Mining Magazine Nov-Dec 2018

Page 1




8

6 เดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2561

คณะกรรมการสภาการเหมืองแร่

1. นายเข็มชาติ ว่องชาญกิจ 2. น.ส.อัญชลี ตระกูลดิษฐ 3. นายดิเรก รัตนวิชช์ 4. นายยุทธ เอีย่ มสะอาด 5. นายวัลลภ การวิวฒ ั น์ 6. นายทวี ทวีสขุ เสถียร 7. นายอนุพงศ์ โรจน์สพ ุ จน์ 8. นายชาญณรงค์ ทองแจ่ม 9. นายศิรชิ ยั มาโนช 10. นายศิรสิทธิ ์ สืบศิร ิ 11. นายสุรชิต มานะจิตต์ 12. นายเสกข์สรร ธีระวาณิชย์ 13. นายสุรพล อุดมพรวิรตั น์ 14. นายยงยุทธ รัตนสิร ิ 15. นายณรงค์ จ�าปาศักดิ ์ 16. นายอภิชาติ สายะสิญจน์ 17. นายสุเทพ สุนทรารัณย์ 18. นายอับดุลลาเตะ ยากัต

ประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ รองประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ รองประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ รองประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ รองประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ รองประธานกรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่ กรรมการสภาการเหมืองแร่

เลขาธิการสภาการเหมืองแร่ นายสมพร อดิศกั ดิพ ์ านิชกิจ

ผูช้ ว่ ยเลขาธิการสภาการเหมืองแร่ นางอรพิณ เปรือ่ งการ

ทีอ่ ยู ่ สภาการเหมืองแร่

222/2 ซอยมหำวิทยำลัยหอกำรค้ำไทย ถนนวิภำวดี-รังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2275-7684-6 แฟกซ์ 0-2692-3321 E-mail Contact : miningthai@miningthai.org Website : www.miningthai.org ID LINE : miningthai ที่ปรึกษา : เข็มชาติ ว่องชาญกิจ ประธำนกรรมกำรสภำกำรเหมืองแร่ วัลลภ การวิวัฒน์ รองประธำนกรรมกำรสภำกำรเหมืองแร่ และประธำนคณะอนุกรรมกำรประชำสัมพันธ์ สมพร อดิศักดิ์พานิชกิจ เลขำธิกำรสภำกำรเหมืองแร่ บรรณาธิการ : กิตติ วิสุทธิรัตนกุล กองบรรณาธิการ : สุรีย์พร วงศ์ศรีตระกูล / ทัศนีย์ เรืองติก / อ�ำพันธุ์ ไตรรัตน์ / ชุติภำ จริตพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด : เขมจิรำ ปลำทิพย์ ฝ่ายโฆษณา : ศิริภรณ์ กลิ่นขจร / กษิรำ เหมบัณฑิตย์ / กัลยำ ทรัพย์ภริ มย์ จัดท�าโดย : บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จ�ากัด เลขที่ 471/3-4 อำคำรพญำไทเพลส ถนนศรีอยุธยำ แขวงทุ่งพญำไท เขตรำชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2354-5333 แฟกซ์ 0-2640-4260 **วารสารเหมืองแร่ จัดท�ำขึน้ เพือ่ ให้ขอ้ มูลข่ำวสำรทีเ่ ป็นประโยชน์แก่สมำชิกสภำกำรเหมืองแร่ ประชำสัมพันธ์กำรด�ำเนินงำนและกิจกำรของสภำฯ ตลอดจนเผยแพร่ควำมรู้ ทีเ่ กีย่ วข้องกับอุตสำหกรรมเหมืองแร่ ทัง้ นีบ้ ทควำมต่ำงๆ ใน วารสารเหมืองแร่ นีเ้ ป็นดุลพินจิ ของกองบรรณำธิกำร โดยจะออกทุกๆ 2 เดือน



Contents ปีที่ 8 ฉบับที่ 6 ประจำ�เดือนพฤศจิก�ยน - ธันว�คม 2561 8

News

10 แวดวงช�วเหมือง 12 Report กพร. จัดฝึกอบรมทบทวนคว�มรูเ้ พื่อตอ่ อ�ยุ ใบรับรองผู้ควบคุมก�รใช้วัตถุระเบิดในง�นเหมืองแร่” ประจำ�ปีงบประม�ณ พ.ศ. 2562 จำ�นวน 130 ร�ย กองบรรณ�ธิก�ร

14 เหมืองแรส่ ีเขียว

กพร.จับมือ UNIDO และหน่วยง�นรัฐ-เอกชน ลดมลพิษ ด้วยเทคโนโลยีรีไซเคิลเศษโลหะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

21 CSR โรงไฟฟ้�ร�ชบุรี จับมือยิปซัมตร�ช�้ ง เดินหน�้ ยกระดับ คุณภ�พชีวิตชุมชน สร้�งโอก�สให้เย�วชนมุ่งสู่ก�ร พัฒน�ที่ยั่งยืน กองบรรณ�ธิก�ร

24 บทคว�มพิเศษ ลว้ งลึกอุตส�หกรรมอะลูมเิ นียม กับปัจจัยทีไ่ มค่ วรละส�ยต� กณิศ อ่ำ�สกุล

27 แร่น่�รู้

แร่อิลเมไนต์ (ilmenite) ต้นกำ�เนิดให้ไทเทเนียม ใชเ้ ป็นวัตถุดิบในก�รสร้�งเครื่องบิน

กองบรรณ�ธิก�ร

30 บทคว�ม ก�รพย�กรณป์ ริม�ณนำ�เข้�ถ่�นหินของประเทศไทย ปี พ.ศ. 2561-2565 ยุพิน พินิจศักดิ์

33 เรื่องเล่�จ�กช�วเหมือง ขอ้ คิดคำ�คน

รุ่งศักดิ์ อินทรสิงห์

18 CSR “น้ำ�เกี๋ยน” ชุมชนแบบชีววิถี ในโครงก�รหมูบ่ �้ น CIV 1 ในจุดเช็คอินที่ต้องห�้ มพล�ดของจังหวัดน่�น กองบรรณ�ธิก�ร

36 บทคว�ม ท�ท� สตีล แนะ 5 เคล็ดลับเลือกเหล็กเสน้ ต�มม�ตรฐ�น มอก.ใหม่ สร้�งคว�มมั่นใจในคว�มปลอดภัยให้ผ้บู ริโภค กองบรรณ�ธิก�ร

38 ข่�วเศรษฐกิจแร่



News

กพร.เผยหินก่อสร้างมีใช้เพียงพอ รองรับความต้องการภายในประเทศ ไม่ต่ำากว่า 30 ปี กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุ ต สาหกรรม เผยปั จ จุ บั น มี ผูป้ ระกอบการเหมืองหินเปิดด�าเนินการทัว่ ประเทศ ไม่น้อยกว่า 300 ราย รองรับความต้องการใช้หิน ก่อสร้างภายในประเทศได้ไม่ต่�ากว่า 30 ปี วิษณุ ทับเทีย่ ง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐาน และการเหมืองแร่ (กพร.) กล่ำวว่ำ ที่ผ่ำนมำ กพร. ได้ ด� ำ เนิ น กำรก� ำ หนดแหล่ ง หิ น เพื่ อ อุ ต สำหกรรม ก่อสร้ำงทั่วประเทศไปแล้วไม่น้อยกว่ำ 300 แหล่ง มีปริมำณส�ำรองรองรับควำมต้องกำรของประเทศได้ ไม่น้อยกว่ำ 30 ปี และก่อนที่พระรำชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 จะมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 29 สิงหำคม 2560 กระทรวงอุ ต สำหกรรมได้ มี ก ำรอนุ ญ ำต ประทำนบัตรและต่ออำยุประทำนบัตรเหมืองหินเพือ่ กำรก่ อ สร้ ำ งไปแล้ ว จ� ำ นวนหนึ่ ง ท� ำ ให้ ปั จ จุ บั น มี ผูป้ ระกอบกำรเหมืองหินทีเ่ ปิดด�ำเนินกำรทัว่ ประเทศ ไม่น้อยกว่ำ 300 รำย สำมำรถรักษำก�ำลังกำรผลิต หินได้อย่ำงต่อเนื่อง อย่ ำ งไรก็ ต ำม ในระยะ 1 ปี เ ศษที่ ผ่ ำ นมำ มีคำ� ขอประทำนบัตรหรือและค�ำขอต่ออำยุประทำนบัตร เหมืองหินเพื่อกำรก่อสร้ำงที่ยังค้ำงกำรพิจำรณำ อยู่ ที่ก รมอุ ต สำหกรรมพื้น ฐำนและกำรเหมือ งแร่ ประมำณ 30 รำย ค� ำ ขอประทำนบั ต รดั ง กล่ ำ ว ส่วนหนึง่ อยูใ่ นพืน้ ทีช่ นั้ คุณภำพลุม่ น้ำ� ชัน้ ที่ 1 ซึง่ เป็น

