Vol 1 Issue 8 September 2011
F e ro c i o u s Fa l l D a vi k a
H o o r n e
FREE COPY ISSN 2228-883X dont magazine 1
COVER LOOK เริ่มทำ�ความสะอาดผิวและเช็ดเครื่องสำ�อางด้วย Eucerin Dermato Clean หลังจากนั้นเตรียมผิวให้กระจ่างใสด้วย La Mer The Radiant Infusion และวาดคิ้วด้วย LANCOME Les OEillades 2550 ระบาย สีเปลือกตาให้ด้วย GIVENCHY Les Ombres de Lune in Lune Mysterieuse เพิ่มความคมชัดให้ดวงดาด้วย NARS Larger Than Life Long-wear Eye Liner 850 THB ปัดขนตาให้หนาเรียงเส้นด้วย MAKE UP STORE Mascara in Black ปัดแก้มด้วย MAC Powder Blush in Stunner 950 THB ริมฝีปากปากแดงอวบอิ่มด้วย ESTEE LAUDER Pure Color Velvet Lipstick in Red Velvet 1000 THB Davika is wearing PRADA red wool dress.
DONT Contents 10
Editor’s Letter
11
Dont Miss
Givenchy Panthers & Black Orchids Printed Silk Scarf
12
Also Dont Miss
A Step Closer to The Fall
14
Contributors
16
PR NEWS
18
COVER STORY
32
Feature
38
BEAUTY
Dont you want to get updated? Ferocious Fall
พบกับเบื้องหลังการถ่ายทำ� ภาพที่ไม่ถูกตีพิมพ์ และอัพเดทข่าวสารทุกวันได้ที่ Facebook.com/DONTfreemag Issue 8 September 2011
Feel 52 Accessories The Cold Breeze 54
Travel
56
Drink
Doi Khun Chang Kian, Chiang Mai Passion Fruit Martini
57
Horoscope Star Signs Define Women Power 58
Runway Reviews Fall For the Fall
Dont 48 Bachelor Think He’s Just Another Guy
Stockists Bally 1F Gaysorn Tel : 02-656-1037, 1F Emporium Tel : 02-664-8866 Céline GF Gaysorn Tel : 02-656-1045 Christian Dior GF Gaysorn Tel : 02-656-1075, GF Emporium : 02-664-8363 Curated by Ek Thongprasert 3F Siam Center Tel : 02-658-1705 Emilio Pucci MF Siam Paragon Tel : 02-610-9000, LF Gaysorn Tel : 02-656-1149 Fendi GF Gaysorn Tel : 02-656-1111,GF Emporium Tel : 02-664-8370 Gucci 1F Emporium Tel : 02-664-8200-1 Issue Siam Square Soi 3 Tel : 02-658-4416 Jaspal 2F Siam Center : Tel : 02-251-5918, 2F Central World Plaza Tel : 02-255-5009, 2F Emporium Tel : 02-664-8369, 1F Siam Paragon Tel : 02-610-9386 Kenzo MF Siam Paragon Tel : 02-610-9944 Poem Siam Square Soi 2 Tel : 02-658-4755 Prada GF Gaysorn Tel : 02-656-1022-3, 1F Emporium Tel : 02-664-8431-2 Tete-a-Porter@Metropolitan Museum of Art 3F The Emporium Tel : 02-664-9191 Virgin Daisies Siam Square Soi 1 Tel : 081-912-0101 Vivaris Tel. : 081-923-3756 8 dont magazine
Celebrity Tips
Eaggamon Attagamon Knows How to Survive Tropical Autumn
Facebook.com/DONTfreemag
Editor’s Letter DONT let people tell you how to think! เผลอแป๊บเดียวเราก็เดินทางมาจนถึงฉบับเดือนกันยายนแล้วนะครับ สำ�หรับคนในแวดวงนิตยสาร นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของแฟชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดู หนาวแห่งปี DONT ฉบับ Ferocious Fall จึงพิเศษกว่าเดิมด้วยการเพิ่มจำ�นวน หน้าให้มากขึ้น พร้อมขนลุคใหม่ๆ ทั้งแฟชั่น เครื่องสำ�อาง ความงาม และ เครื่อง ประดับมาให้ DONT Readers ได้ชมกันแบบไม่อั้น แต่หากจะข้ามไปยังเรื่องอื่นโดยไม่เอ่ยถึงภาพยนตร์กึ่งสารคดีเรื่อง The September Issue (2009) โดย R.J. Cutler สักนิดก็คงจะไม่ครบถ้วน เพราะ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำ�เบื้องหลังการทำ�งานของนิตยสาร American Vogue ฉบับ เดือนกันยายน ปี 2007 (คาดว่าคงคัดมาเฉพาะส่วนที่นำ�ออกอากาศได้) มาให้ดูกัน เกือบจะทุกขั้นตอนเลยทีเดียว สำ�หรับใครที่เคยดูแล้วก็คงพอทราบว่า Anna Wintour ผู้รั้งตำ�แหน่ง บรรณาธิการบริหาร นั้นทรงอิทธิพลต่อผู้คนรอบข้างแค่ไหน ใครๆ ล้วนโจษจัน ในความเด็ดขาดของเธอ แต่ในความร้ายกาจของ Anna ที่ใครๆ ก็หวาดผวา กลับมีเรื่องน่าทึ่งมากมายที่น่าสนใจไม่แพ้กัน หนึ่งในนั้นคือเรื่องเล่าที่ผมได้อ่าน จากบทความใน The Wall Street Journal Magazine ฉบับเดือนเมษายน 2011/Asia ว่าเมื่อ Anna เข้าไปสัมภาษณ์งานที่ American Vogue เป็นครั้งแรก ในปี 1982 Grace Mirabella (ซึ่งทำ�หน้าที่บรรณาธิการบริหารในขณะนั้น) ถาม Anna ว่า “เธออยากจะมาทำ�อะไร ถ้าเธอได้งานทีนี่” แอนนาตอบแบบไม่ลังเลเลย ว่า “งานของคุณค่ะ”เพียงหกปีหลังจากนั้น Anna ก็เข้ามาแทนที่ Grace Mirabella ได้จริงๆ! นอกจาก Anna จะเป็นผู้ประสานประโยชน์มือฉมังในแวดวงธุรกิจแฟชั่นแล้ว เธอยังเป็นผู้ที่เปลี่ยนโฉมหน้าวงการการเริ่มนำ�เอาคนดัง น้กร้อง นักแสดง พิธีกร หรือแม้แต่นักการเมือง มาขึ้นปก American Vogue คำ�ว่าแฟชั่นจึงไม่ได้ถูกจำ�กัดไว้ สำ�หรับ นางแบบ ดีไซเนอร์ และผู้คนในแวดวงนี้อีกต่อไป จากที่เคยเป็นนางแบบขึ้นปก ทั้ง 12 ปก จนบัดนี้เหลือเพียง 1-2 ปกต่อปีเท่านั้น
นิตยสารโดนท์
บรรณาธิการบริหาร ฤกษ์ อุปมัย บรรณาธิการความงามและไลฟ์สไตล์ วัลยา ทิพย์วรรณาภรณ์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ศรัณย์ ตั้งเทวนนท์ ผู้จัดการฝ่ายโฆษณา ปริยนุช ภัทรวรรณ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโฆษณา นครินทร์ ยกชม ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฐิติกาญจน์ จงวัฒนา ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อ ธนธรณ์ ธำ�รงเจริญกุล ทีมงานรับเชิญ ที่ปรึกษาฝ่ายศิลป์ อาทิตย์ สื่อประสาร บรรณาธิการแฟชั่น ธาวิณี จันทนโกเมษ รองบรรณาธิการแฟชั่น ปิยนันท์ อุทัยแสงชัย ศิลปินงานคอลลาจและเปเปอร์คัท วรัญญา ตุงคะสมิต ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร คมกฤช ธนสมบูรณ์ นักเขียนคอลัมน์อาหาร จักรทอง อุบลสูตรวนิช ผู้พิสูจน์อักษร ขัณธ์ชัย อธิเกียรติ ผู้พิมพ์ บริษัท แอมบิเชียส จำ�กัด เลขที่ 48/163 ซอยศึกษาวิทยา ถนนสีลม (สาทร ซอย 10) แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500 ติดต่อโฆษณา info@DONTfreemag.com โทรศัพท์ 02-6344577 แยกสีและพิมพ์ บริษัท โรงพิมพ์ศิริวัฒนาอินเตอร์พรินท์ จำ�กัด (มหาชน) เลขที่ 125 ซอยจันทน์ 32 ถนนจันทน์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 10 dont magazine
ในอีกสองทศวรรษให้หลัง วัฒนธรรมคนดัง (celebrity culture) ได้เข้า มามีอิทธิพลต่อชีวิตเราแทบทุกย่างก้าว คนเริ่มจับตาดูความเป็นไปของคนดังมากขึ้น นักร้องนักแสดงใช้อะไร กินอะไร ขับรถอะไร ผู้คนล้วนให้ความสนใจกันอย่างมาก เมื่อนักการตลาดเริ่มเล็งเห็นอิทธิพลของคนดังต่อสังคมในวงกว้าง ก็เริ่มใช้คนดังใน การสื่อสารด้านการตลาดและในที่สุดมันก็ถูกนำ�มาเป็นเครื่องมือชี้นำ�ความคิดอย่าง แยบยลจนเราแทบไม่รู้สึกตัว เราจะได้เห็นการรวบรวมบรรดาคนดังมาบอกให้เราทำ�โน่นนี่อยู่บ่อยๆ แคมเปญโฆษณาคอยตอกย้ำ�ให้เราต้องเชื่ออย่างโน้นอย่างนี้ ไม่ง่ายนักที่เราจะรู้ตัว ว่า นี่เป็นกระบวนการล้างสมองชั้นเยี่ยม เป็นภัยทางความคิดที่แฝงมาในรูปแบบ อันสวยงามน่าหลงใหล จนเราอาจเคลิ้มหลงไปและกลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มผล ประโยชน์บางกลุ่มได้ น่าเศร้านักที่กว่าจะรู้เท่าทันเล่ห์กลนี้ได้ก็สายเกินไปเสียแล้ว ที่ร้ายไปกว่านั้น ก็ผู้ผลิตสื่อเองนั่นแหละที่ตกเป็นเครื่องมือในการผลิตสื่อ ล้างสมองออกมาสู่สังคมในวงกว้าง “แฟชั่นทางความคิด” จึงเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่อง ชี้วัดว่าเราเป็นพวกเดียวกันหรือไม่ ความรับผิดชอบในฐานะสื่อมวลชนเริ่มเลือนลาง เหลือไว้เพียงทัศนคติส่วนตัวของผู้ผลิตที่ดันทุรังชี้นำ�ผู้อ่านไปเรื่อยๆ ในฐานะผู้รับสาร เราอย่าปล่อยให้ใครมาบอกว่าเราควรมองโลกอย่างไร หรือมันเท่แค่ไหนที่ได้คิดเห็นเหมือนคนดัง เริ่มพิจารณาความจริงจากข้อมูลที่คุณ มีอยู่ ลองตั้งคำ�ถามกับสิ่งรอบตัวแล้วค้นหาคำ�ตอบด้วยการเปิดใจให้กว้างเพื่อรับ ข่าวสารข้อมูลใหม่ๆ มาประกอบการพิจารณา ในวันหนึ่งคุณจะตอบตัวเองได้อย่าง เต็มภาคภูมิว่า ทำ�ไมคุณถึงเลือกจะเชื่อในสิ่งนี้ แต่ถึงกระนั้น ก็อย่าปักใจเชื่อในสิ่งที่ ผมเขียนมาเสียทั้งหมด เพียงแค่รับมันไปพิจารณาต่อก็เป็นเรื่องน่าดีใจแล้ว ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะครับ แล้วพบกันฉบับหน้า
Riksh Upamaya editor@DONTfreemag.com
DONT Magazine
Editorial & Creative Director Riksh Upamaya editor@DONTfreemag.com Beauty Editor Wallaya Tipvannaporn wallaya@DONTfreemag.com Publisher SarUn Tangtevanon sarun@DONTfreemag.com 081-9991048 Account Manager Pariyanooch Pattarawan pariyanooch@DONTfreemag.com 081-9558787 Account Executive Nakarin Yokchom nakarin@DONTfreemag.com 086-3951519 Public Relations Manager Thitikarn chongvatana thitikarn@DONTfreemag.com Media Consultant Thanathorn Thamrongcharoenkul Guest Contributors Artistic Consultant Atith Sueeprasan Fashion Editor Thavinee Chantanakomes Sub Fashion Editor Piyanun Uthaisangchai Artist Waranya Tungkasmith Editorial Assistant Khomkris Thanasomboon Gourmet&Cuisine Writer Jakthong Ubolsootvanich PROOF READER KHANCHAI ATHIKIAT Special Thanks Font designer Chatnarong Jingsuphatada at F0NT.com DONT is published by AMBITIOUS Co., Ltd. Nothing in this magazine can be reproduced in whole or in part without the written permission of the publisher. AMBITIOUS CO., LTD. 48/163 Soi Sueksa Wittaya, Silom Road, Silom Bangkok Thailand 10500 // DONTfreemag.com // for Advertising please contact info@DONTfreemag.com ONLINE Version available at DONTfreemag.com Updates & Actvities FACEBOOK.COM/DONTfreemag TWITTER.COM/DONTfreemag
