่เคยคิดที่จะมี ก็นั่ง รถเมล์ได้ไม่มีปัญหา

ตะวันคล้อยลงสู่ทิศทางของมัน แสงจ้าที่เคยสาด ส่องเข้ามายังชั้นสองของห้องสมุดสี่เหลี่ยมเล็กที่เรา ใช้เป็นพื้นที่ในการสนทนาในวันนี้เริ่มลดน้อยลงทุกที ประหนึ่งกำ�ลังบอกเราเป็นนัยๆว่า บทสนทนาในวันนี้ ควรจะสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ เพื่อที่แต่ละคนจะได้กลับ ไปดำ�รงวิถีชีวิตของตนดังเช่นที่เคยดำ�รงอยู่ ชายหนุ่ม ผมยาวเบื้องหน้าฉันก็เฉกเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มที่แม้น ว่าวันนี้ ชื่อของเขาจะถูกต่อท้ายด้วยนักเขียนรางวัลซี ไรต์ก็ตาม

13


Islamic โดย อัล อัค

ปาเลสไตน์...ต้องมากกว่าตามกระแส เมื่อเกิดเหตุการณ์เข่นฆ่าในฉนวนกาซ่า ผมต้อง ประสบตรงๆ กับปฏิกิริยาของพี่น้องมุสลิม โดยเฉพาะ คนที่เรียกว่า “เอาศาสนา” แตกต่างกันออกไป แต่ที่ หนักใจมากคือ คนจำ�นวนหนึง่ ทีเ่ คร่งครัดอิบาดะฮฺมากๆ แต่พวกเขากลับตีความสถานการณ์ทเ่ี กิดขึน้ ว่า เป็นเพราะ คนปาเลสไตน์ไม่มี อะมัลอิสลาม อัลลอฮฺจึงลงบาลาอ์ ... พูดง่าย ๆ ว่า อัลลอฮฺลงภัยพิบัติให้แก่ชาวปาเลสไตน์ เพราะพวกเขาไม่เอาศาสนา ผมแปลกใจมาก เพราะการตีความศาสนาแบบนี้ เท่ากับบอกว่า สถานการณ์การกดขี่ต่างๆ เป็นผลของ การไม่เอาศาสนาของมุสลิมเอง ยังเป็นการบอกอีกว่า ความดีอยู่แค่การมีผู้ชายไปละหมาดมัสญิดทั้งห้าวักตู มีแค่การปรากฏผู้หญิงคลุมหน้ามากๆ ... คือเป็นความ ดีที่ได้ปฏิบัติศาสนาในแง่มุมส่วนตัว แม้ว่าโลกมุสลิม จะเกิดการกดขี่ปานใดก็ตาม เป็นการปฏิบัติศาสนาที่ เคร่งครัดในสภาพที่ไร้การต่อสู้ดิ้นรนในมิติอื่น ๆ ผมไม่ตอ้ งการให้เดาว่าเป็นกลุม่ ใด เพราะผมบอก ได้วา่ ไม่เกีย่ วกับกลุม่ ใดทัง้ สิน้ มันเป็นการคิดทีข่ าดความ รูข้ องปัจเจกชนบางคน ทีพ่ อดีมนั มีอยูห่ ลายๆ คน ก็เลย ทำ�ให้ภาพลักษณ์เสียหายในวงกว้าง ผมพยายามอธิบายให้เข้าใจมิติของอิสลามในการ เผชิญหน้ากับการกดขี่ การอ้างว่าต้องต่อสูก้ บั นัฟซูตวั เอง เพือ่ ปฏิเสธความสำ�คัญของการต่อสูก้ บั การกดขีภ่ ายนอก นัน้ เป็นสิง่ ทีไ่ ม่ถกู ยอมรับ ทุกอย่างต้องดำ�เนินไปบนความ พอดีและได้ดลุ ยภาพ เรือ่ งนีต้ อ้ งค่อย ๆ ทำ�ความเข้าใจกัน บางครั้ง ความคิดแบบนี้ทำ�ให้ผมนึกไปถึงสมัย สงครามครูเสด ในขณะที่กองทัพครูเสดกรูกันมายึด ครองปาเลสไตน์ แต่อาณาจักรที่ครูเสดไม่ได้เข้าไป อย่างเช่น อิรัก หิญาซ ต่างก็อยู่กันปกติ ในช่วงต้นของ การยึดครอง ได้มีอุละมาอ์หนีตายไปร้องขอความช่วย เหลือจากคอลีฟะฮฺแห่งบัฆดาด(ที่ตอนนั้นอ่อนแอมาก) เคาะลีฟะฮฺก็ทำ�เพียงแค่แสดงความเห็นใจ และชีวิต ในดินแดนอิสลามที่ไม่เกี่ยวข้องกับสงครามครูเสดก็ยัง ปกติ ...เช้าชามเย็นชาม

14

โลกมุสลิมปล่อยให้นรู ดุ ดีน ซังกี และศอลาฮุดดีน อัยยูบยี ์ เผชิญกับกองทัพครูเสดชาติตา่ งๆ ตามลำ�พัง มิใช่ว่าศอลาฮุดดีนจะไม่เคยส่งสาส์นไปขอความช่วย เหลือให้เข้าร่วมสมรภูมญ ิ ฮิ าด แต่สง่ ไปยังหลายๆ เมือง แล้ว แต่มดี นิ แดนใดบ้างเล่าทีต่ อบรับ !!! ถึงอย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่คอ่ ยสบายใจกับปฏิกริยา ของพีน่ อ้ งอีกหลายคน ทีม่ หี วั ใจเร้าร้อน มีความปวดร้าว กับการเข่นฆ่าเด็กๆ และผูห้ ญิงในปาเลสไตน์ พวกเขา พยายามเรียกร้องให้คนออกมาประท้วงกันให้เยอะๆ ให้ ออกมาบอยคอตสินค้ายิว... แต่สงั คมมุสลิมกลับตอบ รับคำ�เรียกร้องด้วยท่าทีเฉยเมย ยังกับว่าไม่มหี วั ใจ ไร้ ความรูส้ กึ จนพวกเขาต้องหลุดคำ�ประณามสังคมมุสลิม ทีย่ งั คงดืม่ โค๊กซดเป๊ปซีก่ นั อย่างซาบซ่า… ครัน้ มองไป ยังเวทีบรรยายเรื่องปาเลสไตน์ก็มองไม่เห็นอะไรที่เป็น รูปธรรม ทุกคนมาบอกเล่าความเลวของยิวแล้วก็กลับ สังคมมุสลิมเราทำ�ได้แค่นเ้ี องหรือ !!! ผมเห็นด้วยกับการประท้วงเพือ่ แสดงความโกรธใน ขอบเขตทีอ่ สิ ลามอนุมตั .ิ .. แต่สง่ิ ทีผ่ มขออธิบายกับหลาย ท่าน(ดังทีผ่ มอธิบายไปหลายทีแ่ ล้ว)ว่า พยายามเข้าใจ กระแสหน่อยว่าแม้สง่ิ ทีเ่ กิดขึน้ ถือว่าเป็นเรือ่ งรุนแรงทีส่ ดุ แม้ประเด็นอัลกุดส์กถ็ อื ว่าเป็นประเด็นอันดับหนึง่ แต่ ต้องยอมรับความจริงว่า มุสลิมเราอ่อนแอเกินกว่าจะ เข้าใจระดับความรุนแรงของมัน บางคนอ้างไปยังสมัย การยึดครองอัฟฆอนิสถานมีคนออกมาประท้วงเป็น เรือนหมืน่ เรือนแสน ทัง้ ทีภ่ าคกลางและภาคใต้ คนพวก นัน้ หายไปไหนหมด ครับ นัน่ เป็นกระแสทีต่ ามมาหลัง 11 กันยา ที่ หนังสือพิมพ์ทุกฉบับในโลกพาดข่าวหน้าหนึ่งกันทุกวัน ติดต่อกันมาจนถึงวันทีส่ หรัฐใช้ก�ำ ลังบุกอัฟฆอนิสถาน ... เพราะกระแสมันพาไป ผมอยากจะบอกว่า มุสลิมเราก็เป็นประเภทตาม กระแส เรือ่ งของชาวปาเลสไตน์มนั เข้าถึงคนในระดับ ปัญญาชนได้ แต่มนั ไม่สามารถทะลุไปยังคนทุกระดับได้ เพราะเป็นเรื่องที่ถูกทำ�ให้อยู่นอกกระแสมานานแล้ว…