8

November-December 2018

พืน้ ทีท่ มี่ คี วำมอ่อนไหวด้ำนสิง่ แวดล้อมเป็นพิเศษ ต้องมีเหตุผลควำมจ�ำเป็น อย่ำงยิ่งทั้งทำงด้ำนเศรษฐกิจและสังคม โดยต้องได้รับควำมเห็นชอบจำก คณะกรรมกำรสิ่งแวดล้อมแห่งชำติและกำรเห็นชอบให้ใช้พื้นที่ลุ่มน้�ำจำก กระทรวงทรัพยำกรธรรมชำติและสิง่ แวดล้อม กระทรวงอุตสำหกรรมจึงจะ เสนอขอควำมเห็นชอบจำกคณะรัฐมนตรีกอ่ นกำรอนุญำตประทำนบัตรต่อไป กรณีที่ปรำกฏตำมข่ำวว่ำพบกำรขำดแคลนหินในบำงจังหวัดนั้น สำเหตุเกิดจำกประทำนบัตรสิ้นอำยุ และค�ำขอต่ออำยุประทำนบัตรอยู่ใน พื้นที่ชั้นคุณภำพลุ่มน้�ำชั้นที่ 1 ซึ่งจะต้องมีกำรพิจำรณำตำมกระบวนกำร ข้ำงต้น กรมอุตสำหกรรมพื้นฐำนและกำรเหมืองแร่อยู่ระหว่ำงด�ำเนินกำร ขอผ่อนผันกำรใช้พื้นที่ชั้นคุณภำพลุ่มน้�ำชั้นที่ 1 เพื่อขอควำมเห็นชอบจำก กระทรวงทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม และคณะรัฐมนตรีก่อนกำร พิจำรณำอนุญำตประทำนบัตร ทัง้ นี้ ภำยหลังจำกทีพ่ ระรำชบัญญัตแิ ร่ พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้แล้ว กระทรวงอุตสำหกรรมและกรมอุตสำหกรรมพื้นฐำนและกำรเหมืองแร่ ได้ด�ำเนินกำรในด้ำนต่ำงๆ เพื่อให้กระบวนกำรอนุญำตประทำนบัตรและ ต่ออำยุประทำนบัตรภำยใต้พระรำชบัญญัติแร่ฉบับใหม่มีควำมต่อเนื่อง โดยเร็ว ซึ่งที่ผ่ำนมำได้มีกำรจัดท�ำแผนแม่บทกำรบริหำรจัดกำรแร่ และ ผ่ำนควำมเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว เมื่อเดือนกรกฎำคม 2561 โดยแผนแม่บทฯ ดังกล่ำวได้มีกำรก�ำหนดเขตแหล่งแร่เพื่อกำรท�ำเหมือง ส�ำหรับใช้ในกำรอนุญำตประทำนบัตรแล้ว รวมทัง้ ได้มกี ำรจัดท�ำอนุบญ ั ญัติ ที่เกี่ยวข้องกับกำรพิจำรณำอนุญำต ได้แก่ กำรจัดรับฟังควำมคิดเห็นของ ชุมชน กำรประเมินควำมคุ้มค่ำทำงเศรษฐกิจ กำรประเมินควำมเหมำะสม ของเทคโนโลยีที่ใช้ในกำรท�ำเหมืองเพื่อประกอบกำรพิจำรณำอนุญำต ซึ่งได้ด�ำเนินกำรแล้วเสร็จและแจ้งให้ผู้ประกอบกำรไปด�ำเนินกำรแล้ว หำกกำรด� ำ เนิ น กำรต่ ำ งๆ แล้ ว เสร็ จ กรมอุ ต สำหกรรมพื้ น ฐำนและ กำรเหมืองแร่จะสำมำรถพิจำรณำอนุญำตประทำนบัตรและต่ออำยุประทำนบัตร ได้ภำยในเวลำอีกประมำณ 2 เดือน


กระทรวงอุตฯ เร่งเครือ่ งผลักดันขยายผลนวัตกรรมและเทคโนโลยีรี ไซเคิล

ดึงเครือข่ายผู้ประกอบการร่วมขับเคลื่อนประเทศ

สู่ Circular Economy

สมชาย หาญหิรญ ั รัฐมนตรีชว่ ยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่ำว ภำยหลังเป็นประธำนกำรประชุมหำรือร่วมระหว่ำงกระทรวงอุตสำหกรรม กับเครือข่ำยผู้ประกอบกำร เพื่อขับเคลื่อนสู่ Circular Economy ด้วย Innovation และ New Business Model ว่ำ กำรขับเคลื่อนประเทศไทย สูเ่ ศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ทีม่ กี ำรใช้ทรัพยำกรอย่ำงคุม้ ค่ำ และเกิดประโยชน์สูงสุดอย่ำงเป็นรูปธรรมด้วยนวัตกรรม (Innovation) และรูปแบบธุรกิจใหม่ (New Business Model) เป็นกลไกส�ำคัญที่ช่วย ขับเคลื่อนกำรบริหำรจัดกำรทรัพยำกรของประเทศ โดยกำรเปลี่ยนขยะ หรือของเสียทีถ่ กู มองว่ำเป็นปัญหำกลับมำใช้ประโยชน์เป็นวัตถุดบิ ทดแทน เพื่อลดกำรใช้ทรัพยำกรธรรมชำติใหม่ หรือ “Waste to Resource” ตำม แนวคิด Circular Economy ซึ่งปัจจุบันกระทรวงอุตสำหกรรมได้มีกำร พัฒนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีรไี ซเคิลทีเ่ ป็นเทคโนโลยีตน้ แบบทีเ่ ป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม และได้รับกำรพิสูจน์ควำมเป็นไปได้ทำงเทคโนโลยีรวม 49 ชนิด โดยศูนย์วิจัยและพัฒนำเทคโนโลยีรีไซเคิล กรมอุตสำหกรรม พื้นฐำนและกำรเหมืองแร่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ปฏิรูปอุตสำหกรรม สูอ่ นำคต (Industry Transformation Center : ITC) ด้ำนเทคโนโลยีรไี ซเคิล และนวัตกรรมวัตถุดิบของกระทรวงอุตสำหกรรม นอกจำกนี้ ในส่วนของ ภำคเอกชนยังมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีรีไซเคิลขยะหรือของเสียอีกหลำย ชนิด จำกกระทรวงอุตสำหกรรมและเครือข่ำยผู้ประกอบกำรบูรณำกำร กำรด�ำเนินงำนร่วมกัน และปลดล็อกข้อจ�ำกัดทำงกฎระเบียบที่เป็นปัญหำ และอุปสรรค จะสำมำรถสร้ำงผูป้ ระกอบกำรใหม่ (Start-up) และยกระดับ ผู้ประกอบกำร (Level-up) เดิม เพื่อขยำยผลสู่เชิงพำณิชย์ในวงกว้ำง ร่วมกันเปลี่ยนขยะหรือของเสียเป็นแหล่งทรัพยำกรทดแทน ลดกำรใช้ ทรัพยำกรธรรมชำติใหม่ ลดกำรเกิดขยะและปัญหำมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ Circular Economy ได้อย่ำงเป็นรูปธรรม