GIVENCHY Panthers & Black Orchids Printed Silk Scarf ในความมืดหม่นอันเป็นเอกลักษณ์ประจำ�ตัวของ Ricardo Tisci นั้น ยังมีทั้งความเย้ายวนและความน่าเกรงขามซ่อนตัวอยู่อย่างแยบยล สำ�หรับคอลเลคชั่น Ready-to-Wear Fall/Winter 2011 ที่ผ่าน มา นี่เป็นอีกคอลเลคชั่นหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นตัวแทนของฤดูกาลนี้ เพราะ มีใจความสำ�คัญที่เกี่ยวกับความกำ�หนัด แรงขับทางเพศ และความทรง พลังของอิสตรี ที่ Ricardo เลือกผสมผสานความถมึงทึงของเสือ แพนเธอร์และความโรแมนติกอันแสนลึกลับของกล้วยไม้ดำ�เอาไว้ได้อย่าง ลงตัว เกิดเป็นรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจของ Noir Romanticism อันเป็น ตัวตนของหัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์ผู้นี้นั่นเอง แม้ Ricardo จะแสดงอารมณ์ด้านขมุกขมัวออกมาในคอลเลคชั่น Ready-to-Wear แต่ความโรแมนติกหยดย้อยในคอลเลคขั่น Couture คือตัวตนเขาในอีกด้านหนึ่งที่เติมเต็มซึ่งกันและกันได้อย่าง น่าทึ่ง แรงขับที่ยิ่งใหญ่นี้อาจมาจากพื้นฐานชีวิตแบบชนชั้นกลางที่ต้อง ปากกัดตีนถีบ ครอบครัวมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเขามาก (Ricardo ยอมรับว่าที่เขาตัดสินใจรับหน้าที่ Couturier ให้กับ Givenchy ใน วันที่ใครๆ เห็นว่าเสื้อผ้าชั้นสูงนั้นขายไม่ได้แล้ว ก็เป็นเพราะเขาอยากได้ เงินไปช่วยเหลือครอบครัวที่กำ�ลังขัดสนจนแทบต้องขายบ้าน ซึ่งเขาทน
เห็นแม่ต้องระเห็จไปอยู่บ้านพักคนชราไม่ได้) เมื่อเติบโตมาอย่างแร้นแค้น พร้อมกับพี่สาวอีกแปดคนในแถบตอนใต้ของประเทศอิตาลี เขาจึงสะสม แรงขับจากความยากเข็ญในอดีตไว้ส่วนหนึ่ง ความหลงใหลในโลกโร แมนติกและความเข้าใจในสรีระของผู้หญิงไว้อีกส่วนหนึ่ง และในอีกมุม Ricardo นั้นค่อนข้างเคร่งในศาสนา แถมยังได้รับแนวคิดแบบขบถจาก การร่ำ�เรียนแฟชั่นที่ Central Saint Martins College of Art and Design ในประเทศอังกฤษมาอีกไม่น้อย ทั้งหมดนี้จึงหลอมรวมออกมา เป็นตัวตนที่ซับซ้อนทว่ามีรายละเอียดที่น่าสนใจเหลือเกิน ผ้าพันคอนี้ไม่ได้ปรากฏอยู่ในรันเวย์โชว์ทั้ง 45 ลุค แต่ลาย ปรินท์ที่เกิดจากการนำ�เอารูปทรงของกล้วยไม้ดำ�และส่วนหัวของเจ้า เสือคำ�รามมาจัดวางให้เห็นเป็นดอกกล้วยไม้ ก็ทำ�หน้าที่แสดงถึงดีเอ็นเอ ของความเป็น Givenchy by Ricardo Tisci ในฤดูกาลนี้ได้ดีไม่แพ้ กระโปรงทรงดินสอ see through เลยแม้แต่น้อย
Retail price EUR241. Made of 100% Silk, Available online and at Givency Boutiques around the globle (Photo courtesy of Givenchy) dont magazine 11
Walk and walk in the most covetable heels of the season. From Left MIU MIU metallic/burgundy suede peeped toe ankle boot GUCCI knee high leather boots FENDI metallic pump JASPAL peeped toe heels with blue velvet detail CHRISTIAN DIOR scarlett leather sandals PRADA navy suede boots with snakeskin details CÉLINE two tone heels Credits stylists & fashion co-ordinator : Kris Thanasomboon & Ganyanee Srimongkol 12 dont magazine
A STEP CLOSER TO THE FALL dont magazine 13
DONT Contributors Kittipat Mahapunt
หลังจากทริปอินเดียเที่ยวล่าสุดที่จ๊อบเพิ่งไปเยือนมา เราก็ได้แต่นั่งอ้าปากค้างกับรูปเป็นร้อยพันที่สวยจนแทบจะบินไปอินเดีย ทันทีที่ได้เห็น จ๊อบมีพรสวรรค์ในการถ่ายภาพในแบบฉบับของเขาเอง สุขุมนุ่มลึกอย่างไรบอกไม่ถูก เห็นทีเราจะต้องผูกปิ่นโต กับพ่อหนุ่มหัวใจอิสระผู้นี้ไว้ให้ได้ เพราะเมื่อได้อ่านคอลัมน์ประกอบภาพฝีมือเขาทีไร ก็เล่นเอาเราเริ่มอยากใช้ชีวิตแบบออกไป เผชิญโลกกว้างทุกทีสิน่า
Jakthong Ubolsootvanich
มาดมัวแซลต้องรับบทหนักเป็นประจำ�ทั้งเล่มเดือนมีนาคมและเดือนกันยายนของทุกปี ก็เพราะมีรีวิวรันเวย์จากทั้งสี่หัวเมือง แฟชั่นที่เราไม่อาจยกหน้าที่ให้คนอื่นได้เลย เราเชื่อว่าในขณะที่มือขวาของเธอวางอยู่บนแป้นพิมพ์ มือซ้ายก็คงต้องตั้งอุณหภูมิ เตาอบ และบรรจงบรรเลงเทคนิคสารพัดประการเพื่อให้ขนม ณ ร้าน W by Wanlamun ที่ดังชนิดคลังแสงระเบิดก็เอาไม่อยู่ ณ ขณะนี้ มีจำ�นวนเพียงพอต่อความต้องการของแขกชาวไทยและเทศที่แวะเวียนมาชิมฝีมือกันไม่ขาด (แต่บก.ใจจะขาดทุกทีเวลา เดดไลน์ใกล้เข้ามา) เอ้า สู้ครับ! มาดมัวแซลลล์
Piyanun Uthaisaengchai
เวลาส่วนตัวหายไปเยอะตั้งแต่ที่แพน (จำ�เป็นต้อง)เจียดเวลานอกชั่วโมงทำ�งานมาดูแลคอลัมน์ให้เรา ทั้งประสานงาน ทั้งสัมภาษณ์ ทั้งเขียน อีรุงตุงนังไปหมด เห็นช่วงก่อนหน้านี้เธอเพ้อถึง road trip ที่สุดแสนโรแมนติกกับแก๊งเพื่อนสาว จนป่านนี้ก็ยังไม่เห็นว่า ทริปนี้จะเกิดขึ้นแต่อย่างใด ถ้าสาเหตุที่ทริปยังเป็นหมันอยู่คือเวลาว่างที่หายไป ก็ขอให้โทษงานประจำ�แทนแล้วกันนะจ๊ะ ได้โปรด!
Thawinee Chantanakomes
ทุกครั้งที่เราได้ร่วมงานกับทรายก็จะรู้สึกถึงขุมพลังบางอย่างในตัวเธอ ที่สามารถผลิตกำ�ลังวังชาในการคิดการทำ�งานได้แบบ ไม่รู้จักหมด ก็เพราะนอกจากงานสไตลิสต์ที่แสนจะยุ่งแสนยุ่งแล้ว เธอยังต้องบินไปต่างประเทศบ่อยๆ เพื่อเลือกเสื้อผ้ามาให้เหล่า บรรดาสาวกร้าน Happy Go Lucky ได้กรีดร้องเพราะความอยากได้ ถ้าคราวหน้าได้เจอกัน เราอยากจะชวนเธอไปเป็นพิธีกร รายการ “ลองทำ�ดู คุณทำ�ได้” หรือออกเดินสายจัดกิจกรรม empowering people อะไรทำ�นองนั้น...
Waritta Kalamkaset
กลับมาแบบสายฟ้าแล่บกับปฏิบัติการสัมภาษณ์ Cover Girl ของเรา ที่ยังคงไว้ซึ่งลีลาและจังหวะจะโคนอันเป็นเอกลักษณ์ ฐา เป็นคนชอบดูหนังดราม่าหนักๆ จึงคุยถูกคอกันเป็นอย่างมากกับบก.ที่ก็ชอบ (ทำ�ตัว) ดราม่าไม่แพ้กัน แต่ก็อย่างว่า คงไม่มีอะไร น่าประหลาดใจไปกว่า การที่เรามีโอกาสได้เจอฐาอีกครั้งเพื่อรับประทานอาหารเย็น และพูดคุยกันตามประสาพี่น้องร่วมสถาบัน แล้วได้พบความจริงที่ว่า เธอแต่งหน้าเป็นแล้วนะ!!
DONT MISS this Subscription! DONT 12 ฉบับที่จะจัดส่งให้คุณถึงบ้าน โดยที่ไม่ต้องไปตามหาที่จุดแจกไหนๆ ทำ�ได้ง่ายๆ ตามขั้นตอนต่อไปนี้ 1. เพียงโอนเงินจำ�นวน 400 บาทเข้ามาที่บัญชีกระแสรายวัน บริษัท แอมบิเชียส จำ�กัด เลขที่ 125-0-0713-57 ธ.กรุงศรีอยุธยา 2. ถ่ายรูปหรือสแกนหรือแคปเจอร์หน้าจอ (ในกรณีที่ใช้ Internet Banking) 3. ส่งภาพสลิปบัญชีมาที่ member@DONTfreemag.com เมื่อได้รับอีเมล์แล้ว ทางทีมงานจะรีบติดต่อคุณกลับโดยเร็วที่สุด พิเศษ! สมัครสมาชิกวันนี้รับฉบับเดือนสิงหาคมชุด Collector’s Edition ครบทั้ง 3 ปกจัดส่งฟรีให้ถึงที่บ้านทันที สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 086-395-1519 หรือ info@DONTfreemag.com 14 dont magazine
DONT you want to get updated? Here Comes the Latest Store เปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่กับบูติกสโตร์แห่งใหม่ของ Gucci พร้อม Fashion Presentation ที่น่าจะขายดีที่สุดอีก คอลเลคชั่นนึงในฤดูกาลนี้ แนวคิดการออกแบบร้านก็ยังอยู่ ภายใต้การกุมบังเหียนของ สาวเก่ง Frida Giannini บนพื้นที่กว่า 280 ตาราง เมตรที่ The Emporium Shopping Complex กับ วัสดุสุดซับซ้อนและหลาก หลายเพื่อสร้างความ ประทับใจให้บรรดาแฟนๆ Gucci แบบเต็มเหนี่ยว
The Scent from the Wild ถ้าพูดถึงเรื่องผู้นำ�ด้านกลิ่นหอมจากดอกไม้นานาพันธุ์ก็คงต้องยกให้ Jo Malone ที่เพิ่งเปิดตัวกลิ่น Wild Bluebell ด้วยการเนรมิตห้อง the author’s lounge ที่โรงแรม Mandarin Oriental เป็นดินแดนเทพนิยาย อบอวลไปด้วยกลิ่นจากดอก Wild Bluebell ซึ่งเป็นนางเอกของแบรนด์ในปีนี้ มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้อย่างหลากหลายเลยทีเดียว ถ้าอยากลองสัมผัสก็ลองแวะซื้อหามาชมกันได้ที่ เคาน์เตอร์ทุกสาขาแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
9th Anniversary on Bed
Panorama Paris นิทรรศการภาพถ่ายปารีสแบบพาโนรามา 360 องศา โดย ปรัชญา อาชาเทวัญ ซึ่ง เก็บรวบรวมทิวทัศน์อันน่าประทับใจจากอีก หนึ่งเมืองหลวงที่ได้ชื่อว่ารุ่มรวย หรูหรา ฟู่ฟ่ามากที่สุดในโลกมาแสดงไว้ที่สมาคม ฝรั่งเศส ถนนสาทร ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึง 30 ตุลาคมนี้ ไม่เสียค่าเข้าชม งานนี้ต้อง บอกเลยว่า DONT MISS!
Bed Supper Club ฉลองขึ้นสู่ปีที่ 9 กับ การเนรมิตเมนูอาหารใหม่ในสไตล์ Modern Eclectic ที่นำ�มาเสิร์ฟพร้อมกับการแสดงสุดเก๋ Carmen Buri (เวอร์ชั่นดัดแปลงจาก Carmen ที่ คุ้นหูกันดี) ซึ่งโปรโมชั่นเซ็ท 3 เมนูอะลาคาร์ทเพียง 999 บาทพร้อมการแสดงชุดนี้จะเป็นโปรโมชั่นยาว ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ ติดต่อจองที่นั่งหรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-651-3537
Newest Store Unveiled Prada เปิดบูติกสโตร์แห่งใหม่ที่ The Emporium Shopping Complex ชั้น Ground คราวนี้ บรรดาคนดัง มากันอย่างคับคั่งเต็มพื้นที่กว่า 350 ตารางเมตร เป็นสาขา ที่มีสินค้าครบถ้วนทุกไลน์ทั้งเสื้อผ้า Ready-to-Wear ของบุรุษ สตรี เครื่องหนังและเครื่องประดับต่างๆ แถม การออกแบบก็เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกับทุกสโตร์ทั่วโลก ด้วยฝีมือการออกแบบของ Roberto Barciocchi ซึ่ง เอกลักษณ์ของ Prada ก็คือพื้นหินอ่อนลายตารางหมาก รุกและพรมสีข้าวสาลีนั่นเอง
Sea Lotus and its properties แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ขึ้นชื่อเรื่องการดึงสรรพคุณพืชพรรณ ธรรมชาติมาใช้อย่าง Anne Semonin ก็ขอแนะนำ�ผลิตภัณฑ์ตัว ใหม่ที่สกัดสารจาก Sea Lotus ออกมาผลิตเป็นครีมสีชมพูอ่อน ที่ช่วยเรื่องการนวดเพื่อกระชับกล้ามเนื้อและดูแลสัดส่วนให้ดูดียิ่ง ขึ้น ด้วยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและช่วยดูแลเรื่องการทำ�งาน ของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เคาน์เตอร์ Anne Semonin ทั้งที่ Siam Paragon และ The Emporium
Upper Standard Shampoo ค่าย Unilever เปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมระดับพรีเมี่ยม แบรนด์ใหม่ Keratinology ที่เน้นการบำ�รุงและดูแลผม ด้วยเทคโนโลยีชั้น Pico ที่เล็กกว่าระดับ Nano ถึง 1,000 เท่า กับสามไลน์ที่ช่วยดูแลและบำ�รุงแตกต่างกันไปตามสภาพ ผมทั้งผมดัด ผมทำ�สี และผมที่ต้องเจอความร้อนอยู่บ่อยๆ แชมพูชนิดนี้จึงถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อสาวๆ ที่เข้าออกซาลอน เป็นว่าเล่น หาซื้อได้วันนี้ที่ร้าน Watson’s เท่านั้น 16 dont magazine
dont magazine 17