ดังนั้นเราน่าจะมีมาตรการอะไรที่ควรกระทำ�ต่อปัญหา ปาเลสไตน์ทม่ี ากกว่าการเกาะกระแส ครัง้ แล้วครัง้ เล่า ผมให้ค�ำ ตอบไปว่า สิง่ สำ�คัญกว่าการประท้วงและ การบอยคอย แต่เรามักไม่คอ่ ยได้กระทำ�กัน ทัง้ ๆ ทีต่ อ้ ง กระทำ�ก่อนนัน่ คือ การผนึกหัวใจเป็นหนึง่ เดียวกับชาว ปาเลสไตน์ ซึง่ แสดงให้เห็นในทางปฏิบตั ดิ ว้ ยการติดตาม ข่าวเรือ่ งปาเลสไตน์ ศึกษาประวัติ ศาสตร์ปาเลสไตน์ เช่นเดียวกันแฟนพันธ์แท้ของเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดงที่ นัง่ หน้าจอตามติดอยูต่ ลอดเวลา หรือบางคนพาตัวเอง ไปนอนในทีป่ ระท้วง อย่างชนิดยอมเจ็บยอมตายกันเลย หรืออย่างแฟนๆดาราเกาหลี หรือแฟนดาราฟุตบอลทีร่ ู้ ไปในรายละเอียดของแฟนโปรดของตัวเองทุกเรือ่ ง… เริม่ ต้นง่ายๆ ด้วยการเป็นแฟนพันธ์แท้ปาเลสไตน์ ติดตามข่าวคราวพวกเขาอย่างใกล้ชิด...ผนึกหัวใจเป็น หนึง่ เดียวกับชาวปาเลสไตน์ รับรูค้ วามรูส้ กึ ของพวกเขา หลัง่ น้�ำ ตาร่วมไปกับพวกเขา วิงวอน(ดุอาอ์)ให้กบั พวก เขา ให้กระทำ�อย่างนีต้ ลอดไป สำ�หรับ นักดะอฺวะฮฺให้ใช้โอกาสนีน้ �ำ ประเด็นปัญหา ปาเลสไตน์กลับคืนมาสูห่ วั ใจของคนมุสลิม ออกตระเวน บรรยายตามชุมชนทีต่ นเองมีสายสัมพันธ์อยู่ นำ�เรือ่ งนี้ ไปปราศรัยบนคุฏบะฮฺวนั ศุกร์ หาช่องทางเปิดวงสนทนา เกีย่ วกับเรือ่ งนีใ้ นทีพ่ บปะต่างๆ แล้วก็ให้ลดๆ ประเด็น ทะเลาะหยุมหยิมหาประโยชน์จริงๆ อะไรไม่ได้เลย อย่าทำ�ให้ปฏิกริ ยิ าของเราทีม่ ตี อ่ ปัญหาปาเลสไตน์ เป็นเรือ่ งวูบวาบชัว่ ระยะ นีเ่ ป็นปัญหาทีห่ นักทีส่ ดุ อีกครัง้ หนึ่งของประวัติศาสตร์ เราอยู่ในยุคการยึดครองอัลกุดส์เป็นครัง้ ทีส่ อง เรากำ�ลังอยูใ่ นสมัยเฉกเช่นสมัยของ ศอลาฮุดดีน ขอให้เราอย่าเป็นเช่นมุสลิมเช้าชามเย็นชาม ปล่อยให้ศอลาฮุดดีนและกองทัพของท่านต่อสู้อย่าง เดียวดาย


Orphanage

มูลนิธศิ รัทธาชนฯ กับพันธกิจงานด้านสังคมสงเคราะห์

โดย : กองบรรณาธิการ

กว่า 12 ปีแล้ว ที่มูลนิธิศรัทธาชนเพื่อการศึกษาและ เด็กกำ�พร้า ขับเคลื่อนภารกิจการช่วยเหลือเด็กกำ�พร้า มาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีเด็กกำ�พร้าในการดูแลอยู่ ประมาณ 2,500 คน ทุกๆ คนที่รับการช่วยเหลือ ล้วนมา จากเงินบริจาคจากพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งสิ้น ซึ่งล่าสุดทาง มูลนิธิฯได้ทำ�การเปิดบ้านหทัยรักษ์ขึ้นที่ศูนย์ยุวศรัทธา ชน เพื่อการศึกษาและเด็กกำ�พร้า มุ่งหวังให้การดูแลเด็ก กำ�พร้าอย่างเป็นระบบ ให้การศึกษาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ มูลนิธิศรัทธาชน เพื่อการศึกษาและเด็ก กำ�พร้า ได้จัดลำ�ดับการดูแลช่วยเหลือครอบครัวกำ�พร้า ไว้เป็นสามระดับดังนี้ 1. ระดับพืน้ ฐาน ให้การช่วยเหลือครอบครัวกำ�พร้า ตามจั ง หวะวงรอบ เช่ น การเยี่ยมครอบครัวกำ � พร้า ครั้งแรก แล้วถึงวาระแห่งวันอีดทั้งสอง มูลนิธิฯ จะมอบ ของขวัญ อาหารแห้ง ซากาตฟิตร์ ในวันอีดเล็ก ส่วนวัน อีดอิดล้ิ อัฏฮาจะมอบเนือ้ กุรบาน รวมทัง้ จะเชิญครอบครัว กำ�พร้ามาร่วมกิจกรรมงานวันเด็กกำ�พร้า มีการมอบงิน และสิ่งของเพื่อเป็นกำ�ลังใจที่ให้การช่วยเหลือขั้นต้น 2. ระดับเข้มข้น คือการมอบทุนการศึกษา รายเดือน ให้กบั ครอบครัวกำ�พร้าทีย่ ากจน มีบตุ รหลายคน หรือเหตุอัน ควรและเหมาะสมที่คณะกรรมการจะพิจารณา ปัจจุบัน ได้มอบทุน จำ�นวน 700 บาท 1,200 บาท และ 2,000 บาท ต่อเดือน จำ�นวน 325 ทุน ตลอดจนเข้าไปดูแลเรื่อง อื่นๆ เช่น การปลดหนี้ การสร้างและการพัฒนาอาชีพ การพิจารณาให้ทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือหา ทุนเรียนต่อต่างประทศ 3. ระดั บ พิ เ ศษ คือการนำ � เด็กกำ � พร้ามาเลีย้ ง ดูให้การศึกษาเล่าเรียนเสมือนคนในครอบครัว รับผิด ชอบแบบครบวงจร โดยได้เปิดบ้านหทัยรักษ์เพื่อลี้ยง ดูเด็กกำ�พร้าแบบใกล้ชิด ให้การศึกษา บ่มเพาะชีวิต เพือ่ เด็กๆ เหล่านี้ได้เติบโตไปเป็นมุสลิมที่สมบูรณ์ต่อไป ในอนาคต โดยเริ่มทดลองงานเมื่อต้นปี 2553 ที่ผ่านมา และได้ทำ�การเปิดบ้านหทัยรักอย่างเป็นทางการเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2553

เปิดใจกรรมการมูลนิธฯิ กับภารกิจบ้านหทัยรักษ์ “ความตัง้ ใจทีเ่ ริม่ พูดคุยกันนัน้ ประมาณ 50 คน ใช้งบ ประมาณคนละ 3,000 บาท ต่อเดือน ดังนั้นถ้ามีเด็ก 50 คน เราต้องใช้เงินประมาณถึง 150,000 บาทต่อเดือน ซึ่ง ก็เป็นเงินจากการบริจาค โครงการอพาร์ทเม้นท์ เพือ่ เด็กกำ�พร้าทีบ่ า้ นหทัยรัก ตอนแรกดูจะมืดมนหนทางแล้ว แต่อัลลอฮ์ ซ.บ. ก็ทรง ประทานความสะดวกให้ เมื่อครอบครัวลีวัน มอบที่ดิน 245 ตารางวา ซึ่งตั้งอยู่ที่ซอยรามคำ�แหง 24 แยก 10 หลังมหาวิทยาลัยรามแหง ซึง่ สามารถสร้างอพาร์ทเม้นท์ ในขนาด 5 ชั้น 75 ห้อง ค่าก่อสร้างได้ โดยใช้งบประมาณ 17 ล้านบาท หากสร้างเสร็จเราก็จะมีรายได้เดือนละ 200,000 บาท อินชาอัลลอฮ์หากพระองค์อัลลอฮ์ทรงประสงค์ ตรงนี้เอง คือภารกิ จ ที่ อ ยากจะเชิ ญ ชวนพี่ น้ อ งทุ กท่ า นที่มีความ สามารถตามกำ�ลังศรัทธา ร่วมกันเป็นเจ้าของบ้านโดยผู้ ซื้อบ้านดุนยาเพื่ออาคีเราะห์ ต้องจ่ายที่โลกดุนยานี้ ห้อง ละ 200,000 บาท เป็นที่น่ายินดีว่า ในงานวันวิทยุศรัทธาชน เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2553 ได้มีผู้จับจอง ซื้อบ้านดุนยาแล้ว 17 ห้อง เป็นเงิน 3,400,000 บาท ดังนั้นจึงยังพอมีบ้านเหลือไว้ สำ�หรับผู้ต้องการจะสะสมความดีแห่งดุนยาเพื่อนำ�พาสู่ อาคีเราะห์ หากพี่น้องท่านใดสนใจก็สามารถติดต่อได้ที่ มูลนิธิฯ หรือที่กรรมการทุกท่าน” ธารไหลริน สำ�หรับท่านที่ประสงค์จะเป็นเจ้าของห้องดุนยาเพื่อ อาคิเราะห์ ด้วยการบริจาคค่าก่อสร้างเหมาห้องราคา 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) สินสายใย สำ�หรับท่านที่มีความสามารถบริจาคเป็นรายเดือน ไปพร้อมๆ กับระยะเวลาก่อสร้าง (15 เดือน) เรียกว่า “สิบห้าเดือน สิบห้าพัน” เมื่อเสร็จสิ้นโครงการจะเท่ากับ ท่านได้บริจาคไปเป็นจำ�นวน 15,000 บาท (หนึ่งหมื่นห้า พันบาทถ้วน) ให้พอเพียง สำ � หรั บ ท่ า นที่ ป ระสงค์ จ ะบริ จ าคตามกำ� ลั ง ความ สามารถที่ท่านเห็นสมควร ข้อมูล มูลนิธิศรัทธาชนเพื่อการศึกษาและเด็กกำ�พร้า www.satthachon.org ร่วมบริจาคโดย ธนาคารกรุงเทพ สาขาลาดพร้าว 99 บัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 181-3-090147 ชื่อบัญชี มูลนิธศิ รัทธาชนเพือ่ การศึกษาและเด็กกำ�พร้า ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สาขาคลองตัน บัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 001-6-00162-1 ชื่อบัญชี มูลนิธศิ รัทธาชนเพือ่ การศึกษาและเด็กกำ�พร้า มูลนิธิศรัทธาชนเพื่อการศึกษา และเด็กกำ�พร้า อพาร์ทเม้นท์ ศรัทธาชน บ้านแห่งความฝัน บ้านแห่งพลัง บ้านที่จะสร้างโอกาสให้เด็กกำ�พร้า