ด้ำน วิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรม พื้ น ฐานและการเหมื อ งแร่ (กพร.) กล่ ำ วว่ ำ กำรประชุมหำรือในครั้งนี้ ได้รับควำมร่วมมืออย่ำงดี จำกเครื อ ข่ ำ ยผู้ ป ระกอบกำรที่ เ กี่ ยวข้ อ ง ตั้ ง แต่ ผู้ ประกอบกำรรวบรวมคัดแยกของเสีย ผูป้ ระกอบกำร รีไซเคิล ผูป้ ระกอบกำรก�ำจัดบ�ำบัดของเสีย ไปจนถึง ผู้ประกอบกำรที่มีศักยภำพในกำรน�ำของเสียไปใช้ ประโยชน์ โดยทุกฝ่ำยมีควำมเห็นพ้องและมุ่งหน้ำ ไปในทิศทำงเดียวกัน จำกกำรหำรือในครัง้ นี้ สำมำรถ ระดมควำมเห็ น แนวทำงกำรผลั ก ดั น สู่ Circular Economy ด้วย Innovation และ News Business Model ได้หลำยแนวทำง ซึ่งจะก่อให้เกิดรูปแบบ กำรด�ำเนินธุรกิจใหม่ๆ (Start-up) และกำรยกระดับ ผู้ ป ระกอบกำร (Level-up) อำทิ กำรให้ บ ริ ก ำร Waste Pre-treatment ที่ แ หล่ ง ก� ำ เนิ ด ของเสี ย เพื่อให้ง่ำยต่อกระบวนกำรรีไซเคิลในขั้นตอนต่อไป กำรให้บริกำรเช่ำ เช่น สำรเคมี แทนกำรขำยขำด โดย บริษัทผู้ผลิต/จ�ำหน่ำยเป็น ผู้รับสำรเคมีที่เหลือใช้ และภำชนะที่บรรจุไป Reuse หรือ Recycle หรือ จัดกำรตำมหลักวิชำกำรต่อไป หรือกำรให้บริกำรเช่ำ เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนกำรผลิตหรือ รีไซเคิล ซึง่ เป็นกำรใช้ทรัพยำกรร่วมกัน กำรออกแบบ หรือปรับปรุงกระบวนกำรผลิต รวมถึงกระบวนกำร บ�ำบัดของเสีย เพือ่ เอือ้ ต่อกำรน�ำกลับมำใช้ประโยชน์ ได้ ทั้ ง หมดหรื อ เกื อ บทั้ ง หมด กำรน� ำ ของเสี ย ที่ มี ศักยภำพสูงในกำรีไซเคิล เช่น โลหะมีค่ำ ที่อยู่ใน หลุ ม ฝั ง กลบที่ มี อ ยู่ เ ดิ ม กลั บ มำใช้ ป ระโยชน์ ใ หม่ เป็นต้น “ความร่วมมือระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม โดย กพร. กับเครือข่ายผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ทีส่ ามารถเร่งดำาเนินการได้อย่างทันที คือการต่อยอด และพั ฒ นาเทคโนโลยี ที่ มี อ ยู่ ทั้ ง ของ กพร. และ เครือข่ายผูป้ ระกอบการ โดยเน้นการใช้ประโยชน์จาก เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่มีอยู่อย่างเต็มที่ เพื่อให้ สามารถรีไซเคิลขยะหรือของเสียประเภทอื่นๆ ได้ เพิ่มขึ้น ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ ลดการ เกิดขยะและปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองหลักขับเคลื่อนสู่ Zero Waste Society และ Circular Economy” วิษณุ กล่ำว ทิ้งท้ำย November-December 2018

9


แวดวงชาวเหมือง l

กองบรรณาธิการ

กพร. ผนึกกำาลังภาครัฐและเอกชน พัฒนาอุตสาหกรรมรี ไซเคิลเศษโลหะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กรมอุ ต สาหกรรมพื้ น ฐานและการ เหมื อ งแร่ (กพร.) กระทรวงอุ ต สาหกรรม ร่ ว มกั บ องค์ ก ารพั ฒ นาอุ ต สาหกรรมแห่ ง สหประชาชาติ (UNIDO) จัดพิธีเปิดโครงการ น� า ร่ อ งรี ไ ซเคิ ล เศษโลหะอย่ า งเป็ น มิ ต รกั บ สิ่งแวดล้อม และพิธีลงนามความร่วมมือกับ ภาครั ฐ และเอกชน จ� า นวน 7 ราย ได้ แ ก่ กรมควบคุ ม มลพิ ษ กรมส่ ง เสริ ม คุ ณ ภาพ สิ่งแวดล้อม สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่ง ประเทศไทย บริษัท โรงงานเหล็กกรุงเทพฯ จ�ากัด บริษัท เอ็น.ที.เอส สตีลกรุ๊ป จ�ากัด (มหาชน) บริษัท ไดกิ อลูมิเนียม อินดัสทรี (ประเทศไทย) จ�ากัด และบริษทั ไทยเม็ททอล อลูมิเนียม จ�ากัด เพื่อพัฒนำอุตสำหกรรม รีไซเคิลเศษโลหะทีม่ ปี ระสิทธิภำพและเป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม ภำยใต้กองทุนสิ่งแวดล้อมโลก กว่ ำ 1,250 ล้ ำนบำท มีระยะเวลำด�ำ เนิน โครงกำร 5 ปี พร้ อ มกั น นี้ ยั ง มี ก ำรจั ด เสวนำเรื่ อ ง “ทิศทางอุตสาหกรรมรีไซเคิลเศษโลหะไทยในยุค 4.0” โดยผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อให้ควำมรู้ควำมเข้ำใจกับผู้เข้ำร่วม เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกำยน 2561 ณ ห้องบอลรูม 1 โรงแรมเชอรำตัน แกรนด์ สุขุมวิท

ร่วมแสดงความยินดีครบรอบ 16 ปี กพร. สมหมาย เตชวาล รองอธิ บ ดี ก รม ทรัพยากรธรณี รักษาราชการแทนอธิบดี พร้อมด้วย เสาวลักษณ์ ศรีดาแก้ว เลขานุการ กรมฯ เข้ ำ ร่ ว มแสดงควำมยิ น ดี กั บ วิ ษ ณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน และการเหมืองแร่ (กพร.) ในโอกำสวันคล้าย วันสถาปนากรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและ การเหมืองแร่ ครบรอบ 16 ปี ณ ห้องประชุม ทองค�ำ ชั้น 1 กรมอุตสำหกรรมพื้นฐำนและ กำรเหมืองแร่ เมือ่ วันที่ 3 ตุลำคม 2561 โดย มีผู้บริหำรจำกหน่วยงำนต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้อง กับอุตสำหกรรมเหมืองแร่เข้ำร่วมงำนอย่ำง อุ่นหนำฝำคั่ง

10

November-December 2018


กพร. ร่วมลงนาม MOU ด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมวัตถุดิบ เพื่ออุตสาหกรรม กับ บริษัท เบอร์กโซ่ เมตัลส์ จำากัด

สกล อนันต์วณิชย์ชา ผู้อ�านวยการกองนวัตกรรม วัตถุดิบและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง

วิษณุ ทับเที่ยง ลงนาม MOU กับ มร.โกวเซิ่ง หลี่

จับมือเป็นพันธมิตรร่วมกันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมวัตถุดิบเพื่ออุตสาหกรรม

คณะผู้บริหาร กพร. และคณะจากเบอร์กโซ่ เมตัลส์ ร่วมเป็นสักขีพยาน

วิ ษ ณุ ทั บ เที่ ย ง อธิ บ ดี ก รม อุตสาหกรรมพืน้ ฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้ า นการวิ จั ย และพั ฒ นา นวัตกรรมวัตถุดิบเพื่ออุตสาหกรรม กับ มร.โกวเซิง่ หลี ่ กรรมการผูจ้ ดั การ บริษัท เบิร์กโซ่ เมตัลส์ จ�ากัด เพื่อ ควำมมั่ น คงด้ ำ นวั ต ถุ ดิ บ ให้ แ ก่ ภ ำค อุ ต สำหกรรม และส่ ง เสริ ม กำรน� ำ นวัตกรรมและเทคโนโลยีมำในสถำน ประกอบกำร พร้อมทั้งผลักดันสู่กำร ผลิตเชิงพำณิชย์ โดยมีสรุ ะ เพชรพิรณ ุ รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน และการเหมืองแร่ พร้อมด้วยคณะ ผู้บริหำร กพร. และคณะจำก บริษัท เบอร์กโซ่ เมตัลส์ จ�ำกัด เข้ำร่วมเป็น สั ก ขี พ ยำน เมื่ อ วั น ที่ 19 ตุ ล ำคม 2561 ณ ห้ อ งประชุ ม ดี บุ ก กพร. กระทรวงอุตสำหกรรม