FEROCIOUS FALL Davika and the precious pieces from covetable Fall/Winter 2011/12 Collections. Are you ready to start embracing the season? Realisation Thawinee Chantanakomes Photography Riksh Upamaya
18 dont magazine
PRADA red wool dress and Mary Jane boots with snake skin details CHRISTIAN DIOR burgundy socks
dont magazine 19
EMILIO PUCCI black lace dress 20 dont magazine
ISSUE embroidered top KENZO floral prints maxi chiffon skirt
dont magazine 21
EMILIO PUCCI front buttoned up skirt (wearing as cape) VIRGIN DAISIES navy inner wear ISSUE detachable peplum CHRISTIAN DIOR wool pencil skirt and burgendy socks PRADA Mary Jane boots with snake skin details TETE-A-PORTER head piece with feather details 22 dont magazine
PRADA plastic sequined dress with faux fur details dont magazine 23
BALLY mustard mixed wool dress PRADA snake skin Mary Jane boots 24 dont magazine
EMILIO PUCCI black dress BALLY ankle boots with buckles details dont magazine 25
CHRISTIAN DIOR wool blazer VIRGIN DAISIES inner wear TETE-A-PORTER head piece with feather details 26 dont magazine
CHRISTIAN DIOR camel over coat VIVARIS chiffon gown
dont magazine 27
POEM fabric rose embroidered dress 28 dont magazine
BALLY lambskin dress with fur details CHRISTIAN DIOR ankle boots
dont magazine 29
Makeup Artist : Wallaya Tipvannaporn Hair Stylist : Kanawut Ruangroj Assisting Stylists : Ratthazart Kuenoon and Choomporn Poommarin Photographic Assistants : Atitep Meesat and Prakarn Wangkaew Fashion Coordinator : Kris Thanasomboon 30 dont magazine
Davika in front of the mirror Shiny supermodel and drama la belle, Davika Hoorne, on the anatomy of her look and reflections on the star pathway at the sparkling dawn of her career ในความงามอันลงตัวในแบบ East Meets West อย่างที่ผู้หญิงยุคใหม่ มากมายใฝ่ฝัน ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน นางแบบและนางเอกดาวรุ่งท็อปลิสต์ ตัวเธอเอง เห็นอะไรในกระจกบานนั้น On the Road to Beauty “ใหม่เริ่มเข้ามาทำ�งานตั้งแต่อายุ 14 ค่ะ ทำ�งานเดินแบบและโฆษณา โฆษณาเยอะมากใน เมืองนอกบ้างในไทยบ้าง แต่ถ้าจะพูดได้ว่าเข้าวงการจริงๆ คือได้มาเล่นละครตอนอายุ สิบเจ็ดคือมีคนรู้จักจริงๆ ว่าใหม่เป็นใคร” สาวลูกครึ่งไทย-เบลเยี่ยม ปัจจุบันวัย 19 ปี ก็เล่าย้อนไปสู่วัยเด็กของเธอที่ เรื่องความสวยงามไม่ได้อยู่ในห้วงความคิด ตอนเด็กๆ ใหม่ไม่สนใจเรื่องความสวยความงามเลย ออกแนวผู้ชาย อย่าง เวลางานกีฬาสีนี่เล่นทุกอย่างที่เค้ามีให้ลงค่ะ บาสเก็ตบอล แชร์บอล ว่ายน้ำ� วิ่งแข่ง ตอนเด็กๆพ่อก็จับตัดผมสั้นเหมือนผู้ชายด้วย (แต่คุณมักถูกมองว่าเป็นสาวหวาน) ใช่ ค่ะ คนจะชอบเห็นใหม่เป็นผู้หญิงเรียบร้อย หวาน แต่จริงๆแล้วตัวใหม่ชอบแบบเท่ห์ๆ มากกว่า แต่งตัวตามอารมณ์ บางทีก็สวย บางทีก็ประหลาดบ้าง แนวฮิปปี้ก็มี เป็นตัว ของตัวเองมากจนบางทีบางคนไม่เก็ท(หัวเราะ) อย่างเช่นใส่กางเกงขาบาน เสื้อลาย สก็อตต์ เพราะทุกคนคาดหวังให้เราแต่งเป็นผู้หญิง แต่เมื่อมันเกี่ยวกับเรื่องงานเราก็ ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองเหมือนกัน แม้วันนี้จะหลงรักการแสดงเข้าให้แล้ว แต่เลือดนางแบบก็ยังเข้มข้น การเดินแบบเป็นสิ่งที่สนุกมากค่ะ ใหม่ชอบเวลาอยู่บนรันเวย์ รู้สึกมั่นใจ เรื่อง กลัวอ้วนนี่แน่นอนค่ะ จะให้หุ่นเป็นนางแบบเลยใหม่ก็ทำ�ได้นะ แต่ด้วยเราต้องทำ�งาน ละครด้วย จะมาโทรมๆแห้งๆมันก็ไม่ได้ ก็ต้องทำ�ให้มันไปด้วยกันได้ กินแล้วก็ออกกำ�ลัง กาย ไม่ให้ดูน่าเกลียด (มองเรื่องสวยศัลยธรรมอย่างไรบ้าง) ใหม่มองเป็นเรื่องปกติ ค่ะ แต่เราต้องคิดให้รอบคอบและรับผลที่จะตามมาให้ได้ ถ้ามันดีก็ดีไปแต่ถ้ามันแย่ก็ ต้องยอมรับ แต่จริงๆแล้วสำ�หรับใหม่ รู้สึกว่าผู้หญิงเนี่ยความมั่นใจและความสวยใน แบบของตัวเองสำ�คัญกว่า โดยไม่จำ�เป็นว่าต้องหน้าเป๊ะ บล็อกเดียวกัน หรือจมูกโด่ง ถ้า เขารู้จักดูแลตัวเอง ออกกำ�ลังกายให้สวยจากภายใน ยิ้มแย้ม ร่าเริง มันก็จะทำ�ให้มอง ว่าผู้หญิงคนนี้สวยได้ และใหม่นับถือคนแบบนั้นด้วย Inside the International Look ใหม่เรียนมาทั้งโรงเรียนไทยและนานาชาติ ซึ่งตอนเรียนโรงเรียนไทยจะโดนล้อเยอะ เรื่องเป็นลูกครึ่ง เพื่อนๆก็จะ ‘ฝรั่งขี้นก ๆ!’ แรกๆก็โกรธ ถึงขั้นทะเลาะกับเพื่อน จนชิน แล้วก็ต้องอยู่ท้ายแถวตลอดเพราะความสูงนี่แหละ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นปมด้อยนะ ด้วยความสูงเกือบ 173 เซนติเมตร เกินมาตรฐานผู้หญิงไทยไปมาก เธอพบ กับอุปสรรคอย่างไรบ้าง ทำ�ให้ไม่ค่อยได้ใส่ส้นสูงค่ะ เสียใจ!(ทั้งคำ�และน้ำ�เสียง) แต่ก็โชคดีค่ะ เพราะคน สูงแต่งอะไรก็ได้ แค่บางอย่างจะใช้ไซส์คนไทยไม่ได้ กางเกงยีนส์เนี่ยขาจะเต่อเลย อย่าง ชุดเดรสถ้าเป็นไซส์ S ซึ่งมันพอดีกับเอวเรามันก็จะดูสั้นไปอีก ต้องเลือกแบรนด์ที่ขาย ต่างชาติ เราเท้าก็ต้องส้นเตี้ย อย่างเวลาเล่นละครเนี่ยก็ไม่มีใครขอนะ แต่ใหม่ก็ให้ เกียรติ คือคิดเองว่าผู้หญิงไม่ควรสูงกว่าผู้ชาย ก็จะไม่ใส่รองเท้าส้นๆ ไม่ต่างผู้หญิงทั่วสากลโลกที่กระจกคือปัจจัยที่ 5 ของชีวิต ใหม่ชอบอยู่หน้ากระจกนะ และเชื่อว่าการแต่งหน้าเนี่ยทำ�ให้คนเปลี่ยนได้มากๆ เลย เวลาส่องกระจกใหม่จะรู้สึกตัวเองหน้าแปลกดี แต่ก็ไม่เคยคิดนะว่าดูเป็นไทยหรือ ฝรั่ง บางคนบอกเราหน้าไทย บางคนบอกฝรั่ง บางคนบอกญี่ปุ่น ใหม่เป็นคนเปลี่ยน ลุคง่ายค่ะ (เธอได้เล่าถึงหนึ่งในงานชิ้นสำ�คัญ คือ การได้ร่วมงานเป็นพรีเซ็นเตอร์ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ZA ประเทศญี่ปุ่น) บางคนบอกจำ�ไม่ได้นึกว่าเป็นคนญี่ปุ่น ญี่ปุ่นนี่ จะชอบความเป็น natural ค่ะ เน้นเอเชียนลุค บางทีเล่นละครบางคนก็จำ�ไม่ได้ ซึ่งรู้สึก
ดีนะเวลาคนชมว่าสวย แต่จำ�ไม่ได้นี่ก็ไม่เป็นไร...ชินแล้วล่ะ แต่หลังๆนี้ก็เริ่มจำ�กันได้แล้ว (ดูเหมือนทุกวันนี้เส้นทางดวงดาวจะคาดหวังให้นางแบบนักแสดงหญิง ‘ขายเซ็กซี’ มาก ขึ้นเรื่อยๆคุณว่าจริงไหม) ใช่ แต่ใหม่ไม่เคยคิดมุมนี้กับตัวเองนะคะ คงต้องให้คนอื่นเขา นำ�ไปก่อนใหม่ค่อยตามไปทีหลัง ขอตั้งใจทำ�งานก่อนเรื่องเซ็กซีว่ากันทีหลัง คุณภาพ ฝีมือมาก่อน และเวลาใหม่มองพี่ๆในวงการใหม่ก็จะชอบมองที่ฝีมือการแสดง และ ชอบคนที่ดูมีความสุข คิดดีกับคนอื่นๆมากกว่า The Reflections วงการบันเทิงเองก็เปรียบเสมือน“กระจก” บานใหญ่ให้กับตัวเธอ สองปีเต็มบนทาง สายนี้ สิ่งสะท้อนมีทั้งเรื่องให้เก็บไว้และปล่อยผ่าน ใหม่ต้องบอกตัวเองเสมอว่า “Nobody is perfect” บางคนบอกว่าเราสวย แต่บางคนจะมองว่าไม่สวย เราก็อย่าไปซีเรียส ตัวเราเองยังมองว่าบางคนสวยบางคน ไม่สวย บางคนมีเสน่ห์บางคนไม่มีเสน่ห์ แต่ทุกวันนี้ถ้าให้เปลี่ยนอะไรได้อย่างหนึ่งในตัว ใหม่ก็ขอไม่เปลี่ยนอะไรเลย เพราะถ้าเปลี่ยนมันก็ไม่ใช่ใหม่ที่มายืนตรงนี้ (เพราะเป็น ดาวรุ่งระยิบระยับสองดวงที่น่าจับตา จึงมักถูกนำ�ไปเปรียบอีกหนึ่งสาว ญาญ่า อุรัสยา สเปอร์บันด์ เธอรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้) มันก็ดีนะ เขาทำ�ให้เรามีกระแสข่าวขึ้น
“ทุกวันนี้ถ้าให้เปลี่ยนอะไรได้อย่างหนึ่งในตัว ใหม่ก็ขอไม่เปลี่ยนอะไรเลย เพราะถ้าเปลี่ยนมัน ก็ไม่ใช่ใหม่ที่มายืนตรงนี้” มา แต่ใหม่เชื่ออยู่แล้วว่าทุกคนมีความสามารถของตัวเอง ไม่มีใครแทนใครได้ ใหม่ไม่ ได้รู้สึกเซ็งเลยนะและจะไม่ค่อยเจ็บกับเรื่องข่าว เพราะไม่รับข่าวบันเทิงอยู่แล้ว รู้เยอะก็ ปวดหัว คนที่อ่านเยอะๆนี่ก็เครียดไป และเวลาใหม่ทำ�งานใหม่จะลืมเรื่องพวกนี้ไปเลย ทำ�งานของเราเต็มที่ ผู้กำ�กับพอใจ คนร่วมงานมีความสุขก็โอเคแล้ว จะเก็บเฉพาะคำ�ติ ในงานแสดงเท่านั้น อย่างเคยเล่นละครซีนหนึ่งแล้วโดนบ่นว่า “เล่นอะไรอะ!” มันเป็นคำ� ที่ไม่หยาบคายแต่มันเจ็บ เราเป็นนักแสดงแต่ดันมาเจอคำ�นี้ แบบนี้ใหม่จำ� มันมีค่า คอย เตือนเราเสมอให้ตั้งใจ” ดาวิกาในวัยสัก 40 ปี จะเห็นอะไรในกระจกบานเดิม เวิร์คกิงวูแมน เท่ห์ๆ เหมือนคุณแม่ คุณแม่เป็นโรลโมเดลของใหม่ค่ะ ส่วนรูป ลักษณ์ตอนนี้ใหม่ยังโอเคกับตัวเองแต่ถ้าแก่ตัวไปแล้วมีตีนกานี่ก็ไม่ได้ ต้องดูแลตั้งแต่ ตอนนี้เพราะว่าเราทำ�งานใช้หน้าตาทุกวัน ไม่ใช่อายุ 40 แล้วค่อยดูแล หรือ ค่อยมาแก้ อยากจะบอกว่าใหม่รู้สึกดีใจ เป็นเกียรติ และภูมิใจในตัวเองมาก(เน้นเสียง)ที่สามารถ เข้ามาอยู่ตรงนี้แล้วทำ�ได้ อาชีพนี้ที่เราได้มาทำ�มันเป็นหนึ่งในล้าน ใหม่อยากทำ�ให้เต็มที่ ทำ�ทุกๆวันให้เป็นความทรงทำ�ที่ดีของเรา
หากความปรารถนาของผู้หญิงทุกคนเมื่อยืนอยู่หน้ากระจก คือ ความพอใจ สูงสุดกับเงาสะท้อนตรงหน้า แน่นอน ใหม่ย่อมเป็นหนึ่งในบรรดาหญิงสาวที่น่าอิจฉา แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่า คือ โดยไม่รู้ตัว เธอได้เตือนเราให้ไม่ลืมสิ่งสำ�คัญหนึ่ง ...ความรู้สึก ‘ขอบคุณ’ ต่อสิ่งเราได้เป็น ได้ทำ�… ขอแอบเก็บคาถาข้อนี้ไว้เตือนตัว เองในวันที่เหนื่อยล้า และ อยากความรู้สึกอันมีค่านี้เป็นเชื้อเพลิงให้ ดาวิกา เจิดจรัส บนไฮเวย์แห่งดวงดาวไปอีกแสนนาน WORDS by Waritta Kalamkaset dont magazine 31
FALL/WINTER 2011/12 RUNWAY REVIEW
What’s interesting and what’s not? What to wear and what ato toss? Mademoiselle MuMu is telling you... 32 dont magazine
Words : Jakthong Ubolsootvanich Papercut Art : Waranya Tungkasmith
