Halal Life Magazine #32

Page 1

ฟรี!

ปีที่ 4 ฉบับที่ 32 พฤษภาคม-มิถุนายน 2558

LIFE IS A TEST




Editor’s note ขณะปิดต้นฉบับ Halal Life เล่มที่ก�ำลังอยู่ในมือผู้อ่าน ผมกับทีมงานอยู่ระหว่าง การเดินทางไปพูดคุยกับพี่น้องมุสลิมในหลายพื้นที่ เพื่อไปน�ำเสนอในรายการทางน�ำ ชีวิต ที่ออกอากาศต่อเนื่องเป็นปีที่สามในช่วงเช้ามืดตลอดเดือนรอมฎอนทางช่องไทย พีบีเอส หากใครเคยติดตามคงพอจะทราบบ้างว่า รายการทางน�ำชีวิตในสองปีที่ผ่านมา พยายามน�ำเสนออิสลามในแง่มมุ ของการน�ำมาปรับใช้จริงในชีวติ ผ่านมุมมอง ทัศนคติ และประสบการณ์อนั หลากหลายของชาวมุสลิมในหลายภูมภิ าคหลากสาขาอาชีพ ทีเ่ ป็น เช่นนี้ก็ด้วยความที่เราต้องการพยายามจะสื่อสารว่า อิสลามไม่ได้เป็นเพียงหลักยึด เหนี่ยวทางจิตใจเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงเป็นแนวทางในการด�ำเนินชีวิตอีกด้วย โต๊ะครู พ่อค้า เกษตรกร นักอนุรักษ์ หรือแม้แต่พนักงานบริษัท พวกเขาอาจใช้ชีวิต แตกต่างกันไปตามวิถที างของตัวเอง แต่สงิ่ หนึง่ ทีพ่ วกเขามีเหมือนกันคือ พวกเขามีคำ� สอน อิสลามเป็นคู่มือในการน�ำทาง และเป็นหลักคิดส�ำคัญในการด�ำเนินชีวิต ตลอดสามปีที่ออกเดินทางไปแลกเปลี่ยนพูดคุยกับผู้คนเหล่านี้ นอกเหนือไปจาก เนื้อหาสาระ ทัศนคติ และมุมมองที่ได้จากประสบการณ์ของพวกเขาแล้ว อีกสิ่งส�ำคัญ ที่เรารู้สึกได้คือ “ความหวัง” เป็นความหวังท่ามกลางความถดถอยของผู้คนและสังคม ด้วยเพราะยุคสมัยที่โลกทวีความซับซ้อนมากขึ้น ความผิดบาปและสิ่งล่อลวงต่าง ปรับรูปแบบและวิวัฒนาการตัวเองเพื่อแทรกซึมเข้าไปยึดกุมหัวใจของผู้คนโดยไม่รู้ตัว หากยึดเอามาตรฐานของสังคมที่มักแปรเปลี่ยนไปตามความโลเลของหัวใจมนุษย์มา เป็นเครือ่ งชีว้ ดั ก็คงยากทีจ่ ะชีช้ ดั ว่าสิง่ ใดถูกหรือสิง่ ใดผิด แตกต่างจากหลักค�ำสอนจาก พระผู้เป็นเจ้าที่เป็นมาตรฐานส�ำหรับตัดสินเรื่องราวต่างๆ ในสังคมได้ทุกยุคสมัย เราจึงรู้สึกมีความหวังทุกครั้งหลังกลับจากการเดินทางไปพูดคุยกับผู้คนเหล่านั้น ผูค้ นทีถ่ งึ แม้เรือ่ งราวของพวกเขาจะไม่ได้ยง่ิ ใหญ่ถงึ ขนาดยืนตระหง่านท้าทายสิง่ ล่อลวง ด้วยความเด็ดเดีย่ ว แต่อย่างน้อยทีส่ ดุ พวกเขาเหล่านัน้ ก็มองเห็นความจริงแท้ของความ ผิดบาปที่แทรกซึมและเกาะกุมหัวจิตหัวใจของผู้คนในสังคม และเราตั้งหวังว่า เรื่องราวการมองเห็นความจริงของความลวงจากประสบการณ์ ของผู้คนเหล่านั้น จะเป็นดั่งอนุสติเตือนใจให้ใครต่อใครที่ยังคงปล่อยหัวใจให้ความ ล่อลวงเข้ายึดครอง วิทยากร อิสมาแอล บรรณาธิการบริหาร halallife.tv@gmail.com

4

Halal Life Magazine ที่ปรึกษาฝ่ายการตลาด กฤษดา เรสลี บรรณาธิการบริหาร วิทยากร อิสมาแอล บรรณาธิการต่างประเทศ กอมารียะห์ สุเรรัตน์ บรรณาธิการผู้จัดการ วิลาสินี กันซัน ฝ่ายการตลาด อนุชา ทรงวงษ์ สิทธิศักดิ์ วงค์เกษร ฝ่ายสร้างสรรค์ กวีนิพนธ์ เกตุประสิทธิ์ เอกมล บุญชม ศิลปกรรม อรดา โต๊ะมางี ติดต่อโฆษณา 086-890-6055 Website www.halallifemag.com Email halallife.tv@gmail.com Facebook fb.com/halal.life.magazine เจ้าของ บริษัท ปลูกฝัน จ�ำกัด เลขที่ 336/18 ซ.ราษฎร์อุทิศ 52 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ 10510


ชีวิตคือบททดสอบ หลักธรรมค�ำ สอนหนึ่งในศาสนาอิสลาม ที่สอนให้ ผู้ศรัทธาเชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิต ล้วนเป็นบททดสอบจากพระผู้เป็นเจ้า เพือ่ ให้ผศู้ รัทธาตระหนักและไตร่ตรอง ถึ ง ทุ ก สรรพสิ่ ง ที่ ผ ่ า นเข้ า มาในชี วิ ต สอนให้ผู้ศรัทธารู้จักอ่านความหมาย มองให้เห็นมากกว่าเรื่องราวตรงหน้า

ฉบับที่ 32 พฤษภาคม-มิถุนายน 2558

แบบฟอร์มสมัครสมาชิก นิตยสารฮาลาลไลฟ์

หมดปัญหา หยิบไม่ทัน หาไม่เจอ

สมั ค รสมาชิ ก แน่นอนกว่า

ข้าพเจ้า นาย นาง นางสาว...................................................................................... อายุ .................. ปี ที่อยู่ ....................................................................................................................................................... รหัสไปรษณีย์ ........................ โทรศัพท์ ................................. อีเมล์ ................................................... การศึกษา อาชีพ

มัธยมศึกษา ปวช. ปวส. ปริญญาตรี ปริญญาตรีขึ้นไป อื่นๆ พนักงานบริษัท รับราชการ,รัฐวิสาหกิจ ธุรกิจส่วนตัว นักเรียน, นักศึกษา อื่นๆ

มีความประสงค์จะสมัครสมาชิกนิตยสารฮาลาลไลฟ์ สมาชิก 1 ปี 12 ฉบับ 300 บาท เริ่มตั้งแต่ฉบับที่........................ สมาชิกอุปถัมภ์ 1 ปี 12 ฉบับ 300 บาท เริ่มตั้งแต่ฉบับที่........................ ให้กับห้องสมุด/มัสยิด............................................................................................................................. ที่อยู่ ....................................................................................................................................................... ................................................................................................. รหัสไปรษณีย์ ...................................... วิธีช�ำระค่าสมาชิก โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี บริษัท ปลูกฝัน จ�ำกัด

ธนาคารไทยพานิชย์ จ�ำกัด (มหาชน) สาขาเทสโก้โลตัส ทาวน์อินทาวน์ เลขที่บัญชี 404-051345-7

(ถ่ายเอกสารได้) 5

หยิบ

ได้ที่นี่

ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ห้องอาหารโซเฟีย (คลองตัน) ร้านอาหารฟาฮาน่า (พระรามเก้า) สวนอาหารจันทร์เสี้ยว (มอเตอร์เวย์) ภัตตาคารสินธรสเต็กเฮ้าส์ (รามค�ำแหง) โคบัง (รามค�ำแหง-สุขาฯ 3) ร้านอาหารอีสานฝั่งธน (อรุณอัมรินทร์) ห้องอาหารนางพญา (พญาไท) เมี่ยงปลาเผาหลังราม สาขาพระรามเก้า ร้านฮาลาลโฮม ซ.เทคโนบางกะปิ (บางกะปิ) ร้านฟารีดาโภชนา (เหม่งจ๋าย) อะลาดิน ซูชิ (เหม่งจ๋าย) I COFFEE / I YAKI (รามค�ำแหง 53) MUMKIN KAFE’ (ศูนย์การค้าเซเลเบรท) บัยตฺชา & สเต็กครัวจูซุน (คู้ขวา มีนบุรี) ร้านเมี่ยงปลาเผาหลังราม สาขาคู้ขวา cafe’at five (รามค�ำแหง ซ.5) Finn Conner (รามค�ำแหง 53) ร้านหนังสือ ศูนย์หนังสืออิสลาม (ศูนย์กลางอิสลาม คลองตัน) ศูนย์หนังสือมานพวงศ์เสงี่ยม (พระรามเก้า) ร้านหนังสือส.วงศ์เสงี่ยม (มหานาค) Halal Express (หนองจอก) ร้านอารีฟ เซ็นเตอร์ (มัสยิดสวนพลู) โรงพยาบาล รพ.ปิยเวช, รพ.กรุงเทพ, รพ.เสรีรักษ์, รพ.นวมินทร์, รพ.เวชธานี, รพ.บ�ำรุงราษฎร์ ธุรกิจบริการและโรงแรม รีสอร์ท บางพลัด โรงแรมนิวเวิลด์ (บางล�ำพู) โรงแรมรีเจ้นท์ (รามค�ำแหง) โรงแรมชาลีนา (รามค�ำแหง) โรงแรมนูโว ซิตี้ (บางล�ำพู) มุสลิมโฮม 2 (รามค�ำแหง) ธนาคารและสหกรณ์ เคาท์เตอร์ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา สหกรณ์อิสลามสันติชน เครือข่ายสหกรณ์อิสลามภาคใต้ ต่างจังหวัด ร้านอาหารบิสมิลลาฮ์ (เชียงใหม่) ร้านอาหารบิสมิลลาฮ์ (แม่สาย) ร้านฟาด้า สเต๊กแอนด์คอฟฟี่ (อยุธยา) ร้านอาหารอิสลามดาวุดชา (กาญจนบุรี) ร้านมุนาซีร กาแฟสด&เค้ก พัทยา (ชลบุรี) ร้านอาหารชุกรี่ ปั๊ม PT (สุราษฎร์ธานี) ห้องอาหารคุณสาหร่าย (ชุมพร) ร้านอาหารคุ้มราชา ควนโดน (สตูล) SAMI KITCHEN หาดใหญ่ (สงขลา) ร้านบากุส (ปัตตานี) ร้านอาหารอาบูคอลี (ยะลา) ร้านกีตาบบุ๊กเฮาส์ (ยะลา) Halal Minimart (สตูล) ร้านบังฝรั่ง (สงขลา) โรงแรมปายอินทาวน์ (แม่ฮ่องสอน) ร้านสเต๊กครูตา (อยุธยา)


Global

กอมารียะห์ อิสมาแอล - haboohoohoo@gmail.com

Average Mohamed แอนิเมชัน่ ตอบโต้ไอเอส ของผูจ้ ดั การปัม๊ น�ำ้ มัน

มูฮมั มัด อะห์หมัด ชายชาวอเมริกาเชือ้ สายโซมาลี วัย 39 ปี เป็นนักธุรกิจในตอนกลางวันและเปลีย่ นเป็น นักเคลือ่ นไหวในตอนกลางคืน ด้วยการสร้าง “Average Mohamed” ซึง่ เป็นการ์ตนู ชุดทีม่ เี นือ้ หาตอบโต้วดิ โี อ เชิญชวนเข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุม่ ไอเอส IS “มันต้องใช้แนวคิดในการต่อสูก้ บั แนวคิด และ แนวทางของผมคือการสร้างแนวคิด” อะห์หมัดกล่าว เขาผิดหวังทีไ่ ม่มกี ารตอบโต้การเผยแพร่แนวคิดของ กลุ่มหัวรุนแรงอย่างมีประสิทธิภาพ “การ์ตูนนี้น�ำ เสนอประเด็นการพูดคุยกับพ่อแม่ ผูน้ ำ� มัสยิด เยาวชน นักเคลือ่ นไหว และผูบ้ งั คับใช้กฎหมาย เพือ่ ทีพ่ วกเขา สามารถน� ำ มั น มาใช้ คั ด ค้ า นแนวคิ ด ของกลุ ่ ม หั ว รุนแรง” ในการ์ตนู เรือ่ ง “Islamic State Job Description” หรือ “รูปแบบงานของไอเอส” ซึ่งมีสไตล์เดียวกับ การ์ตูนของดิสนีย์ แต่ใช้เสียงพากษ์ที่เคร่งขรึมว่า “Average Mohamed ถามว่า คุณคิดว่ารูปแบบงาน ของคุณเป็นอย่างไรเมื่อคุณเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส? งานของคุ ณ คื อ การท� ำ ลายล้ า งเผ่ า พั น ธุ ์ มุ ส ลิ ม คริสเตียน ยาซิตี้ และยิว? ข่มขวัญผูห้ ญิง ผูช้ าย และ เด็กๆ ผูบ้ ริสทุ ธิเ์ หมือนครอบครัวของคุณ สัง่ ให้คณ ุ