ถ่ายภาพร่วมกัน

สรข. 1 เข้าร่วมกิจกรรมการตรวจสุขภาพประชาชนรอบพื้นที่เหมืองแร่ประจำาปี 2561 ณ บริษัท ตรัง ยูซี จำากัด รั ช ฎา รุ จิ พั ฒ นพงศ์ หั ว หน้ า กลุ่ ม ส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยี พร้อมด้วย วัลลิภา ชิดเชื้อ นักวิชาการอุตสาหกรรม ช�านาญการ ส�านักงานอุตสาหกรรมพืน้ ฐาน และการเหมืองแร่ เขต 1 (สรข. 1) เข้ำร่วม กิ จ กรรมการตรวจสุ ข ภาพประชาชนรอบ พื้นที่เหมืองแร่ประจ�าปี 2561 ซึ่ง บริษัท ตรัง ยูซี จ�ากัด จัดขึ้นตำมมำตรกำร EIA ใน กำรเฝ้ ำ ระวั ง สุ ข ภำพของพนั ก งำนและ ประชำชนในรัศมี 1 กิโลเมตรรอบเหมือง บริษทั ตรัง ยูซี จ�ำกัด ประกอบด้วยม.5 ต.โคก สะบ้ำ ม.10 ต.นำข้ำวดเสีย อ.นำฌโยง ม.6 และ ม.8 ต.ทุ่งค่ำย อ.ย่ำนตำขำว จ. ตรัง ภำยในงำนมีกิจกรรมกำรตรวจสุขภำพขั้น พื้นฐำน กำรเอกซเรย์ทรวงอก กำรทดสอบ กำรได้ยิน และกิจกรรมกำรเต้นแอโรบิคเพื่อ สุขภำพ เป็นต้น โดยมีผสู้ นใจเข้ำร่วมกิจกรรม ประมำณ 500 คน November-December 2018

11


Report l

กองบรรณาธิการ

กพร. จัดฝึกอบรมทบทวนความรู้

เพื่อต่ออายุใบรับรองผู้ควบคุมการใช้วัตถุระเบิดในงานเหมืองแร่

ประจำาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำานวน 130 ราย

จำกประกาศกรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและการเหมืองแร่ เรื่องผู้ควบคุมการใช้วัตถุระเบิดในงานเหมืองแร่ ลงวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2549 และ เรื่องก�าหนดมาตรการให้การท�า เหมืองที่มีการใช้วัตถุระเบิดต้องมีผู้ควบคุมการใช้วัตถุระเบิด ในงานเหมื อ งแร่ ลงวั น ที่ 13 กุ ม ภาพั น ธ์ พ.ศ. 2555 กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) จึงได้จัด ฝึ ก อบรมควำมรู้ ด้ ำ นกำรใช้ วั ต ถุ ร ะเบิ ด ให้ กั บ หั ว หน้ ำ งำนที่ ควบคุ ม กำรเจำะระเบิ ด ในสถำนประกอบกำรเหมื อ งแร่ ที่ มี กำรใช้วตั ถุระเบิด ให้มคี วำมรูค้ วำมเข้ำใจเรือ่ งกำรใช้วตั ถุระเบิด โดยเฉพำะในเรื่องควำมปลอดภัยและกำรป้องกัน ผลกระทบ สิ่งแวดล้อม และออกใบรับรองให้แก่บุคลำกรกลุ่มเป้ำหมำย ที่ผ่ำนเกณฑ์กำรฝึกอบรมทั้งภำคทฤษฎีและภำคปฏิบัติ นับตั้งแต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2549 กพร. ได้จัดกำรฝึก อบรมดังกล่ำวมำอย่ำงต่อเนือ่ ง โดยมีผผู้ ำ่ นเกณฑ์กำรฝึกอบรม และได้รับหนังสือรับรองกำรผ่ำนกำรฝึกอบรมเป็น ผู้ควบคุม กำรใช้วัตถุระเบิดในงำนเหมืองแร่ปีละระหว่ำง 50-200 รำย ใบรับรองฯ ดังกล่ำวมีอำยุ 5 ปี ในกำรต่ออำยุใบรับรองฯ แต่ละ ครั้งมีเงื่อนไขให้ผู้ได้รับใบรับรองฯ เข้ำรับกำรฝึกอบรมเพื่อ ทบทวนควำมรู้ ต ำมหลั ก วิ ศ วกรรมและประเด็ น ด้ ำ นควำม ปลอดภัยและกำรป้องกันผลกระทบสิง่ แวดล้อม โดยมีระยะเวลำ กำรฝึกอบรมไม่น้อยกว่ำ 6 ชั่วโมง ในปีงบประมำณ พ.ศ. 2562 มีใบรับรองฯ ครบก�ำหนด สิ้นอำยุจ�ำนวน 130 รำย กพร. จึงต้องจัดฝึกอบรมหลักสูตร “การอบรมทบทวนความรู้เพื่อการต่ออายุใบรับรองการผ่าน การฝึกอบรมเป็นผูค้ วบคุมการใช้วตั ถุระเบิดในงานเหมืองแร่” ขึน้ เพื่อให้ผู้รับใบรับรองฯ สำมำรถต่ออำยุใบรับรองฯ ตำมเงื่อนไข ทีท่ ำงกรมอุตสำหกรรมพืน้ ฐำนและกำรเหมืองแร่กำ� หนด สำมำรถ ปฏิบัติงำนในสถำนประกอบกำรได้อย่ำงมีประสิทธิภำพและ ปลอดภัย ส� ำ หรั บ วั ต ถุ ป ระสงค์ ข องกำรจั ด อบรมในครั้ ง นี้ เพื่ อ ทบทวนควำมรู้ เ รื่ อ งกำรใช้ วั ต ถุ ร ะเบิ ด ในงำนเหมื อ งแร่ ข อง 12

November-December 2018

ผู้ควบคุมกำรใช้วัตถุระเบิด และสร้ำงควำมตระหนักถึงควำม ส�ำคัญและปลูกจิตส�ำนึกด้ำนควำมปลอดภัยและกำรป้องกัน ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจำกกำรใช้วัตถุระเบิด และเพื่อสร้ำงเวที แลกเปลีย่ นควำมคิดเห็นและประสบกำรณ์ดำ้ นกำรใช้วตั ถุระเบิด ของผู้ได้รับใบรับรองฯ โครงกำรนี้มีเป้ำหมำยเพื่อต่ออำยุใบรับรองกำรผ่ำนกำร ฝึกอบรมเป็น ผู้ควบคุมกำรใช้วัตถุระเบิดในงำนเหมืองแร่แก่ ผู้ผ่ำนกำรฝึกอบรมทบทวนควำมรู้ จ�ำนวนประมำณ 130 รำย โดยมีกลุ่มเป้ำหมำย ได้แก่ บุคคลภำยนอกที่ได้รับใบรับรอง กำรผ่ำนกำรฝึกอบรมเป็น ผู้ควบคุมกำรใช้วัตถุระเบิดในงำน เหมืองแร่และใบรับรองสิ้นอำยุ ในส่วนของหลักสูตรกำรฝึกอบรมทบทวนควำมรูเ้ พือ่ กำร ต่ออำยุใบรับรองเป็นผูค้ วบคุมกำรใช้วตั ถุระเบิดในงำนเหมืองแร่ ใช้ระยะเวลำในกำรอบรม 6 ชัว่ โมง (1 วัน) มีหวั ข้อกำรฝึกอบรม ดังนี้ 1) ทบทวนควำมรูพ้ น้ื ฐำนกำรใช้วตั ถุระเบิดในงำนเหมืองแร่ จ�ำนวน 1 ชั่วโมง 2) ทบทวนควำมรูเ้ รือ่ งกำรป้องกันผลกระทบสิง่ แวดล้อม จำกกำรใช้วัตถุระเบิดในงำนเหมืองแร่ จ�ำนวน 1 ชั่วโมง 3) ทบทวนควำมรูเ้ รือ่ งควำมปลอดภัยในกำรใช้วตั ถุระเบิด ในงำนเหมืองแร่ จ�ำนวน 3 ชั่วโมง 4) แลกเปลี่ ย นประสบกำรณ์ ด้ ำ นกำรใช้ วั ต ถุ ร ะเบิ ด จ�ำนวน 1 ชั่วโมง กำรฝึกอบรมจะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 11 มกรำคม พ.ศ. 2562 ณ ห้องประชุมทองค�ำ ชั้น 1 กรมอุตสำหกรรมพื้นฐำน และกำรเหมืองแร่ โดยผูเ้ ข้ำรับกำรฝึกอบรมไม่ตอ้ งเสียค่ำใช้จำ่ ย ใดๆ ซึ่ ง กำรอบรมดั ง กล่ ำ ว รั บ ผิ ด ชอบโดยกลุ่ ม วิ จั ย และ พัฒนำกำรประกอบกำร กองวิศวกรรมบริกำร กรมอุตสำหกรรม พื้นฐำนและกำรเหมืองแร่ ทั้งนี้ อำจมีกำรเปลี่ยนแปลงวันที่ จัดงำนได้ตำมควำมเหมำะสม