MILAN จากซีซั่นก่อนที่บรรดาดีไซเนอร์ได้แรงบันดาลใจจากงานแสดงผลงานย้อน หลังของ Yves Saint Laurent กันเป็นโขยง เห็นมีนิทรรศการผลงานของ Cristobal Balenciaga ที่นิวยอร์ค ไม่รู้ว่าซีซั่นนี้ผลงานของเหล่าดีไซเนอร์จะ เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ อะไรที่เคยดูสบายๆ เบาๆ sporty เล็กๆ ในซีซั่นที่แล้ว Tomas Maier แห่ง Bottega Veneta จัดให้ใหม่ในซีซั่นนี้ด้วย look คุณนายสไตล์ Hitchcock ด้วยกระโปรงระดับหัวเขา เสื้อโค้ทเรียบร้อย เดรสแขนกุด และคาร์ดิแกน ตัวจิ๋ว แต่หากเรามองลึกเข้าไปในรายละเอียด ก็จะรู้ว่า ผู้หญิงของ Maier ใน ซีซั่นนี้ ไม่ได้ หงิม อย่างที่คิด…Look แรกเป็นคุณนายใส่โค้ทสีเหลืองทับแซค เหลืองเทา ดูแว่บแรกเรียบร้อย แต่พอหันไปดูรอสอง นั่นมันขนแพะโมแฮร์ ที่ ซับในด้วยผ้าร่มสีทอง แถมยังใช้มีเรซินเป็นสายรัดประหนึ่งชุดวอร์มวิ่งยามเช้า ทีนี้แต่ละ look หลังจากนั้นล้วนเป็นการหลอกล่อให้คนมองดีๆว่า Maier จะ เล่นไม้ไหนอีกกับการผสมผสานผิวสัมผัสตรงกันข้าม หรือสีคู่ตรงข้าม ดึงดูด ความสนใจดีแท้ Raf Simons แห่ง Jil Sander พาเส้นคมๆของเขามาอีกขั้นหนึ่งด้วย การต่อยอดจากงานสุดวิเศษของเขาเมื่อซีซั่นที่แล้ว ซีซั่นนี้ เขาส่ง silhouette แบบ Ski Resort ยุค 50 มาเจอกับ Cristobal Balenciaga ได้อย่างลงตัว บางเบา สวมใส่สบาย ทันสมัยและ สง่างาม ในโทนสีคล้ายคลึงกับซีซั่นก่อน งานของ Simons เป็นเรื่องของ Architecture ล้วนๆ ซึ่งเป็นภาษาเดียวกัน กับที่ Balenciaga ใช้สื่อสาร ธีม ชาย-หญิง ไม่ได้มีแต่เฉพาะในลอนดอน ที่มิลานเองก็มีอยู่เช่นกันที่โชว์ของ Dolce & Gabbana ที่สองดีไซเนอร์ Demenico Dolce และ Stefano Gabbana ส่งนางแบบออกมาสลับกัน ในชุดชายคน หญิงคนจนจบโชว์ ฟากชุดผู้ชายของพวกเขาทำ�ให้นึกถึง MV ของเลดี้กาก้า ผสมกับ มาดอนน่ายุค Vogue มากกว่าจะเป็นสูทที่นิยมกันใน ปัจจุบัน ในขณะที่ชุดผั่งผู้หญิงเต็มไปด้วยเดรสชีฟอง และprints ลายดาว… ถึง แม่คอลเล็กชั่นนี่จะไม่ใช่ไม่ดี แต่ดูๆแล้ว Dolce & Gabbana ไม่ได้นำ�เสนออะไร ใหม่ให้แก่ผู้ชมเลยสักเล็กน้อย โดยเฉพาะลายพิมพ์รูปดาว ที่เห็นกันมาตั้งแต่ หลายปีที่แล้วในโชว์ของ Yves Saint Laurent Gucci เองก็ส่งคอลเลกชั่นที่สวยและเซ็กซี่และยังคงกลิ่นอายของ ยุค 70’s อยู่เหมือนซีซั่นที่แล้ว บทสนทนาด้านสีสันยังคงน่าสนใจ Frida Giannini เริ่มด้วยสีเขียวมรกต ไล่ไปม่วงเปลือกมังคุด ม่วงเข้ม ส้ม blood orange ไปยันบานเย็น ผู้หญิง Gucci ซีซั่นนี้ใส่เสื้อเชิ้ตผูกโบว์แสนจะ 70’s ถูกสวมทับด้วยแจ็กเก็ตผ้ากำ�มะหยี่สีตัดกัน หรือไม่ก็เดรสแบบเสื้อเชิ้ตผูกเอว แต่เป็นผ้าซาตินมันวาบ แนบเนื้อ พลิ้วบาง และเซ็กซี่ ถมหลายๆชุดยังเพิ่มความ หรูหราด้วยสารพัดเฟอร์ย้อมสี (ตั้งแต่ขนจิ้งจอกไปจนถึง แกะภูเขา) และหนัง สัตว์ exotic นับเป็นสวยสง่าติดตา ถึงแม้จะไม่ได้มีอะไรใหม่จากซีซั่นที่แล้วมาก ก็ตาม ในขณะที่แทบทุกแบรนด์ทำ�แฟชั่นหน้าหนาวให้เต็มไปด้วยสีสัน ที่ Emporio Armani สีดำ�ดูจะเป็นคอนเซ็ปท์หลักของคอลเลคชั่น ว่ากันจริงๆแล้ว ทุกชุด ที่ Armani ส่งออกมาล้วนใช้สีดำ�ทั้งสิ้น เดรสยาวตั้งแต่กรอมเข่าไปจนถึงกรอม พื้น สิ่งที่ดูจะพลิกแพลงไม่รู้จบโชว์ของเขาดูจะเป็นเนื้อผ้าที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดย รวมแล้วเป็นคอลเลคชั่นที่ urban และ practical น่าดูทีเดียวค่ะ
LONDON ในบรรดาเมืองหลวงแฟชั่นทั้งสี่เมือง ลอนดอนเป็นเมืองที่เหล่าดีไซเนอร์ รังสรรค์ผลงานได้สะท้อนความหลากหลายของแฟชั่นบนท้องถนนมากที่สุด แต่ ก็มีอยู่หลายแบรนด์ที่สร้างอนาคตขึ้นมาจากอดีต และคนที่ทำ�ได้ดีที่สุดติดต่อ กันมาหลายปี (อย่างน่าประหลาดใจ) เห็นจะเป็น Christopher Bailey แห่ง Burberry Prorsum ที่ครั้งนี้ตั้งชื่อคอลเล็กชั่นของเขาตามนางแบบยุค 60’s Jean Shrimpton Silhouette แบบยุค 60’s ถูกนำ�กลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากที่ฮิตกัน เป็นบ้าเป็นหลังเมื่อปี 2006 (Balenciaga) โค้ทและ แจ็กเก็ทไหล่แคบ ตัว แล้วตัวเล่า ตั้งแต่สีแสบสันอย่างส้ม ฟ้า แดง เขียว ลาย tartans ที่นิยมทั้งใน ยุค 60’s และในฐานะเป็นลายมรดกของ Burberry เอง ไปจนจบคอลเล็คชั่น ด้วยชุดสีขาว-ดำ� ถูกส่งออกมาคู่กับถุงน่องดำ�เข้ม หรือไม่ก็กางเกงทรงสลิม ขับ เน้น silhouette ให้เป็นยุค 60 เข้าไปอีก ด้วยความเรียบเท่ห์ที่เสื้อผ้ายุคนั้น สอดคล้องกับค่านิยมปัจจุบัน คงจะเดาได้ไม่ยากว่า คอลเล็คชั่นนี้จะประสบความ สำ�เร็จเป็นอย่างมากในด้านยอดขาย
อีกแบรนด์ที่เน้นโปรโมท “มรดก” ได้แก่แบรนด์เก่าแก่อย่าง Pringle of Scotland ที่ดีไซเนอร์ Claire Waight Keller ไปค้น archive ของแบรนด์ ออกมาทำ�ได้อย่างน่าสนใจ ที่ว่าน่าสนใจก็เพราะเธอไม่ได้เอางานเก่ามาทำ�ใหม่ อย่างที่คนอื่นทำ� แต่เธอเล่นรื้อสร้างกันลึกถึงเนื้อผ้า เช่น ตัดเอาผ้า แฟร์ ไอล์ กับทวีต แล้วนำ�มาต่อกันใหม่ในทรงประหลาด จะว่าเป็นเสื้อก็ไม่ใช่ เป็น ponchos ของอันเดียนแดงก็ไม่เชิง (ในบางชุดก็เอามาทำ�เป็นกระโปรงที่ดู เหมือน ผ้าถุงสั้นๆ มากกว่ากระโปรงจริงๆ ในขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้ง งานถักที่เป็น เอกลักษณ์ของแบรนด์ แต่ก็ทำ�ในวิธีและทักษะที่แทบไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องเก่า (เมื่อ หลายสิบปีที่แล้ว) มาเล่าใหม่ พูดถึงงานถักแล้วจะไม่พูดถึง Mark Fast ไม่ได้ เพราะ Fast เป็น ดีไซเนอร์หนึ่งในมีกี่คนที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีในการสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ ตัวเองขึ้นมาได้ชัดเจนถึงระดับที่คนเห็นปั๊บเป็นต้องรู้ว่าใครเป็นคนออกแบบ trademark ของเขาคือ เดรสผ้าถักด้วยเทคนิคที่ทำ�ให้รู้สึกมีทรวดมีทรง เหมือนกำ�ลังใส่คอร์เซ็ทอยู่ แต่ในเมื่ออยู่วงการแฟชั่นแล้ว Fast จึงรู้ตัวดีว่า ไม่สามารถอยู่เฉยๆ ไปกับเทคนิคเดิมๆของตัวได้ และเข้าก็ได้พิสูจน์ตัวเองกับเท คนิคใหม่ๆ กับเดรสยาวทรงใหม่ๆ ที่ลูกค้าอาจจะใส่ยากขึ้นนิดนึง แต่ก็เปรี้ยว จนไม่อยากเชื่อว่านี่คือ knitwear Paul Smith เองก็ทำ�คอลเลคชั่นผู้หญิงออกมาได้ดีไม่น้อยในซีซั่นนี้ ด้วยลุค Boyish ในแบบ preppyๆ สุดแสนจะอังกฤษ แล้วเขาเริ่มแรงตั้งแต่ ชุดเปิดโชว์ด้วยเสื้อโค้ทยาวสีเข้มแบบผู้ชายสวมทับ เบลซเซอร์ลายโพลก้าด็อท (หวานๆ) กับกางเกงสีน้ำ�ตาลทองแดงพับขาเต่อ มาสมัยนี้ ผู้หญิงคนไหนยังไม่ กล้าหากางเกงขาวกว้างมาใส่ Paul Smith ก็จัดให้ในรูปแบบกางเกง slack แบบผู้ชายๆ ที่ออกจะหลวมๆ หรือ กางเกงเอวสูงขาผอมตรงก็มีให้ใช้แทนเช่น กันค่ะ แต่ชิ้นที่น่าสนใจและน่าจะขายดีที่สุดในหมู่สาวๆ ดูจะเป็น เหล่า คาร์ดิแกน แบบ oversized ที่แสนจะใส่สบาย แถมเท่ห์อีกต่างหาก Mary Katrantzou เป็นอีกคนหนึ่งที่น่าจับตามอง ซีซั่นนี้เธอเล่นกับ prints ในลักษณะที่สุดโต่งน่าตื่นตะลึง กับเสื้อผ้าในทรงเนี้ยบเก๋ โครงสร้าง แน่นสไตล์ Haute Couture แต่เธอเอา prints ของสารพัดของมีค่ามา ผสมโรงใส่กันอย่างสุดเหวี่ยงตั้งแต่ ลายวอลล์เปเปอร์ (หรือผ้าไหมกรุผนัง) แบบ Chinoiserie ลายเครื่องแจกันราชวงศ์หมิง ลายไข่ Faberge ลาย เครื่องกระเบื้องฝรั่งเศส ฯลฯ แต่ชุดที่น่าประทับใจที่สุดเห็นจะเป็นเกาะอกฟูฟ่อง สีม่วงที่ดีไซเนอร์สามารถทำ�ลาย prints ใหญ่โตลงบนผ้าที่ตัดแบบ bias-cut ได้อย่างสง่างาม
New York ซีซั่นนี้ของนิวยอร์คดูจะกรุ่นไปด้วยการหวนไปถึงมรดกของแฟชั่นแบบอเมริกันๆ ในเสื้อผ้าลายเส้นเรียบง่าย และทรงโปร่งๆ สวมใส่สบาย Diane von Furstenberg ย้อนกลับไปยุค 70’s ที่มีเสื้อผ้าของ Yves Saint Laurent เป็นหัวเรือ ในขณะที่มี Gloria Vanderbilt กับ Diana Vreeland เป็นตำ�นานของฝรั่งอเมริกา ดังชื่อคอลเลคชั่นที่เธอตั้งไว้ใหญ่โตว่า American Legends ซึ่งเธอทำ�ได้เก๋ไก๋กับเดรสลาย prints รูปหัวใจใส่คู่บูท หนังกลับ และหมวก fedora ยอดแบนปีกกว้าง มีบางลุคที่ Yvan Mispelaere มือขวาทำ�หลุดสไตล์ของแบรนด์ไปบ้าง อย่าง ponchos หรือสไตล์คาว บอยๆ นิดๆ แต่สามชุดสุดท้ายที่เป็นเดรสรัดรูปยาวเข้ารูปปักดิ้นทั้งตัวได้พาเรา กลับเข้าสู่ Studio 54 ของ DIane von Furstenberg อีกครั้งค่ะ โชว์ของ Thakoon มีกลิ่นอายของ Africa เผ่า Maasai กันตั้งแต่ ลายตารางกับลาย prints แบบชนเฝ่าผนเดรสผ้าทัฟต้า ไปจนถึงทรงผมของ เหล่านางแบบที่รวบตึงไปข้างหลัง เสื้อผ้าคอลเลคชั่นนี้ของเขาสีสันสดใส มีลาย ดอกไม้แบบบาติก ในขณะที่ silhouette ดูทันสมัยในหลายชุดด้วยแจ็คเก็ต/เด รสสั้นที่ใส่คู่กับกางเกงขาตรงเข้ารูป แต่มันติดอยู่ที่ แรงบันดาลใจอันนี้ Junya Watanabe เคยบุกเบิกมาแล้ว คนมาทีหลังอย่าง Thakoon จึงต้องทำ�การ บ้านหนักหน่อย คนที่พัฒนาขึ้นอย่างผิดคาดคือ Victoria Beckham นักร้องที่ผันตัว มาเป็นดีไซเนอร์ ซีซั่นนี้คุณนายเบ็คแฮมได้ทิ้งสไตล์เสื้อผ้าเข้ารูปไปจนเหลือแต่ เพียง silhouette ที่บางเบาและเทคนิคการ drape ที่เสริมสัดส่วนได้โดยไม่ได้ รัดรึง เนื้อผ้าที่เธอเลือกใช้เองก็ไม่เป็นเนื้อผ้าที่ไม่หวือหวาอย่างเคชเมียร์ ถือ เป็นคอลเลคชั่นที่ดีมากคอลเลกชั่นหนึ่ง ดีไซเนอร์หญิงอีกคนหนึ่งคือ Tory Burch ที่ดูจะยังคงยึดเอายุค 70’s เป็นสรณะ เสื้อคอโบว์กับกางเกงเอวสูงขาบาน นั้นสุดแสนจะ 70’s แต่ด้วยโทน สีสไตล์อเมริกัน country นั้นดูจะออกแนวฮิปปี้มากกว่าจะได้แรงบันดาลใจจาก Yves Saint Laurent อย่างไรก็ดี กระโปรงยาวกรอมเข่าของ Burch น่าจะ เป็นสัญญาณว่าต่อจากนี้เราจะเริ่มใส่กระโปรงที่ยาวขึ้นแล้ว ในขณะที่ Burch ส่งเสื้อผ้ากลิ่นอาย country ออกมา DKNY ก็ส่ง ออร่าสาวเมืองใหญ่แบบทันสมัยออกมาสู้ เสื้อโค้ทกึ่งผ้าคลุมนั้นสะดุดตาด้วย ดีเทลด้าน tailoring และความเก๋ด้านการใช้งานในรูปแบบเสื้อคลุม ในขณะ ที่ biker’s jacket กับกางเกงสลิมทั้งหลายก็ดูจะยังคงมัดใจสาวๆเมืองใหญ่ ได่อย่างที่เป็นมาหลายซีซั่น การเล่นกับสีสันก็น่าสนใจขึ้นอีกโข เมือง Donna Karan จับเอาสีแดงกับชมพูหรือแดง ส้ม มาคู่กันในส่วนของ oversized sweater และ oversized cardigan ถ้าจะมีบางซีซั่นที่ทีม DKNY ออกแบบ อะไรหลุดคอนเซ็ปท์ไปบ้าง ซีซั่นนี้เรียกได้ว่าตรงเป้าเผง แถมจัดเต็มเสียด้วย
Paris กระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนได้แผ่ซ่านไปทั่ววงการแฟชั่น กรุงปารีส ข่าวลือเรื่องการถูกไล่ออกของ John Galliano เองแพร่สะพัดไป ทั่ว การปรากฏตัวของ Sidney Toledano ผู้บริหาร Christian Dior เพื่อ กล่าวสุนทรพจน์ยาวเหยียด เน้นย้ำ�ถึงมรดกของแบรนด์และทีมเวิร์ค โดยไม่ กล่าวถึงตัว Galliano นั้นยิ่งเพิ่มเสียงซุบซิบของคนมากเข้าไปใหญ่ที่ข่าวลือ เกี่ยวกับดีไซเนอร์ที่อยู่คู่แบรนด์มาสิบสี่ปีนั้นเป็นความจริง โชว์เปิดตัวด้วยนางแบบในชุดยุคโรแมนติกด้วยสวมเสื้อคลุมยาวสีดำ�บน แจ็กเก็ตทรงพองทำ�จากหนัง กางเกงผ้าไหมสีน้ำ�เงินเข้มและรองเท้าบู้ทเลยเข่า ยังคงสะท้อนภาพผู้หญิงแสบซ่าของ Galliano เอาไว้ คอลเล็กชั่นนี้ดูจะออกมา
34 dont magazine