หลับหูหลับตาเชือ่ ฟัง ตัดหัวคนบริสทุ ธิไ์ ม่มอี าวุธทีค่ ณ ุ จับมา ท�ำลายมรดกโลก มัสยิด และสุสาน...” กลุม่ เป้าหมายของการ์ตนู “Average Mohamed” คือเยาวชนอายุตงั้ แต่ 8 ถึง 16 ปี อะห์หมัดได้แรงบันดาลใจมาจากลูกๆ สีค่ นของเขาเอง “เด็กรุน่ ยุคนีเ้ ติบโตมาพร้อมกับการ์ตนู ไม่วา่ จะเป็น “แฟมิลี่ กาย” หรือ “เดอะ ซิมป์ สันส์” ดังนั้น สาระส�ำคัญที่จะสื่อสารกับเด็กสามารถท�ำได้รวดเร็วขึ้น มี ประสิทธิภาพมากขึน้ ด้วยค่าใช้จา่ ยในการผลิตทีต่ ำ�่ ลง” อะห์หมัดกล่าวว่า การ์ตนู แต่ละตอนถูกออกแบบเพือ่ น�ำเสนอแนวคิดแห่ง สันติภาพ ต่อต้านลัทธิรนุ แรง เป็นค่านิยมประชาธิปไตยล้วนเป็นค่านิยมของ มุสลิม “นีค่ อื ค่านิยมสามประการทีเ่ รายึดถือ และเป้าหมายของ “Average Mohamed” คือการประกาศว่า ค่านิยมเหล่านีม้ อี ยูใ่ นศาสนาอิสลาม คุณ ควรจะยืนอยูก่ บั ประชาธิปไตย สันติภาพ และต่อต้านลัทธิหวั รุนแรง” “Average Mohamed” ใช้เงินทุนในการด�ำเนินงานน้อยมาก อีกทัง้ ยัง เผยแพร่แค่บนยูทปู และผ่านทางสือ่ สังคมออนไลน์ แต่อะห์หมัดก็ยงั ได้รบั การติดต่อจากผูค้ นทัว่ โลก “ผมได้รบั การตอบรับจากทัว่ โลกทางอีเมล ตัง้ แต่ โมกาดิชู ไปถึงเทลาวีฟ ผูค้ นส่งอีเมลมากล่าวขอบคุณ และบอกว่าโปรดท�ำ อีก” อิหม่ามคนหนึ่งในเมืองทวินซิตี้ บอกอะห์หมัดว่า เขาให้ลูกชายและ ลูกสาวของเขาดูการ์ตนู นี้ “ไม่มอี ะไรจะดีไปกว่านีอ้ กี แล้ว” อิหม่ามคนนัน้ กล่าว จาก มูฮมั มัด อะห์หมัด ผูอ้ พยพทีเ่ ป็นเพียงนักธุรกิจเล็กๆ สูค่ วามเป็น มูฮมั มัด อะห์หมัด ชาวอเมริกนั ทีต่ กหลุมรักตลาดเสรีและนิยมการแข่งขัน “อัลกออิดะฮ์ในคาบสมุทรอาหรับมีฝา่ ยการตลาด มีพวกหัวรุนแรงหลายร้อย คนทีส่ ร้างโปรแกรม วีดโิ อ เพียงเพือ่ ให้เข้าถึงเด็กๆ ของเรา และผมขอประกาศว่า เรามาแข่งกัน นีค่ อื อเมริกา เรารักการแข่งขัน” มูฮมั มัด อะห์หมัด กล่าวว่า การโน้มน้าวว่าตัวเองก�ำลังตกเป็นเหยือ่ เป็น อีกแนวคิดหนึง่ ทีว่ ดิ โี อเชิญชวนสมาชิกของกลุม่ มุสลิมหัวรุนแรงน�ำมาใช้ และ “Average Mohamed” พยายามจะตอบโต้ “พวกเขา(ไอเอส)บอกว่า อิสลาม ก�ำลังถูกโจมตี และพวกคุณควรจะลุกขึน้ มาปกป้องอิสลาม และเข้าร่วมกับ พวกเขา เรา(Average Mohamed )บอกว่า ไม่ พวกคุณต่างหากทีก่ ำ� ลังโจมตี อิสลาม พวกคุณก�ำลังเข่นฆ่ามุสลิม และเราไม่ตอ้ งการให้ความคิดนัน้ เข้ามา อยูใ่ นหัวลูกๆ ของเรา และเราไม่ตอ้ งการให้พวกคุณมาเชิญชวนลูกๆ ของเรา และเราจะต่อสูก้ บั เรือ่ งนี”้ สามารถรับชม Average Mohamed ได้ที่ http://averagemohamed.com ทีม่ า : Pri.org 6


ผลเลือกตัง้ อังกฤษ มุสลิมได้ จ�ำนวนทีน่ งั่ มากขึน้

“วาติกนั ” ท�ำข้อตกลง ยอมรับสถานะ “รัฐปาเลสไตน์” ส�ำนักวาติกนั จัดท�ำร่างข้อตกลงฉบับแรก ซึง่ ถือเป็นการประกาศ ยอมรับสถานะความเป็นรัฐของปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ แต่กเ็ รียก เสียงวิจารณ์อย่างรุนแรงจากฝ่ายทีส่ นับสนุนอิสราเอล เจ้าหน้าทีว่ าติกนั กล่าวว่า แม้ขอ้ ตกลงฉบับนีจ้ ะมีนยั ยะส�ำคัญ แต่ก็ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ส�ำนักวาติกันแสดงออกถึงการยอมรับรัฐปาเลสไตน์ “เรายอมรับสถานะรัฐปาเลสไตน์ตงั้ แต่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ให้การรับรองในปี 2012 และในหนังสือประจ�ำปีทเ่ี ราออกอย่างเป็น ทางการก็ระบุชอื่ รัฐปาเลสไตน์ไว้อย่างชัดเจน” บาทหลวงเฟเดริโก ลอมบาร์ดี โฆษกวาติกนั ให้สมั ภาษณ์ ประธานาธิบดีมะห์มดู อับบาส แห่งปาเลสไตน์ระบุวา่ “การยอมรับ นีม้ คี วามส�ำคัญมาก เพราะนครรัฐวาติกนั มีสถานะส�ำคัญทางการเมือง ซึง่ สืบเนือ่ งจากสถานะทางจิตวิญญาณของวาติกนั เรามีความหวังให้ ประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรปเดินตามรอยวาติกนั มากขึน้ ” โมเช คันตอร์ ประธานสภาชาวยิวแห่งยุโรป ได้กล่าวต�ำหนิทา่ ทีของ วาติกนั ว่า “น่าผิดหวัง” และเตือนว่าข้อตกลงเช่นนี้ “จะบัน่ ทอนโอกาส ในการเจรจาแก้ไขความขัดแย้งอย่างสันติ และท�ำให้พวกหัวรุนแรง ได้ใจ” อับราฮัม ฟอกซ์แมน จากสันนิบาตต่อต้านการหมิ่นประมาท (Anti-Defamation League) ชีว้ า่ วาติกนั ด่วนท�ำข้อตกลง “เร็วเกินไป” ซึง่ อาจส่งผลกระทบต่อแนวทาง “2 รัฐควบคู”่ ทีก่ ำ� ลังเจรจากันอยู่ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติมีมติรับรองปาเลสไตน์เป็น “รัฐ สังเกตการณ์ทมี่ ใิ ช่สมาชิก” ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ปี 2012 ซึง่ จัดว่า มีสถานะเทียบเท่ารัฐวาติกนั ซึง่ ประเทศส่วนใหญ่ทรี่ บั รองสถานะรัฐ ของปาเลสไตน์มกั จะมาจากทวีปแอฟริกา,เอเชีย,และอเมริกาใต้ 7

รัฐสภาอังกฤษต้องบันทึกไว้เป็นประวัตศิ าสตร์ ว่าการ เลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด มีจ�ำนวนส.ส.มุสลิมได้ที่นั่งใน รัฐสภาถึง 13 ทีน่ งั่ มากกว่าการเลือกตัง้ เมือ่ ปี 2010 ซึง่ ครัง้ นัน้ ได้มาเพียง 8 ทีน่ งั่ เท่านัน้ ในจ�ำนวน ส.ส.มุสลิมทัง้ 13 คน เป็นสตรี 8 คน โดย มาจากพรรคแรงงาน (Labour Party) 6 คน จากพรรค อนุรกั ษ์นยิ ม (Conservative) 1 คน และอีก 1 คน มาจาก พรรคแห่งชาติสก๊อต (Scottish National Party-SNP) การเลือกตั้งครั้งนี้ยังสร้างเรื่องที่ต้องจารึกไว้อีก 2 เรือ่ ง คือ ส.ส.มุสลิมหญิง จากพรรค SNP ได้รบั เลือกเข้า มาเป็นครัง้ แรก ด้วยคะแนนอันท่วมท้น ชือ่ ของเธอ คือ ทัสมีนา อะฮฺมดั ชีค้ (Tasmina Ahmed Sheikh) ส่วน อีกเรือ่ งหนึง่ คือ ส.ส.มุสลิมหญิง นุสรัต ฆอนี (Nusrat Ghani) จากพรรคอนุรกั ษ์นยิ ม ได้รบั การเลือกตัง้ เข้ามา เป็นครัง้ แรกเช่นกัน อย่างไรก็ตาม อดีต ส.ส. อนัส ซาร์วาร์ (Anas Sarwar) จากกลาสโกว์ ซึง่ เคยเป็น ส.ส.มุสลิมในสภาคนเดียวจาก พรรคแรงงาน กลายเป็น ส.ส. สอบตก หลังจากทีพ่ รรค SNP กวาดชัยชนะในการเลือกตัง้ ครัง้ นี้ เรือ่ งทีไ่ ม่คาดคิดอีกเรือ่ งหนึง่ คือ นาซ ชาห์ (Naz Shah) นักรณรงค์ดา้ นสุขภาพจิต จากพรรคแรงงาน สามารถ เอาชนะ อดีต ส.ส.จอร์จ กัลโลเวย์ หัวหน้าพรรค Respect ในเขตแบรดฟอร์ด ตะวันตก ด้วยเสียงโหวต 11,420 คะแนน ซึง่ กัลโลเวย์ เคยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือก ตัง้ ซ่อมในเขตนี้ เมือ่ ปี 2012 การเลือกตัง้ ในอังกฤษเมือ่ วันที่ 7 พฤษภาคม ทีผ่ า่ นมา ส.ส.จาก Tory Party กวาดทีน่ งั่ ในสภา 331 ทีน่ งั่ ในขณะ ทีพ่ รรคแรงงานได้ 232 ทีน่ งั่ พรรค SNP ได้ 56 ทีน่ งั่ ที่ เหลือเป็นของพรรคเล็กพรรคน้อยอื่นๆ ส่งผลให้นาย เดวิด แคเมอรอน ได้กลับมานัง่ บริหารประเทศอีกครัง้ หนึง่ ทีม่ า : Muslimthaipost.com


ประโยชน์บอกเล่า

กองบรรณาธิการ

Warka Water แก้ปัญหาขาดแคลนน�้ำ ด้วยการดูดน�้ำ จากอากาศ

ถึงแม้โลกจะมีนำ�้ เป็นส่วนประกอบมากถึง 2 ใน 3 แต่กย็ งั มีผคู้ นทีใ่ นหลายพืน้ ทีข่ าดแคลนน�ำ้ สะอาดไว้ดมื่ กิน โดยเฉพาะอย่างยิง่ ทวีปแอฟริกาที่ประสบปัญหาขาดแคลนน�้ำจนเข้าขั้นวิกฤติ จากวิกฤติดังกล่าว Architecture and Vision บริษัทออกแบบจากอิตาลี จึงน�ำทักษะและองค์ความรู้ทางด้านการออกแบบ พัฒนาเครือ่ งมือทีใ่ ช้สำ� หรับกักเก็บน�ำ้ ให้กบั ชาวเอธิโอเปีย หนึง่ ในพืน้ ทีข่ าดแคลนน�ำ้ อย่างหนัก โดยพวกเขาเรียกมันว่า Warka Water Warka Water มาจากชื่อของ Warka ซึ่งเป็นต้นไม้ท้องถิ่นที่นิยมปลูกในเอธิโอเปีย โดยเจ้า Warka Water จะมีลักษณะเป็น หอคอยรูปทรงคล้ายแจกันขนาดยักษ์ โครงสร้างภายนอกท�ำจากวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่นอย่างไม้ไผ่ น�ำมาขึ้นโครงและสานต่อๆ กัน ส่วนภายในท�ำจากพลาสติกได้แก่ ไนลอนและพอลิโพรไพลีน มีลกั ษณะเป็นตาข่ายท�ำหน้าทีด่ กั เก็บน�ำ้ ทีไ่ หลลงมาติด ใช้เวลาในการสร้าง ไม่เกิน 1 สัปดาห์ และต้นทุนแสนต�ำ่ เพราะใช้แต่วสั ดุในท้องถิน่ ทีส่ ำ� คัญสามารถเคลือ่ นย้ายได้งา่ ย สะดวกต่อการเข้าถึงแหล่งชุมชน ที่ขาดแคลนน�้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลักการท�ำงานของเจ้า Warka Water นั้นเรียบง่าย โดยตาข่ายด้านในจะคอยดักเก็บไอน�้ำที่ลอยตัวอยู่ในอากาศแล้วเปลี่ยน สภาพเป็นน�้ำที่ใช้บริโภคได้ จากนั้นน�้ำก็จะค่อยๆ ไหลลงไปที่ฐานล่างสุดซึ่งเป็นที่เก็บน�้ำเอาไว้ใช้ต่อไป ซึ่ง Warka Water สามารถ เก็บน�้ำได้อย่างน้อยวันละ 25 แกลอนเลยทีเดียว //// ข้อมูลจาก : http://creativemove.com/creative/warka-water/

8


Halal Tasty กองบรรณาธิการ

บ้านดินเบดูอิน ท้องฟ้าแดดแรงแสงกล้า ลมพัดหอบเอาไอความร้อน สะท้อน หากหลับตานึกย้อน นี่เราอยู่ในหนังคาวบอยเรื่องไหนหรือเปล่า เนี่ย หากเสพด้วยเพียงสายตา สิ่งที่อยู่ตรงหน้า บ้านดิน คอกม้า ย่อมท�ำให้เรานึกอย่างนัน้ แน่นอน แต่แท้จริงแล้ว วันนีเ้ ราพามาชิม ที่ร้านที่มีชื่อว่า บ้านดินเบดูอินค่ะ เบดูอนิ คือ ชือ่ ของชนเผ่าเร่รอ่ นทีอ่ ยูก่ ลางทะเลทรายในแถบ ชนบทของอาหรับ ไม่แปลกเลยหากสัมผัสแรกจะท�ำให้เรานึกถึง ทะเลทราย แต่บรรยากาศที่นี่ อากาศเย็นก�ำลังดี สมกับที่ว่าเป็น บ้านดินค่ะ บรรยากาศในร้านโอ่โถง ให้ความรู้สึกนุ่มนวลของวัสดุที่ท�ำ จากธรรมชาติ ถือเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคนที่อยากจะมี บ้านในลักษณะนี้ บอกได้ค�ำเดียว ชอบ มาทีเ่ มนูอาหารของร้านนีค้ ะ่ เมนูตา่ งๆของทีน่ ี่ จะมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว เรียกว่าหาทานทีอ่ นื่ ไม่ได้ มีทนี่ ที่ เี่ ดียว เมนูแนะน�ำของ ที่นี่เริ่มจากของขึ้นชื่อค่ะ อกเป็ดรมควันซอสส้ม วินาทีที่ยกจาน มาเสิร์ฟ สวย สีของอกเป็ดแดง ตัดกับสีของซอสส้ม และผักสลัด ที่วางเคียง สัมผัสแรกเมื่อได้ลิ้มรส นุ่ม ละมุน เข้ากันดีระหว่าง เนื้อเป็ดที่นุ่มก�ำลังดีและซอสส้มที่กลมกล่อม เมื่อทานด้วยกัน แล้ว ค�ำเดียวไม่พอค่ะ ถัดมาที่จานสเต็กบ้าง ต้องเมนูนี้เลยค่ะ สเต็กเบดูอิน เนื้อชิ้นโต ถูกจัดวางมาบนโรตีเนื้อนุ่ม เสิร์ฟพร้อม กับไส้กรอก ไข่ดาว มันฝรัง่ ทอด และสลัด จานใหญ่มาก ไม่นา่ เชือ่

ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเราจะทานหมด ก็ด้วยความอร่อยที่เข้า กันของเนื้อสเต็กและโรตี อร่อยมาก ต้องมาลองค่ะ เมนูอาหาร ทีน่ ยี่ งั มีอกี หลากหลาย ทัง้ ข้าวแกงกะหรีไ่ ก่กรอบ สปาเกตตี้ สลัด ไก่อบ อร่อยทุกเมนูเลยค่ะ อ่อ ทีน่ ยี่ งั มีเครือ่ งดืม่ ทัง้ ร้อนเย็นให้เลือก ทานอีกหลายเมนู นอกจากอาหารรสดีแล้ว ที่นี่ยังมีสอนขี่ม้า ส�ำหรับเด็กด้วย นะคะ สนใจแวะมากันได้คะ่ ที่ ร้านอาหารบ้านดินเบดูอนิ อาหาร อร่อย จิบชาชมม้า บรรยากาศดี หลับตาดืม่ กาแฟสด เอ๊ะ!! ท�ำไม หาค�ำตอบได้ที่ร้านอาหารบ้านดินเบดูอินค่ะ ////

ชื่อร้าน สถานที่ตั้ง

บ้านดินเบดูอิน ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ซ.โรงสวด (อบต.บางบัวทอง 11) นนทบุรี เจ้าของกิจการ อักรอม ซอลีฮีน, ดาอิม โยธาสมุทร เมนูแนะน�ำ สเต็กเบดูอิน, อกเป็ดรมควันซอสส้ม, เครื่องดื่ม กาแฟสด เวลาเปิด-ปิด อังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.30-20.00 น. ติดต่อ 081-3039390, 095-0017355 FB: baandinbedouin 9


FlashBack

กองบรรณาธิการ

ชมภาพหายากของผู้แสวงบุญในยุคสมัย ออตโตมัน ภาพถ่ายหายากของเหล่าผู้แสวงบุญจาก 9 ประเทศในปี ค.ศ. 1880 หรือเมื่อ 135 ปีที่แล้ว ซึ่งการเดินทางไปประ กอบพิธีฮัจญ์ ณ นครมักกะฮ์ในสมัยนั้นไม่สะดวกสบายเหมือนปัจจุบัน ในตอนนั้นการเดินทางไปท�ำฮัจญ์ยากล�ำบาก เต็มไปด้วยอันตรายและความเสีย่ ง ผูแ้ สวงบุญเหล่านีต้ อ้ งใช้เวลาการเดินทางเป็นสัปดาห์ หรือบางรายอาจใช้เวลาเป็น แรมเดือน ความน่าสนใจของภาพถ่ายเหล่านี้คือ เสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประเพณีการแต่งกายและ วัฒนธรรมทีแ่ ตกต่างกันของชาวมุสลิมในแต่ละท้องถิน่ อย่างไรก็ตาม เมือ่ มาถึงยังสถานทีป่ ระกอบพิธฮี จั ญ์ ความแตกต่าง เหล่านั้นจะหมดไป เพราะทุกคนต้องเปลี่ยนไปสวมชุดเอี๊ยะรอม ที่ประกอบไปด้วยผ้าสีขาวเพียง 2 ชิ้น จนยากที่จะ ระบุเชือ้ ชาติของแต่ละคน ฮัจญ์ทำ� ให้ทกุ คนเท่าเทียมกัน ไม่วา่ จะเป็นคนหนุม่ สาว คนเฒ่าคนแก่ หรือเด็กๆ ไม่วา่ จะจน หรือรวย ล้วนเข้าหาพระองค์อัลลอฮฺอย่างเท่าเทียมกัน ภาพเหล่านีถ้ กู ถ่ายไว้ในช่วงทีม่ กั กะฮ์ยงั อยูใ่ ต้อำ� นาจของอาณาจักรออตโตมัน(อุษมานียะห์) ซึง่ ในยุคนัน้ ผูแ้ สวงบุญ ทุกคนสามารถเดินทางเข้ามักกะฮ์ได้โดยไม่ต้องมีหนังสือเดินทางหรือวีซ่า ////

1

2

3

4

5

6

7

8

9

1.โมร็อกโก, 2.อาเจะ-อินโดนีเซีย, 3.เยเมน, 4.บาห์เรน, 5.บุคอรอ-อุซเบกิสถาน, 6.บัสรา , อิรัค 7.สุมาตรา-อินโดนีเซีย, 8.แบกแดด-อิรัค ,9.แซนซิบาร์-แทนซาเนีย

10


แบรนด์บันดาลใจ

กองบรรณาธิการ

MUSLEENA ศิลปะบนความศรัทธา

MUSLEENA อ่านว่า มัสลีนา เป็น

แบรนด์ทปี่ ลุกปัน้ โดย ลีนา ธีรพลวานิชกุล หญิงสาวชาวกรุงเทพฯ ที่เชี่ยวชาญด้าน งานออกแบบผลิตภัณฑ์ทที่ ำ� จากผ้ามากว่า 10 ปี จากจุดเริม่ ต้นของงานออกแบบเพือ่ สือ่ สารสร้างความเข้าใจเรือ่ งราวอิสลาม กับคนรุ่นใหม่ในชื่อ green เมื่อปี 2549 สู่แ บรนด์ เครื่ องแต่ ง กายสตรีมุสลิมที่ การั น ตี ร างวั ล จากต่ า งประเทศ ลี น า บอกว่ า เธออยากให้ แ บรนด์ ข องเธอ เป็ น เหมือนงานศิลปะมากกว่าสินค้า “MUSLEENA คือ Fusion Art of Faith หรือ ศิลปะแห่งศรัทธา เป็นแบรนด์ เสื้อผ้าที่ออกแบบผลงานดั่งงานศิลปะ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่สินค้าที่ท�ำมาเพื่อขาย เป็นศิลปะที่ผสมผสานไปด้วยวิถีและ ศรัทธาแห่งอิสลาม” ท่ามกลางยุคสมัยทีผ่ คู้ นส่วนใหญ่ให้ ความส�ำคัญกับการท�ำสินค้าราคาถูก เพื่อให้ขายได้ปริมาณมาก และมุ่งหวัง ก�ำไรเป็นกอบเป็นก�ำในระยะเวลาอันสัน้ แต่ลนี าคิดต่างจากนัน้ เธอบอกว่า “ไม่ได้ เน้นขายสินค้าในปริมาณมาก แต่เน้น คุณค่าในตัวผลงาน”

เธออยากให้ MUSLEENA เป็ น แบรนด์ที่เน้น ‘คุณค่า’ มากกว่า ‘มูลค่า’ สินค้าทุกตัวของเธอจึงผลิตออกมาด้วย ความตั้งใจ และความซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค รวมไปถึงซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ “ผลงานของ เราจะต้ อ งผ่ า นกระบวนการออกแบบ อย่างแท้จริง คัดสรรปรับแก้จากผลงานที่ เราออกแบบเองเป็นร้อยๆ แบบอย่างตัง้ ใจ เราร่วมงานกับอาจารย์ช่างตัดเย็บฝีมือดี ทุก อย่างที่ เราท� ำ มี ต้ นทุ นที่ สู ง กว่ า แต่ ก็ เป็นต้นทุนจริงที่ไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น” มูลค่า มักสื่อสารกับเหตุและผล แต่ คุณค่าอาจสื่อสารลึกลงไปยังจิตใจและ ความรู้สึก และด้วยความที่อยากสื่อสาร ไปถึงหัวใจผู้บริโภค MUSLEENA จึงใช้ หัวใจเป็นส่วนส�ำคัญในการผลิต ถึงจะไม่ได้เน้นปริมาณ แต่ลนี าบอกว่า สิ น ค้ า ของ MUSLEENA ก็ ไ ด้ รั บ การ ต้อนรับด้วยดีเสมอ ท�ำให้หลายครัง้ เธอถูก อธรรมจากการ “ฉวยโอกาสลอกเลียน แบบผลงาน น�ำไปท�ำขายในราคาและ คุณภาพที่ด้อยลงไป” แต่นั่นก็ไม่ได้ท�ำให้ เธอหยุดพัฒนาผลงาน และก้าวข้ามการ ถูกอธรรมนั้นไปได้ “อัลฮัมดุลิลลาฮฺ เรา ผ่านอุปสรรคมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะไม่ว่าจะมีงานลอกเลียนแบบออก มามากมายแค่ไหน สุดท้ายผลงานของเรา ก็เป็นต้นต�ำรับที่หลายคนจดจ�ำได้ จึงยังมี 11

ลูกค้าทีใ่ ห้กำ� ลังใจและสนับสนุนเราอย่าง ต่อเนื่อง” อุปสรรคปัญหามักน�ำพาให้เกิดการ เรียนรู้ ลีนาก็เช่นกัน ที่ได้แง่คิดหลังผ่าน พ้นอุปสรรคปัญหา “เราเชือ่ ว่าทัง้ เราและ สังคมมุสลิมไทยหลายส่วนได้เรียนรู้และ ตระหนักถึงค�ำว่า ค่าความคิด และคุณค่า ของงานออกแบบมากขึ้น หลายคนเริ่ม คิดทีจ่ ะเลือกสนับสนุนผลงานทีไ่ ม่ละเมิด ความคิดผู้อื่นเพื่อที่จะได้ตอบค�ำถามต่อ อั ล ลอฮฺ ไ ด้ ถึ ง การใช้ จ ่ า ยที่ ฮ าลาลของ ตนเอง” หลังจากนี้ ลีนา ตัง้ ใจจะออกแบบผลงาน ให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองกลุ่มคนที่ให้ คุณค่ากับผลงานของเธอ ภายใต้คอนเซปต์ เดิมคือ “จะยังคงไว้ซงึ่ ศรัทธาและคุณค่า ของผลงาน” แต่เธอก็ทิ้งปลายเปิดเผื่อ ความไม่แน่นอนในทางธุรกิจเอาไว้ให้อนุ่ ใจ ว่า “วันหนึ่งไม่ว่าเราจะท�ำหรือไม่ท�ำ แบรนด์ MUSLEENA แล้วก็ตาม เราก็จะ ไม่หยุดทีจ่ ะพัฒนาผลงานดีๆ ให้กบั สังคม มุสลิมต่อไป ให้เหมือนกับจุดเริ่มต้นและ ความตั้งใจแต่แรกของเรา” และนี่คือเรื่องราวของ MUSLEENA แบรนด์ที่น�ำศิลปะกับความศรัทธามา สร้างคุณค่าให้กับสินค้าได้อย่างลงตัว ////


อยู่

เป็น

สุข

จังหวะก้าวที่เปลี่ยนไป กับความฝันที่เปลี่ยนแปลง ของ ซัลมา บุญตามทัน

ความฝันท�ำให้เราเติบโต แต่ ความรักท�ำให้เราเปลี่ยนแปลง ชีวติ คงแห้งแล้งหากไร้ซงึ่ ความรัก และความฝัน แต่ในโลกแห่งความ เป็นจริง บางจังหวะก้าวของชีวติ อาจกั ด เซาะทั้ ง ความรั ก และ ความฝันจนเราหลงลืมหน้าตา ของมันไปชัว่ ขณะ กระทัง่ ใครบางคน อาจจ�ำไม่ได้ด้วยซ�้ำว่า ครั้งหนึ่ง พวกเขาเคยมีความรักและความ ฝันเป็นแรงขับให้ชีวิตเติบโตและ เปลี่ยนแปลง

ซัลมาก็เช่นกัน ที่บางจังหวะก้าวของชีวิตกัดเซาะความรัก และความฝัน แทนที่จะหลงลืม ซัลมากลับมองว่านั่นคือการ เติบโต “เปลี่ยนไปเยอะมาก อันนี้คือเราคิดเองนะว่าตัวเอง เปลีย่ นไป แต่วา่ ไม่รวู้ า่ คนรอบข้างหรือเพือ่ นจะคิดว่าเราเปลีย่ น ไปหรือเปล่า ทุกวันนี้เรารู้สึกใจเย็นกับสิ่งรอบข้างมากขึ้น” ครั้งหนึ่ง ซัลมา บุญตามทัน เคยเป็นแอคทีฟวูแมนที่ทุ่มเท จริงจังทัง้ เรื่องงานและกิจกรรมทางสังคม เธอกับเพือ่ นเป็นส่วน ส�ำคัญของหลายกิจกรรมทางสังคมทีอ่ อกแบบมาเพือ่ ดึงเยาวชน และวัยรุ่นมุสลิมให้หันกลับมาเข้าใกล้ศาสนา เธอฝันอยากเห็น เยาวชนและวัยรุน่ มุสลิมมีพนื้ ทีแ่ สดงออกแบบไม่ขดั แย้งกับหลัก ค�ำสอนของอิสลาม นอกจากกิจกรรมทางสังคม หน้าที่การงานที่เธอเลือกหลัง จบการศึกษายังเป็นอีกเรื่องที่ยืนยันความฝันของเธอ แทนที่จะ เลือกท�ำงานมั่นคงมีชีวิตสุขสบาย เธอกลับเลือกท�ำงานด้านสื่อ ทางเลือกทีม่ อี ดุ มการณ์และเป้าหมายคล้ายกับความฝันของเธอ