กำาหนดการโครงการอบรมทบทวนความรู้

เพื่อต่ออายุใบรับรองการผ่านการฝึกอบรมเป็นผู้ควบคุมการใช้วัตถุระเบิดในงานเหมืองแร่ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ประจำาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ในวันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2562 ณ ห้องประชุมทองคำา ชั้น 1 กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กรุงเทพฯ

เวลำ 08.00-09.00 น. เวลำ 09.00-09.10 น. เวลำ 09.10-09.30 น. เวลำ 09.30-09.45 น. เวลำ 09.45-10.45 น. เวลำ 10.45-12.00 น. เวลำ 12.00-13.00 น. เวลำ 13.00-15.00 น.

เวลำ 15.00-15.15 น. เวลำ 15.15-16.30 น.

ลงทะเบียน พิธีเปิดกำรฝึกอบรม กล่ำวรำยงำนกำรฝึกอบรม โดย ศุภชัย พงษ์ศิริวรรณ์ ผู้อ�ำนวยกำรกองวิศวกรรมบริกำร ประธำนกล่ำวเปิดกำรฝึกอบรม โดย วิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสำหกรรมพื้นฐำนและกำรเหมืองแร่ พักรับประทำนอำหำรว่ำงและเครื่องดื่ม ทบทวนควำมรู้พื้นฐำนเรื่องกำรใช้วัตถุระเบิดในงำนเหมืองแร่ โดย ไพรัตน์ เจริญกิจ วิศวกรเหมืองแร่เชี่ยวชำญ กรมอุตสำหกรรมพื้นฐำนและกำรเหมืองแร่ ทบทวนควำมรู้เรื่องควำมปลอดภัยในกำรใช้วัตถุระเบิดในงำนเหมืองแร่ โดย ไพรัตน์ เจริญกิจ วิศวกรเหมืองแร่เชี่ยวชำญ กรมอุตสำหกรรมพื้นฐำนและกำรเหมืองแร่ พักรับประทำนอำหำรกลำงวัน ทบทวนควำมรู้เรื่องกำรป้องกันผลกระทบจำกกำรใช้วัตถุระเบิดในงำนเหมืองแร่ และแลกเปลี่ยนประสบกำรณ์ ประเด็นปัญหำที่พบ และเทคนิคใหม่ๆ ของ ผู้เข้ำรับกำรฝึกอบรม โดย ไพรัตน์ เจริญกิจ วิศวกรเหมืองแร่เชี่ยวชำญ กรมอุตสำหกรรมพื้นฐำนและกำรเหมืองแร่ พักรับประทำนอำหำรว่ำงและเครื่องดื่ม ทบทวนควำมรู้เรื่องกำรป้องกันผลกระทบจำกกำรใช้วัตถุระเบิดในงำนเหมืองแร่ และแลกเปลี่ยนประสบกำรณ์ ประเด็นปัญหำที่พบ และเทคนิคใหม่ๆ ของผู้เข้ำรับ กำรฝึกอบรม (ต่อ) โดย ไพรัตน์ เจริญกิจ วิศวกรเหมืองแร่เชี่ยวชำญ กรมอุตสำหกรรมพื้นฐำนและกำรเหมืองแร่

หมายเหตุ

• ก�ำหนดกำรอำจมีกำรเปลี่ยนแปลงตำมควำมเหมำะสม • ส�ำหรับบุคคลที่ได้ใบรับรองกำรผ่ำนกำรฝึกอบรมฯ ที่จะหมดอำยุในปี พ.ศ. 2562 • ส�ำหรับบุคคลที่ได้ใบรับรองกำรผ่ำนกำรฝึกอบรมฯ ได้หมดอำยุแล้วในปีอื่นๆ และยังมิได้ต่ออำยุใบรับรองฯ

November-December 2018

13


เหมืองแร่สีเขียว l

กองบรรณาธิการ

กพร. จับมือ UNIDO และหน่วยงานรัฐ-เอกชน

ลดมลพิษด้วยเทคโนโลยี

รีไซเคิลเศษโลหะ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รมอุ ต สาหกรรมพื้ น ฐานและการเหมื อ งแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับองค์การ พัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) จัดพิธี เปิดโครงการน�าร่องรีไซเคิลเศษโลหะอย่างเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม และพิธีลงนามความร่วมมือกับภาครัฐและ เอกชน จ�านวน 7 ราย ได้แก่ กรมควบคุมมลพิษ กรม ส่งเสริมคุณภาพสิง่ แวดล้อม สถาบันเหล็กและเหล็กกล้า แห่งประเทศไทย บริษัท โรงงานเหล็กกรุงเทพฯ จ�ากัด บริษทั เอ็น.ที.เอส สตีลกรุป๊ จ�ากัด (มหาชน) บริษทั ไดกิ อลูมิเนียม อินดัสทรี (ประเทศไทย) จ�ากัด และบริษัท ไทยเม็ททอล อลูมิเนียม จ�ากัด เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม รี ไ ซเคิ ล เศษโลหะที่ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพและเป็ น มิ ต รกั บ สิ่งแวดล้อม ภายใต้กองทุนสิ่งแวดล้อมโลกกว่า 1,250 ล้านบาท ระยะเวลาการด�าเนินงาน 5 ปี คาดลดปริมาณ การปลดปล่อยมลพิษไม่น้อยกว่า 20%

พิธีลงนามระหว่าง กพร. และ UNIDO

กพร. จับมือ UNIDO พร้อมหน่วยงานรัฐ-เอกชน ลดมลพิษด้วยการรีไซเคิลเศษโลหะทีเ่ ป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม วิษณุ ทับเทีย่ ง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและ การเหมืองแร่ (กพร.) กล่ำวว่ำ กพร. ร่วมกับองค์กำรพัฒนำ อุ ต สำหกรรมแห่ ง สหประชำชำติ (UNIDO) ซึ่ ง ได้ รั บ สนับสนุนงบประมำณจำกกองทุนสิ่งแวดล้อมโลกกว่ำ 1,250 ล้ำนบำท และเงินสนับสนุนจำกภำครัฐและเอกชน ของไทยที่เข้ำร่วมโครงกำรดังกล่ำวจ�ำนวน 7 รำย ได้แก่ กรมควบคุ ม มลพิ ษ กรมส่ ง เสริ ม คุ ณ ภำพสิ่ ง แวดล้ อ ม สถำบั น เหล็ ก และเหล็ ก กล้ ำ แห่ ง ประเทศไทย บริ ษั ท โรงงำนเหล็กกรุงเทพฯ จ�ำกัด บริษัท เอ็น.ที.เอส สตีลกรุ๊ป 14

November-December 2018

วิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.)