ในแนวโบฮีเมียน ด้วยโทนสีทุ้มลึก และเนื้อผ้าเข้มหนาอย่างกำ�มะหยี่ ก่อนจะจบ โชว์ด้วยชุดสีพาสเทล ชุดแล้วชุดเล่า ในผ้าชิฟฟองเบาไสว ลูกไม้ในรูปแบบต่างๆ ยังคงไร้เงา John Galliano แบรนด์อื่นเองก็ดูจะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยเช่นกัน แฟชั่นโชว์ของหลายๆแบรนด์ล้วนละทิ้งโชว์ฟู่ฟ่า อลังการแล้วหันมาจัดโชว์ที่ เรียบง่ายที่สุด และพุ่งความสนใจแต่เพียงเสื้อผ้าในคอลเล็คชั่นซึ่งก็ออกมา สงบเสงี่ยม เยือกเย็นกันโดยมิได้นัดหมาย Yves Saint Laurent ซีซั่นนี้ Stefano Pilati ส่งภาษาเป็นภาพขาว ดำ�กับเราในเสื้อผ้าที่สะท้อนถึงยุคทองของแบรนด์ในช่วงปี 60’s-70’s แต่ผลที่ ออกมาดูสดใหม่ไม่ดูเป็นการเอาเริ่องเก่ามาเล่าซ้ำ�หรือยก Archive มาให้เรานั่ง ดูทั้งดุ้น งาน tailoring ยังคงจุดเด่นความเป็นผู้หญิงเท่ๆ ด้วยลูกเล่น feminine/masculine ของ YSL ได้อย่างเหนียวแน่นตั้งแต่เปิดโชว์ด้วยแจ็กเก็ททรง
ยาวผ้าวูลลาย Prince of Wales ที่ยาวกรอมเข่า โชว์ดำ�เนินต่อไปด้วยโทน สีขาวดำ�และเสื้อผ้าชิ้นพื้นฐานคุ้นตาอย่างสูทกระโปรง กางเกง ฯลฯ ที่ถูกรื้อ สร้างออกมาใหม่ ให้เนี้ยบ บาง เบา มีบ้างที่ Pilati นำ�สีเข้ามาใช้ และเป็นสี เด็ดๆ ทุกครั้งไป อย่างเสื้อโค้ทสีม่วงเข้มที่งามจับใจก่อนจะจบโชว์อย่างสง่า งามด้วยเหล่าเดรสผ้าบางเบาสีขาว และเฟอร์ขนนกกระจอกเทศบนไหล่ของ Freja นางแบบที่ฮอตที่สุดของฤดูกาล แบรนด์ที่น่าจับตาที่สุดของซีซั่นดูจะเป็น Celine แบรนด์โปรดของสาว Urbanite Phoebe Philo มาพร้อมกับลายเส้นสะอ้านตา และทรงเพรียว ชะลูด แต่กลับมีเนื้อห้าอยู่ในสีสัน และวัสดุที่เธอเลือกใช้อย่างเต็มเปี่ยม ทั้ง สีส้ม สีชมพู และการใช้ทั้งหนังและเฟอร์ ร่วมกัน แต่กลับทำ�ได้อย่างลงตัว นำ�สมัย และไม่รู้สึกโฉ่งฉ่าง ประหนึ่งเป็นการนำ�เอา minimalism มาตีความ ใหม่ แถมเป็นการตีความใหม่ที่น่าจับมองเป็นอย่างยิ่ง อีกฟากหนึ่งของทรง เสื้อเรียบคือ Dries Van Noten ที่ชดเชยความเรียบของทรงด้วยการจับ
เอา สารพัด prints และสารพัดสัตว์มาชนกันจนน่าตกใจ และดูจัดเต็มจน เข้าขั้น vulgar แต่ถ้าจับแยกชิ้นเมื่อไหร่ ก็เรียกได้ว่าสวยทุกชิ้น ปิดท้ายกันด้วยโชว์ของดีไซเนอร์ที่ฝึกปรือมาจาก Belgium กำ�ลังมา แรงที่สุดในขณะนี้ (มีข่าวลือว่าเขาอาจได้แทนที่ John Galliano ที่ Dior และในขณะเดียวกัน Karl Lagerfeld ก็เคยเปรยๆว่า ถ้าจะมีใครซักคนมา ทำ� Chanel ต่อจากเขา ก็คือ Haider Ackermann คนนี้) Ackermann เปิดโชว์ด้วยโค้ทยาวดำ� ล้วนตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะ มีสีงาช้างเข้ามา เสื้อโค้ทยาวตัวแล้วตัวเล่าถูกนำ�มาใช้ ด้วยวัสดุที่ไล่ไปตั้งแต่ หนัง หนังกลับ ไปยันผ้าไหม Ackermann ยังคงรักษาเอกลักษณ์และ จังหวะจะโคนในงานของเขาได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่จุดน่าสนใจแถบคอเสื้อ เอว คอดกับการคาดเข็มขัด แขนเสื้อที่ถูกพับขึ้นมา (แล้วใส่ถุงมือยาวตามมา ติดๆ) และแนวขาเรียวยาว ผู้หญิงของ Ackermann นั้นเท่ห์เข้มแข็ง และมี ความเป็น urbanite อย่างเต็มเปี่ยม dont magazine 35
DONT SPECIAL REPORT
Fall For the Fall
Get the looks for your coming season. Mixing and matching interesting techniques from the runway, overwhelmingly! Words & Realisation Wallaya Tipvannaporn Photography Riksh Upamaya สาวก DONT หลายคนพอได้เห็นชื่อคอลัมน์แล้วก็คงจะนึกขันอยู่ในใจ ว่านังบก.ความงามคนนี้จะเอาลุคจากรันเวย์มาสอนฉันทำ�ไม เพราะฉันรู้ และเห็นมาหมดแล้วค่ะ (ตั้งแต่หลายเดือนที่แล้วด้วย!) แต่! อย่าค่ะ! อย่าเพิ่งเปิดผ่านคอลัมน์นี้ไปแบบไม่แคร์ เพราะด้วยความชื่นชอบส่วนตัว เราจึงอดไม่ได้ที่จะนำ�เทรนด์การแต่งหน้าบนรันเวย์ของแบรนด์ต่างๆ มานำ�เสนออย่างจริงจัง แบบให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนค่ะ เทรนด์การแต่งหน้าในฤดูกาลนี้จะถูกใจบก.ความงามเป็นพิเศษ เนื่องจากโดยภาพรวมดูค่อนข้างเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดและ เทคนิคใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เราจึงเลือกดึงเอาคีย์ลุคเด่นๆ ออกมา แล้วนำ�มาประยุกต์ในแบบฉบับของ DONT เอง พร้อมคำ�แนะนำ�ในการเลือกใช้ เครื่องสำ�อางคอลเล็กชั่นล่าสุดจากแบรนด์ต่างๆ ควบคู่ไปด้วยแบบจัดเต็มถึง 8 ลุค!
Glam Factor by ESTÉE LAUDER ดรอปสีคิ้วด้วยมาสคาร่าสำ�หรับปัดคิ้วสีอ่อนหรือใช้แปรงสำ�หรับ หวีคิ้วปัดรองพื้นแล้วหวีลงไปเบาๆ ระบายสีตาให้เป็นสโมกกี้อาย สีเอิร์ทโทน ตัดกับริมฝีปากที่ระบายด้วยสีแดงหรือชมพูเข้ม ESTEE LAUDER “Modern Mercury” Pure Color Illuminating Powder Gelee 1500 THB, Pure Color EyayShadow Duos in Cobblestones 1200 THB, Pure Color Velvet Lipstick in Fuchsia Velvet 1000 THB 38 dont magazine
Double lines by NARS ระบายสีตาในโทนที่เราชอบ ไม่ว่าจะเป็นสีเทาอ่อน สีเบจ หรือจะเป็นสีนีออน ไปเลยถ้าอยากได้ลุคเปรี้ยวเข็ดฟัน ตามด้วยการระบายสีปากด้วยสีแดงเนื้อ บางเบา หรือทากลอสบางๆ เขียนอายไลเนอร์ชิดขอบตาบนและล่าง แล้วเพิ่ม อายไลเนอร์อีกหนึ่งเส้นบริเวณเหนือรอยพับของเปลือกตา (บริเวณเหนือ เบ้าตาเล็กน้อย) เพื่อเพิ่มรายละเอียดสนุกๆ จนเพื่อนๆ ต้องขอเข้ามาดูใกล้ๆ NARS Trio Eyeshadow in Delphes 1500 THB, Duo Eyeshadow in Grand Palais 1400, Pure Matte Lipstick in Montego Bay 990 THB, Pure Matte Lipdtick in Mascate 990 THB, Larger Than Life Long-wear Eye Liner 850 THB dont magazine 39
Casually Quick by BLOOM & RED EARTH ทำ�ได้ง่ายๆ เร็วๆ เพราะตื่่นเช้ามา ก็แทบจะไม่มีเวลาแต่งหน้าแบบจัดเต็ม ลองเลือกทาสีตาออกน้ำ�ตาลส้มง่ายๆ โดยใช้นิ้วเกลี่ยเร็วๆ ขณะเดียวกัน ก็เกลี่ยที่แก้มไปด้วยเลย ปัดคิ้วให้ได้รูป ปัดขนตาให้เรียงเส้นสวย แล้วทา ปากสีชมพูพาสเทลหรือจะเป็นกลอสแดงใสๆ ระหว่างขับรถก็ได้ RED EARTH Plumping Lip Gloss in Wonder BLOOM Cheer Colour Cream in Natural
40 dont magazine
Round Two by ANNA SUI ถ้ายังไม่หนำ�ใจ ก็แต่งต่อจาก look ที่แล้วได้เลย แนะนำ�ว่าหากมีเวลาว่าง ระหว่างวัน ก็หยิบดินสอเชียนขอบตามาเขียนสักนิดหน่อย เขียนเส้นหนาๆ แต่ไม่ต้องตวัดขึ้น ดูแปลกตาไปอีกแบบ เพิ่มสีสันด้วยการปัดแก้มและทาริม ฝีปากอีกเล็กน้อย เพื่อให้รับกันกับขอบตาที่เด่นขึ้นมา ANNA SUI Eyebrow Color Compact 03 1150 THB, Eye Color 102 1050 THB, Eye Color 003 1050, Lip Gloss R450 1200 THB, Lip Rouge G400 1200 THB
dont magazine 41
A Bit More Dramatic by MAKE UP STORE ลุคนี้มีลูกเล่นด้วยการเขียนอายไลเนอร์แบบตัดเส้นโดยปล่อยให้เกิดช่องว่างที่หางตา (ไม่ระบายจน ดำ�สนิท) และตวัดอายไลเนอร์ใต้หัวคิ้วลงมา สำ�หรับงานปาร์ตี้แฟนซีหน่อยสามารถเพิ่มสีอายแชโดว์ หรือกลิตเตอร์ลงไปได้ หรือหากอยากจะติดขนตาสีๆ ไปเลย ก็สามารถทำ�ได้ ดูมันส์ดีค่ะ MAKE UP STORE Eye Pencil in Awsome Performance 700 THB, Lip Pencil in In The Flashlight 700 THB, Cyber Shadow in Bordeaux 750 THB, Cyber Shadow in Sapphire 750 THB, Glitter in Sputnik 625 THB, Multi Lash in Black 800 THB, Glitter Eyeliner in Diamond, Lipstick in Drama Creme 850 THB, Lash Art Heaven TETE-A-PORTER@METROPOLITAN MUSEUM OF ART headpiece BALLY cropped dress 42 dont magazine
Fake Fake Ones by M.A.C. เขียนอายไลเนอร์แบบที่เขียนอยู่แล้วในชีวิตประจำ�วัน หากอยากหาลูกเล่นนิดๆ หน่อยๆ ก็ใช้แปรง วาดอายไลเนอร์ วาดเส้นขนตาเลย! วาดลงมาให้มีลักษณะเป็นขนตาล่าง ค่อยๆ ไล่เขียนไปถึง ประมาณกึ่งกลางตาแล้วเปลี่ยนเป็นวาดอายไลนเนอร์เส้นปกติ จะทำ�ให้เราดูเหมือนติดขนตาล่างปลอม ตามด้วยปัดแก้มด้วยสีชมพูอ่อน แล้วทาปากสีนู้ดหรือสีแดงเข้มเบอร์กันดี ก็เป็นอันเรียบร้อย M.A.C. Me Over! Fluidline in Avenue 770 THB, Lipstick in Runway Red 800 THB, Eye Shadow in Moleskin 670 THB, Powder Blush in Stunner 950 THB, Lipglass in Plum Fun 790 THB PAVONE metal butterflies headband, TETE-A-PORTER@METROPOLITAN MUSEUM OF ART silk headpiece, PRADA organza see through dress dont magazine 43
On My SmokyWay by GIVENCHY คราวนี้แต่งสโมกกี้อายแบบไม่ต้องยึดติดแบบแผนเดิมๆ นัก ใช้อายแชโดว์สีเข้มเพียงหนึ่งสีก็พอ สำ�หรับลุคนี้ ระบายทั้งเปลือกตาจนไปถึงหางตาและค่อยๆ ไล่ให้บริเวณชิดขอบตาสีเข้มมากหน่อย และเกลี่ยให้อ่อนลงเรื่อยๆ ไล่ขึ้นไปจนถึงเบ้าตา จากนั้นเพิ่มชิมเมอร์ให้หัวตาและใต้คิ้วเล็กน้อย อย่าลืมปัดแก้มด้วยสีชมพู อาจทาลิปบาล์มหรือระบายริมฝีปากด้วยลิปสติกสีอ่อนเป็นการปิดท้าย GIVENCHY Les Ombres de Lune in Mysterieuse, Les Ombres de Lune in Mordoree, Le Pimise Blush Glow in Lune Rosee TETE-A-PORTER@METROPOLITAN MUSEUM OF ART headpiece EK THONGPRASERT butterflies prints chiffon dress
Models Natalia@WM and Larissa@Red Makeup Artist Wallaya Tipvannaporn Hair Stylist Chatchai Peangapichart & Chanchai Tohim // Thanon Songsilp Stylist Thawinee Chantanakomes/ Ganyanee Srimongkol Assisting Stylist Noppanant Bhisawong Fashion Co-ordinator Kris Thanasomboon Photographic Assistants Nipon Saplai, Akkapon Kumpusan, Prakarn Wangkaew Special Thanks The Bonanza Resort, Khao Yai
Into Rose by Lancôme ใครที่ชอบแต่งหน้าออกโทนชมพูต้องชอบลุคนี้แน่นอน ระบายสีเปลือกตาด้วยสีขมพูและสี น้ำ�ตาลบริเวณหางตา ปัดแก้มด้วยสีชมพูอ่อนและทาปากด้วยกลอสชมพูนู้ดหรือทาลิปสติก ชมพูแมทก็ได้ อย่าลืมปัดขนตาให้ดูหนาขึ้นนิดนึง อาจเบรคความหวานของลุคด้วยสีเล็บแดง เข้ม เพื่อไม่ให้กลายเป็นสาวหวานจนเกินไป ไม่ใช่ type ของสาว DONT นะคะ! Lancôme Maison Lancôme 2000 THB, Les Œillades 2250 THB, Le Venis en Noir 650 THB, L’Absolu Rouge 1150 THB, Virtuôse Precious Cells 1100 THB KENZO jersey dress TETE-A-PORTER@METROPOLITAN MUSEUM OF ART headpiece dont magazine 45
48 dont magazine
Words Piyanun Uthaisangchai Photography Riksh Upamaya
bachelor
DONT THINK HE’S JUST ANOTHER GUY