12


อยู่/เป็น/สุข กองบรรณาธิการ

พอวันนึงจังหวะชีวติ เปลีย่ น ไป มีครอบครัวมีลูก มันท�ำให้ เราช้าลง เริ่มรอจังหวะและ โอกาสที่เหมาะสมมากขึ้น

ย้อนไปก่อนหน้านัน้ ในวันทีเ่ ธอยังไม่คน้ พบความฝัน เธอก็คง เหมือนกับเด็กสาวทัว่ ไปทีช่ วี ติ เวียนวนอยูแ่ ต่เรือ่ งความสนุกและ การตอบสนองความต้องการของตัวเอง ความฝันท�ำให้เธอเติบโต ซัลมาค้นพบความฝันของตัวเอง เมื่อก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย และตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรม กับชมรมมุสลิม “อัลลอฮฺให้ความเมตตามากที่ให้เราเข้าหา อิสลามตั้งแต่ตอนอายุ 18 - 19 รู้สึกว่าขอบคุณอัลลอฮฺมากที่ ให้เราเข้าไปในชมรมมุสลิมในวันนัน้ ให้เราเห็นคนคลุมฮิญาบ” เมือ่ ค้นพบความฝันชีวติ ของเธอก็เติบโต เธอเลิกสนใจแต่ตวั เอง และหันมาใส่ใจกับปัญหาสังคมมากขึน้ “เราไปช่วยท�ำค่ายอบรม เยาวชน แล้วเราก็เสียสละเวลาของเราไปในหนทางที่ดี เราใช้วัย หนุ่มสาวของเราเพื่อที่จะท�ำให้คนใดคนหนึ่งเปลี่ยนแปลง อย่าง น้อยเราก็มคี ำ� ตอบให้อลั ลอฮฺแล้วว่าเราใช้วยั หนุม่ สาวของเราท�ำ อะไรบ้าง” ชีวติ ของซัลมาเติบโตไปตามความฝัน กระทัง่ วันทีเ่ ธอตกหลุม รักและตัดสินใจแต่งงาน และนัน่ กลายเป็นจุดเปลีย่ นส�ำคัญในชีวติ ความรักท�ำให้เธอเปลีย่ นแปลง จากแอคทีฟวูแมนทีท่ มุ่ เท เวลาให้กับงานและสังคม กล้าได้กล้าเสียและพร้อมเสี่ยงเพื่อ ให้ได้มาซึ่งเป้าหมายในชีวิต แต่ความรักท�ำให้เธอเปลี่ยน “เดิมทีเป็นคนที่คิดอะไรแล้วจะท�ำเลย อยากท�ำอะไรท�ำทันที ไม่ คิ ด อะไรมาก แต่ พ อวั น นึ ง จั ง หวะชี วิ ต เปลี่ ย นไป เรามี ครอบครัวมีลูก มันท�ำให้เราช้าลง เราต้องคิดมากขึ้น เริ่มรอ จังหวะและโอกาสที่เหมาะสมมากขึ้น” และความรักที่เธอมีให้กับครอบครัวคือจังหวะก้าวที่ท�ำให้ ชีวิตและความฝันของเธอเปลี่ยนไป “พอถึงวันที่ชีวิตเราโตขึ้น มีครอบครัวมีลกู เราจะต้องประคับประคองทุกอย่างไปพร้อมกัน ซึ่งหลายครั้งเราต้องยอมอดยอมขัดใจตัวเองบ้างในบางเรื่อง” ////

ความฝันอาจท�ำให้ชีวิตของซัลมาเติบโต แต่ความรักท�ำให้ จังหวะก้าวของเธอเปลี่ยนแปลง และเธอยอมรับว่ามันเป็นการ เปลี่ยนที่ท�ำให้ชีวิตของเธอ อยู่เป็นแล้วมีความสุข

13


MAIN HALAL

กองบรรณาธิการ

ชีวิตคือ บททดสอบ ชีวิตคือบททดสอบ คือหลักธรรมค�ำสอนหนึ่งใน ศาสนาอิสลาม ทีส่ อนให้ผศู้ รัทธาเชือ่ ว่าทุกสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ กับชีวติ ล้วนเป็นบททดสอบจากพระผูเ้ ป็นเจ้า เพือ่ ใหผ้ ศ้ ู รัทธา ตระหนักและไตร่ตรองถึงทุกสรรพสิ่งที่ผ่านเข้ามาใน ชีวติ สอนให้ผศู้ รัทธารูจ้ กั อ่านความหมาย มองให้เห็น มากกว่าเรือ่ งราวตรงหน้า บางส่วนของความเรียงเรื่อง “เงาชีวิตบนเส้นทาง” โดย เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ให้ความหมายของการไตร่ตรองเรือ่ งราวต่างๆ ทีผ่ า่ นเข้ามา ในชีวิต ไว้อย่างสอดคล้องกับหลักค�ำสอนเรื่อง ชีวิตคือบททดสอบ ว่า “คนเราอาศัยกระจกเงาส่องให้รู้จักเรือนร่างหน้าตา สรรพสิ่งบน เส้นทางก็เป็นดัง่ กระจกเงาส่องสะท้อนให้เห็นแง่มมุ ของชีวติ ขึน้ อยูก่ บั ว่า เรารู้จักอ่านความหมายของมันมากน้อยเพียงใด รอบข้างมีคำ� สอน รอบตัวมีคำ� เตือน เพราะฉะนัน้ มิวา่ เดินทางใกล้ไกล ล้วนให้ความหมายในการเรียนรู้ จากส�ำนึกตระหนักดั่งนี้ เราจึงเห็นว่า ภูเขาไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ให้ ปีนป่าย ทะเลไม่ใช่มีฐานะเพียงสระว่ายน�้ำขนาดยักษ์ และดวงจันทร์มิได้ เป็นเพียงก้อนหินที่ล่องลอย แทบทุกอย่างทีเ่ ราพบสัมผัส ตัง้ แต่ทวิ ทัศน์ไปจนถึงเหตุการณ์ ล้วน มีข่าวสารส่งผ่านมา...” บททดสอบในชีวิตก็เช่นเดียวกัน ล้วนแฝงนัยยะและความหมายให้ เรียนรู้ ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราแล้วว่า จะรู้จักอ่านความหมายของมันมาก น้อยขนาดไหน

14


โลกแห่งการทดสอบ อ.ยูนสุ วารีย์ : อาจารย์โรงเรียนจิตต์ภกั ดี เชียงใหม่ มุสลิมเรามีความเชือ่ มัน่ ว่าทุกสิง่ ทุกอย่างทีป่ ระสบกับตัวเค้า ไม่ ว ่ า สิ่ ง นั้ น จะเป็ น สิ่ ง ที่ ดี ห รื อ สิ่ ง ที่ ไ ม่ ดี ทั้ ง หมดล้ ว นเป็ น การ ทดสอบจากอัลลอฮฺ(ซ.บ.) เพื่อดูว่าเราจะปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อ เราได้ รั บ ความสุ ข สบายในชี วิ ต ได้ รั บ ความมั่ ง คั่ ง ชื่ อ เสี ย ง เกียรติยศ เราใช้ชอื่ เสียงเกียรติยศความมัง่ คัง่ ไปทางทีด่ หี รือเปล่า หรือใช้ตามอารมณ์ความฟุ้งเฟ้อของตัวเอง เมื่อเราประสบกับ ความยากล�ำบากเราเอาความยากล�ำบากนัน้ มาบัน่ ทอนจิตใจตัวเอง หรือเปล่า มาบั่นทอนความเชื่อมั่นของเราหรือเปล่า ฉะนั้นคนที่ เป็นมุสลิมทีเ่ ค้ามีความผูกพันต่อพระเจ้าอย่างแท้จริงเมือ่ เค้าพบ กับความมั่งคั่งความร�่ำรวย ความสุขสบาย เค้าจะไม่หลงระเริง ไม่ลืมตัว และก็จะไม่แสดงความยโสกับผู้อื่น แต่ตรงกันข้าม เค้า จะมีความนอบน้อม มีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และก็มีความรู้สึกที่ จะแบ่งปันให้กบั คนอืน่ ในขณะเดียวกันเมือ่ เค้าพบกับความยาก ล�ำบากเค้าจะไม่ทอ้ แท้ไม่สนิ้ หวัง เพราะเค้าจะตระหนักอยูเ่ สมอ ว่าเค้ามีพระเจ้าที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือเค้าอยู่ตลอดเวลา แล้วสิ่งต่างๆ ที่ประสบกับเค้านั้นเป็นเพราะพระองค์ก�ำลัง ทดสอบความเชื่อมั่นของเค้าที่มีต่อพระองค์ ฉะนั้นเมื่อเค้าเชื่อ มั่นว่าทั้งหมดมาจากพระผู้เป็นเจ้า หนึ่งเค้าจะไม่สิ้นหวัง อันที่ สองเค้าจะไม่โวยวาย เค้าจะไม่บน่ อันทีส่ ามเค้าจะพยายามท�ำตัว ให้ดที สี่ ดุ คือท�ำตัวให้อยูใ่ นร่องในรอยทีพ่ ระผูเ้ ป็นเจ้าทรงรักและ ทรงพอพระทัย แล้วก็จะพยายามท�ำทุกอย่างให้ดีที่สุด อ.อาลี เสือสมิง : อาจารย์ใหญ่โรงเรียนมัจลิซดุ ดีนี บททดสอบมันเป็นทัง้ เรือ่ งดีและเรือ่ งไม่ดี ในอัลกุรอานบอกว่า และเราจะทดสอบพวกเจ้าด้วยความชัว่ และความดี หมายความ ว่าทัง้ สิง่ ดีและไม่ดเี ป็นบททดสอบทัง้ สิน้ เราอาจจะเข้าใจว่าเรือ่ ง บททดสอบเป็นเรื่องของบะลาอฺเป็นเรื่องของภัยพิบัติเป็นเรื่อง เลวร้ายอย่างเดียว ซึ่งความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่ การที่บุคคลใช้ ชีวิตอยู่ดีกินดีมีความสุขสบายไม่ว่าจะเป็นในเรื่องสุขอนามัย ไม่ ว่าจะเป็นเรื่องทรัพย์สินหรือความเจริญรุ่งเรือง อันนี้ก็เป็นการ ทดสอบเหมือนกัน ถ้าหากว่าเขาอยู่ดีกินดีมีความสุข สุขภาพ อนามัยดีทรัพย์สินมากมาย มีความสุขอันนี้คือการทดสอบ ทดสอบเขาจะเป็นคนที่ขอบคุณอัลลอฮฺหรือไม่ เป็นผู้ร�่ำรวยที่ ขอบคุณพระองค์อลั ลอฮฺ รูจ้ กั ในบุญคุณของพระองค์ หรือจะเป็น คนเนรคุณ แต่ในส่วนของภัยพิบัติหรือว่าบททดสอบที่เป็นเรื่อง ของความทุกข์ยากทัง้ หลาย อันนีก้ จ็ ะเป็นแบบทดสอบว่าบุคคล คนนั้นเป็นผู้ที่มีความขันติธรรม มีความอดทนอดกลั้นหรือไม่ มี ความพึงพอใจในลิขิตของอัลลอฮฺหรือไม่ มันก็จะมีการทดสอบ ทั้งสองด้าน

การทดสอบมันจะล�ำบากแค่ไหน ถ้าเรารูค้ ำ� ตอบอยูแ่ ล้ว ข้อสอบ ไม่วา่ จะยากแค่ไหนเราท�ำได้หมด

โต ฟิรเดาซ์ ศรัทธายิง่ : อดีตศิลปิน ท่านนบีมุฮัมมัดบอกไว้ว่า ยิ่งใกล้ วันกิยามัต(วันสิ้นโลก) จะ ยิ่งมีการทดสอบที่รุนแรงมากขึ้นและซับซ้อนขึ้น เราอยู่ในยุค สุดท้าย ซึ่งจะมีการทดสอบที่หนักมากที่สุดทั้งที่เราอยู่ห่างจาก ท่านนบีทสี่ ดุ แต่สำ� หรับผูศ้ รัทธา อัลลอฮฺบอกเสมอว่า อัลกุรอาน และท่านนบีถูกส่งมาเป็นข่าวดีส�ำหรับผู้ศรัทธา เป็นข่าวดี เป็น ความเมตตา เพราะฉะนัน้ ไม่วา่ การทดสอบจะหนักและซับซ้อน จะมองไม่เห็นยังไงก็แล้วแต่ อัลกุรอานจะเป็นแสงสว่างเสมอ อัลลอฮฺ บอกในอัลกุรอาน เพราะอัลกุรอานเป็นแสงสว่าง เวลาเราอยูใ่ นความมืดและเราไม่มไี ฟฉาย เราจะเดินชนแล้ว เราจะเจ็บ เราจะตกเหวแล้วเราจะตาย แต่ถ้าเรามีไฟฉายอัน เดียวชัดเลยนะ ความกลัวเราจะหมดไปทันที เพราะเราจะเดิน ไปเรื่อยๆ เดินไปแล้วมันไม่มีอะไรน่ากลัว ต่อให้เดินข้างหุบเหว เราก็จะเดินไปตามทางได้เพราะเราเดินตามแสงไฟ ไฟฉายที่ว่า นีก่ ไ็ ฟน�ำทาง มันเป็นความเมตตาทีท่ ำ� ให้ผศู้ รัทธาได้เห็น เขาจะ ไม่สนเรือ่ งการทดสอบทัง้ หมดทัง้ มวลเลยไม่วา่ จะมีเหว จะมีพายุ จะมีอะไรก็แล้วแต่ เขาเห็นทางแล้วเพราะฉะนั้นเขาจะเดินไป ตามทิศทางที่ถูกต้อง นี่คือแสงสว่างที่แม้กระทั่งมุสลิมหลายคน ไม่เห็นค่าของมัน ถือไฟฉายแต่ไม่ยอมเปิดไฟ แปลว่าอ่านอย่าง เดียว ท่องอย่างเดียว แต่ไม่เคยอยากจะเข้าใจความหมาย ไม่ อยากจะเปิดไฟ การทดสอบมันจะล�ำบากแค่ไหนถ้าเรารู้ค�ำตอบอยู่แล้ว ข้อสอบไม่วา่ จะยากแค่ไหนเราท�ำได้หมด อัลกุรอานคือแสงสว่าง ในยุคสุดท้ายการทดสอบล่อลวงมันจะด�ำมืดไปหมด เราจึงต้องใช้ แสงไฟ ต้องใช้แสงสว่างจากอัลกุรอาน มันพูดชัดไปกว่านีไ้ ม่ได้แล้ว 15