ขอเชิญชวนพี่น้องศรัทธาชน ร่วมปันความรัก ความรู้สึก ปันความอบอุ่น โดยเป็นเจ้าของห้องบ้านอันทรงเกียรติ ราคาห้องละ 200,000 บาท สู่อพาร์ทเม้นท์เพื่อเด็กกำ�พร้า บ้านดุนยา สายใยที่ไหลริน

15


People a wake a story 06

รอยั๊บ ฏอยยิบ อัรดูฆอน นายกรัฐมนตรีตุรกี ผู้ปกป้องชาวปาเลสไตน์ จากเด็กชนบทธรรมดาคนหนึง่ ได้รไู้ ด้เห็นความเป็น ไปอันพิกลพิการทางศาสนาของประเทศตนเอง ยอมที่ จะละทิ้งความสะดวกสบายในโรงเรียนรัฐซึ่งแปดเปื้อน ไปด้วยระบอบของอตาเติรก์ อันเป็นระบอบทีท่ �ำ ลาย อาณาจักรอิสลามแห่งสุดท้ายลงเมือ่ 70 กว่าปีกอ่ น (อาณาจักรอุษมานียะฮฺหรือออตโตมันมีอำ�นาจปกครอง อยูใ่ นช่วง ค.ศ.1299-1923) เด็กชายตัวเล็กๆคนหนึง่ ขอผู้ เป็นบิดาให้สง่ ตัวเองไปเรียนในโรงเรียนศาสนาอันไม่มเี บีย้ เลีย้ งจากรัฐบาลให้ได้หยิบจับ ซ้ำ�ยังโดนจับตาจากอำ�นาจ ฝ่ายรัฐทีจ่ อ้ งจะเล่นงานและยกเลิกการเรียนการสอน แต่ เด็กชายผู้นี้ก็เลือกมาเรียนทีน่ ี่ เพียงเพื่อหวังที่จะหลีกหนี ความพิกลพิการทางศาสนาของประเทศและจิตวิญญาณ คนตุรกีสมัยนัน้ เพือ่ ทีว่ า่ ตนเองจะได้สมั ผัสอิสลามแม้เสีย้ ว เดียวในโรงเรียนซอมซ่อแห่งนัน้ เด็กชาย ฏอยยิบดุ ดีน อัรดูฆอน เกิดในปี ค.ศ.1954 ครอบครัวของเขาอพยพมาอยู่เมืองอิสตันบูล หรือเมือง แห่งอิสลาม อดีตเมืองคอนสแตนติโนเปิล ของกษัตริยค์ อน สแตนตินแห่งโรมันตะวันออก เมืองทีส่ ลุ ต่านหนุม่ วัย 21 ปี มุฮมั หมัด อัลฟาติฮฺ (Sultan Muhammad Al-Fatih) ได้ พิชติ มาจากโรมันเมื่อสมัยโบราณ อัรดูฆอนเติบโตมาใน สังคมมุสลิมที่แยกศาสนาออกจากชีวิตประจำ�วัน(ระบบ เซคคิวลาห์ – secularism) เบียดเรือ่ งศาสนาให้มดิ และ อุดอูอ้ ยูแ่ ต่ในมัสยิด ไม่ใช่แค่นน้ั มุสตอฟา กามาล อตาเติรก์ (Mustafa Kemal Atatürk) ผูถ้ กู ยกย่องว่าเป็นบิดาแห่ง ตุรกีใหม่นน้ั (หลังจากรับใช้ยวิ โค่นอำ�นาจคอลีฟะฮฺอษุ มา นียะฮฺในปี 1924 ลงได้) ยังได้บงั อาจเปลีย่ นการอะซานใน ตุรกีให้เป็นภาษาเติรก์ และยังสัง่ ใช้ไม่ให้ผหู้ ญิงมุสลิมใส่ ฮิญาบ(ทัง้ ทีต่ นเองก็อา้ งว่าเป็นมุสลิม) ผูช้ ายห้ามใส่หมวก ตอรบุช(กาปีเยาะห์ชนิดหนึง่ สีแดงเข้ม ทรงสูง สัญลักษณ์ ทางอำ�นาจและวิถชี วี ติ มุสลิมในสมัยนัน้ ) ส่งเสริมให้ผคู้ น คลัง่ ไคล้ชาตินยิ ม โรงเรียนทุกแห่งห้ามสอนกุรอานเป็น ภาษาอาหรับ ห้ามเรียนภาษาอาหรับ ต้องใช้ภาษาเติรก์ เท่านัน้ และอีกมากมายแผนการชัว่ ทีถ่ กู คิดค้น อัรดูฆอน ไปสมัครเข้าโรงเรียนชัน้ ซานาวียแ์ ห่งหนึง่ (ระดับ มัธยม) ในวันหนึง่ คุณครูได้ถามนักเรียนว่า ใครละหมาดเป็น บ้าง ช่วยออกมาแสดงให้เพือ่ นๆดูหน้าห้องหน่อยสิ… เด็ก ชายอัรดูฆอน ยกมือและได้ออกมาหน้าห้อง คุณครูจงึ เตรี ย มหนั ง สื อ พิ ม พ์ เ พื่ อ ปู ชั่ ว คราวให้ เ ขาได้ ล ะหมาด แต่อัรดูฆอนได้ปฏิเสธที่จะใช้มัน เหตุผลที่คุณครูคนนัน้ เล่ามาก็คอื เพราะทีห่ นังสือพิมพ์นน้ั มีรปู ดาราผูห้ ญิงอยู่ นับแต่นน้ั อัรดูฆอน จึงได้รบั ฉายาจากครูวา่ “รอยับ๊ ” เป็น ภาษาตุรกี แปลว่า ผูม้ คี วามเคร่ง วันนีเ้ ราจึงได้รจู้ กั เขาคนนี้ ในชือ่ รอยับ๊ ฏอยยิบ อัรดูฆอน (Recep Tayyip Erdoan) นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศตุรกี อัรดูฆอน ก้าวเข้ามาในแวดวงการเมือง เมือ่ ครัง้ ทีเ่ ขายังเป็น หนึง่ ในสมาชิกพรรคเรฟะฮฺ หรือ Welfare Party พรรคการเมือง แนวคิดอิสลามพรรคแรกๆ หลังอาณาจักรอุษมานียะฮฺลม่ สลายไป นัน้ คือการไปอยูก่ บั ศาสตราจารย์ ดร.นัจมุดดีน อัรบาฆาน* (Prof.Dr.Najmuddin(Necmettin) Erbakan) หัวหน้าพรรควิศวกรดอกเตอร์จบจากประเทศเยอรมันแต่มี อุดมการณ์แห่งอิสลามอยู่เต็มอก ท่านได้สั่งสอนเรื่องราว ความยิง่ ใหญ่แห่งอิสลาม อดีตอันรุง่ โรจน์ พร้อมกับประวัติ การต่อสู้ของบรรพชนแห่งอิสลาม อัรดูฆอนปลื้มครูคน นีข้ องเขามาก แต่นน่ั ก็เป็นแสงดาวแห่งความหวังเพียงชัว่ วาบเท่านัน้ เมือ่ พลพรรคของครูของเขาต้องถูกลบออกไป จากแวดวงการเมือง ด้วยน้ำ�มือของพวกเซคคิวลาห์ทย่ี งั เป็นเสียงส่วนมากในตุรกีในวันนัน้ อัรดูฆอนไม่เคยลืมเรือ่ ง ราวเหล่านี้ เขาเพียรพยายามไต่เต้าวงจรสกปรกนี้ และอา สาค่อยๆเช็ดถูขจัดคราบเหล่านัน้ ออกจากระบบ ท่านได้รบั

16

เลือกให้เป็นนายกเทศมนตรีแห่งเมืองอิสตันบูล เมืองการ ค้าแห่งตุรกี ประชาชนเลือกท่าน ด้วยเหตุผลหนึ่งก็คือ อัรดูฆอน ไม่เคยมีเรือ่ งทุจริตปรากฏให้เห็นเลยในชีวติ ในขณะที่ดำ�รงตำ�แหน่งเป็นนายกเทศมนตรีเมือง อิสตันบูลนัน้ ในการปราศรัยครัง้ หนึง่ ท่านได้พดู ขึน้ ว่า “คน เราจะผสมผสานกันระหว่างมุสลิมกับเซคคิวลาห์น้ันไม่

The mosques are our barracks, the domes our helmets, the minarets our bayonets and the faithful our soldiers… Poem that landed erdoan in jail