Weerapong as the youngest generation who is playing an important role in his family business, Boonthavorn. บ่ายวันนี้อากาศขมุกขมัว ฟ้าเป็นสีเทาราวกับพร้อมจะเทฝนลงมาได้ทุก เมื่อ ณ สตูดิโอแห่งหนึ่งย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา ทีมงาน DONT กำ�ลังขะมักเขม้นถ่ายแฟชั่นเซ็ตปกอยู่ด้านใน เราเลยถือโอกาสนัดชาย หนุ่มผู้นี้มาพูดคุยกันที่นี่เสียเลย ตูมตาม-วีรพงษ์ ทยานุวัฒน์ หนุ่มโสดนักธุรกิจทายาท บริษัทบุญถาวร ศูนย์รวมกระเบื้องและเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่ของ ประเทศไทย มาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย แวบแรกที่ได้เจอเราก็พอเดาได้ว่า เขาเป็นหนุ่มอารมณ์ดี มาดกวนๆ กับการแต่งตัวแบบสบายๆ ของเขานี่ ช่างเข้ากันดีเสียจริง คุยไปยิงมุกไป เขาทำ�ให้บรรยากาศการพูดคุยกับ ทีม DONT ครึกครื้นฮาเฮอยู่ตลอด ตูมตามเริ่มเล่าให้เราฟังสั้นๆ ว่าขณะนี้เขากำ�ลังทำ�บริษัทจัดหา วัสดุของตัวเองอยู่ เพื่อส่งเป็นวัตถุดิบให้กับทั้งบริษัทในเครือบุญถาวร และบริษัทอื่นๆ ในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นอีกหนึ่งกำ�ลังเสริมที่ช่วยให้ เครือบุญถาวรแข็งแกร่งขึ้นอีก และในขณะเดียวกันเขาก็ได้สนุกกับ ความท้าทายใหม่ๆ อีกครั้ง
หนุ่มไฟแรงกับธุรกิจหลากหลายประเภท ด้วยความที่เป็นคนไม่ชอบทำ�อะไรจำ�เจ ประสบการณ์การทำ�งาน เพียง 5 ปีหลังจบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ จึงค่อนข้างหลากหลาย ตูมตามเริ่มสะสมประสบการณ์ จากการทำ�งานด้านลอจิสติก ในตำ�แหน่ง Warehouse & distribution ที่บริษัท Maersk อยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะกลับมาช่วยวางแผนและ พัฒนาองค์กรที่บริษัทของครอบครัว ด้วยการรับหน้าที่เป็นหัวเรือ ใหญ่ในแผนก Planning & Development “พี่ชายผมมีไอเดียที่จะตั้งแผนกนี้ขึ้นมาเป็นศูนย์กลาง คอย ศึกษางานทุกอย่างแล้วก็พัฒนา ให้การบริการลูกค้าหรือการแก้ ปัญหาแต่ละอย่างของบริษัทเป็นมาตรฐานเดียวกัน” จึงทำ�ให้ในปัจจุบัน การดูแลบริหารบุญถาวรที่มีอยู่หลายสาขา เป็นระบบขึ้นและแก้ปัญหาการบริการลูกค้าได้อย่างทันท่วงที หลังจากรับหน้าที่ตรงนี้ได้อยู่ราว 1 ปี ตูมตามก็พบกับความ ท้าทายใหม่ คือการเข้าไปแก้ปัญหาที่ฝังรากลึกในองค์กร ด้วยการ เข้าไปเป็นผู้จัดการสาขาเสียเอง “มีสาขาหนึ่งเค้ามีปัญหา ทั้งเรื่องฝ่ายขายและเรื่องคลังสินค้า เลยคุยกับพี่ว่างั้นผมเข้าไปช่วยดูแลสาขานี้ดีกว่า ผมก็เลยเข้าไปช่วย เคลียร์ปัญหาของสาขานี้ให้หมดไป” เขารื้อระบบการจัดการทุกด้านของสาขานี้ และวางแผนใหม่ และทำ�ให้สาขานี้เป็นต้นแบบด้านการบริหารจัดการสำ�หรับสาขาอื่นๆ ระหว่างที่ตูมตามเล่าเรื่องเครียดๆ ให้เราฟัง แต่ตัวเขากลับดู ไม่เครียดเลยสักนิด น่าทึ่งที่เขาจัดการปัญหามากมายและแบกภาระอัน หนักอึ้งนี้ไว้ได้ด้วยวัยเพียง 27 ปีเท่านั้น โอกาสทองที่ประเทศจีน หลังจากประสบความสำ�เร็จในการวางรากฐานการบริหาร จัดการที่บุญถาวรไว้แล้ว ตูมตามก็เริ่มมองหาสิ่งใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิม นี่เองคือที่มาของการตั้งบริษัทจัดหาวัสดุสินค้าของตัวเอง ถึงแม้จะต้อง
ใช้เวลาส่วนใหญ่ในประเทศจีนเพื่อหาลู่ทางทางธุรกิจ นานๆ ครั้งถึงจะ ได้กลับประเทศไทย แต่นั่นหมายถึงโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ สำ�หรับเขา “เมืองจีนถ้าหากคนภายนอกมองไป อาจจะเข้าใจว่ายังเป็น ประเทศที่ยังไม่พัฒนา แต่ว่าจริงๆแล้วอย่างกวางโจวที่ผมอยู่นี่ จีดีพีสูง กว่ากรุงเทพอีกนะครับ กำ�ลังซื้อเค้าก็เยอะ ยังมีโอกาสอีกเยอะที่เราจะ สามารถทำ�อะไรกับมันได้” เขาจึงลงทุนในธุรกิจเพิ่มอีก 1-2 อย่าง ที่นอกเหนือจากบริษัท จัดหาวัสดุสินค้า แถมตูมตามยังสมัครเรียนต่อที่โน่นอีก เพื่อสร้าง คอนเนคชั่นในเมืองจีนเพิ่ม เป็นวิธีการที่ฉลาดไม่เบา
สาวในอุดมคติ แล้วผู้หญิงแบบไหน ที่ตรงใจหนุ่มทำ�งานเก่งอย่างเขาล่ะ? “ผมชอบผู้หญิงแอคทีฟนะ ชอบผู้หญิงออกกำ�ลังกาย ชอบ ออกไปทำ�กิจกรรม ไม่กลัวดำ� ไม่กลัวว่าผมจะเสีย ลุยๆ ไม่ห่วงสวยแต่ ก็ยังสวย (หัวเราะ)” แสดงว่าผู้หญิงคนนี้ต้องเก่งมาก? “ผมเป็นคนชอบออกกำ�ลังกายครับ ชอบวิ่ง ชอบว่ายน้ำ� ตี แบดฯ ถ้าจะมีแฟนสักคน ก็อยากให้แฟนไปทำ�กิจกรรมด้วยกันได้ อีก ส่วนหนึ่งผมมองว่าผู้หญิงเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยออกกำ�ลังกายกันเลย ถึง จะเล่นกีฬา ก็เล่นโยคะ ซึ่งผมไม่สนใจไงครับ ให้เต้นแอโรบิกผมก็.. (หัวเราะ) อย่าเลย” เลยถูกทีม DONT แซวว่าตกลงอยากได้แฟนเป็นนักไตรกีฬา หรือเปล่า เขาหัวเราะร่วน ถ้าเจอผู้หญิงที่ถูกใจสักคนเขาจะพาไปเดทที่ไหน? “ผมจะชวนไปทิเบตครับ ชวนไปไหว้ดาไลลามะ” เขาหยุดคิด “แต่ทิเบตมันก็อาจจะเอ็กซ์ตรีมไปหน่อย ถ้าจะให้ทำ�ดูจริงจัง หน่อยก็คงพาไปเที่ยวป่าขึ้นเขา ไปภูกระดึง ไปกินข้าวในที่อากาศเย็นๆ” เราจึงอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำ�ไมถึงต้องพาสาวๆ ไปบุกป่าฝ่าเขา ขนาดนี้? “เพราะถ้าไปเดตที่ร้านอาหารสวยๆ มันก็เป็นกิจกรรมประจำ� วันอยู่แล้ว แค่ไปกินข้าว กินขนม มันไม่เห็นว่าเราจะรู้จักคนที่เราไปด้วย เยอะมากขึ้นเลยนี่ครับ” พอได้ฟังแล้วเราถึงกับต้องอมยิ้มเพราะเหตุผลของเขาได้ใจเรา ไปเต็มๆ “คุณตูมตามเชิญครับ” เสียงแว่วมาจากด้านในสตูดิโอ ถึงเวลาที่เขาจะต้องไปโพสท่า ถ่ายรูปตามแบบฉบับหนุ่มโสดของ DONT แล้ว ระหว่างการถ่ายทำ� เรา สังเกตเห็นความเขินกล้องและรอยยิ้มในแววตาตามประสาหนุ่มอารมณ์ ดี ตูมตามดูผ่อนคลาย ทั้งที่ยังมีภาระอันหนักหน่วงรออยู่ทันทีที่เขา กลับไปยังประเทศจีนในวันรุ่งขึ้น ราวกับว่าในทุกจังหวะชีวิตของเขา นั้นเต็มไปด้วยความสุขในสิ่งที่ทำ� แม้จะต้องเจออุปสรรคที่ยากเย็นแค่ ไหนก็ตาม สาวๆ คนไหนคิดว่าพอจะรับเงื่อนไขความฟิตแบบนักไตรกีฬาก็ สามารถติดต่อผ่านเราได้นะคะ ยินดีช่วยเหลือเต็มที่ค่ะ! :P
dont magazine 49
FEEL THE COLD BREEZE
Here comes the winter. Green leaves start turning red. It is time to change your accessories to warmer hue. Realisation Thawinee Chantanakomes Photography Riksh Upamaya
BALLY ethnic weaved top, bag, and ankle boots dont magazine 51
KENZO floral knitted top PRADA box clutch 52 dont magazine
JASPAL floral printed top KENZO floral tote bag Makeup Artist :Wallaya Tipvannaporn Hair Stylists :Thanon Songsil Assistant Stylist : Noppanant Bhisawong Photographic Assistants : Nipon Saplai & Akkapon Kumpusan Fashion Co-Ordinator : Kris Thanasomboon dont magazine 53
TRAVEL
DOI KHUN CHANG KIAN, CHIANG MAI Appreciate the Siamese Cherry Blossom and feel the heartfelt sweetness เมื่อห้าปีที่แล้ว ผมตัดสินใจมาเยือนที่นี่ เพราะได้ยินคำ�ร่ำ� ลือเรื่องทิวดอกซากุระอันงดงามจนไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงใน บ้านเรา ถึงกับมีคนบอกว่าสวยกว่าที่ญี่ปุ่นเสียด้วยซ้ำ� ผม จึงตัดสินใจดั้นด้นขึ้นไปถึงดอยขุนแม่ยะ เพื่อไปยลซากุระ แห่งสยามประเทศด้วยตาผมเองสักครั้ง หมู่ต้นนางพญาเสือโคร่ง[1] ขึ้นอยู่เป็นทิวแถวบน ดอยสูงชัน จนส่วนหนึ่งของภูเขากลายเป็นสีชมพูสะพรั่ง เมื่อฤดูออกดอกมาถึง ต้นนางพญาเสือโคร่ง (หรือที่เรา มักเรียกกันว่าซากุระเมืองไทย) เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบที่มัก ขึ้นบนที่สูง ในช่วงฤดูหนาวจะผลัดใบแล้วออกดอกสีชมพู พาสเทลทั่วทั้งต้นอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะหลุดร่วงไปและแตก ใบอ่อนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หลังจากทริปนั้น ในทุกปีถ้ามีเวลาผมจะหาโอกาส เดินทางไปชมความงามของมันตามจุดยอดนิยมต่างๆ ใน ภาคเหนืออยู่เรื่อยๆ เช่น ขุนวางที่เชียงใหม่ ดอยช้างที่ เชียงราย อุทยานแห่งชาติขุนสถานและนันทบุรีที่จังหวัด น่าน และที่ๆ ผมรู้สึกประทับใจมากที่สุดคือที่สถานีวิจัย
54 dont magazine
เกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน หรือที่เรียกติดปากกันสั้นๆในหมู่ นักท่องเที่ยวว่า ‘ขุนช่างเคี่ยน’ การเดินทางมาที่นี่ค่อนข้างสะดวกเพราะใกล้ตัวเมือง เชียงใหม่และเป็นสถานที่เราต้องประทับใจในความเขียว ชอุ่มของป่าเขาที่รายล้อมและสีสันของต้นพญาเสือโคร่งที่ ขึ้นอยู่ตามเส้นทางและแทรกตัวอยู่ท่ามกลางบ้านเรือน เป็น ภาพอันสวยงามที่ไม่ต่างจากภาพวาดเลยแม้แต่น้อย หากมีโอกาสอยากชวนให้ไปกางเต้นท์นอนค้างคืนสัก คืน เพราะในตอนรุ่งเช้าเราจะมีโอกาสได้เห็นดอกไม้ค่อยๆ เปลี่ยนโทนสีเพราะแสงแดดที่ค่อยๆ โลมไล้ทิวทัศน์ในยาม เช้า ไปจนถึงเวลาที่ดอกไม้ทั้งหมดต้องแสงแดดกล้าในยาม สาย ให้ความรู้สึกราวกับมีใครเอาน้ำ�หวานสีชมพูราด ตกแต่งไปทั่วทั้งทิวเขาเลยทีเดียว ระหว่างเดินทางขึ้นเขาจะผ่านจุดกางเต้นท์ของ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จากจุดกางเต้นท์นี้เองเรา จะเริ่มเห็นต้นนางพญาเสือโคร่งผลิบานอวดโฉมให้เห็นเป็น หย่อมๆ อดใจรออีกนิดแล้วนั่งรถขึ้นไปอีกสักพัก เราจะ
เริ่มเห็นสีเขียวเปลี่ยนเป็นสีชมพูมากขึ้นเรื่อยๆ จนโลกทั้ง ใบของคุณในวันนั้นจะกลายเป็นสีชมพูในที่สุดที่ปลายทาง ณ สถานีวิจัยฯ ก่อนถึงตัวหมู่บ้านเล็กน้อย เมื่อเดินลงมาที่หุบด้านล่างจะได้เห็นไร่กาแฟเป็น ทุ่งกว้าง ในตอนเช้าเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเก็บเมล็ดกาแฟ ใน บรรยากาศที่มีแต่อากาศบริสุทธิ์สดชื่น ไปกิจกรรมที่น่า สนใจไปอีกแบบ
How to get there?
การเดินทางไปที่ขุนช่างเคี่ยนนั้น จากตำ�แหน่งพระ ตำ�หนักภูพิงคราชนิเวศน์นี้เอง ลองหาเส้นทางที่แยกไปบ้า นม้งขุนช่างเคี่ยน ระยะการเดินทางต่อจากนี้ประมาณ 10 กิโลเมตรก็ถึงแต่ใช้เวลาในการเดินทางพอสมควร เพราะ เป็นการขึ้นเขาชัน บนพื้นถนนที่เป็นหลุมบ่อขรุขระ เต็ม ไปด้วยกรวดดินและแคบจนขับรถสวนกันลำ�บาก หากขับ รถยนต์ขึ้นมาเองควรมีความชำ�นาญในการขับรถพอ สมควร แนะนำ�ให้เป็นรถกระบะหรือ 4x4 จะสะดวกกว่า
Words & Photography Kitipat Mahapant
มาก แต่ถ้าใครอยากมาด้วยรถโดยสาร ลองสอบถามรถ สองแถวที่ปากทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพดูครับ เราอาจ ต้องเหมารถเลย เพราะรถสองแถวไม่มีเส้นทางประจำ�ขึ้น ลงที่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน
DONT MISS!