ใดใดในโลกล้วนเป็นบททดสอบ

ลาตีฟา เพศยนาวิน : นักศึกษาปริญญาโท ดุนยา(โลกนี้)ไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย อัลลอฮฺไม่ได้ส่งเราให้มาเผชิญ กับสิง่ ชัว่ ร้าย บททดสอบในชีวติ ของเรามันจะเปลีย่ นไปตามวัย เปลีย่ นไปตามอายุของเรา เมือ่ เราโตขึน้ บททดสอบก็เปลีย่ นแปลง ไป และบททดสอบของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน สิ่งที่เราต้อง ตระหนักคือเรามาในโลกนี้มาเผชิญกับบททดสอบ สิ่งที่เราได้ รับเราต้องคิดวิธที จี่ ะท�ำยังไงให้เราผ่านมันไปได้โดยมีเป้าหมาย เราเป็นมุสลิมเป้าหมายของเราคือเราต้องมองไปถึงชีวิตที่เป็น นิรันดร์ คือมองว่าเราจะท�ำยังไงให้เราผ่านบททดสอบนี้ไปได้ โดยทีม่ ชี วี ติ อยูอ่ ย่างนิรนั ดร์ในสวรรค์ โดยทีไ่ ม่ตอ้ งไปผ่านความ หนักในนรก หรือเราจะท�ำอย่างไรให้ค�ำตอบกับตัวเองให้ได้ว่า เราจะเป็นบ่าวทีศ่ รัทธาได้อย่างไร เราจะขอบคุณอัลลอฮฺอย่างไร เรามีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้แล้ว เราเคยถามตัวเองหรือยังว่า อัลลอฮฺให้อะไรกับเราบ้างแล้วเราขอบคุณเป็นหรือเปล่า เรา ขอบคุณได้หรือเปล่า บททดสอบของชีวิตของมนุษย์นี่เรา สามารถผ่านมันไปได้ด้วยกับความอดทนและย�ำเกรง

บททดสอบที่ 1 : ความยากจนข้นแค้น อ.อามีน เหมเสริม หัวหน้าฝ่ายวิชาการยาตีมทีวี อีกประเด็นหนึ่งที่มีความส�ำคัญต่อวิถีชีวิตของคนที่เป็น มุสลิมหรือแม้กระทั่งคนทั่วไปก็ตาม คือทัศนคติที่มตี ่อเรื่องของ ความยากจน เมือ่ ไหร่กต็ ามทีเ่ รามองความยากจนเป็นความทุกข์ มันจะส่งผลให้เราจะรู้สึกน้อยเนื้อต�่ำใจ แต่อิสลามไม่ได้มองว่า ความยากจนเป็นเภทภัยเป็นสิ่งเลวร้ายที่จะเข้ามาประสบกับ ชีวติ แต่หากมองมันเป็นบทหนึง่ ของการทดสอบเท่านัน้ และถ้าหาก เขามองความยากจนเป็นหนึง่ ในบททดสอบของชีวติ เขาก็พยายาม ที่ จ ะฟั น ฝ่ า และก็ ส ามารถที่ จ ะเดิ น ผ่ า นห้ ว งเวลาแห่ ง ความ ยากจนนี้ได้ หรือหากไม่สามารถเดินผ่านได้ เขาจะเรียนรู้ที่จะ อยู่อย่างมีความสุข อิสลามไม่ได้สอนให้เราจมปลักอยู่กับความยากจน แม้ กระทั่งในดุอาอฺ เราขอจากอัลลอฮฺให้พ้นจากสองประการ นั่น คือพ้นจากการเป็นผู้ปฏิเสธ และพ้นจากความยากจน เอาสอง ค�ำนี้มาอยู่ใกล้กันเลยนะ ผู้ปฏิเสธกับความยากจน ถามว่ามันมี นัยยะอะไร ความยากจนถ้าหากว่าเราขาดสติขาดการยัง้ คิดแล้ว เรามีทศั นคติกบั ความจนทีผ่ ดิ มันจะเป็นเหตุทที่ ำ� ให้เราไปกระท�ำ ในสิ่งที่ผิด เพราะความยากจนจึงไปละเมิดไปฝ่าฝืนไปลักขโมย ถึงขัน้ เป็นผูป้ ฏิเสธพระเจ้าได้ เพียงเพือ่ ต้องการทีจ่ ะท�ำทุกอย่าง ให้ฉนั เป็นคนมีให้พน้ จากสภาพยากจนโดยไม่คำ� นึงถึงคุณธรรม จริยธรรม นั่นแปลว่าเราก�ำลังมองความยากจนในมุมมองที่ผิด แต่ถา้ เรามองว่ามันคือบททดสอบเราจะใช้ความยากจนนั้นเป็น ความเข้มแข็ง เป็นก�ำลังใจ เป็นพลัง เป็นสิ่งที่ผลักดันให้เราเดิน ไปข้างหน้า แล้วเราจะต่อสู้และแก้ไขปัญหาที่มันเกิดขึ้น

อัยยูบ อิลาชาญ : นักพัฒนาเอกชน สิ่งส�ำคัญคือเราต้องกลับมาค้นหาตัวเราเองมาศึกษาตัวเรา เอง ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้จักตัวเอง ว่าเรามาจากไหน เรา มาท�ำอะไร แล้วเราก�ำลังจะไปไหน อันนี้คือโจทย์ที่เราจะต้อง ค้นหา เราไม่ได้มาอยู่ที่นี่ตลอดกาล และเราต้องเข้าใจว่าบท ทดสอบต่างๆ มาจากอัลลอฮฺและพระองค์ทรงดูว่าเราจะผ่าน มันได้อย่างไรและด้วยวิธกี ารไหน เมือ่ เราเข้าใจตัวเองรูจ้ กั ตัวเอง เรามีทัศนคติต่ออุปสรรคที่คนส่วนใหญ่มักจะมองว่าเป็นความ ทุกข์ว่าเป็นเพียงแค่บททดสอบ เมื่อเราเข้าใจสิ่งนี้แล้ว เราจะมี ชีวิตดีขึ้น ชีวิตที่พัฒนามากขึ้น และมีอีหม่าน(ศรัทธา)มากขึ้น

16


ถ้าย้อนกลับไปดูผคู้ นในยุคสมัยของท่านนบีมฮู มั มัดเขาไม่ได้ กลัวความยากจน แต่สิ่งที่เขากลัวคือเขาไม่สามารถที่จะท�ำดีได้ เหมือนคนทีม่ งั่ มี ครัง้ หนึง่ มีคนจนเข้าไปหาท่านศาสนทูต ไปร้อง ต่อท่านนบีว่า ตอนนี้คนที่ร�่ำรวยเขาได้ท�ำความดีล�้ำหน้าเราไป แล้ว เขาละหมาดเหมือนพวกเรา เขาถือศีลอดเหมือนพวกเรา ความดีอื่นๆ เขาท�ำเหมือนเรา แต่สิ่งหนึ่งที่เราท�ำไม่ได้คือการ จ่ายซะกาต เขาไปร้องขอต่อท่านนบีไม่ใช่เพื่อให้นบีขอให้เขา รวยนะ แต่วา่ ไปร้องเพราะอยากรูว้ า่ เขาจะมีโอกาสได้ทำ� ความ ดีได้เท่ากับคนร�ำ่ รวย เท่ากับคนทีเ่ ขาได้บริจาคหรือเปล่า วิธคี ดิ ของคนในยุคก่อนนี่ปัญหาของเขาไม่ได้อยู่ที่ว่าใครจนกว่าใคร รวยกว่า ใครแต่ปญ ั หาของเขาอยูท่ วี่ า่ ใครจะท�ำความดีให้กบั คน อืน่ ได้มากกว่ากัน ท่านนบีกบ็ อกกับชายผูน้ นั้ ว่า ฉันบอกกับท่าน หรือว่าการบริจาคนัน้ ท�ำได้แค่เฉพาะเงิน ค�ำพูดทีด่ กี ถ็ อื เป็นการ บริจาค การร�ำลึกถึงอัลลอฮฺก็เป็นการบริจาค การช่วยเหลือคน ที่ก�ำลังต้องการความช่วยเหลือถึงแม้ว่าการช่วยเหลือนั้นไม่ใช่ ด้วยเงินก็เป็นการท�ำทาน การส่งเสริมให้คนอื่นท�ำความดีหรือ การยับยั้งคนอื่นไม่ให้ท�ำชั่วก็เป็นการท�ำทาน นี่คือการท�ำทาน ส�ำหรับคนยากจน มันท�ำให้เขารู้ว่าโอกาสในการท�ำความดีมัน มีเท่ากัน เพียงแต่รูปแบบจะแตกต่างกันเท่านั้นเอง ฉะนั้นถาม ว่าการที่เขาไปร้องขอต่อท่านนบี มันสอนอะไรเรา มันสอนว่า เขาไม่ได้อยากมีเหมือนคนที่มีเพียงเพื่อจะครอบครอง แต่เขา อยากมีเพราะเขาจะได้ท�ำประโยชน์ได้มากเหมือนคนรวยเหล่า นัน้ ต่างหาก ค�ำถามส�ำคัญคือ ทุกวันนีเ้ รามีมมุ มองต่อความรวย และความจนเหมือนกับคนในอดีตหรือเปล่า บททดสอบที่ 2 : ความมัง่ มีศรีสขุ อ.ยูนุส วารีย์ อาจารย์โรงเรียนจิตต์ภักดี เชียงใหม่ ทีจ่ ริงแล้วในความสุขก็เป็นบททดสอบ และบางครัง้ เป็นการ ทดสอบที่อันตรายกว่าความทุกข์เสียอีก คือคนเราพอมีความ ทุกข์ ใจเค้าจะนึกถึงสิ่งยืดเหนี่ยวและนึกถึงพระเจ้า วิงวอนขอ แต่จากพระองค์ พยายามแก้ไขตัวเองในสิ่งไม่ดี แต่ในทางกลับ กัน เมื่อคนเราเริ่มได้รับความสบาย ตอนนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ ว่าคนเรามีความอยาก ตอนนี้ฉันมีเงินแล้ว ฉันจะต้องมีบ้านฉัน จะต้องมีรถ จากรถทีค่ นั เล็กๆ ฉันเริม่ รูส้ กึ ไม่พอใจต้องรถคันใหญ่ จากยีห่ อ้ ธรรมดาต้องยีห่ อ้ หรูขนึ้ อันนีก้ ารทดสอบเริม่ เข้ามา คนเรา พอมีความสุขเค้าก็มักจะใช้สิ่งที่เค้ามีไปท�ำในสิ่งมัน ไม่ดีไม่งาม หรือว่าหลงลืมทีจ่ ะขอบคุณต่อพระเจ้าว่าความสุขทัง้ หลายทีเ่ ค้า ได้รับนั้นมาจากพระผู้เป็นเจ้า ไม่ต้องเอาอะไรมาก เราตื่นเช้าขึ้นมาร่างกายเรายังสมบูรณ์ ยังเดินได้เหมือนเดิม ยังพูดได้เหมือนเดิม ยังสามารถหายใจได้

คนส่วนใหญ่ไม่รจู้ กั ตัวเอง ว่าเรามา จากไหน เรามาท�ำอะไร เราก�ำลังจะ ไปไหน อันนี้คือโจทย์ที่เราจะต้อง ค้นหา เราไม่ได้มาอยูท่ นี่ ตี่ ลอดกาล

เรายังเป็นปกติ อันนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีในชีวิต แล้วคนเราเคย นึกถึงความดีอันนี้ไหม บางคนพอตื่นเช้าขึ้นมานึกถึงแต่ว่าฉัน จะกินอะไรดี เดี๋ยวลูกฉันต้องไปโรงเรียนฉันจะเอาเงินตรงไหน ให้ คือยังไม่ได้คิดถึงความดีในชีวิตของตัวเอง แต่ไปนึกถึงสิ่งที่ ไม่ดกี อ่ นและผลก็คอื ชีวติ เค้าจะหม่นหมองไปทัง้ วัน ฉะนัน้ ความ ดีเป็นบททดสอบว่าเค้าตระหนักถึงความดีอันนั้นไหม และ ขอบคุณทีไ่ ด้รบั มันไหม คนทีข่ อบคุณความดีทพี่ ระเจ้าให้แก่เค้า เค้าจะไม่ใช้มันไปทางที่ไม่ดีไม่งาม ยกตัวอย่างเค้ามีเงินมีทอง เค้าก็จะไม่ไปซื้อสิ่งที่ไม่ดี ซื้อของที่ท�ำลายสุขภาพพวกสุรา ยาเสพติด เค้าจะไม่ใช้เงินไปซื้อของฟุ้งเฟ้อ จากกระเป๋าใบละ ไม่กี่ร้อยก็ใช้ได้กลายเป็นว่าต้องใช้แบรนด์เนม ต้องเป็นยี่ห้อดัง ราคาเป็นแสนเป็นล้าน ซึง่ มันก็เกินความจ�ำเป็น ฉะนัน้ นีค่ อื การ ทดสอบทีพ่ ระเจ้าทดสอบคนทีม่ งั่ มี คนทีม่ คี วามสุขมีความสบาย ในชีวิตว่าเค้าจะท�ำอย่างไร ถ้าเราไปดูในประวัติศาสตร์ ประชาชาติทั้งหลายก่อนหน้า เราที่ประสบกับความพินาศประสบกับความเสียหาย สาเหตุ หลักมาจากความสบาย ความสุขที่เค้ามีทั้งนั้น ตอนช่วงที่เค้า ยากล�ำบากพวกเค้าก็ยังเคร่งครัดในเรื่องศาสนามีพระเจ้าอยู่ ในใจ แต่พอเริม่ มัง่ คัง่ ร�ำ่ รวยปุป๊ คนทีร่ วยเริม่ ยโสโยโอหัง เริม่ รูส้ กึ ว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น บางคนถึงขั้นคิดว่าตัวเองคือพระเจ้า ฉะนัน้ อิสลามจะเตือนสติมสุ ลิมอยูเ่ สมอว่าเมือ่ ไหร่กต็ ามทีเ่ ราได้ รับความพึงพอใจ สิ่งแรกที่เราต้องท�ำคือขอบคุณพระเจ้า การ ขอบคุณพระเจ้าคือสิ่งที่ท�ำให้เราตระหนักว่าทั้งหมดนี่ไม่ใช่ ความสามารถของเรา หากพระองค์ประสงค์จะให้มันล่มสลาย ก็สามารถท�ำได้ในพริบตา 17