ได้ ท่านจะต้องเลือกการเป็นผูศ้ รัทธาเท่านัน้ และทิง้ การ เป็นเซคคิวลาห์ซะ” และเขาก็ได้ยกกลอนชิน้ หนึง่ ของนักสู้ มุสลิมคนหนึง่ ของตุรกีวา่ “มัสยิดนัน่ คือค่ายทหารของเรา โดมของมันคือหลุม หลบภัยของเรา ส่วนหอคอยนัน้ เล่า คือดาบปลายปืนของ เรา และผูศ้ รัทธาในทีน่ น้ั คือทหารหาญของเรา…” ด้วยการกล่าวเช่นนีเ้ อง เขาจึงได้ถกู ทางการจับตัว รถ ตำ�รวจล้อมรอบรถทีเ่ ขาขึน้ ถึงห้าคัน ผูค้ นคับคัง่ มืดฟ้ามัว ดิน ต่างออกมาแสดงความไม่พอใจและเรียกร้องให้ปลด ปล่อยผูน้ ำ�ของเขาคนนี… ้ ขณะทีห่ อ้ งสีเ่ หลีย่ มอันมืดมิดรอ ท่าอยูข่ า้ งหน้า อัรดูฆอน กลับออกมาพูดเพียงแค่ทอ่ นเดียว นัน้ คือ ขอให้พวกท่าน(ประชาชน)กลับไปทำ�งานของท่าน ส่ ว นฉั น ก็ จ ะทำ � งานของฉั น เช่ น กั น (แม้ ต้ อ งอยู่ ใ นคุก) ช่างเป็ น คำ � พู ด ที่ สั้ น และสะเทื อ นหั ว ใจผู้ ค นเสี ย จริ ง ๆ เขากำ�ลังทำ�งานเพือ่ นำ�อิสลามกลับมาสูแ่ ผ่นดินและโลก นีอ้ กี ครัง้ และเราก็ตอ้ งทำ�งานเช่นกัน ทุกคนล้วนมีภาระ หน้าทีน่ ้ี คอลีฟะตุลอัรดฺ… ดูเหมือนอุดมการณ์อสิ ลามจะไม่เคยหยุดนิง่ กระแส ของมันเพิม่ ความเชีย่ วกรากเสมือนคลืน่ ทะเลในวันพายุเข้า หนุม่ สาวตุรกีเริม่ กลับเข้าหาอิสลามมากขึน้ พวกเขาละทิง้ ความเป็นชาตินยิ ม เชือ้ ชาตินยิ ม และความเป็นเซคคิว ลาห์มากขึ้น เมื่ออัรดูฆอนก้าวมาเป็นนายกรัฐมนตรี เขา ร่วมมือกับประธานาธิบดีผมู้ แี นวคิดอิสลามอีกคน คืออับ ดุลลอฮฺ กุล (Abdullah Gül) พวกเขาเริม่ แสดงความเป็น มุสลิมให้ประชาชนเห็นเป็นตัวอย่าง ภรรยาของพวกเขาเป็น ภรรยาผู้นำ�มุสลิมไม่กี่คนที่สวมฮิญาบ ทั้งๆที่ในประเทศ อาหรับต้นตำ�รับมุสลิมหรือประเทศเพื่อนบ้านของเราทาง ใต้ ต่างก็ไม่กนิ เส้นกับรสนิยมอิสลามข้อนีม้ ากนัก ซ้ำ�ร้าย ยังได้รู้ว่าผู้นำ�อาหรับหลายต่อหลายคนมีภรรยาเป็นคน ต่างศาสนิก นับประสาอะไรกัน ทีจ่ ะมาปกครองมวลมุสลิม ของตน ตัวอย่างที่โลกได้เห็นก็คือ งานพบปะที่ประเทศ ฝรัง่ เศส ภรรยาของอัรดูฆอน เป็นภรรยาผูน้ �ำ ประเทศคน เดียวในงานทีแ่ ต่งตัวมิดชิด ปกป้องรักษาสิทธิอนั งดงามที่ พระเจ้าให้เธอมา ผูน้ �ำ ทีเ่ ป็นบุรษุ เพศหลายคนยืน่ มือเพือ่ ที่ จะจับมือกับเธอตามธรรมเนียม แต่เธอไม่สนองตอบด้วย

เป็นการแสดงออกถึงอุดมการณ์และมารยาทอันงดงาม ของอิสลาม ทีห่ าดูได้ยากเหลือเกินในโลกของผูน้ �ำ ประเทศ มุสลิม วันที่ 30 มกราคม 2009 ในการประชุมเวิลด์ อีโคโน มิค ฟอรัม ทีก่ รุงดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรี อัรดูฆอน ถูกให้ขึ้นเวทีพร้อมกับประธานาธิบดีอิสราเอล ชีมอน เปเรส นายเปเรสได้ใช้เวลาอย่างยาวนานในการ อธิบายเหตุผลที่เขาต้องทำ�สงครามกับฆ๊อซซะ(GAZA) และประเทศฟาลิสฏีน(ปาเลสไตน์) อัรดูฆอนนัง่ ฟังอย่าง นิง่ เงียบ สีหน้าจับจ้องมองคนทางซ้ายมือของเขาอย่าง ขึงขัง และเขาทำ�ให้ทว่ั โลกต้องตกตะลึงเมือ่ เขาขออภิปราย ตอบกลับเปเรส อัรดูฆอน ลุกขึน้ พูดว่า … คุณเปเรส คุณน่ะแก่กว่าผม เสียงของคุณดังมาก ที่ คุณพูดเสียงดังก็คงเกิดจากความรู้สึกผิดที่ติดสันดานการ เป็นอาชญากรสังหารมนุษย์ของคุณนัน่ เอง เสียงของผมไม่ อาจดังเช่นนีไ้ ด้ เรือ่ งการฆาตกรรมน่ะ คุณรูด้ ี และเมือ่ ถึงเวลาทีจ่ ะต้อง ฆ่า คุณก็รู้วิธีพวกนี้ดี คุณฆ่าประชาชน (ชาวปาเลสไตน์) ผมยังจำ�ภาพเด็กทีน่ อนตายอยูบ่ นชายหาดได้ และผมยังจำ�ได้วา่ อดีตผูน้ �ำ อิสราเอล 2 คนของคุณ ได้พดู สิง่ สำ�คัญบางอย่างให้ผมรู้ คุณมีนายกรัฐมนตรีผทู้ ่ี บอกว่า เมือ่ เราได้รกุ เข้าไปในฟาลีสฏีน(ปาเลสไตน์) ด้วย รถถัง เราจะรูส้ กึ มีความสุขยิง่ นัก นอกจากนี้ ข้าพเจ้าขอประณามทุกคนทีป่ รบมือเชียร์ การเข่นฆ่าและก่ออาชญากรรมต่อชาวฆ๊อซซะ(GAZA) ที่ พวกคุณพากันปรบมือสนับสนุนการเข่นฆ่าลูกเล็กเด็กแดง นัน้ สำ�แดงให้ประจักษ์วา่ พวกคุณคือพวกทีล่ ะเมิดสิทธิ มนุษยชน… ครั้งที่เปเรสพูด มีคนสังเกตเห็นภรรยาของอัรดูฆอน ร้องไห้ โดยผูส้ อ่ื ข่าวไปถามเธอหลังจากนัน้ เธอกล่าวว่า ทุกอย่างทีช่ ายคนนัน้ (เปเรส)พูด เขาโกหกทัง้ นัน้ และขณะ ทีอ่ รั ดูฆอนพูดอยู่นั้น ผู้ดำ�เนินรายการก็ได้พยายามขัด เขา(โดยไม่ให้เขาพูดเกินกว่า 1 นาที ขณะทีเ่ ปเรสพูดนาน กว่า 25 นาที) แต่เขาก็ไม่ยอม และพูดทิง้ ท้ายประโยคหนึง่ ก่อนทีจ่ ะหยิบสมุดโน๊ตและประท้วงด้วยการลุกและลงเวที ประชุมไปว่า... Israel… became a gangster state!! อัรดูฆอน ถูกสั่งจับตายจากตำ�รวจลับของอิสราเอล (หน่วยมอสสาด) แต่ไม่สำ�เร็จ อิสราเอลมองว่า นายก รัฐมนตรีนิยมอิสลามผู้นี้ไม่เหมือนผู้นำ�โลกมุสลิมคนอื่นๆ ทีว่ า่ นอนสอนง่าย หรือ ทีม่ อี ดุ มการณ์หน่อย ก็เป็นชาตินยิ ม หรือคลัง่ ไคล้เชือ้ ชาติไป ซึง่ ไม่ได้มพี ษิ มีภยั อะไรต่อพวกยิว ย้อนกลับไปในปี ค.ศ.1453 สุลต่าน มุฮมั หมัด อัลฟา ติฮฺ วัย 21 ปี ได้ท�ำ ให้ความฝันของตนเองและสิง่ ทีม่ วล มุสลิมทุกคนรอคอยสำ�เร็จ นัน่ คือคำ�กล่าวของท่านนบี ทีว่ า่ กรุงคอนสแตนติโนเปิลจะถูกพิชติ และกองทหารที่ พิชติ นี้ เป็นกองทหารทีด่ ยี ง่ิ … มุฮมั หมัด บิน มุรอ็ ด ในวัย เด็กยังจำ�คำ�สอนของครูสว่ นตัวของเขาได้ดี และยังจำ�วัน วานที่ครูของเขาชอบที่จะพามาเที่ยวชายหาดสม่ำ�เสมอ ครูของเขามักจะชี้ไปฝั่งแผ่นดินคอนสแตนติโนเปิลและ เล่าหะดีษบทนี้อยู่เสมอๆ มุฮัมหมัดจำ�ฝังใจและต้องการ เป็นผู้นำ�ของ กองทหารหาญนั้น จากเมืองของจักร พรรดิคอนสแตนติน(คอนสแตนติโนเปิล)มาเป็นอิสตัน บูล(แปลว่าเมืองแห่งอิสลาม) แรงบันดาลใจมาจากคำ� พูดของท่านนบี อุษมานียะฮฺปกครองตุรกีและแผ่นดิน มุสลิมทัง้ มวล 600 กว่าปี จนถูกมุสตอฟา กามาล อตา เติรก์ โค่นล้มไป มาวันนี้ ชายที่ชื่อ อัรดูฆอนกำ�ลังจะนำ� ความยิง่ ใหญ่นก้ี ลับมาอีกครัง้ หนึง่ วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2553 ในเหตุการณ์ หน่วยคอมมานโดอิสราเอลขึน้ ไปถล่มเรือบรรเทาทุกข์ของ