จ� ำ กั ด (มหำชน) บริ ษั ท ไดกิ อลู มิ เ นี ย ม อิ น ดั ส ทรี (ประเทศไทย) จ�ำกัด และบริษัท ไทยเม็ททอล อลูมิเนียม จ�ำกัด ร่วมโครงกำร “น�าร่องรีไซเคิลเศษโลหะอย่างเป็น มิตรกับสิง่ แวดล้อม” เพือ่ ด�ำเนินโครงกำรลดมลภำวะทำง อำกำศจำกโรงงำนหลอมเศษโลหะ ระยะเวลำ 5 ปี โดย เฉพำะมลพิษที่ตกค้ำงยำวนำนซึ่งอำจเกิดขึ้นโดยไม่จงใจ เช่น ไดออกซินและฟิวแรน ให้ได้ไม่นอ้ ยกว่ำ 20% โดยจะ ใช้เทคนิคที่ดีที่สุดและแนวทำงปฏิบัติด้ำนสิ่งแวดล้อมที่ดี ที่สุดในกำรพัฒนำอุตสำหกรรมหลอมโลหะ เพื่อปรับปรุง เทคโนโลยี ก ำรผลิ ต ที่ มี ป ระสิ ท ธิ ภ ำพและเป็ น มิ ต รกั บ สิ่งแวดล้อม

วางเป้าหมายสำาคัญ 3 ด้าน พัฒนาผู้ประกอบการรีไซเคิลเศษโลหะอย่างเป็นรูปธรรม ส�ำหรับแนวทำงกำรพัฒนำกลุ่ม ผู้ประกอบกำรใน อุตสำหกรรมรีไซเคิลเศษโลหะอย่ำงเป็นรูปธรรม โดยมี เป้ำหมำยที่สำ� คัญ 3 ด้ำน ได้แก่ 1. กำรพัฒนำกฎระเบียบ เพื่อปรับปรุงกฎระเบียบ และมำตรฐำนต่ำงๆ พร้อมทั้ง ก�ำหนดนโยบำยเพื่อผลักดันให้ภำคอุตสำหกรรมมีควำม ใส่ ใ จด้ ำ นสิ่ ง แวดล้ อ ม ส่ ง เสริ ม ให้ เ กิ ด กำรพั ฒ นำของ อุตสำหกรรมหลอมโลหะตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทำนทั้งระบบ ตั้ ง แต่ ต้ น น้� ำ จนกลำงน้� ำ ถึ ง ปลำยน้� ำ 2. กำรพั ฒนำ บุคลำกร เพื่อจัดท�ำคู่มือกำรปฏิบัติงำนเพื่อลดผลกระทบ สิ่ ง แวดล้ อ มและเพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ ำพกำรผลิ ต ส� ำ หรั บ กระบวนกำรรีไซเคิลเศษโลหะ รวมทั้งกำรให้ควำมรู้แก่ ประชำชนและผู้ประกอบกำรรับซื้อเศษโลหะรำยย่อยใน เรื่องกำรคัดแยกขยะหรือของเสีย รวมทั้งกำรจัดเก็บที่ถูก

วิธี ซึง่ จะช่วยลดมลพิษทีจ่ ะเกิดขึน้ จำกสำรปนเปือ้ นทีต่ ดิ มำกับเศษโลหะ ได้อย่ำงตรงจุดมำกทีส่ ดุ และ 3. กำรพัฒนำโรงงำน เพือ่ จัดตัง้ โรงงำน รี ไ ซเคิ ล เศษโลหะต้ น แบบที่ มี ก ำรน� ำ BAT/BEP มำประยุ กต์ ใ ช้ ในกระบวนกำรผลิต จ�ำนวน 4 โรงงำน ที่เข้ำร่วมโครงกำร ได้แก่ บริษัท โรงงานเหล็กกรุงเทพฯ จ�ากัด บริษัท เอ็น.ที.เอส สตีลกรุ๊ป จ�ากัด (มหาชน) บริษัท ไดกิ อลูมิเนียม อินดัสทรี (ประเทศไทย) จ�ากัด และบริษัท ไทยเม็ททอล อลูมิเนียม จ�ากัด เพื่อเป็นตัวอย่ำง ให้แก่ผู้ประกอบกำรได้เข้ำมำศึกษำ พร้อมบริกำรให้ค�ำปรึกษำจำก ผู้เชี่ยวชำญทั้งในและต่ำงประเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบกำรสำมำรถน�ำ นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยไปปรับใช้ในโรงงำนได้จริง ตลอดระยะเวลำ 5 ปีของโครงกำรจะมีกำรประชำสัมพันธ์และ ถ่ำยทอดควำมรูใ้ ห้แก่ภำคเอกชนและประชำชนผูส้ นใจอย่ำงต่อเนือ่ ง พร้อมทั้งเปิดให้ผู้สนใจเข้ำเยี่ยมชมพื้นที่กำรจัดกำรเศษโลหะของทั้ง 4 โรงงำนที่เข้ำร่วมโครงกำร รวมทั้งติดตำมประเมิน ผลมำตรกำร ต่ ำ งๆ เพื่ อ ก� ำ หนดแนวทำงกำรขยำยผลไปยั ง กลุ่ ม เป้ ำ หมำยใน อุตสำหกรรมหรือธุรกิจอื่นๆ ที่มีกำรปลดปล่อย U-POPs ตลอด ห่วงโซ่ตั้งแต่ต้นน้�ำจนถึงปลำยน้�ำ นอกจำกนี้ กพร. และผู้เข้ำร่วม โครงกำรจะร่วมกันส่งเสริมกำรให้ควำมรูแ้ ก่ประชำชนและผูป้ ระกอบกำร รั บ ซื้ อ เศษโลหะรำยย่ อ ยในเรื่ อ งกำรคั ด แยกขยะหรื อ ของเสี ย ในกำรจัดเก็บ คัดแยกขยะหรือของเสียเศษโลหะทีถ่ กู วิธี ซึง่ จะช่วยลด กำรปนเปื้อนของวัตถุดิบที่จะน�ำกลับไปรีไซเคิล และเป็นกำรลด มลพิษที่จะเกิดขึ้นได้อย่ำงตรงจุดมำกที่สุด พร้อมทั้งน�ำแนวคิดกำร จั ด กำรภำคอุ ต สำหกรรมให้ เ กิ ด ควำมยั่ ง ยื น ด้ ว ยหลั ก Circular Economy โดยมุ่งให้ควำมส�ำคัญกำรเลือกใช้วัสดุ กำรออกแบบ ผลิตภัณฑ์ กำรใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในกระบวนกำรทีเ่ กีย่ วข้อง ตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ เพื่อท�ำให้เกิดกำรใช้ทรัพยำกรอย่ำงมี ประสิทธิภำพสูงสุด และน�ำมำสู่กำรปรำศจำกของเสียและมลพิษ ตลอดทั้งกระบวนกำรของสินค้ำและบริกำรอย่ำงต่อเนื่อง

พิธีลงนามระหว่าง กพร. และ 7 หน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการ November-December 2018