กรณีศกึ ษา : บททดสอบแห่งชีวติ บททดสอบความเป็นครู ของ อ.มุฮมั หมัด บินต่วน “ทีจ่ ริงแล้วบริบทของชีวติ มุสลิม ไม่วา่ เขาจะเป็นบุคคลทีอ่ ยู่ ในกรอบของศาสนา หรือว่าไม่ได้อยูใ่ นกรอบของศาสนาแน่นอน ชีวิตของเราทั้งหมดเป็นการทดสอบทั้งสิ้นนะ อย่างที่อัลกรุอาน ได้กล่าวว่า มนุษย์คิดหรือว่าเมื่อเขากล่าวว่าเขาศรัทธาแล้ว เขา จะไม่ถูกทดสอบ แต่บริบทของการทดสอบนั้น ไม่ได้แปลว่าเมื่อ เรารู้ว่าสิ่งนี้เป็นการทดสอบจากพระผู้เป็นเจ้าแล้วเราจะนั่งอยู่ เฉยๆ ไม่ท�ำอะไร หรือเราเห็นเด็กไม่ตั้งใจเรียน เด็กติดเกมมี ลักษณะของการไปเสพยาเสพติดแล้วเราจะมาบอกว่านี่คือบท ทดสอบจากอัลลอฮฺโดยที่เราไม่เข้าไปแก้ไขเลยไม่ได้ บริบทของ การแก้ไขปัญหาที่อัลกุรอานได้บอกไว้คือการปรามสิ่งที่เลวร้าย เราก็ต้องท�ำหน้าที่กันไป ในส่วนของการถูกทดสอบมันก็ถูก ทดสอบทัง้ สองฝ่าย คนทีเ่ ป็นครูกต็ อ้ งยอมรับว่าตัวเองจะต้องมา เจอกับลูกศิษย์ทมี่ ปี ญ ั หาหลายๆ ด้าน มีปญ ั หาทัง้ ทางครอบครัว มีปญ ั หาทัง้ ทางสมอง มีปญ ั หาทัง้ ทางด้านของอารมณ์ โดยเพราะ เรื่องของอารมณ์ส�ำคัญมาก ก็ถือว่าคนที่เป็นครูเค้าก็ถูกทดสอบ เหมือนกัน แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ตอ้ งหาวิธแี ก้ไขในสิง่ ทีด่ ที สี่ ดุ เป็นบริบททีท่ งั้ ครูทงั้ ผูป้ กครองของเด็กจะต้องหาวิธแี ก้ไขร่วมกัน เพื่อให้ผ่านบททดสอบไปได้” อ.มุฮัมหมัด บินต่วน เป็นคนใต้ที่ไปใช้ชีวิตอยู่ภาคเหนือ เขา เป็นครูสอนศาสนาในโรงเรียนจิตต์ภักดี โรงเรียนสอนศาสนา กลางเมืองเชียงใหม่ ทีน่ นี่ อกจากการประสิทธิป์ ระสาทวิชาความ รู้ตามหน้าที่หลักของความเป็นครูแล้ว อ.มุฮัมหมัด ยังใส่ใจใน เรื่องราวของลูกศิษย์ลูกหาอีกด้วย

มนุษย์คิดหรือว่าเมื่อเขากล่าวว่า เขาศรัทธาแล้ว เขาจะไม่ถกู ทดสอบ

แท้จริงทุกชีวติ ต้องกลับคืนสูอ่ ลั ลอฮฺแล้ว อัลลอฮฺทรงเมตตาแล้ว หมายถึงเมตตาที่เอาลูกเราไป เรามีความรู้สึกว่ามันเป็นความ เมตตาค่ะในวันนั้น ถึงแม้เราจะเสียใจ แต่เราก็คิดว่านั่นเป็นบท ทดสอบแรกที่หนักมากส�ำหรับตัวเราและสามี เพราะว่าเราอยู่ ด้วยกันมา 6 ปีเราไม่เคยมีน้องเลยค่ะ จนกระทั่งมารับอิสลาม เราเจอกับ เมย์ หรือ อรรัมภา ลอมบาร์ต ที่มัสยิดอัตตักวา จ.เชียงใหม่ จากการแนะน�ำของพีน่ อ้ งมุสลิมในเชียงใหม่ เมย์ เป็น มุอลั ลัฟหรือผูเ้ ข้ารับอิสลาม ท�ำให้บททดสอบชีวติ ของเธอน่าสนใจ และทีน่ า่ สนใจไปกว่านัน้ เธอบอกว่า เธอรับอิสลามพร้อมกับสามี ที่เป็นชาวต่างชาติ บททดสอบความรับผิดชอบ ของ อัยยูบ อิลาชาญ “ทุกๆ ชีวิตที่มาสัมผัสเราเป็นบททดสอบทั้งหมด เราจะได้ยิน แต่เสียงของตัวเองไม่ได้ เราต้องได้ยินเสียงของคนอื่นด้วย และ ก็สัมผัสชีวิตเค้า ผมคิดว่าวิกฤติชีวิตของมนุษย์ไม่สามารถฟันฝ่า ได้โดยล�ำพัง ความส�ำคัญของการเป็นมุสลิมคือเราจะเดินไปด้วย กันได้อย่างไร เราคงจะไม่ผ่านดุนยาเพียงล�ำพัง ท่านนบีมุฮัมมัด ก็ไม่ได้ผ่านดุนยานี้โดยล�ำพัง ท่านมีบรรดาสาวกที่จะเดินเคียง ข้าง ดังนั้นเราจะท�ำอย่างไรให้เราเป็นอุมมะห์(ประชาชาติ)ที่จะ เดินเคียงข้างและประคับประคอง ไม่ซ�้ำเติมกันและกัน กระทั่ง เรากลับไปสู่พระพักตร์ของอัลลอฮฺ ผมคิดว่า บทเรียนชีวิตตลอดเวลาที่ท�ำงานช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ หรือผูใ้ ช้สารเสพติด มันเป็นสิง่ ทีท่ ำ� ให้เราใจกว้างขึน้ เราเห็นความ เดือดร้อน เห็นวิกฤติชวี ติ ของคน ท�ำให้เราเข้าใจ บางคนไม่เข้าใจ คิดว่าการทดสอบเป็นเรื่องใหญ่ ผมนึกถึงเวลาท�ำข้อสอบ เราจะ เห็นโจทย์เห็นค�ำตอบเยอะแยะ บางคนกาผิดบางคนกาถูก แต่ ท้ายทีส่ ดุ มันคือเรือ่ งของคะแนน ค�ำถามแทบจะไม่มคี วามหมาย เลย การทดสอบของคนอืน่ อัลลอฮฺกท็ ดสอบเราด้วย เราจะท�ำยัง ไง เมือ่ เห็นสถานการณ์ของคนอืน่ เป็นแบบนี้ เราเลือกทีจ่ ะซ�ำ้ เติมเค้า ไหม เราเลือกที่จะอยู่เฉยไหม หรือเราเลือกที่จะไปช่วยเหลือเขา พระองค์ไม่ได้บงั คับเรา แต่พระองค์มองเรา พระองค์ทรงมองอยู่ ว่าเราจัดการกับบททดสอบนั้นได้อย่างไร ดังนั้นการทดสอบ

บททดสอบความศรัทธา ของ อรรัมภา ลอมบารต์ “บททดสอบทีอ่ ลั ลอฮฺให้มาบทแรกเลยหลังจากทีเ่ ราเป็นมุสลิม คือช่วงทีเ่ ราเริม่ ตัง้ ครรภ์ พอตัง้ ครรภ์ได้ 4 เดือนหมอก็บอกว่า ผล เอกซเรย์ออกมาวันนั้น ก็คือก่อนหน้านั้นเราเจ็บท้องมากจนเรา ลุกไม่ไหว ในช่วงอัสริเราไม่สามารถลุกละหมาดได้แต่ว่ามันเป็น ฟัรดูก็คือมันจ�ำเป็นใช่ไหมค่ะเราก็เลยเหนียต(ตั้งเจตนา)กับ อัลลอฮฺวา่ โอ้อัลลอฮฺขอพระองค์ได้โปรดประทานความอดทนให้ แก่ข้าพระองค์ที่จะลุกขึ้นละหมาดด้วยเถิด แล้วอาการเจ็บท้อง มันก็หายไปเลย แล้วเราก็สามารถละหมาดจนเสร็จ หลังจากนัน้ อีก 2 สัปดาห์เราไปพบหมอ แล้วคุณหมอก็อลั ตร้าซาวด์แล้วบอก ว่าลูกเราไม่ปกติ พอได้ยินหมอบอกแบบนั้น เราก็คิดในใจว่าเขา คงจะพิการก็ไม่เป็นไร เราก็อัลฮัมดุลิลลาฮฺ อัลลอฮฺให้เท่านี้ก็ อัลฮัมดุลิลลาฮฺขอบคุณในความเมตตาของอัลลอฮฺ แต่คุณหมอ ก็บอกเราอีกว่าเขาเสียชีวิตแล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งก็คือ วันนัน้ วันทีเ่ ราได้เจ็บท้อง ความรูส้ กึ แรกทีเ่ ราคิดเลยคือ อัลฮัมดุลลิ ลาฮฺ 18


ไม่ใช่การทดสอบคนคนเดียว แต่ว่าทดสอบคนทั้งสังคม คนทั้ง ชุมชน ว่าท�ำไมสังคมมุสลิมถึงนิง่ ดูดาย พระองค์ทดสอบทัง้ ระดับ ปัจเจก ทั้งระดับอุมมะห์ด้วย ผมคิดว่าการแสวงหาความรู้เป็นกุญแจส�ำคัญที่จะน�ำไปสู่ ความส�ำเร็จ และต้องเปิดใจทีจ่ ะเรียนรู้ วันนีเ้ รารังเกียจทีจ่ ะเรียน รูศ้ าสตร์อนื่ ๆ เราอาจชืน่ ชมศาสตร์ทมี่ อี ยูใ่ นเฉพาะศาสนา อยูใ่ น กุรอาน อยู่ในฮะดิษ แต่วันนี้เราต้องเปิดใจที่จะเรียนรู้ศาสตร์ ต่างๆ มากมาย วันนี้แม้กระทั่งผู้ติดเชื้อ HIV เราก็ต้องรอฝรั่ง ผลิตยาให้ ทั้งๆ ที่ฝรั่งก็ไม่ได้มีอะกีดะห์(หลักศรัทธา)ที่เชื่อว่าทุก โรคมียารักษา เค้าก็ไม่รู้ เค้าก็ไม่มั่นใจ แต่เค้าก็ลงมือท�ำ ในขณะ ที่มุสลิม ลองไปถามเด็กฟัรดูอีน(โรงเรียนสอนพื้นฐานอิสลาม)ปี ไหนก็ได้ ว่าโรคทุกโรคมีทางรักษาไหม ทุกคนพยักหน้าว่ามี แต่กลาย เป็นทุกวันนีเ้ รายังต้องรอการรักษาจากโลกตะวันตกอยู่ และในขณะ ที่เรารอเทคโนโลยีจากเค้าเรากลับยังประณามเค้าอยู่ ผมคิดว่า เราต้องเลิกวิพากษ์เพียงแค่คนอืน่ และหันกลับมาวิพากษ์ตวั เรา เองบ้าง ว่าท�ำไมเราอยู่อย่างนี้ ท�ำไมเราถึงไม่พัฒนาสักที ท�ำไม เราถึงไม่เจริญ วิพากษ์ตัวเราเองก่อน ยังไม่ต้องถึงกับวิพากษ์ สังคมมุสลิม แล้วก็ตอ้ งลงมือท�ำหลังจากวิพากษ์ตวั เอง ผมคิดว่า อันนี้คือสิ่งที่ส�ำคัญ อัยยูบ อิลาชาญ เป็นชาวมุสลิมภาคเหนือ พืน้ ทีท่ มี่ สุ ลิมเป็น เพียงคนกลุ่มน้อยในสังคม แต่ด้วยความที่มีจ�ำนวนน้อย สังคม ของมุสลิมภาคเหนือจึงมีความเข้มแข็งและน่าเรียนรู้ นอกจาก นัน้ อัยยูบ ยังมีบทบาทอย่างสูงในงานด้านการดูแลผูต้ ดิ เชือ้ HIV และผูต้ ดิ สารเสพติดทีเ่ ป็นมุสลิม และนัน่ ก็ทำ� ให้บททดสอบชีวติ ของอัยยูบดูน่าสนใจ บททดสอบความรัก ของ รอมละห์ แซเยะ บททดสอบที่ เราเจอคื อ สามี ถู ก สั ง คมตราหน้ า ว่ า อยู ่ ใ น ขบวนการผู้ก่อความไม่สงบ โดนจับในคดีความมั่นคง ชายแดน ใต้ ถือว่าเป็นบททดสอบใหญ่ของเรา เรามองมันสองอย่าง หนึ่ง คือถ้าถูกทดสอบโดยสังคม เรารับไม่ได้ และเรามีความรู้สึกว่า สังคมไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับเรา ดังนั้นสิ่งทีเ่ ราเรียกร้องก็คือ