คณะทำ�งานสิทธิมนุษยชนจากหลายประเทศที่จะขนส่ง ปัจจัยในการดำ�รงชีพทีส่ �ำ คัญแก่ฆอ็ ซซะ (GAZA) และ ชาวฟาลิสฏีน (ปาเลสไตน์)นัน้ มีผเู้ สียชีวติ หลายคน นายก รัฐมนตรีอรั ดูฆอนแห่งตุรกี ซึง่ เป็นเจ้าภาพคณะทำ�งาน สิทธิมนุษยชนนีน้ น้ั ได้ประกาศให้มกี ารละหมาดญะนา ซะฮฺทว่ั ประเทศ และมีรายงานว่านำ�มายัตไปละหมาด ที่มัสยิดสีนำ้�เงินซึ่งเป็นมัสยิดที่สำ�คัญมากที่สุดแห่งหนึ่ง ของอาณาจักรอิสลามอุษมานียะฮฺ ทำ�ไมต้องละหมาดที่ นี… ่ อัรดูฆอนกำ�ลังทำ�บางสิง่ บางอย่างเพือ่ เป็นสัญลักษณ์ ที่จ ะบอกแก่ช าวโลกโดยเฉพาะชาวมุสลิมทั้งหลายว่า ควรทำ�อะไร และเตรียมตัวพร้อมหรือยังกับการเดินตาม อุ ด มการณ์ แ ห่ ง นั ก รบมุ ส ลิ ม ในอดี ต ที่ ต่ อ สู้ กั บ ความอ ยุตธิ รรมทัง้ หลาย การต่อสูข้ องผูน้ �ำ คนนีเ้ ป็นสัญลักษณ์ ใหม่ทพ่ี วกเราต้องติดตาม และช่วยกันขอดุอาอฺเหมือนดัง่ เช่นทีม่ สุ ลิมอีกหลายล้านคนกระทำ� พีน่ อ้ งของเขา เรือน ร่างเดียวกันของเขา อยูท่ กุ หนทุกแห่งบนโลกใบนี้ เป็น ภาระหน้าทีข่ องเราทีจ่ ะต้องทำ�การปลดปล่อย เพือ่ ทีเ่ ราจะ ได้เป็นมุอมฺ นิ คนหนึง่ ทีจ่ ะมีผลงานแสดงต่อพระเจ้าของเรา ในวันโลกหน้า เราอาจจะได้ ยิน ข่ า วหรื อ การวิ จ ารณ์ อ ย่ า งรุ น แรง ต่ออัรดูฆอนและตุรกี ว่าเป็นประเทศมุสลิมทีแ่ ปลกและ มีขา่ วในเรือ่ งการสัง่ ห้ามใส่ฮญ ิ าบให้ผา่ นหูกนั บ่อยๆ แต่ ใครจะรูบ้ า้ งว่า นายกรัฐมนตรีคนนีก้ �ำ ลังต่อสูอ้ ย่างลับๆ ด้วยอุดมการณ์อสิ ลามของเขา ล่าสุด ฝ่ายบริหารการ อุดมศึกษาตุรกีออกกฎใหม่ ตามคำ�สัง่ นายกฯเเละพรรค AKP ของเขา ให้คลุมฮิญาบเข้าเรียนได้เเล้ว(ข้อมูลวันที่ 19/10/53) ทำ�เอาพวกผูพ้ พิ ากษาเเนวเซคคิวลาห์ ร้อนผ่าว นัง่ ไม่ตดิ ไปตามๆกัน เพือ่ นของผูเ้ ขียนเอง ทีไ่ ด้ไปศึกษาทีต่ รุ กีกไ็ ด้เล่าให้ฟงั ว่า เพือ่ นๆ หนุม่ สาวมุสลิมในตุรกีกเ็ ริม่ จับกลุม่ สร้างฮาลา กอฮฺ พูดคุยเรือ่ งอิสลามอย่างเข้มข้นในทีล่ บั แม้แต่ตวั ของ ทีป่ รึกษานายกฯเอง ก็บนิ มาบรรยายทีม่ หาวิทยาลัยมัร มารา อิสตันบูล มีการแจกเอกสารประกอบทีเ่ ต็มไปด้วย เนือ้ หาแนวคิดการฟืน้ ฟูอสิ ลาม สิง่ เหล่านีถ้ กู สนับสนุนโดย รัฐบาล ทัง้ ๆทีศ่ าลและตำ�รวจออกกฏหมายห้าม แต่นายก รัฐมนตรีกลับอนุญาติ เมืองนี้อำ�นาจศาลและตำ�รวจยังคงเป็นเซคคิวลาห์ ซึ่งอาจจะเป็นขวากหนามกีดกันการทำ�งานของอัรดูฆอ นก็จริงอยู่ แต่เขาก็ฉลาดทีจ่ ะเลือกกระทำ�สิง่ ต่างๆให้โลก ได้เห็นเช่นทีเ่ ราได้รบั รูก้ นั เพราะจะไม่แปลกเลยหรอที่ นายกรัฐมนตรีมสุ ลิมคนหนึง่ ชอบทีจ่ ะนำ�ภรรยาตนเอง ออกงาน(เมื่อจำ�เป็น)และทั้งเขาและเธอก็แสดงออกถึง ความเป็นมุสลิมอย่างอิม่ เอมใจ ภรรยาของเขาใส่ฮญ ิ าบ ปกปิดมิดชิด แต่ในประเทศตนเองนัน้ กลับมีการห้ามใส่ ฮิญาบกันเป็นปกติ… ประเทศแห่งนี้ นายกรัฐมนตรีคนนี้ และการกระทำ� ของเขา มีอะไรหลายอย่างทีท่ �ำ ให้ยวิ นัน้ หวาดกลัวขึน้ มา จับใจ ขณะเดียวกันก็สร้างความชุม่ ชืน่ แก่หวั ใจมุสลิมอีก หลายล้านคนทีเ่ บือ่ หน่ายกับผูน้ �ำ มุสลิมในโลกอาหรับทีก่ นิ อยูฟ่ ฟู่ า่ ไม่สนใจพีน่ อ้ งตนเอง รอการลงโทษจากพระเจ้า เช่นทีค่ ณ ุ ลุงคนหนึง่ นามว่า ฮิลมี มาดาคุร คนงานใน โรงงานพลาสติก กรุงไคโร ประเทศอียปิ ต์ ฝากทิง้ ท้ายให้ พวกเราได้เอามานัง่ คิดว่า “ผูน้ �ำ อาหรับทัง้ หลายควรทีจ่ ะ เอานายกอัรดูฆอนเป็นแบบอย่าง คือความกล้าหาญและ ความจริงใจในตัวเขา…เขาไม่ไช่คนอาหรับ แต่เขาก็ได้ปก ป้องชาวฟาลิสฏีน (ปาเลสไตน์)อย่างแข็งแกร่งและกล้า

หาญมากกว่าพวกผูน้ �ำ อาหรับเสียอีก ผมหวังว่าเขาจะนำ� ระบอบคีลาฟะฮฺ กลับมา”

*ศาสตราจารย์ ดร.นัจมุดดีน อัรบากาน (ขออัลลอฮฺทรงตอบแทน ท่าน) ผูน้ �ำ ตุรกี(ช่วง ค.ศ.1996-1997) ทีถ่ กู ทหารและศาลซึง่ เป็นเซคคิวลาห์ ตามฟ้องร้องให้ยบุ ถึงหลายพรรค และตนเอง ต้องถูกแบนจากการเมือง 5 ปี ข้อหาคือ กระทำ�การผิดหลาย กรณีซง่ึ เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญระบอบเซคคิวลาห์ ส่วนหนึง่ ใน นัน้ คือ การสวมฮิญาบของภรรยาของเขาและผูค้ นทีช่ น่ื ชอบเขา เพราะว่า รัฐธรรมนูญตุรกีถอื ว่าการสวมฮิญาบคือ สัญลักษณ์ ต่อต้านระบอบเซคคิวลาห์…