15


กพร. พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้จัดการเศษโลหะอย่าง ถูกวิธี ให้โรงงานนำาร่องทัง้ 4 แห่ง ก่อนขยายผลในอนาคต ดร.กิตติพันธ์ บางยี่ขัน หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและ พั ฒ นาโรงงาน กรมอุ ต สาหกรรมพื้ น ฐานและการ เหมืองแร่ (กพร.) กล่ำวว่ำ ส�ำหรับโครงกำร “น�ำร่อง รีไซเคิลเศษโลหะอย่ำงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” กพร. มี เ ป้ ำ หมำยในกำรถ่ ำ ยทอดองค์ ค วำมรู้ ใ นกำรจั ด เก็ บ กระบวนกำรผลิต จัดกำรเศษโลหะทีเ่ กิดขึน้ ภำยในโรงงำน ต่ ำ งๆ อย่ ำ งถู ก วิ ธี โดยใช้ นวั ต กรรมและองค์ ค วำมรู้ จำกหน่ ว ยงำนที่ มี อ งค์ ค วำมรู้ ที่ มี ป ระสบกำรณ์ ม ำร่ ว ม ถ่ำยทอดให้กบั โรงงำนทีน่ ำ� ร่องทัง้ 4 โรงงำน และในอนำคต ตั้งเป้ำจะขยำยให้ครอบคลุมทุกๆ โรงงำนหรือกลุ่มธุรกิจ อื่นๆ เกี่ยวเนื่องในอีก 20-30 ปีข้ำงหน้ำ เพื่อลดสำรพิษ จำกเศษโลหะ สำรตกค้ ำ งต่ ำ งๆ ที่ จ ะปล่ อ ยสู่ อ ำกำศ สิง่ แวดล้อม แล้วส่งผลกระทบต่อพนักงำนในโรงงำนนัน้ ๆ หรือประชำชนชุมชนรอบๆ โรงงำน อีกทั้งจะเป็นกำรช่วย ลดกำรน�ำเข้ำเศษโลหะที่จะน�ำกลับมำหลอมใช้งำนใหม่ จำกต่ ำ งประเทศ เนื่อ งจำกปัจ จุบัน ประเทศไทยมี ก ำร สั่งเศษโลหะเข้ำมำเพื่อหลอมใช้งำนเป็นจ�ำนวนที่มำกขึ้น เนือ่ งจำกวัตถุดบิ ประเภทโลหะภำยในประเทศเริม่ ลดน้อยลง “ในช่วง 1-2 ปีแรก การดำาเนินงานอาจจะไม่เห็นผล การพัฒนาที่ชัดเจนมากนัก แต่คาดว่าในปีที่ 3 ขึ้นไป จะเห็นผลที่ดีจากโครงการนี้ เนื่องจากการทำางานร่วมกัน ของทั้ง 4 โรงงานและภาครัฐที่เข้าร่วมโครงการต่างก็มี ประสบการณ์ ใ นการทำ า งาน มี เ ทคนิ ค การทำ า งาน มี กระบวนการในการดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องการหลอม โลหะและนำาเศษโลหะที่หลอมเป็นของเสียแล้วให้กลับมา ใช้ประโยชน์ที่เหมาะสมต่อไปได้ หากในระยะเวลา 5 ปี ของการดำ า เนิ น โครงการดั ง กล่ า ว ภาครั ฐ หรื อ เอกชน รายอื่นๆ สนใจที่จะเข้าร่วมหรือสนับสนุนด้านเครื่องมือ การทำางาน ด้านเงินทุนสนับสนุนเพิ่มเติม กพร. ก็ยินดี และเปิดกว้างในการให้ทุกภาคส่วนงานเสนอข้อคิดเห็น เพื่อนำามาปรับใช้ดำาเนินโครงการให้เกิดประโยชน์ในการ ทำางานมากที่สุด”

ทิศทางอุตสาหกรรมรีไซเคิลเศษโลหะไทยในยุค 4.0 สุ ณี ปิ ย ะพั น ธุ์ พ งศ์ นายกสมาคมการจั ด การ ของเสีย (ประเทศไทย) กล่ำวว่ำ ภำคอุตสำหกรรมยังมี โรงงำนเหล็กหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเหล็กจ�ำนวนมำก ทีย่ งั จัดกำรของเสียเกีย่ วกับเหล็กไม่ถกู วิธี ท�ำให้เกิดปัญหำ กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ ส่งผลให้สินค้ำ และผลิตภัณฑ์ทผี่ ลิตออกมำจ�ำหน่ำยถูกกีดกันทำงกำรค้ำ 16

November-December 2018

ดร.กิตติพันธ์ บางยี่ขัน หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาโรงงาน กพร.

เวทีเสวนา “ทิศทางอุตสาหกรรมรี ไซเคิลเศษโลหะไทยในยุค 4.0”


จึงต้องกำรแนะน�ำให้ผู้ประกอบกำรทบทวนกระบวนกำร ผลิตที่ก่อผลเสียดังกล่ำวแล้วหันมำใช้ระบบน�ำกลับใน กระบวนกำรผลิ ต เพื่ อ น� ำ วั ต ถุ ดิ บ เหลื อ ใช้ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ หรือสินค้ำที่ถูกก�ำจัด ซึ่งยังสำมำรถใช้งำนได้กลับเข้ำสู่ กระบวนกำรใหม่ เพื่อลดกำรเหลือทิ้งให้มำกที่สุด ซึ่งจะ ท�ำให้ได้รับโอกำสทำงกำรค้ำในตลำดกำรค้ำกลับคืนมำ หำกต้ อ งกำรที่ จ ะเปลี่ ย นเครื่ อ งจั ก ร เตำหลอม กำรผลิต ควรปรึกษำผู้เชี่ยวชำญ หน่วยงำนรำชกำรที่ เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะได้ให้ค�ำแนะน�ำที่ถูกต้อง จะช่วยลดค่ำ ใช้จ่ำยในกำรเปลี่ยนเครื่องจักร เตำหลอม และอุปกรณ์ที่ เกี่ยวข้องในกระบวนกำรผลิตเหล็กเพียงครั้งเดียวก็จะได้ ประโยชน์ที่ดี จะได้ไม่เสียค่ำใช้จ่ำยและเสียเวลำในกำร เปลี่ ย นเองภำยใต้ ข้ อ กฎหมำยอย่ ำ งเคร่ ง ครั ด ก็ จ ะไม่ ก่อปัญหำเฉกเช่นเดิมอีก “ที่สำาคัญควรมีกระบวนการการตรวจสอบไปกลับ ของสินค้าจากโรงงานผลิตสู่มือผู้บริโภค จากมือผู้บริโภค ไปสู่โรงงานการผลิต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ทุกๆ ฝ่าย เช่น ตรวจสอบสินค้าและบริการจากเหล็กที่ใช้ว่าผลิต เมื่อใด ที่ไหน อย่างไร เหล็กที่ใช้ผลิตจากคนไทยเองหรือ นำาเข้า มีอายุการใช้งานกี่ปี เป็นต้น” สุณี กล่ำว