- บริเวณรอบๆสถานีวิจัยฯจะมีต้นนางพญาเสือ โคร่งอยู่เต็มข้างทาง หลายๆจุดหนาทึบดูเป็นพุ่ม หากเงย มองขึ้นไปก็จะรู้สึกเหมือนสายไหมสีชมพูฟูฟ่องเรียงราย สลับกับก้อนเมฆสีขาวนวลเต็มไปหมด บางจุดต้นนางพญา เสือโอบล้อมถนนจนดูคล้ายอุโมงค์สีชมพูแปลกตา การ เดินเล่นเพื่อถ่ายรูปที่นี่จึงเหมือนเราหลุดเข้ามาในโลก แฟนตาซีที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่ในโลกนี้จริงๆ ลองเดินเล่นหา มุมถ่ายภาพแปลกๆ ดู เพราะยังมีบ้านเรือนของคนท้องถิ่น ที่สร้างแบบง่ายๆ อยู่เรียงรายตลอดการเดินทางให้เราไป โพสท่าได้กันพอเป็นกระษัย - ลองพักค้างคืนที่นี่ดูสักครั้ง เพื่อจะได้สัมผัส บรรยากาศของความสดชื่นแบบเต็มที่ ถ้ามากับคู่รักก็จะ ได้พกเอาความโรแมนติคกลับไปด้วยไม่น้อย ส่วนตัวผม ไม่แนะนำ�ให้เดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ เพราะจะทำ�ให้เรา เหนื่อยเกินไปจนแทบไม่เหลือพื้นที่ความรู้สึกไว้ให้มีความ สุขกับทิวเขาสีชมพูสักเท่าไรนัก :)
- อ้อ! หากจะค้างคืนก็อย่าลืมเตรียมเสบียงไปเผื่อ ด้วย และไม่ต้องกังวลเรื่องห้องน้ำ� เพราะเขามีเตรียมไว้ให้ เรียบร้อย สะอาดดีด้วยครับ
DONT wanna be disappointed?
- เนื่องจากดอกนางพญาเสือโครงนี้จะบานให้ เห็นเต็มต้นเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น และเราเองก็ไม่ สามารถคาดเดาเวลาที่มันจะบานเต็มที่ได้ จึงทำ�ให้การ วางแผนวันหยุดยาวล่วงหน้า เพื่อทริปนี้ค่อนข้างลำ�บาก หลายครั้งที่ไปแล้วดอกยังไม่ผลิบานเต็มที่ ส่วนอีกหลาย ครั้งที่ฟ้าฝนแปรปรวนทำ�ให้ต้นนางพญาเสือโคร่งผลัด ดอกให้ร่วงไปและแตกใบอ่อนเร็วกว่ากำ�หนด เพื่อควรโทร ติดตามสอบถามกับคนในพื้นที่ถึงช่วงเวลาที่ดอกไม้ใกล้จะ บาน ซึ่งส่วนมากจะเป็นระหว่างเดือนธันวาคมและมกราคม ของทุกปี - หากเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงการมาทริปนี้ในวัน หยุด เพราะจำ�นวนคนนั้นมหาศาลไม่แพ้เทศกาลชมดอก ซากุระญี่ปุ่นเลยทีเดียว ทุกๆครั้งทีย่ ้อนกลับมานึกถึงช่วงเวลาทีไ่ ด้เยี่ยมเยือน ขุนช่างเคี่ยน ผมมองไม่เห็นสีอะไรนอกจากสีชมพู คิดไปว่า หากจะมีสถานที่ใดที่โรแมนติกที่สุดในประเทศไทย เห็นจะ เป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากที่ขุนช่างเคี่ยนแห่งนี้ที่แหละ ส่วน
ตัวผมคิดว่าที่นี่น่าจะเป็นสถานที่ที่ถ่ายพรีเวดดิ้งได้หวาน ที่สุด (ถ้าจะลงทุนหอบอุปกรณ์มาถ่ายกันนะครับ) หรือก็ แอบเดาไปว่าอาจเป็นสถานที่ที่คู่รักมาขอแต่งงานกันมาก ที่สุด หรือถ้าไม่ต้องคิดไกล แค่เดินจูงมือ แล้วแบ่งปันหูฟัง ไอพอดให้กับใครอีกคน ก็ไม่ต้องพึ่งดอกกุหลาบช่อโตใน วันวาเลนไทน์อีกต่อไปแล้ว
[1] (ชื่อวิทยาศาสตร์: Prunus cerasoides) เป็น พืชดอกในวงศ์ Rosaceae พบทั่วไปบนดอยสูง เช่น ดอยแม่สะลองจังหวัดเชียงราย ดอยเวียงแหง จังหวัด เชียงใหม่ จึงเป็นดอกไม้ประจำ�อำ�เภอเวียงแหง ลักษณะ การชม ก็จะไปชมไกล ๆ แบบทัศนียภาพให้เห็นเกลื่อนไป ทั้งดอย ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น ฉวีวรรณ, ชมพูภูพิงค์ (เหนือ) เส่คาแว่, เส่แผ่, แส่ลา แหล (กะเหรี่ยง เชียงใหม่) ซากุระดอย (เชียงใหม่) นางพญาเสือโคร่ง เป็นพรรณไม้ที่มีการกระจาย พันธุ์ตามธรรมชาติอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน พบอยู่กในป่าที่ระดับความสูง 500-1,500 เมตร จากระดับน้ำ�ทะเลในประเทศไทย พบขึ้นตามภูเขาที่สูงจาก ระดับน้ำ�ทะเล 1,00-2,000 เมตร เช่น บนดอยอินทนนท์ ดอยเชียงดาว ฯลฯ [Wikipedia]
dont magazine 55
Words Jakthong Ubolsootvanich Photography Riksh Upamaya
Passion Fruit Martini Fluffly Foam on the sky high platform ด้วยความเป็นเผด็จการด้านอาหารหารกิน ทุกครั้งที่มาด มัวแซลนัดสังสรรค์กับเพื่อนสาว ก็มักจะไปที่เดิมๆ ซึ่งไม่ พ้นเป็นที่ประจำ�ของมาดมัวแซล แต่เพิ่งมีครั้งล่าสุดนี่แหละ ค่ะให้เพื่อนพาไปที่ประจำ�ของเพื่อนบ้าง ถือเป็นโอกาสได้ ลองที่ใหม่ เรามาดูกันค่ะว่ารสนิยมการดื่ม การกินของ คุณเพื่อนเป็นอย่างไร เพื่อนนัดมาดมัวแซลมาที่ชั้น 55 ของโรงแรม Centara Grand ข้าง Central World ค่ะ มาดมัวแซล เป็นสาวปารีเซียนแท้และดั้งเดิมขนาดที่ไม่เคยขึ้นหอไอเฟล ค่ะ (เป็นหอที่มีไว้ให้แต่นักท่องเที่ยวขึ้นกัน) มาดมัวแซล เลยชินกับตึกสไตล์ โอสมานน์ สูงอย่างมากก็แปดชั้น เล่น นัดกันมาดาดฟ้าชั้น 55 ขนาดนี้ บวกส้นรองเท้ามาดมัว แซลเข้าไปก็เท่ากับชั้น 55 1/2 อาการขาสั่นมันกำ�เริบ เป็น อาการอยากมีหนุ่มหล่อมาควงแขนกันตกบันไดแก้วของ บาร์ค่ะ พอได้เมนูเครื่องดื่มมา มาดมัวแซลก็พลิกหาตัว แรงๆ มาดมัวแซลชอบดื่มค็อกเทลที่มีเหล้าล้วนถึงขนาด ที่ว่า ถ้าในชีวิตนี้ ให้เลือกดื่มเครื่องดื่มได้อย่างเดียว มาด มัวแซลก็คงจะเลือก Martini ค่ะ ถ้าเป็น Dry Martini ก็ คงขอเป็น Gin-based ใส่ vermouth น้อยๆ แล้วก็ไม่ ใส่มะกอก เพราะมะกอกมากินพื้นที่ที่ควรจะเป็นของเหล้า… ส่วน Dry Martini ที่เป็น vodka-based มันเหมือน ขาดอะไรสักอย่าง แต่เรามาถึงยุคที่แม้แต่วงการอาหารก็ ขับเคลื่อนด้วยความคิดสร้างสรรค์แทนที่จะมัวถวิลหาแต่ ความดั้งเดิม โบราณขวานถากค่ะ Martini เองตอนนี้แตก 56 dont magazine
แขนงออกไปเป็นพันๆรส จนเลือกชิมไม่ถูก ซึ่งเหล้าไร้สี ไร้รส ไร้กลิ่นอย่าง vodka กลับเป็น base ที่ดีที่สุด สำ�หรับการผสมผสาน Martini ที่แหวกแนวเหล่านี้ ที่ Centara ก็เช่นกันค่ะ ตัวเด็ดของที่นี่คือ Passion Fruit Martini ที่ใช้ว็อดก้าระดับ พรีเมี่ยม (Greygoose? Belvedere? Chopin?) ถึงขนาดที่ดื่มจนหมดแก้ว ก็ยังคงนึกว่าเป็นน้ำ�เสาวรสที่อร่อยมากและเย็นมากแก้ว หนึ่ง ในส่วนผสมมีน้ำ�ลิ้นจี่มาช่วยลบความแสบแหลม ของเสาวรสได้อย่างลงตัว ในขณะที่โฟมเสาวรสด้านบนก็ เบาหวิว พอๆกับลมโชยบนยอดตึกที่มาดมัวแซลกำ�ลังนั่ง ดื่มด่ำ�บรรยากาศกรุงเทพยามค่ำ�อยู่นี้ สิ่งที่ประทับใจก็คือ Body ของค็อกเทลซึ่งจริงๆน่าจะหนาและหนักด้วยความที่ ทำ�จาก Puree ผลไม้ กลับเบาไปกับโฟมที่ยอดแก้ว ถูกใจ คนชอบค็อกเทลเนื้อใสๆอย่างมาดมัวแซลที่สุด เป็นอีกครั้ง ที่มาดมัวแซลคงต้องยอมรับและหันมาพิจารณา Martini ที่ทำ�จาก Vodka เสียใหม่ ด้วยกการสั่ง Passion Fruit Martini ย้ำ�อีกแก้วค่ะ
Red Sky ชั้น 55 โรงแรม Centara Grand @ Central World 999/99 ถ.พระรามหนึ่ง โทร: 02 100 1234
Star Signs Define Women Power by Mantra Madame
forecasting period : Mid September - Mid October 2011
ราศีเมษ
(ท่านที่เกิดวันที่ 13 เมษายน ถึง 14 พฤษภาคม) การเงิน ดวงชะตาตอนนี้คู่ค้า คู่ครองนำ�ทองมาให้ เก็บ ไว้ดีๆนะหนูนะช่วงนี้ทองแพง การงาน มีเรื่องให้เข้าใจ ผิดกับผู้ใหญ่ เรื่องประมาณว่า “ดีไม่พอ” ยังมีข้อแก้ไข “แต่ดีเกินไป” นี่สิจะแก้ไขอย่างได้ละจ๊ะ ความรัก ประมาณ วันที่ 15 คนโสดมีโอกาสเจอคู่ ถ้ามีคู่แล้วช่วงนี้จะดูดดื่ม ชื่นมื่น ราวกับดื่มน้ำ�ผึ้งพระจันทร์เชียวแหละ
ราศีพฤษก
(ท่านที่เกิดวันที่ 15 พฤษภาคม ถึง 15 มิถุนายน) การเงิน อย่าอยู่ใกล้คนอายุน้อยกว่า จะพาให้เราเสียเงิน ทองโดยใช่เรื่อง เช่น รุ่นน้องช่วงไปซื้อแป้งลดราคา แต่ พอใช้จริงกลับสิวฝ้าเห่อ ต้องเสียค่ารักษาแพงกว่าอีก การงาน ใกล้สิ้นเดือนมีคนหมั่นไส้ในที่ทำ�งาน ประมาณ ว่าก็สวยหนิค๊ะ ไม่ได้ตั้งจายยยย ความรัก หนูจะเห็น สุดที่รักเป็น “กระดูก” เพราะรู้ตัวอีกทีก็มีชะนี มาคาบ ไปแล้วจ้า
ราศีเมถุน
ราศีตุลย์
(ท่านที่เกิดวันที่ 18 ตุลาคม ถึง 16 พฤศจิกายน) การเงิน ช่วงกลางเดือน เป็นช่วงท็อปฟอร์ม พอๆ กับ นักวอลเล่ย์บอลสาวไทยเลยล่ะจ๊ะ เสิร์ฟมาก็ตบเอา ตบ เอา รวยแล้วอย่าลืมแบ่งป้าแล้วกัน การงาน เงินมางาน มา น่าอิจฉาสุดๆ ช่วงวันที่ 18 ถือศีล งดทานเนื้อสัตว์ ได้ งานเงินจะยิ่งดีเป็น 2 เท่า ความรัก ก็ดี อาจมีเรื่อง ไม่เข้าใจกันบ้าง ช่วงนี้ถ้าเจอกันน้อยลงสักนิด ชีวิตจะ สดใส ใจเขาจะคิดถึงเราจ้า
ราศีพิจิก
(ท่านที่เกิดวันที่ 17 พฤศจิกายน ถึง 15 ธันวาคม) การเงิน ดีพอสมควร จะได้เงินจากคู่แข่ง ประมาณว่า แข่งเสนอราคางาน แล้วหนูได้ทั้งที่ราคาแพงกว่า แต่ข้อดี คือหนูสวยกว่าจ้า การงาน ช่วงนี้ดีมาก ได้แบบสายัณห์ สัญญา เป็นพวกงานที่รายได้น้อยๆ แต่ได้นานๆ ความรัก คนที่คบกันลงท้ายด้วย 7 เช่น 7 เดือน 7 ปี มีโอกาสแต่งสูงจ้า แต่ถ้า 7 วันก็เกินไปนะ หรือว่า หน้า 7 หลัง 7 อันนี้ก็ไม่น่าใช่จ้า
ราศีธนู
(ท่านที่เกิดวันที่ 16 มิถุนายนถึง 16 กรกฏาคม) การเงิน คิดเงินได้เงินคิดทองได้ทอง เก็บเงินมากแต่ เงินไม่ค่อยเพิ่มเลยนะ หนูลองเปลี่ยนไปลงทุนบ้างดีกว่า หลังวันที่ 22 ไปโลดจ้า การงาน ช่วงนี้ฟ้าฝนตกบ่อย นะจ๊ะ งานประเภทสัญญิงสัญญา หรือ นัดหมายกับ ใคร จะมีข้อผิดพลาด อาจถึงฟ้าผ่าตัวดำ�ได้ ความรัก อีกนั่นแหละหนูชาวเมถุน ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ระวังเป็น “ไข้เธอไม่ดาด” เพราะ “ขาดเธอไม่ได้” จ้า หวานจ้าหวาน