มัสยิดสีน้ำ�เงินหรือมัสยิดสุลต่านอะหฺมดั (Sultan Ahmed l Reign 1603–1617 )

อ่าน A wake A story เอนทรีเ่ ก่าๆได้ท่ี http://www.muslimpsu.net/board/index.php?topic=673.0 แท้จริงการศึกษาประวัตศิ าสตร์อิสลามนั้น คือการเติมเต็มความ อิม่ เอิบแห่งอีหม่าน ส่ง E-mail ของพีน่ อ้ งร่วมสืบสานความรูก้ บั เราได้ท่ี awake.astory@hotmail.com +เติมเต็มระบอบชีวติ ด้วยกลิน่ ไอแห่งอิสลาม ผ่านการศึกษาอัล กุรอานกับโครงการ Ayah Aday เชิญพีน่ อ้ งผูส้ นใจ รับความรูผ้ า่ นอีเมล์ โดยแอดเราได้ท่ี ayah.aday@gmail.com

ซอย ลาดพร้าว 112 แขวง/เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310 ต่อต่อสอบถาม 083-601 5551

17


halal Medical โดย : กองบรรณาธิการ

เวชธานี โรงพยาบาลทีม่ มี ากว่าคำ�ว่าฮาลาล ในชัว่ ชีวติ หนึง่ สันนิษฐานได้เลยว่า ต้องมีซกั ครัง้ ทีท่ า่ นผูอ้ า่ น ต้องมีโอกาสย่างกรายเข้าไปใช้บริการโรงพยาบาล มันเหมือน เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ที่ไม่ค่อยมีใครอยาก ไปเท่าไหร่ เพราะทุกครั้งที่ไป เราต่างหวาดหวั่นว่าสิ่งที่จะได้รับ รู้ตามมาหลังจากนั้นจะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย การไปโรงพยาบาลแต่ละครั้งอาจต้องใช้เวลาเป็นวันๆ ต้องเบื่อหน่ายกับการรอคอย ผู้คนหลากหลายที่ตั้งตารอกัน เรียงรายหวังจะได้รับการรักษาให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ คำ� แนะนำ�การบริการทีด่ จี ากคุณหมอและคุณพยาบาลใจดี เป็นสิง่ ทีห่ ลายคนคาดหวังทั้งสิ้น นอกเหนือไปจากการมุ่งหวังในการเยียวยารักษาโรคแล้ว เมื่อมีเหตุให้ต้องนำ�พาร่างกายไปนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล หรือระหว่างรอการรับรักษา ปัญหาที่ตามมาของพี่น้องมุสลิม นั่นก็คือเรื่องอาหารการกิน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำ�บาก และเป็นเรือ่ งใหญ่ส�ำ หรับคนไข้มสุ ลิม ทีผ่ า่ นมาบางคนถึงขัน้ ต้อง พกข้าวกล่องมาเองเลยทีเดียว เพราะไม่แน่ใจว่าที่โรงพยาบาล นั้นมีอาหารฮาลาลหรือไม่ แต่ปจั จุบนั ปัญหาเหล่านีก้ �ำ ลังจะหมดไป เพราะเราได้ขา่ วมา ว่า โรงพยาบาลเวชธานี ซึง่ ตัง้ ตระหง่านอยูบ่ นถนนลาดพร้าวนั้น เค้ามีบริการทีด่ พี ร้อมสำ�หรับพีน่ อ้ งมุสลิม และวันนีเ้ ราจะพาคุณ ไปพิสจู น์กนั ก้าวแรกที่เราเข้าไปยังโรงพยาบาล จะมีพนักงานต้อนรับ คอยต้อนรับและให้คำ�แนะนำ�สำ�หรับผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย หรือ ใครก็ตามที่แวะเข้าไป เจ้าหน้าที่พยาบาลและพนักงานต้อนรับ จะคอยต้อนรับด้วยรอยยิ้มและการบริการที่เป็นกันเอง เสมือน หนึ่งกับโรงแรมห้าดาว ที่นี่นอกจากมีคนไข้ชาวไทยแล้ว โรงพยาบาลเวชธานี นับเป็นโรงพยาบาลที่มีพี่น้องมุสลิมจากกลุ่มประเทศอาหรับ เข้ารับการรักษาทอย่างต่อเนื่อง ดร.ชาคริต ศึกษากิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรง พยาบาลเวชธานี เล่าให้เราฟังว่า โรงพยาบาลเวชธานีเปิด บริการมาได้ 16 ปีแล้ว แต่ลูกค้าอาหรับเริ่มเข้ามาเมื่อ 3 ปีที่ ผ่านมานี่เอง “เนื่องจากเรามีทีมงานที่ดีด้วย สิ่งที่เราต้องการจึงประสบ ความสำ �เร็จ มาตรฐานเรื่องการแพทย์ของเราทำ � ได้ค่อน ข้างดีอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาลูกค้าอาจจะไม่ทราบ พอได้ ทดลองลูกค้ามาใช้บริการลูกค้าก็เกิดความพึงพอใจแล้วก็บอก ปากต่อปาก

18

ในแต่ละปีมีลูกค้าในแถบนี้(หมายถึงลูกค้าอาหรับ)มาใช้ บริการประมาณ 20,000 คนต่อปี ถือว่าเยอะมาก มีอัตราการ เจริญเติบโตที่ดีมาก เรามีทีมงานที่ดูแลกลุ่มลูกค้าอาหรับอย่าง คุณอนันต์ คุณวิทยา บุคคลเหล่านี้จะเข้าใจขนบธรรมเนียม ของคนอาหรับและเรื่องราวของมุสลิมค่อนข้างดี เขาก็จะให้ คำ�แนะนำ�ที่ดีให้สอดคล้องกับการรักษาของลูกค้ากลุ่มนี้ เราก็ พยายามปรับตลอดเพื่อให้ถูกต้อง” โรคที่เข้ามารับการรักษามากที่สุดคือโรคที่เกี่ยวกับกระดูก และข้อ รวมทั้งโรคที่เกี่ยวกับโรคหัวใจ คนไข้สองกลุ่มนี้จะ เกี่ยวข้องกันเป็นเรื่องของความเสื่อมของร่างกาย การมีลูกค้าอาหรับเข้ามาใช้บริการ นั่นหมายถึงว่าที่นี่ต้อง มีกฏระเบียบที่สอดคล้องกับหลักการอิสลาม ดร.ชาคริต กล่าว นอกจากความเชี่ยวชาญทางด้านการรักษา อีกเรื่องที่ทางโรง พยาบาลให้ความสำ�คัญและค่อนข้างเน้นย้ำ�กับพนักงานทุก คนนั่นคือ คนไข้ที่นับถือศาสนาอิสลาม “ทีน่ ม่ี คี รัวฮาลาล ได้ตราฮาลาลมาสามปีตง้ั แต่เริม่ ต้น ตัง้ แต่ เริ่มทำ�เราก็ปรับปรุงครัวฮาลาลให้เป็นครัวแยกต่างหาก เป็น ห้องต่างหากมีอุปกรณ์ทุกอย่าง ภาชนะเนื้อสัตว์ทุกอย่างแยก จากกันทั้งหมด ยึดตามหลักศาสนา ทางโรงพยาลาลพยายาม จั ด บริ ก ารให้ ส อดคล้ อ งกั บ ขนบธรรมเนี ย มประเพณี วิ ถี ชี วิ ต เช่น เรามีห้องละหมาด มีอาหารฮาลาล พนักงานไม่ว่าจะพุทธ หรือมุสลิม เราจะอบรมให้เค้ารู้วัฒนธรรม อะไรที่ทำ�ได้ทำ�ไม่ได้ กับลูกค้ามุสลิม พยายามทำ�ให้เข้าใจวัฒนธรรมประเพณีของ ต่างชาติต่างศาสนา” ดร.ชาคริต กล่าว นอกจากการรั ก ษาที่ มี ค วามเชี่ ย วชาญในรื่ อ งของโรค กระดูกและข้อ โรคหัวใจ โรคยอดฮิตอันดับต้นๆ ของมุสลิมเรา ที่ต้องยอมรับว่า โรงพยาบาลเวชธานี เป็นอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ที่ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ท่านรอซูล(ศ็อลฯ) ได้กล่าวไว้ในฮาดิษบทหนึ่งว่า “แท้จริง อัลลอฮฺมิทรงให้โรคใดลงมา เว้นแต่พระองค์จะทรงประทานยา ของมันลงมาด้วย ดังนั้นพวกเจ้าจงเยียวยารักษาเถิด” (อิบนุ มาญะฮฺ) การเยียวรักษาถือเป็นเรื่องที่เราพี่น้องมุสลิมจำ�เป็น ที่จะต้องปฏิบัติ ทั้งนี้เพื่อให้มีร่างกายที่แข็งแรงเพื่อเอื้อต่อการ ทำ�อิบาดะห์ต่ออัลลอฮฺ ทั้งนี้ทั้งนั้นจะหายหรือไม่หายนั้นก็ล้วน มาจากการอนุมัติของอัลลอฮฺ.. หากยามเจ็บป่วยของคุณครั้งต่อไปลองนึกถึงโรงพยาบาล ที่ใส่ใจกับพี่น้องมุสลิม มีเจ้าหน้าที่มุสลิมคอยต้อนรับและดูแล และที่ สำ � คั ญ มี ค วามเป็ น ฮาลาลและมี ห้ อ งละหมาดพร้ อ ม บริการ ทุกสิง่ ทีก่ ว่าวมานี้ โรงพยาบาลเวชธานีมพี ร้อมสำ�หรับคุณ