สังคมต้องให้ความเป็นธรรมให้ได้ และเราก็เรียนรู้กับมันว่า เรา จะเรียกร้องความเป็นธรรมอย่างไร อย่างที่สองคือเรายังยิ้มอยู่ ได้ เพราะเรารับได้กบั ศรัทธาทีพ่ ระเจ้าก�ำลังทดสอบเรา เรามอง ว่าพระเจ้าก�ำลังจะให้บทเรียนอะไรกับเราบ้าง ดังนั้นชีวิตคู่ของเราตอนนี้ เราก�ำลังเรียนรู้กับมันว่าเราจะ อดทนกันได้หรือเปล่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้มันเกิดในขณะที่เรายัง ไม่ทันมีลูกด้วยกัน มันไม่มีอะไรผูกมัดระหว่างเราเลย นอกจาก ความเป็นสามีภรรยาทีถ่ กู ต้องตามกฎหมายตามหลักการอิสลาม และชีวิตดูเหมือนเหมือนกลับไปสู่อิสระอีกครั้ง สมมุติว่า ถ้าเรา จะขอเลิก สามีแทบจะหน่วงรั้งเราไม่ได้เลยนะ เพราะเค้าดูแล เราไม่ได้ มันก็ถือว่าเป็นบททดสอบ แต่เราก็กลับมาถามตัวเอง ว่า เราก็ไม่มีเหตุผลที่จะท�ำอย่างนั้น สามีเราผิดอะไร ตราบใดที่ เรายังหาค�ำตอบกับสังคม และสังคมยังให้คำ� ตอบเราไม่ได้ เราก็ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องขอโทษสามีตัวเอง บ่อยครัง้ เราเองก็รสู้ กึ เหมือนสติหายไปเลย เพราะครัง้ แรกที่ เกิดเรือ่ งกับสามี รูส้ กึ ได้เลยว่า มันงงๆ มันมีคำ� ถามร้อยแปดพันเก้า เข้ามาในสมอง ทีจ่ ริงๆ แล้วค�ำถามเหล่านีม้ นั เกิดขึน้ กับเราตัง้ นาน แล้วนะ ตัง้ แต่เราไปเยีย่ มครอบครัวผูส้ ญ ู เสียในช่วงปีแรกๆ ของ เหตุการณ์ความไม่สงบ และมันมีค�ำถามเป็นร้อยเป็นพันเข้ามา ในสมอง ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถ้าเกิดกับเราจะรับได้ไหม เราถาม ตัวเองมาตลอด 10 ปี จนวันนี้เกิดเรื่องแบบนี้กับสามีเราเอง สิง่ ทีท่ ำ� ให้เรายังยิม้ อยูไ่ ด้ในวันนีก้ ค็ อื เรามองว่าบททดสอบที่ อัลลอฮฺก�ำลังทดสอบเรา จะท�ำให้เรามีอีหม่านเพิ่มขึ้น ท�ำให้เรา เรียนรู้และรู้สึกเข้มแข็งขึ้น รอมละห์ แซเยะ เป็นภรรยาของ อันวาร์ หรือ มูฮัมหมัด อัณวัร หะยีเต๊ะ นักกิจกรรมเพื่อสังคมชายแดนใต้ ผู้ตกเป็น ผูต้ อ้ งขังในคดีความมัน่ คง มีโทษจ�ำคุกถึง ๑๒ ปี กว่าสองปีที่ รอมละห์ ต้องถูกพรากสามีไปด้วยสิ่งที่เธอเรียกว่า “ความไม่เป็นธรรม” เธอต้องต่อสู้ทั้งทางคดี ทั้งทางสังคม และที่ส�ำคัญ เธอต้องต่อสู้ กับอารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง การเรียนรู้จากบททดสอบ ชีวิตของเธอจึงมีคุณค่า //// 19


20


21


Halal Trip

Juicymar - mrs.boonchom@gmail.com

หนีสงกรานต์ ไปตามหาเธอ “Volcano” ปีนี้วันหยุดยาวมากมายเหลือเกิน จนท�ำให้เราวางแผนการเดินทางกันอย่างไม่ หวาดไม่ไหว และในช่วงเทศกาลวันปีใหม่ไทย หรือ เทศกาลสงกรานต์ ก็เป็นอีก หนึง่ ช่วงเวลาทีเ่ ราตัดสินใจเดินทางไปเยือนดินแดนอิเหนา หรือประเทศอินโดนีเซีย หนึ่งในประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิม มากที่สุดในโลก และยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรม

ทริปนี้เราเลือกเดินทางไปยังเกาะชวา ตะวันออก (East Java) เพราะตัง้ ใจเหลือเกิน ว่าจะขอพิชิตภูเขาไฟอันยิ่งใหญ่ให้ได้ เรา เดินทางโดยสายการบิน Low Cost หางแดง จากกรุงเทพฯสู่เมืองหลวง Jakarta และ ต่อเครือ่ งบินโดยสารภายใน สูเ่ มือง Surabaya ทริปนีเ้ ราใช้บริการรถเช่าพร้อมคนขับ คนขับของเราเป็นชายมุสลิมรุน่ พ่อ ดูทา่ ทาง ใจดี หน้าตายิม้ แย้ม แต่...พูดภาษาอังกฤษ แทบไม่ได้เลย แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคของ เราเลยซักนิดค่ะ เราให้สลาม กับคุณลุง คุณลุงดูดใี จ ทีร่ วู้ า่ เราคือมุสลิมจากเมืองไทย

และให้บริการพวกเราอย่างดี อย่างว่า แหละ ก็เราเป็นพี่น้องกันทั่วโลกนี่เนอะ เราเดินทางออกจากสุราบาย่า เพือ่ ไป ยังจุดหมายปลายทางแรกของเรา คือ ภูเขา ไฟโบรโม่ ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Probolinggo ห่างจากสุราบาย่าประมาณ เกือบ 200 กม. เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม. ก็ถงึ หมูบ่ า้ น Cemoro Lawang หมูบ่ า้ นเล็กๆ กลางหุบเขา ทีม่ อี ากาศหนาวเย็นตลอดปี ซึ่งเป็นที่พักของเราในคืนนี้ บริเวณที่พัก ของเรามองเห็นวิวภูเขาไฟโบรโม่ได้อย่าง ชัดเจนมาก อัลฮัมดุลลิ ลาฮ! สวยงามจริงๆ 22

นีแ่ ค่ววิ จากทีพ่ กั ยังสวยงามขนาดนี้ ไม่อยาก จะนึกเลยว่าถ้าได้ไปเห็นใกล้ๆ จะสวยงาม และยิ่งใหญ่แค่ไหน เช้านี้เราตื่นกันตั้งแต่ตี 2 เพราะต้อง เดินทางไปยังจุดชมวิว Penanjakan ทีจ่ ะมอง เห็นภูเขาไฟทัง้ 3 ลูกได้ชดั เจน นักท่องเทีย่ ว จากทั่วโลกมากมายเหลือเกินในวันนี้ เรา จึงเลีย่ งผูค้ นมายังด้านหลังของจุดชมวิว ที่มี นักท่องเที่ยวเพียงไม่กี่คน เพียงแค่ไม่กี่ นาที สายหมอกและความมืดที่ปกคลุม ภูเขาไฟทัง้ 3 ลูกทีอ่ ยูเ่ บือ้ งหน้าเรา ก็คอ่ ยๆ จาง และสว่างขึ้นทีละน้อย ความสวยงาม


ทีถ่ กู สรรสร้างโดยเอกองค์อลั ลอฮฺ ก็ปรากฏ ต่ อ หน้ า สายตาพวกเรา มาชาอั ล ลอฮฺ ! งดงามและยิ่งใหญ่มากเหลือเกิน ภูเขาไฟ ทั้ง 3 ลูก ประกอบด้วย ภูเขาไฟ Batok ที่ ดับไปแล้ว ภูเขาไฟ Bromo ที่เคยปะทุไป เมือ่ ไม่นานมานี้ และพร้อมทีจ่ ะปะทุได้อกี ทุกเมือ่ และภูเขาไฟ Semeru ทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ ทีร่ อคอยการปะทุอกี ครัง้ ซึง่ ตอนทีเ่ ราขึน้ ไป ควันโขมงที่ออกมาจากปากปล่องก็ลอย ล่องออกมา เสมือนว่า ก�ำลังทักทายนัก ท่องเทีย่ วทีเ่ ดินทางมายังทีน่ .ี่ ..จากนัน้ เรา ได้นั่งรถจี๊ปมุ่งหน้าสู่เบื้องล่าง เพื่อไปยัง ภูเขาไฟ Bromo เราตัดสินใจขี่ม้าขึ้นไป ยังปากปล่อง อากาศหนาวเหน็บเหลือเกิน

สายหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณ ระหว่าง ทีเ่ ราขึน้ ไปยังปากปล่องภูเขาไฟทีอ่ ยูเ่ บือ้ ง หน้า ได้บรรยากาศไปอีกแบบเหมือนกัน. เราได้เห็นภาพภูเขาไฟ Bromo จากมุม สูงสุด มองลงไปเบือ้ งล่างดูสวยงามแปลกตา พร้อมกับยังคงมีเสียงคล้ายน�้ำเดือดปุดๆ ควันทีล่ อยฟุง้ อยูต่ ลอดเวลา ธรรมชาติอนั สวยงามราวกับแดนสวรรค์ของทีน่ ี่ ท�ำเอา พวกเราเคลิ้มไปกับมันจริงๆ

หลังเดินทางกลับมาสูท่ พี่ กั พวกเราก็ รูส้ กึ หิวกันมาก เพราะตืน่ กันตัง้ แต่เช้ามืด ด้านหน้าของทีพ่ กั เรา มีรถเข็นขายอาหาร ท้องถิ่น เราเลือกที่จะลองเมนูพื้นเมือง ของทีน่ ่ี นัน่ ก็คอื “Bakso” ก็ ก๋วยเตีย๋ วน�้ำ บ้านเรานีแ่ หล่ะ หน้าตาบวกรสชาติถอื ว่า ใช้ได้เลยทีเดียว ราคาตกเป็นเงินไทย ประมาณ 25 บาท แหม่! มันช่างเข้ากันดี กับอากาศหนาวๆ แบบนีซ้ ะจริง พูดค�ำเดียว ฟินน์! หลังจากเข้าทีพ่ กั แล้ว ท้องอิม่ แล้ว เราก็อาบน�้ำอาบท่าเก็บสัมภาระ และ พร้อมเดินทางมุ่งหน้าสู่อีกหนึ่งจุดหมาย ปลายทางของเรา และที่นั่นก็คงก�ำลังรอ คอยพวกเราอยู่เช่นกัน “Kawah Ijen”

มาชาอัลลอฮฺ ! งดงามและยิง่ ใหญ่มากเหลือเกิน ภูเขาไฟทั้ง 3 ลูก Batok ที่ดับไปแล้ว Bromo ที่เคยปะทุไปเมื่อไม่นานมานี้ และพร้อมที่จะปะทุ ได้อกี ทุกเมือ่ Semeru ทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ ทีร่ อคอยการปะทุ อีกครั้ง

23


“Kawah Ijen” ตัง้ อยูใ่ นเมือง Banyuwangi ซึ่งห่างจากเมือง Probolinggo ที่ ตั้งของภูเขาไฟ Bromo พอสมควร ใช้ เวลาเดินทางถึง 6-7 ชัว่ โมง กับสภาพถนน ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก กว่าเราจะเดินทางมา ถึง ก็พลบค�ำ่ พอดี ทีพ่ กั ของเราอยูท่ า่ มกลาง หุบเขาป่าดิบชื้น สภาพอากาศเย็นและ ชื้นมาก ต่างจากที่ Bromo โดยสิ้นเชิง ที่พักของเมืองนี้มีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น เรารีบเช็คอินและพักผ่อนทันที เพราะเรา ต้องตื่นกันตั้งแต่เที่ยงคืน เพื่อออกเดิน ทางไปยัง Kawah Ijen ในเวลาตี 1 ภายใน คืนนั้นเลย สิ่งที่เราตั้งใจมากที่สุดกับการ เดินทางมาที่แห่งนี้ คือการได้ไปชม Blue Frame ซึ่ ง เป็ น ปรากฏการณ์ เ ปลวไฟ สีนำ�้ เงิน จากการละลายของลาวาก�ำมะถัน ที่หาชมได้ยากมาก มีเพียง 2 แห่งในโลก เท่านัน้ แต่วนั ทีเ่ ราเดินทางจะเรียกว่าโชคดี หรือโชคร้ายดีหล่ะ ไกด์ท้องถิ่นได้แจ้งกับ เราว่า วันนีไ้ ม่อนุญาตให้นกั ท่องเทีย่ วเดิน ลงไปด้านล่างของภูเขาไฟ Ijen เพราะมี นักท่องเทีย่ วประสบอุบตั เิ หตุถกู ประกาย ลาวาปะทุใส่เมือ่ วันก่อน จึงท�ำให้ทางการฯ สัง่ ห้ามนักท่องเทีย่ วลงไปชม Blue Frame แต่ ส� ำ หรั บ เราถื อ ว่ า อั ล ฮั ม ดุ ลิ ล ลาฮฺ

Kawah Ijen ท�ำให้เรา มีคำ� ถามอยูใ่ นใจตลอด จนถึงทุกวันนี้ว่ามันใช่ โลกมนุษย์จริงๆ หรอ นี่มนั คือ อาณาจักรต่าง ดาวชัดๆ ! เราโชคดีมากกว่า เพราะถ้าลาวาเกิดปะทุ เอาวันที่เราลงไปหล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น ถึงอย่างไรทริปนีก้ ไ็ ม่เสียเปล่า เพราะ เราสามารถขึน้ ไปยังยอดของ Ijen Creator ได้ แต่เส้นทางการเดินเท้า ค่อนข้างยาก ล�ำบากพอสมควร และต้องเดินกันในช่วง เวลากลางคืน ด้วยสภาพทางอันลาดชัน กับระยะทาง 3 กิโลเมตร ต่อเนื่อง ทั้งยัง อบอวลไปด้วยกลิน่ ก�ำมะถันทีท่ ำ� เอาแสบ ไปทั้งตาและจมูก ยิ่งท�ำให้เรามีอุปสรรค มากเข้าไปอีก ตัดก�ำลังกันอีกสินะ ท�ำเอา เราเกือบถอดใจไปหลายครัง้ แต่ไหนๆ มา ถึงขนาดนี้แล้ว เราต้องพิชิตมันให้ได้! 24