(ท่านที่เกิดวันที่ 16 ธันวาคม ถึง 14 มกราคม) การเงิน มีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนมั่นคง ของ เกี่ยวกับความสวยงาม อสังหาริมทรัพย์ จะสร้างราย ได้จนหนูยิ้มแก้มปริ ไม่หยุดเลยทีเดียว การงาน เดือน นี้หนักเอาการ รายได้เท่าเศรษฐี แต่ทำ�งานเหมือน กรรมกร อดทนอีกนิดนะจ๊ะ ความรัก เดือนนี้ความรัก เข้าช่วงวิกฤตอิทธิพลของดาวมฤตยู อาจมีโอกาสเลิกรา ได้ ประครองกันให้ดีมีโอกาสรอดจ้า
ราศีกรกฎ
ราศีมังกร
(ท่านที่เกิดวันที่ 17 กรกฏาคม ถึง 17 สิงหาคม) การเงิน เหมือนอากาศ แต่ไม่ได้ขาด เข้ามาเรื่อยๆ แต่เข้า มาแล้วออกไปไวมั่กๆๆ การงาน ดีจ้าแต่ดีไม่สุด เหมือน เครื่องจะติด แต่ก็สะดุด เหมือนจะไปข้างหน้าแต่หยุดนิ่ง เป็นๆหายๆ วันอาทิตย์ไปปล่อยปลาไหลสัก 5 ตัว การ งานจะได้ลื่นปรื๊ดจ้า ความรัก อยู่คนเดียวแล้วสบาย 99% ของหญิงไทย คือ “คำ�ปลอบใจตัวเอง” เอาน่าหนู เดือนหน้าค่อยว่ากัน
(ท่านที่เกิดวันที่ 15 มกราคม ถึง 12 กุมภาพันธ์) การเงิน ดีนะจ๊ะ งานที่เกี่ยวโลหะ การเงิน ซื้อหุ้น ซื้อทอง เก็งกำ�ไรจะให้ผลดีมากๆ การงาน ปวดหัวกับเรื่องลูก น้องไม่เว้นแต่ละวัน สร้างปัญหา ทำ�ให้ไม่มีสมาธิในการ ทำ�งาน ความรัก ต่างคนต่างแข็ง อ่อนกันสักนิด ชีวิต จะก้าวหน้า ตอนต้นเดือนอย่าไปจู้จี้และคาดหวังกับเขา มากเกินไป
ราศีสิงห์
(ท่านที่เกิดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ถึง 14 มีนาคม) การเงิน กระเป๋ารั่วขนาเท่ากำ�ปั้น เงินเข้ามาก็หายไปหมด คำ�นวนรายจ่ายดีๆนะจ๊ะ สิ้นเดือนหนูเหนื่อยแน่ การงาน คอนเน็กชั่นที่มีมาก่อนหน้านี้ สามารถสร้างผลในวันนี้ แล้วจ้า จะทำ�ให้งานของหนูก้าวหน้าอย่างว่องไว ความรัก ต่างคนต่างแข็ง อ่อนกันสักนิด ชีวิตจะก้าวหน้า ตอนต้น เดือนอย่าไปจู้จี้และคาดหวังกับเขามากเกินไป
(ท่านที่เกิดวันที่ 18 สิงหาคม ถึง 16 กันยายน) การเงิน มีเรื่องให้ตื่นเต้นเข้ามาอยู่บ้าง แต่ไม่พอใจอย่าง ยิ่ง เป็นอย่างนี้สักพักแล้วจะดีขึ้นจ้า ป้าเป็นกำ�ลังใจให้ การงาน ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ที่ดิน อสังหา พาเรื่อง ร้อนใจสยองขวัญมาให้ ประมาณหนังเรื่องลัดดาแลนด์ เลยละจ้า ความรัก ชาวราศีสิงห์ท่องไว้ลูก “ความรัก เหมือน 3G” รู้ว่ามี แต่ช่วงนี้ยังไม่มาจ้า
ราศีกันย์
(ท่านที่เกิดวันที่ 17 กันยายน ถึง 17 ตุลาคม) การเงิน “ดี” แต่ตัวหนูเองต่างหากที่ไม่ดี ชอบปิ้งตลอด เวลา เข้าสไตล์พวกเราผู้หญิงอย่าหยุดสวย การงาน วันที่ 6 เป็นต้นไป ติดขัดจนอยากลาออกจากงาน คิดยาวๆ น้า อย่าคิดสั้น ความรัก มืดหม่นหมองไปสัก นิดนะจ๊ะ ช่วงนี้อากาศ ร้อนๆ หนาวๆ แต่ “ความเหงา” อาจทำ�ให้หนู “หนาว” มากกว่าปรกติได้จ้า
ราศีกุมภ์
ราศีมีน
(ท่านที่เกิดวันที่ 15 มีนาคม ถึง 12 เมษายน) การเงิน มีการทำ�บุญไปเยอะมากในช่วงนี้ ส่งผลให้การ เงินที่เข้ามาทวีคูณ มีความก้าวหน้าผู้หญิงสมัยนี้สวย อย่างเดียวไม่ได้จริงๆ การงาน หลังวันที่ 12 ไปงานจะมี ผู้ใหญ่หนุนหลัง ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ทำ�อะไรไม่ต้อง ห่วง ไปนวดอโรม่าบ้างนะหนูนะ เพราะหลังแข็งปึ๊กเลย ความรัก สุขเพียงชั่วคราว แต่เหงาชั่วข้ามปี จะทำ�อะไร ตัดสินใจดีๆ น้า คนที่มีเจ้าของแล้วอย่าไปยุ่งกับเขาเลย dont magazine 57
Celebrity Tips
DONT Ignore EAGGAMON ATTAGAMON KNOWS HOW TO SURVIVE TROPICAL AUTUMN
วันนี้ เจี๊ยบ – เอกมล อรรถกมล สไตลิสต์และบรรณาธิการ ผู้คร่ำ�หวอดอยู่ในวงการแฟชั่นกว่า 20 ปี จะมาแนะนำ�วิธีแต่ง ตัวอย่างไรให้อินเทรนด์ในฤดูหนาว[autumn / winter2011] สำ�หรับสภาพอากาศร้อนแบบไทยๆ To Do : Choose the right winter trend “ถ้าคนไทยอยากจะแต่งตัวตามรันเวย์ฤดูหนาวของแฟชั่นแถบยุโรปนะครับ สิ่งที่เราจะเอา มาปรับใช้ได้หลักๆเลย สิ่งแรกก็คือ“สี” แน่นอนว่าเราคงจะต้องตัดเรื่องเท็กซ์เจอร์หรือเนื้อ ผ้าที่หนาทึบออกไปเลย เพราะจะให้ใส่ผ้าวูล ผ้าทวีต หรือเฟอร์ ในสภาพอากาศร้อนๆ อย่างบ้านเราคงไม่ไหวแน่ คนใส่เองจะพาลเป็นลมไปซะก่อน นอกเสียจากว่าออฟฟิตติด แอร์เย็นฉ่ำ�...ก็ทำ�ไป เพราะฉะนั้นผมจึงแนะนำ�ให้ pick up เอาสีมาใช้ก่อนเทรนด์ตัวอื่นๆ เลย ซึ่งฤดูหนาวปีนี้สีกรมท่า [dark blue] มาแรง ตามติดด้วยเขียวทหารไล่เฉด และที่ ขาดไม่ได้เลยเพราะมีให้เห็นบนรันเวย์ฤดูหนาวทุกๆปีไม่เคยขาด นั่นก็คือ”สีม่วง” สีที่เป็น ตัวแทนความอบอุ่นท่ามกลางความเย็น ฉะนั้นใครมีเสื้อผ้าสีม่วงควรเก็บเอาไว้ อย่าเพิ่ง เบื่อทิ้งๆ ขว้างๆ สีม่วงไปไหนนะ คุณมีโอกาสได้หยิบขึ้นมา mix & match ในซีซั่นถัดไป... ชัวร์!” “สิ่งสำ�คัญอันดับ2 ที่สามารถหยิบฉวยจากรันเวย์ฤดูหนาว มาใช้กับบ้านเราได้ ก็ คือ silhouette หรือถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ หน่อยก็คือการ mix & match นั่นเอง... สรุปให้เห็นเป็นภาพเลยก็แล้วกันครับว่า silhouette ของซีซั่นนี้ ต้องมีกลิ่นไอของยุค ’70s ผสมอยู่ด้วย เช่น กางเกงขาบาน ผ้าพิมพ์ลายดอกไม้ กระโปรงแม็กซี่อ้ดพลีท รวม ไปถึงชายครุยที่ประดับตกแต่งอยู่บนชุดและแอ็คเซสเซอร์รี่ ผมมี trick ง่ายๆ อยู่ 1 ข้อ ว่า..เวลาแต่งตัวแนวย้อนยุค อย่าใส่ทุกชิ้นบนร่างกายเป็นย้อนยุคทั้งหมด เพราะจะทำ�ให้ คนใส่ดูแก่ คงไม่มีใครอยากโดนทักว่า “ตายและ แต่งตัวเหมือน ABBA จัง” เป็นแน่แท้ ดัง นั้นบนตัวเราขอมีย้อนยุคแค่ 1-2 ชิ้น...พอ มากชิ้นกว่านี้เอาอยู่ยากแล้วนะครับ นอกจาก ว่าคุณจะมีบุคลิกเก๋แบบมาดอนน่า หรือเอ็มมี่ ไวน์เฮ้าส์...อันนั้นไม่ว่ากัน หลังจากได้ 1-2 ชิ้นที่เป็นย้อนยุคแล้ว ให้หยิบเอาความโมเดิร์นเข้าไปมิกซ์ เพียงแค่นี้ก็จะทำ�ให้เกิดมุมมอง หรือ silhouette ใหม่ๆ ขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาดใจ” How to Mix & Match “จากที่ได้บอกไปแล้วว่าสีกรมท่าจะมาเป็นสีนางเอกของฤดูกาลนี้ ดังนั้นในตู้เสื้อผ้าของ คุณควรจะมีสักหนึ่งหรือสองชิ้นที่เป็นสีนี้ อาจจะเป็นกางเกงขาบาน เสื้อสูท หรือเชิ้ตเด รสก็ได้ แล้วนำ�สีกรมท่ามามิกซ์กับชิ้นอื่นๆที่เป็นสีสด อย่างเทอร์ควอยทซ์ ม่วง หรือส้ม แค่นี้ก็ทำ�ให้ฤดูหนาวดูสดชื่นขึ้นมาทันที สีกรมท่าจับคู่กับสีอะไรก็ได้ครับ สวยหมดทุกสี” “ส่วนเทรนด์สีเขียวทหาร ลองสังเกตดูดีๆจะเห็นว่าแต่ละแบรนด์ นำ�เอาสีเขียวที่มีน้ำ�หนัก อ่อน กลาง เข้ม รวมไปถึงเข้มน้อยหน่อย อ่อนมากหน่อย มาแม็ทช์กันใน 1 look ทำ�ให้ ชุดดูมี ‘มิติ’“ Investment pieces “สำ�หรับพี่ พี่คิดว่าคาร์ดิแกนเป็นชิ้นที่น่าลงทุนนะครับ คาร์ดิแกนผ้า knit เนื้อบาง หรือ ผ้าแคชเมียร์ก็น่าจะพอแล้วสำ�หรับใส่กันหนาวบ้านเรา ใครเป็นสาว fashionista ตัวจริง ก็ต้องเตรียมไว้เลยครับ สำ�หรับคาร์ดิแกนสีสดๆจี๊ดจ๊าด อันได้แก่ เขียวเทอร์คว๊อยทซ์ 58 dont magazine
Arrangement Piyanun Uthaisangchai Photography Riksh Upamaya
ม่วง ส้ม และเหลืองมะนาว แต่สำ�หรับคนที่ไม่เน้นว่า ต้องติดขอบรันเวย์ขนาดนั้น ลองเลือกซื้อที่เป็นสี เบสิคอย่างเช่น สีเบจ สีน้ำ�ตาล สีเทาเข้ม หรือ สีกรมท่าก็ได้ เพราะสีเหล่านี้สามารถนำ�ไปมิกซ์กับ เสื้อตัวในสีอะไรก็ได้ทั้งนั้น ฤดูหนาวกับรองเท้าบู้ท เป็นของคู่กัน สำ�หรับสาวไทยขอเป็นบู้ทแค่เหนือ ข้อเท้า (ankle boots) ก็พอ เป็นอีกชิ้นหนึ่งที่น่า ลงทุนเพราะเมื่อไหร่ที่ใส่บู้ท อารมณ์ของความเป็น สาวห้าว สาวเท่ สาวมั่น มันมาจากไหนไม่รู้เยอะแยะ ไปหมด ผมเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนที่นอกจากจะอยาก ให้ตัวเองดูเซ็กซี่แล้ว ‘ความเท่’ ก็เป็นอีกหนึ่งคาแร็ค เตอร์ที่ผู้หญิงอยากจะมี ดังนั้นแล้ว รองเท้าบู้ท ช่วยคุณได้ครับ อ้อ...เกือบลืมบอกไปว่าเวลาซื้อบู้ท อย่าเลือกแบบที่มันมีดีไซน์เยอะๆ เช่นแปะนู่น ปักนี่ ติดสายสร้อยห้อยดอกไม้ อะไรทำ�นองนั้น เพราะ มันขัดกับความบึกบึนของบู้ท รองเท้าบู้ทสวยๆนะ ขอแค่ตัดเย็บจากหนังดีๆ แบบเรียบๆ อาจจะมีตกแต่งด้วยโลหะ ประเภทหมุด หัวเข็มขัด หรือห่วงโซ่ แค่นั้นก็ตอบโจทย์ของความ เป็นบู้ทเพียงพอแล้ว รองเท้าบู้ทมีราคาค่อนข้างแพง เลือกซื้อคู่ที่ดีไซน์คลาสสิคดีกว่า จะได้เอาไว้ใช้ปีถัดไปได้ด้วย” ปัจจุบัน เจี๊ยบ-เอกมล อรรถกมล เป็นทั้งสไตล์ลิสต์ แฟชั่นรีพอร์ทเตอร์ให้กับ นิตยสารต่างๆ หลายฉบับ เป็นpersonal shopperให้กับลูกค้าของห้างสรรพ สินค้าเซ็นทรัลชิดลม และเป็นอาจารย์พิเศษวิชา TREND & STYLE ที่ภาควิชา ออกแบบเครื่องแต่งกาย คณะมัณฑณศิลป์ มศิลปากร นอกจากนี้ก็มีถูกเชิญไป เป็นวิทยากรพิเศษบรรยายเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตัวเพื่อสร้างภาพลักษณ์ ให้กับ องค์กรต่างๆ อยู่เรื่อยๆ หากอยากให้พี่เจี๊ยบช่วยสไตลิ่งและให้คำ�แนะนำ�ในการแต่ง ตัวเป็นพิเศษ สามารถนัดพบให้พี่เจี๊ยบเป็น Personal Shopper ได้ที่เซ็นทรัล ชิดลม โดยทิ้งชื่อ, เบอร์โทร และวันเวลาที่สะดวก (อย่างน้อยล่วงหน้า 3 วัน) ไว้ที่ เบอร์ 0-2793-7777 ต่อแผนก Personal Shopper หรือ กรอกแบบฟอร์มที่ “http://www.central.co.th/th/specialServices_Chidlom.php” หรือทิ้งข้อมูลไว้ที่แผนกลูกค้าสัมพันธ์ชั้น 7 เซ็นทรัลชิดลม
dont magazine 59