19


Listen 2 Halal text: pbuh. email: listen2halal@gmail.com

Artist : Maher Zain Album: Thank You Allah Release: October 30, 2009 Label: Awakening Worldwide Ltd. Copyright: 2009 สำ�หรับฉบับปฐมฤกษ์ คอลัมน์ Listen2Halal ขอเสนออัลบั้ม Nasheed ที่กำ�ลังได้รับความ นิยมในขณะนี้ เห็นจะเป็นใครไม่ได้นอกจากหนุ่ม Maher Zain มุสลิมชาวสวีเดนเชื้อสายเลบานอน ซึ่งในอัลบั้มนี้มีความพิเศษตรงที่มีถึง 5 ภาษา คือ อังกฤษ, อาหรับ, ฝรั่งเศส, ตุรกี, และภาษา อุรดู ซึ่งเป็นการ feat.(ร่วมงาน) ระหว่างเพื่อนๆ นักร้องในค่ายและเพื่อนที่เขาเคยดูงานให้หลายๆ ประเทศ Maher Zain เคยเป็นโปรดิวเซอร์ให้นักร้อง มุสลิมหลายคนก่อนจะคลอดอัลบั้มตัวเองออก มาโดยใช้ชื่อ ”Thank you Allah” ซึ่งเป็นชื่อของ แทร็คที่สิบสี่ ในอัลบั้มนี้ผมให้เขาเต็มร้อยแบบไม่ ขัดขืน ถือว่างานละเอียดจริงๆ เขาแต่งเนื้อร้อง และเมโลดี้ด้วยตัวเองเกือบทั้งอัลบั้ม และที่ผม ชอบมากก็คือการคอนโทรล์เสียงตัวเองแบบมือ อาชีพอย่างมาก แทร็คที่สิบสอง Palestine Will Be Free ซิง เกิ้ลแรกที่ปล่อยออกมาพร้อม MV เอนิเมชั่นนั้น ทำ�ให้ภาพการเรียกร้องอิสรภาพให้ปาเลสไตน์ เป็ น เรื่ อ งที่ ค วรตระหนั ก มากขึ้ น โดยเฉพาะใน กลุ่มวัยรุ่นมุสลิมที่กำ�ลังเดินอยู่อีกฟากในซีกโลก ตะวันตก ส่วนเพลง The Chosen One เป็นการให้ กำ�ลังใจมุสลิมทั่วโลกโดยเฉพาะมุสลิมในยุโรป หรืออมริกาที่ถูกคุกคาม ในเอ็มวีเขาได้นำ�เอาราย ละเอียดและเรื่องเล่าจากฮะดิษที่เกี่ยวกับการที่ ท่านนบีมูฮัมมัดถูกกลั่นแกล้งและต่อต้านในช่วง แรกของการดะอฺวะฮฺ โดยเขาสื่อนำ�เสนอออกมา แบบเสพง่ายๆ จริงๆ

Maher Zain: Thank You Allah

20

รายละเอียดของเมโลดี้ ในหลายๆ แทร็คเขา ใส่แนวพ๊อพเข้าไป ก่อนจะมีกลิ่นอายซาวด์พื้นเมือง แต่ละกลุ่มประเทศ ซึ่งเขาไม่ทิ้งซาวด์อาหรับ,ตุรกี และอินเดีย แต่ก็ยังมีบีทของแร็พกับอาร์แอนด์บี เข้ามาบ้างในบางแทร็ค ผมแนะนำ�ให้ฟังพร้อมกับ ค้นหาความหมายเนื้อร้องของทุกๆ เพลงนะครับ หนุ่มคนนี้เขาตั้งใจกับงานนี้จริงๆ ลองดูเนื้อหาที่ผม ยกมาบางส่วนจากแทร็ค Subhana Allah ซึ่งท่อน ฮุกเป็นนะชีดที่อมตะมากๆ แทร็คนี้เขา feat. กับ Mesut Kurtis เป็นการนำ�ซาวด์พ๊อพผสมผสานกับ เมโลดี้อาหรับได้อย่างลงตัวแล้วกระหน่ำ�เนื้อหาที่ กินใจกระทุ้งศรัทธาอย่างเห็นได้ชัดครับ “เมื่อครั้งฉันท่องไปในพื้นพิภพ พบสิ่งที่ฉันยังไม่ได้บอกให้ใครได้รู้ พลันได้ยินดั่งเสียงซิมโฟนีรอบตัวฉัน จากรวงข้าวและเม็ดทรายละเอียด จากดวงดาวอันไกลพ้น จากดอกไม้ที่หยั่งรากลงพื้นดิน จากนกทุกตัวที่กำ�ลังโบยบินบนท้องฟ้า จากหินทุกก้อนและสายฝนที่โปรยปราย จากเมฆหมอกที่ร่อนถลาลงมา จากมดทุกตัวและเมล็ดพืชที่กำ�ลังผลิใบ จากกลุ่มผึ้งที่กำ�ลังดอมดมหาน้ำ�หวาน และทุกสรรพเสียงในท้องทะเล ต่างร้องประสานว่า มหาบริสุทธิ์แด่พระผู้เป็นเจ้าของฉัน มหาบริสุทธิ์แด่ผู้ยิ่งใหญ่ เราสรรเสริญพระองค์และขออภัยโทษต่อพระองค์” ส่วนใครจะติดตามดูหรือฟังก็ลองเข้าไปในยูทูบ ก็ได้ครับ แต่ถ้าจะหาซื้ออัลบั้มเก็บไว้แนะนำ�ฝาก เพื่อนที่ไปมาเลเซีย คาดว่าน่าจะมีให้ซื้อเก็บไว้นะ ครับ เพราะเขาทัวร์คอนเสริตที่นั่นมาแล้ว ไว้ฉบับ ต่อๆไปผมจะนำ�เสนอ Nasheed หลากหลายแนว จากโลกมุสลิมอีกนะครับ ยังไงท่านผู้อ่านก็ช่วย ติดตาม และติชมกันมาได้ตามอีเมล์แอดเดรสที่ให้ ไว้ครับ May Peace be with you .


21


halal Lifestyles text: กองบรรณาธิการ คอลิด แยนา : ย่�ำ ไปบนเส้นทางทีเ่ ลือกเดิน

ธีรยุทธ(คอลิด) แยนา หรือพีล่ กิ หากเป็นคนในวงการ นิตยสารและแฟชัน่ คงจะรูจ้ กั กันดี ในฐานะช่างภาพอาวุโส (Senior Photographer) ประจำ�นิตยสารในเครือ inspire entertainment ผู้ผลิตนิตยสารชั้นนำ�ในเมืองไทยอย่าง woman&home , garseer ,คาวาอิ, car, option ,in love ฯลฯ นับรวมแล้วไม่ต่ำ�กว่า 15 หัว ที่ช่างภาพหนุ่มมุสลิม ฝีมือดีผู้นี้ลั่นชัตเตอร์จนผลงานเป็นที่ประจักษ์ ขณะที่ ชี วิ ต ปกติ ใ นแต่ ล ะวั น เขาคื อ ช่ า งภาพมื อ อาชีพที่มีชื่อเสียงในและเป็นที่ยอมรับในวงการ แต่ ทุกวันศุกร์เขากลับสลัดคราบช่างภาพมือโปร มายืนย่าง บาร์บีคิวที่มัสยิดศูนย์กลางอิสลามอย่างมือฉมัง งานประจำ� “ถ่ายรูปนิตยสารในเครือ Inspire entertainment ในตำ�แหน่ง senior photographer มีช่างภาพที่ต้อง ดูแลทั้งหมด 13 คน ทำ�หน้าที่เป็นช่างภาพด้วย แล้ว ก็คอยดูงานของช่างภาพแต่ละคน หนังสือที่ทำ�ก็มี woman&home, gaseer, คาวาอิ, car, option, in love มีประมาณ 15 หัว มันเลยมีช่างภาพเยอะ และยัง มีหนังสือที่เพิ่งเปิดตัวใหม่อีกคือวีวี่เป็นหนังสือแฟชั่น ญี่ปุ่นแต่จะเป็นผู้ใหญ่หน่อย ถ่ายแฟชั่นให้วีวี่ด้วย ถ่าย ปกคาวาอิ และถ่ายพวกคอลัมน์สัมภาษณ์บุคคล” แฟลชไดรฟ์ 3 อัน อันนี้ผมเอาไว้เซฟงานทั่วไป ข้างในไม่ค่อยมีอะไร สำ�คัญมาก เสียบเครื่องไหนมีเกือบทุกอย่างอยู่ในนี้ ส่วน อันนี้จะเป็นเซฟพวกควอเตชั่น งานเสนอลูกค้าต่างๆ อัน นี้ ค่ อ นข้ า งจะสำ� คั ญ หน่ อ ยเพราะส่ ว นใหญ่ มั น จะเป็ น เรื่องเกี่ยวกับการเงินค่าตัว ส่วนอีกตัวก็งานต่างๆ ที่ไป ทำ�มีไรก็จะลงไว้ในนี้ พกไว้ทั้งหมด 3 ตัว ไดอารี่ช่างภาพ อาทิ ต ย์ น ึ ง มี ป ระชุ ม 2 หน ประชุมก็แล้วแต่ CEO จะระบุเลยว่าเป็นเวลาไหน แต่จะประชุมทุกวันพุธกับ วันศุกร์ ทำ�งานไม่เป็นเวลา ทุกกอง(กองบรรณาธิการ) จะทำ�งานเป็นเครือข่าย จะมีเมนบอร์ดเป็นกระดานเขียนว่า ช่างภาพคนนี้มีล็อคคิว เค้าก็จะโทรมาเค้าเรียกกันว่า พี่ลิก พี่ลิกว่างไหม ถ้าว่างเราก็จะมาดูสมุดงาน ก็ลงล็อค