แต่ในระหว่างทาง ฟ้าเปิด จนท�ำให้ เห็นดวงดาวระยิบระยับ กับทางช้างเผือก ทีป่ รากฏให้เห็นเด่นชัดมากตรงหน้า นีค่ อื ครั้งแรกในชีวิตของพวกเราที่ได้เห็นทาง ช้างเผือกเต็มตาขนาดนี้ มันช่างสวยงาม จนมิอาจสามารถบรรยายออกมาได้จริงๆ เราเดินกันจนฟ้าเริ่มสาง แสงสว่างท�ำให้ เราเห็นภาพของภูเขาไฟทีย่ งั Active ล้อม รอบตั ว เราถึ ง 7 ลู ก ด้ ว ยกั น บางลู ก ทักทายพวกเราในยามเช้าด้วยการพ่น ควันออกมา ภาพแบบนี้คงไม่ได้เห็นกัน ง่ายๆ สินะ ถ้าเราไม่ได้มาที่นี่...หลังจาก นั้นในช่วงสายๆ นักท่องเที่ยวจะได้เห็น ภาพการเก็บก�ำมะถัน ซึ่งจะมีคนงาน รับจ้างแบกก�ำมะถัน ขึ้นมาจากปล่อง ภูเขาไฟด้านล่าง น�้ำหนักของก�ำมะถัน ต่อก้อน ไม่ตำ�่ กว่า 80 กิโลกรัม เดินขึน้ -ลง กับเส้นทางที่แสนยากล�ำบาก เพียงเพื่อ แลกกับค่าจ้างอันน้อยนิด เมื่อเทียบกับ การเสี่ยงอันตรายที่พวกเขาต้องเผชิญ น่าเห็นใจพวกเขาจริงๆ ค่ะ พอฟ้าเริ่มสาง เราได้ชมวิวทิวทัศน์ ที่สวยงามกับทะเลสาบสีเขียวมรกตที่อยู่ ใกล้ๆ กับปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งเมื่อแดด ยิง่ จัดผืนน�ำ้ ในทะเลสาบสีกย็ งิ่ เข้มขึน้ นับว่า เป็นความสวยงามที่แฝงเร้นด้วยพิษภัย อั น ตรายที่ ต ้ อ งพึ ง ระวั ง เป็ น อย่ า งมาก เชียวหล่ะ แต่ความสวยงามของธรรมชาติ ที่นี่ เหมือนว่าเราอยู่นอกโลกยังไงยังงั้น ภู มิ ป ระเทศที่ แ ปลกตา กั บ ภู เขาหิ น ก�ำมะถัน เรียกได้ว่าเกินคุ้มค่าจริงๆ ที่ ตะเกียกตะกายเดินขึ้นมาจนได้ เพราะ ฉะนั้น จงมากันเถอะ Kawah Ijen ท�ำให้เรามีค�ำถามอยู่ใน ใจตลอดจนถึงทุกวันนีว้ า่ มันใช่โลกมนุษย์ จริงๆ หรอ นี่มันคืออาณาจักรต่างดาว ชัดๆ ! ////


Special Report

กองบรรณาธิ​ิการ

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจับมือ พันธมิตรจัดงาน THAIFEX World of Food Asia 2015 ครั้งที่ 12 ระหว่าง 20-24 พ.ค.นี้ ณ เมืองทองธานี ระบุใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดมา นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่าง ประเทศ เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมอาหารเป็นสินค้าส่งออกทีส่ ร้าง รายได้ให้แก่ประเทศมากทีส่ ดุ ในปี 2557 ทีผ่ า่ นมาไทยมีการส่งออก อาหารมากถึง 750,000 ล้านบาท และเพื่อผลักดันการส่งออก อาหารไทยให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทางกรมฯ จึงได้จัด งานแสดงสินค้า THAIFEX World of Food Asia 2015 ขึ้นเป็น ครัง้ ที่ 12 และถือว่าเป็นครัง้ ทีม่ กี ารจัดงานยิง่ ใหญ่ทสี่ ดุ กว่าทุกปี ที่ ผ ่ า น โดยเป็ น ความร่ ว มมื อ ระหว่ า งสภาหอการค้ า แห่ ง ประเทศไทย กับโคโลญเมสเซ ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ส�ำหรับการจัดงานในปีนี้ ได้มีการเพิ่มพื้นที่การจัดงานจาก 60,000 ตารางเมตร เป็น 70,000 ตารางเมตร และมีผู้ร่วมออก บูทในงาน 3,942 บูท จาก 1,531 บริษัท รวมถึง เชิญผู้ค้า

ในอุตสาหกรรมอาหารจากต่างประเทศมาร่วมถึง 34 ประเทศ โดยตั้งเป้าว่ามีผู้เข้าร่วมงานกว่า 100,000 ราย แบ่งเป็นในวัน เจรจาธุรกิจจะมีตัวแทนจากประเทศต่างๆ และตัวแทนจาก ประเทศไทยมาเข้าชมและเจรจาการค้ากว่า 35,000 ราย และ ตั้งเป้าผู้เข้าชมงานในวันจ�ำหน่ายปลีกอีกกว่า 80,000 คน ด้านนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า จากภาวะเศรษฐกิจ และการส่งออกของประเทศทีไ่ ม่ดนี กั การจัดงานดังกล่าวจะช่วย กระตุน้ การค้าขาย และเป็นการเปิดโอกาสในเรือ่ งของการพัฒนา อุตสาหกรรมอาหารไทยให้ดีขึ้น โดยภายในงานได้มีการจัด สัมมนาทางด้านอาหารทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ ทีเ่ คยจัดในประเทศไทย ไม่วา่ จะเป็นเรือ่ งการเพิม่ มูลค่า เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ มาร่วม ให้ความรู้ ทั้งนี้ ในปีนี้ยังได้มีการเพิ่มพื้นที่การจัดแสดงสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าว มาจัดแสดงเพื่อให้เห็นถึงนวัตกรรมมาเพิ่มมูลค่าใน สินค้าเกษตรอย่างข้าวของไทยมีการเปลีย่ นแปลงไปอย่างไรบ้าง โดยมีผู้ประกอบการด้านข้าวมาร่วมมากกว่า 10 ราย และเป็น ครั้งแรกที่ มีการจัดประกวดสุดยอดเชฟ และมีเรื่องของธุรกิจ แฟรนไชส์ ที่ จ ะเกิ ด ขึ้ น ภายในงาน เป็ น ครั้ ง แรกด้ ว ยเช่ น กั น ทั้งหมดต้องการที่จะแสดงให้เห็นว่า การจัดงาน THAIFEX World of Food ของไทยเป็นงานใหญ่ระดับเอเชีย และระดับโลก ที่ ทั่ ว โลกจะต้ อ งเดิ น ทางมา เพราะต่ อ ไปไม่ ไ ด้ มี เ พี ย งแค่ ประเทศไทย พอเป็น AEC มีกลุ่มประเทศ CLMV ที่จะมาร่วม กับเรา ดังนัน้ ผูท้ ตี่ อ้ งการสินค้าอุตสาหกรรมอาหาร อาเซียนต้อง เดินทางมางาน THAIFEX ส�ำหรับการจัดงานดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันที่ 20-22 พฤษภาคม 2558 วันเจรจาธุรกิจ และวันที่ 23-24 พฤษภาคม 2558 เป็น วันจ�ำหน่ายปลีก เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์แสดงสินค้าและ การประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี 25


The Circle อัลอัค

ตลาดอยู่ตรงไหน? แนวคิดเติมลงไปในช่องว่าง

“เอาเยี่ยงไม่ต้องเอาอย่าง” รุ่นพี่อาวุโส ในสนามการท�ำงานของผมคนหนึง่ ทีอ่ อกตับลีฆ บ่อยๆ บอกผมไว้ถงึ ประสบการณ์การท�ำงาน ตับลีฆ ท่านไม่เคยชวนผมออก แต่ได้เคยชวน ผมไปร่วม “โยร” มาแล้ว ผมก็ตามไปด้วย ความเต็มใจ ... ประโยค “เอาเยี่ยงไม่ต้องเอาอย่าง” ... ท่านได้เล่าถึงญะมาอัตเดินเท้าด้วยความ ชื่นชม แต่หันมาดูผม แล้วบอกค�ำนี้ออกมา ... นั่นหมายถึง เราไม่ต้องไปเดินเท้าหรือใช้ วิธีการแบบนี้หรอก(แน่นอนว่ามุมมองเราไม่ เห็นด้วย) แต่เราสามารถมีจิตวิญญาณแบบ เดียวกันได้ ทั้งเศาะฮาบะฮฺที่เป็นแม่ทัพอย่างคอลิด ทีท่ อ่ งจ�ำหะดีษอย่างอบูฮรุ อยเราะฮฺ ทีเ่ ชีย่ วชาญ อัลกุรอานอย่างอิบนุอบั บาส ทีเ่ ป็นนักยุทธศาสตร์ อย่างอบูบักรฺ ที่สมถะอย่างอบูซัรรฺ ที่ทรงภูมิ ความรู้อย่างเซดบินษาบิต ที่ค้าขายเก่งกาจ อย่างอับดุเราะหมานบินเอาวฟฺ ... ล้วนแต่ เป็นผู้ปฏฺิบัติตามนบีในระดับ “ถอดโมเดล” กันเลยที่เดียว แต่ พ วกเขากลั บ มี ค วามแตกต่ า งกั น อุปนิสัยและความช�ำนาญการ ค�ำถามคือพวกเขาไม่ได้เห็นท่านนบีแค่ ฉาบฉวยภายนอก แค่การกระแอม หรือ ท่วงท่าการหยิบอาหารเข้าปาก ... แต่พวกเขา มองเห็นมากกว่านั้น ผมว่า พวกเขาเห็นโลกทั้งหมดแบบที่ ท่านนบีเห็น ... เห็นแต่ละคนไม่ได้เป็นทุกสิ่ง ได้ ทุกคนคือส่วนเติมเต็มความสมบูรณ์ลงใน สนามอันยิ่งใหญ่

แบบอย่างทีย่ งิ่ ใหญ่ทพี่ วกเขาได้จากท่าน นบีมิใช่แค่ท่าเดิน แต่ยังเป็นวิธีคิด ... คือ การน�ำตัวเองลงไปเติมลงในช่องว่างทีต่ นเอง เติมได้ และคนอื่นคงเติมยาก หรือยากที่จะ เติมได้เท่ากับตัวของเขาเอง ...นี่คือซุนนะฮฺ ในวิธีคิด เศาะฮาบะฮฺต่างก็มีไอเดียของ “ประตู สวรรค์” หลายบาน ทีแ่ ต่ละคนน�ำความถนัด และเชีย่ วชาญของตนเองเดินผ่านเข้าไป และ มี ไ อเดี ย ของระดั บ สวรรค์ ที่ แ ตกต่ า งกั น ที่แต่ละคนย่อมต้องดิ้นรนกันให้ได้ จินตนาการของพวกเขาจึงไม่ได้เห็นแบบ เดียวอย่างโรงเรียนท่องจ�ำอัล-กุรอาน หรือ แบบสมรภูมิญิฮาดที่หลั่งเลือด ... พวกเขา ล้วนแต่เติมตัวเองไปในสนามที่เป็นของเขา เอง เศาะฮาบะฮฺบางคนถึงได้ถามว่า “ตลาด อยู่ไหน?” การก�ำหนดแค่จุดเดียวในสนามแบบไม่ ตัง้ ใจและให้ทกุ คนแห่กนั ไปตรงนัน้ [... อย่าง แค่การท่องจ�ำอัล-กุรอานและหะดีษให้ได้ เยอะๆ อย่างแค่การท�ำงานการเมืองอิสลาม อย่างแค่สร้างพลังเศรษฐกิจในระดับต่างๆ ...] จะท�ำลายดุลยภาพของสนาม และยิง่ กว่านัน้ คือท�ำลายบุคลิกภาพที่มีความชอบความ ถนัดแตกต่างไปจากแต่ละปัจเจกชน ... และยังสะท้อนให้เห็นว่า พวกเขาไม่ได้ใช้ แนวคิดประตูสวรรค์มีได้หลายประตู ... อีก นัยยะหนึง่ อาจเป็นอันตรายยิง่ หากหมายถึง พวกเขาไม่ได้คิดไปถึงสวรรค์ในการท�ำงาน จะเกิดอะไรขึน้ ถ้าคนอย่างอบูฮรุ อยเราะฮฺ คิดจะไปท�ำงานของคอลิด เพราะว่าดูเร้าใจ

กว่า หรือคนอย่างคอลิดคิดจะไปเป็นพ่อค้า อินเตอร์อย่างอับดุรเราะหมานบินเอาฟวฺ เพราะสาว่านักธุรกิจก�ำลังดังออกสื่อบ่อย .. คือจะเกิดอะไรขึน้ ถ้าแต่ละคนได้ทงิ้ ช่องว่าง ที่ตนควรจะเติมเต็ม แต่ไปที่ช่องว่างหนึ่ง เพียงเพราะช่องว่างนั้นเป็นที่ดึงดูดสายตา ของผู้ชมเท่านั้นเอง งานอิสลามก็จะกลายเป็นแค่แย่งกันเอา ชนะกันทางโลกเพื่อมุมที่ทุกคนสนใจเพียง มุมเดียว ... มิได้เพื่อเติมช่องว่างเพื่อเปิด ประตูบานใดบานหนึง่ ณ ทางเข้าสวนสวรรค์ สะท้อนให้เห็นถึงวิธคี ดิ ที่ “แคร์” สายตาผูช้ ม ยิง่ กว่าสายตา ณ อัลลอฮฺ สุบฮานะฮุวะตาอาลา ยิง่ กว่านี้ ผมยังมองว่า ยุคร่วมสมัย ไม่ได้ อยู ่ ภ ายใต้ ธ งคิ ล าฟะฮฺ เ ดี ย วกั น เกิ ด การ ท�ำงานเป็น “กลุ่ม” ต่างๆ มากมาย ซึ่ง เสมือนปัจเจกชนหนึง่ ในพืน้ ทีห่ นึง่ อันแสดง ให้เห็นว่ามีช่องว่างอื่นๆอีกหลายช่องที่ต้อง มีกลุ่มของคนอื่นเข้าไปเติมเต็ม ... เอายังไง ก็เติมทุกช่องคนเดียวไม่ไหวอย่างแน่นอน เราจึงต้องตั้งค�ำถามว่า แบบเราจะเติม ตรงไหน? และคนอืน่ ก�ำลังเติมตรงไหน? เรา จะไม่เติมตามใจหรือแค่เห็นว่าตรงนั้นออก สื่อก็เลยน่าไปเติม ... และจะต้องหลีกเลี่ยง การขัดแข้งขัดขา คิดจะเติมอย่างเดียว(แบบ คนเดียว) โดยไม่เห็นว่าพี่น้องกลุ่มอื่นก็มี สิทธิเติมเต็มเช่นกัน การเติมเต็มในช่องว่างของสนาม เป็นส่วน ทีน่ ำ� ไปสูก่ ารดึงเอาความถนัดของเศาะฮาบะฮฺ แต่ ล ะคนมาพั ฒ นากลายเป็ น ศั ก ยภาพที่ น่าเกรงขาม ... ในสนามการท�ำงานโดยรวม ... นี่คือซุนนะฮฺในวิธีคิด ////

26


27


28


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.