22

คิว ถ่ายอะไร ถ่ายแฟชั่นหรือถ่ายสัมภาษณ์ ทุกคนช่างทำ� บ่ม..เพาะ เหมือนกันหมด ตอนนีเ้ ก็บเกีย่ วผลงาน เก็บเกีย่ วฝีมอื เก็บเกีย่ วคุณภาพ งานทีท่ �ำ ออกมา ตอนนีม้ นั ยังไม่ไปถึงลึกๆ จริงๆ ของมัน ทีส่ ดุ ไอเดีย แล้วคือทำ�งานออกมาให้สวยที่สุดแล้วคนอื่นยอมรับ ไม่ใช่ ทุกวันขับรถไปทำ�งานก็จะดูปา้ ยบิลบอร์ด ป้ายโฆษณา ยอมรับแค่ 2-3 คน ที่นี่ยอมรับเป็นร้อยเป็นพันเห็นชื่อคนนี้ จะดูว่าเค้าคิดแบบไหน คือของที่นี่ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็น แต่ยังไม่ไปถึง มันไม่สำ�คัญว่าที่สุดแล้วมันต้องถ่ายอะไร สิง่ พิมพ์ของทีน่ ม่ี นั จะเป็นของใหม่หมด นอกจากเราจะทำ�ธีม ไม่ใช่ ไม่ใช่ถ่ายของ ถ่ายคน คือถ่ายงานออกมาแล้วเค้า เก่าๆ ก็จะกลับมาดูเล่มเก่าๆว่าเขาถ่ายแบบไหน แล้วมา ยอมรับกันในวงกว้างว่าโปรจริงๆ ไม่ใช่โปรแต่ชื่อ มิกส์กับของใหม่ เขาจะขอดูเรฟเฟอร์เร้นก่อนทำ�งาน เรา ก็ทำ�เลย์เอาต์ ทำ�สเก็ต แต่หลังๆไม่สเก็ตมือแล้ว หารูปใน วันนี้..เวลา เน็ตที่มันใกล้เคียงกับที่เราจะทำ�แปะแล้วทำ�ให้ลูกค้าดู พอ จุดสูงสุดของช่างภาพคือเป็นที่ยอมรับในสายงานที่ เสร็จก็พรีโพรอบหนึง่ ถ้าโอเคผ่านก็นดั วันถ่าย นัดสไตล์ลสิ ต์ เป็นมืออาชีพ ถ่ายแฟชัน่ ถ่ายคน ถ่ายเสือ้ ผ้าทีเ่ ป็นแบรนด์เนม ถ่ายออกมาแล้วแล้วสวยแล้วเค้าติดตาม จริงๆแล้วมันเป็น เพริศแพร้วและลวงหลอก ลิสต์สไตล์ มันไม่มีว่าเก่งหรือไม่เก่ง มันอยู่ที่ว่าคอนโทรล จริงๆแล้วในวงการนีม้ ตั ซียตั มันเยอะ แค่ไปในกอง(กอง ทุกอย่างได้หมดเลย ให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด จุดสูงสุด บรรณาธิการ)เจอหนังสือ FHM เต็มห้อง ชุดว่ายน้�ำ หนังสือ มันไม่มีนะ สูงสุดแล้วมันได้อะไร มันก็ไม่ได้อะไร คิดว่า ฝรัง่ มันเหมือนเห็นอยูป่ ระจำ� ผมทำ�ห้องละหมาดเอง มีคนละ ประสบผลสำ�เร็จแล้ว พอแล้วเอาอะไรเยอะแยะ ตอนนี้จะ หมาดไหม ไม่มเี ลย งงมาก มีบญ ั ชีอยูค่ นหนึง่ เป็นผูห้ ญิงอายุ มาห่วงเรื่องจัดการเวลา อยากให้เวลากับม๊ะ กับครอบครัว เยอะแล้วแต่กไ็ ม่อะไรมาก ก็ท�ำ ห้องเล็กๆ มันเหมือนกับว่า ในอนาคตข้างหน้ายังไง เพราะมันจัดการลำ�บากถ้าทำ�งาน มันเสียไปเยอะแล้วต้องเอากลับคืนมาบ้าง ให้เวลา จริงๆก็ให้ แบบนี้ มันเสียถ้าเทียบกับคนทำ�งานแบงค์ คนทำ�งาน มานานแล้วอยูท่ ว่ี า่ ให้เยอะให้นอ้ ย ถ้ารถเราแถซ้ายไม่เลีย้ ว แบงค์เข้าเจ็ดโมงเลิกสี่ห้าโมงเย็น มีเวลาให้ครอบครัวตั้ง กลับมามันก็ไม่ตรง มันก็ตอ้ งครึง่ ๆ วันเสาร์กม็ าเรียนศึกษาผู้ เยอะ ถ้าคนตั้งใจจริงๆ เลิกสี่ห้าโมงได้ละหมาดมักริบที่ ใหญ่กบั ม๊ะ ดีทม่ี ะ๊ คอยช่วยดึง มัสยิด รออีกแป๊บนึงหาอะไรกินกับที่บ้าน อิชาอฺถ้าอยู่ใกล้ สุเหร่าก็เดินมาละหมาด Wedding Studio ทำ�ตรงนี้มา 6 ปี จะ 7 ปีแล้ว เบื่อ อยากทำ�อะไรเป็น แง่คิด ... ของตัวเองบ้าง ม๊ะอยากให้เปิด Wedding ลงไปเต็มตัว ไม่ อย่าไปตามอะไรของเขามากเกินไป เราหยิบมาใช้ได้ ต้องไปทำ�งานบริษัท แต่ตัวเองก็ยังก้ำ�กึ่ง ถามหลายๆคน ที่มันเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆ เราเห็นเขาใส่เสื้อผ้าสวยๆ เค้าก็บอกว่าทำ�ไปก่อน ทำ�ไปสร้างประสบการณ์ เรื่อยๆ เห็นเขาใส่เดฟใส่แฟชั่น ดูได้แต่อย่าแต่งให้มันเกินไปจน ตำ�แหน่งยังแค่นี้เอง ผู้ใหญ่เขาว่ามันเยอะเกินไป มันรู้ลิมิตตัวเองอยู่แล้ว เรา มิกส์แอนด์แมทช์ได้ ข้างบนจะเป็นผ้าคลุมเบอเบอรี่ เสื้อจะ รู้งี้ ... เป็นวิตองได้หมด แต่อย่าให้มันเกิน เอาจริงๆแล้วมันต้อง มีเพื่อนคนหนึ่งส่งฟอร์เวิดเมลล์ฉบับนี้มาให้ อารมณ์ ดำ�หมด เพราะสตรีใส่อย่างนั้นมันก็เห็นหมดอยู่ดี วัยรุ่นมัน ประมาณว่า ไล่ลำ�ดับชีวิตมาเลย ช่วงเวลานั้นแทนที่ควรจะ ล่อแหลม ถ้าไม่คิดตอนนี้เดี๋ยวก็รู้งี้ทำ�แบบนี้ดีกว่า ใช้ชีวิต ทำ�แบบนั้นแต่กลับมาทำ�แบบนี้ เวลาผ่านไปก็ รู้งี้ทำ�แบบ วัยรุ่นให้คุ้ม ตอนเป็นวัยรุ่นให้คิดว่าเป็นวัยรุ่นที่เป็นผู้ใหญ่ นั้นก็ดี เหมือนตอนอยู่ม.3 แล้วไม่ตั้งใจเรียน พอคิดย้อน แล้ว มันจะได้เก็บเกี่ยวอะไรได้เยอะ อย่าเป็นวัยรุ่นที่เป็น ไปก็รู้สึกว่า รู้งี้ตอนนั้นตั้งใจเรียนก็ดี มันจะได้ไม่เป็นแบบนี้ เหมือนเด็ก อย่างผมก็คิดว่าอยากจะเป็นอะไร แล้วก็เรียน ผมว่าถ้ารู้ยังงี้ควรทำ�ยังงี้ดีกว่า รู้งี้เก็บเงินก่อนดีกว่า ถ้าทำ� แล้วก็ไปให้มันถึง ไปได้มั่งไม่ได้มั่งบ่นบ้างแต่ก็ไป ก็ทำ�เลย ถ้าไม่ทำ�ก็มีแปลนไว้ว่าเราจะทำ� เหมือนเดินอ้อม ไปก่อน แต่เราต้องทำ�มัน จะได้ไม่ต้องมานั่งรู้งี้...


มหกรรมท่องเทีย่ วชายแดนใต้ ประมวลภาพ มหกรรมท่องเที่ยวชายแดนใต้ 5-7 พฤศจิกายน 2553 ณ มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลาม คลองตัน

23


Because

is whole your

พบกับ

halal life magazine ทุกวันที่ 10 ของเดือน

24


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.