ไทยใช้เหล็กชนิดต่าง ๆ ปีละ 16 ล้านตัน แต่ยังรีไซเคิลเศษโลหะไม่ถูกวิธีจนกระทบต่อสิ่งแวดล้อม วิโรจน์ โรจน์วัฒนชัย ผู้อ�านวยการสถาบันเหล็ก และเหล็ ก กล้ า แห่ ง ประเทศไทย กล่ ำ วว่ ำ ในแต่ ล ะปี ประเทศไทยบริโภคเหล็กชนิดต่ำงๆ ในภำคอุตสำหกรรม ธุรกิจทั่วไปและอื่นๆ ไม่น้อยกว่ำ 16 ล้ำนตัน คิดเป็น สัดส่วนกำรน�ำเข้ำมำจำกต่ำงประเทศเกินกว่ำ 50% เมื่อ น�ำมำใช้งำนผ่ำนกระบวนกำรหลอม กระบวนกำรดัดหรือ กระบวนกำรอืน่ ๆ ก็จะท�ำให้เกิดเศษโลหะทีเ่ หลือจำกเหล็ก อย่ำงหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จะมีผู้ประกอบกำรสักกี่รำยที่มี ควำมพร้อมในกำรดูแลเรื่องระบบของเสียจำกเศษโลหะ แล้วไม่ก่อให้เกิดมลพิษกระทบส่วนต่ำงๆ เช่น กำรปล่อย สำรพิษและของเสียที่ท�ำร้ำยธรรมชำติ ต้องถูกเก็บและ ก�ำจัดด้วยวิธีที่ไม่สร้ำงผลเสียลูกโซ่เป็นภัยและเป็นพิษ ดังนัน้ หำกผูป้ ระกอบกำรไม่มคี วำมรู้ หรือไม่มขี อ้ มูล กำรจัดกำรที่ดีเพียงพอเรื่องกำรรีไซเคิลเศษโลหะ ควรหำ ที่ปรึกษำที่ช�ำนำญที่มีควำมรู้ ปรึกษำภำครัฐหรือเอกชน ที่เขำมีองค์ควำมรู้ช่วยเข้ำมำหำทำงแก้ปัญหำ หรือภำครัฐ อำจจะจัดกิจกรรมพำผู้ประกอบกำรอุตสำหกรรมรีไซเคิล เศษโลหะไปศึกษำดูงำนในโรงงำนในต่ำงประเทศที่มีกำร จั ด กำรรี ไ ซเคิ ล เศษโลหะอย่ ำ งมี ป ระสิ ท ธิ ภ ำพ เพื่ อ ให้ ภำคอุตสำหกรรมรีไซเคิลเศษโลหะของไทยเกิดกำรยอมรับ มำกขึ้นกว่ำที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ชี้ไทยจะเข้าสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน ต้องให้ความสำาคัญกับการจัดการของเสียจากการผลิตและบริโภค ประวิทย์ หอรุ่งเรือง รองประธานอุตสาหกรรมเหล็ก สภา อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่ำวว่ำ กำรที่ประเทศไทย จะเข้ำสู่กระบวนกำร Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพนัน้ ต้องให้ควำมส�ำคัญกับกำรจัดกำรของเสีย จำกกำรผลิตและบริโภค ด้วยกำรน�ำวัตถุดิบที่ผ่ำนกำรผลิตและ บริโภคแล้วเข้ำสู่กระบวนกำรผลิตใหม่ หรือน�ำมำใช้ซ้�ำอย่ำงรู้คุณค่ำ ใช้วัตถุดิบต่ำงๆ ที่มีอยู่ในกระบวนกำรผลิตไม่ใช่แค่เหล็กอย่ำงมี ประสิทธิภำพมำกทีส่ ดุ ค�ำนึงถึงระบบพลังงำนทีน่ ำ� มำใช้ ต้องมำจำก ทรัพยำกรที่น�ำกลับมำใช้ใหม่ได้ หรือใช้พลังงำนน้อยที่สุด ปิดเมื่อ ไม่ใช้พลังงำน พร้อมหำพลังงำนทำงเลือกมำใช้ โดยเฉพำะพลังงำน ในท้องที่ที่ภำคอุตสำหกรรม โรงงำนอุตสำหกรรมไปตั้งฐำนกำรผลิต ให้ เ ป็ นประโยชน์ ขณะเดี ยวกั น ต้ องให้ ค วำมส� ำคั ญ และอนุรักษ์ วัฒนธรรมควำมเชื่อของคนในพื้นที่ “ไม่ใช่เข้ามาแล้วเปลี่ยนทุกอย่างตามอำาเภอใจในทุกๆ เรื่อง คนนอกพืน้ ทีอ่ าจจะเห็นดีดว้ ย แต่แน่นอนคนในพืน้ ทีต่ อ้ งไม่เห็นด้วย อาจจะมีการต่อต้าน อาจจะต้องเลิกโรงงานไปหาทีต่ งั้ ผลิตใหม่กเ็ ป็น ไปได้ และต้องมีแผนสำารองการทำางานอย่างเป็นระบบ มีที่ปรึกษา หมัน่ หาความรู้ ศึกษารูปแบบการทำางานรูปแบบใหม่ๆ ทีใ่ ช้แล้วก่อให้ เกิดประโยชน์มากกว่าโทษมาใช้ จะทำาให้การทำางานของอุตสาหกรรม โลหะสร้ า งความน่ า เชื่ อ ถื อ จากสั ง คม ชุ ม ชนและประชาชนได้ ” ประวิทย์ กล่ำว ส่วนการรีไซเคิลเศษโลหะในภาคอุตสาหกรรมไทยนั้นถือว่า ภาคอุตสาหกรรมน�ากลับมาใช้ใหม่จ�านวนน้อยมาก เนื่องจากขาด องค์ความรู ้ ขาดเงินทุนซือ้ เครือ่ งจักรทีจ่ ะน�ามารีไซเคิลเศษโลหะให้ เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง ท�าให้เกิดการกีดกันทางการค้า ในส่วนของผลิตภัณฑ์ทท่ี า� จากเหล็ก แปรรูปเหล็กจากผูป้ ระกอบการ ของไทย จึ ง ขอฝากให้ ภ าครั ฐ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งช่ ว ยหามาตรการและ แนวทางช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมด้วย November-December 2018

17


CSR l

กองบรรณาธิการ

“น้ำาเกี๋ยน” ชุมชนแบบชีววิถี ในโครงการหมู่บ้าน CIV 1 ในจุดเช็คอินที่ต้องห้ามพลาดของจังหวัดน่าน

หมู่บ้านน้�าเกี๋ยน ต�าบลน้�าเกี๋ยน อ�าเภอภูเพียง จังหวัด น่าน หมู่บ้านในโครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village : CIV) ซึ่งกระทรวงอุตสำหกรรม ได้ขับเคลื่อนภำยใต้ยุทธศำสตร์ของชำติ เพื่อสร้ำงหมู่บ้ำนแห่ง ควำมสมดุลทีน่ ำ� ทุนทำงวัฒนธรรม วิถชี วี ติ และอัตลักษณ์ชมุ ชน มำผนวกกับควำมคิดสร้ำงสรรค์และกำรออกแบบ เพื่อสร้ำง มูลค่ำเพิ่มให้กับสินค้ำและบริกำรของชุมชน เชื่อมโยงกับกำร พัฒนำแหล่งท่องเที่ยวอย่ำงยั่งยืน น้ำ� เกีย๋ น นับเป็น 1 ใน 6 หมูบ่ ำ้ น ซึง่ อยูใ่ นควำมรับผิดชอบ ของกรมอุตสาหกรรมพืน้ ฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ในปีนี้ โดย กพร.ได้มอบหมำยให้สภาการเหมืองแร่ หำ Big Brother ได้แก่ บริษัท ส. เต็งไตรรัตน์ (น่าน) จ�ากัด เข้ำมำขับเคลื่อน และพัฒนำหมูบ่ ำ้ นน้ำ� เกีย๋ นร่วมกับชุมชนตำมโครงกำร CIV เพือ่ ให้บริษัทใหญ่ๆ ได้ร่วมท�ำ CSR อย่ำงแท้จริงกับชุมชน

หมูบ่ ำ้ นน้ำ� เกีย๋ น อยูห่ ำ่ งจำกอ�ำเภอเมืองเพียง 8 กิโลเมตร นั บ เป็ น ชุ ม ชนต้ น แบบของหมู่ บ้ ำ นอุ ต สำหกรรมสร้ ำ งสรรค์ (Creative Industry Village : CIV) ที่ได้รับกำรส่งเสริมและ พั ฒ นำจำกกรมส่ ง เสริ ม อุ ต สำหกรรม โดยศู น ย์ ส่ ง เสริ ม อุตสำหกรรมภำคที่ 1 จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีอัตลักษณ์ชุมชนแบบชีว วิถี ด้วยกำรน�ำสมุนไพรธรรมชำติและทรัพยำกรธรรมชำติใน ชุ ม ชน มำสร้ ำ งสรรค์ เ ป็ น ผลิ ต ภั ณ ฑ์ แ ปรรู ป ที่ ผ สมผสำน ภู มิ ปั ญ ญำของชุ ม ชนจนสำมำรถสร้ ำ งสิ น ค้ ำ ภำยใต้ แ บรนด์ “ชีวาร์” ที่สร้ำงชื่อเสียงให้ชุมชนเป็นที่รู้จักอย่ำงแพร่หลำย วิ ถี ชี วิ ต ของชำวบ้ ำ นส่ ว นใหญ่ ยั ง ประกอบอำชี พ เกษตรกรรมและมีภูมิปัญญำเรื่องกำรตีเหล็ก กำรทอผ้ำลำย

สมชาย หาญหิรัญ รมช.กระทรวงอุตสาหกรรม ตรวจเยี่ยมวิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำาเกี๋ยน

พิธีเปิดอาคารผลิตชาสมุนไพรของชุมชน สำาหรับแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรในท้องถิ่น

ทำาความรู้จักน้ำาเกี๋ยน ชูอัตลักษณ์ชุมชนแบบชีววิถี

โรงงานผลิตชาสมุนไพรจากใบเชียงดา ช่วยลดน้ำาตาลในเลือด

18

November-December 2018


โบรำณต่ ำ งๆ ที่ มี ฝี มื อ รวมถึ ง สถำนที่ ท่องเทีย่ วทำงธรรมชำติ โอบล้อมด้วยภูเขำสูง ซึ่ ง เป็ น ไฮไลท์ ข องชุ ม ชนแห่ ง นี้ เนื่ อ งจำก มี ท รั พ ยำกรป่ ำ ไม้ แ ละนำนำพื ช พรรณที่ อุดมสมบูรณ์ สำมำรถผสมผสำนกับกิจกรรม กำรท่ อ งเที่ ย วได้ อ ย่ ำ งหลำกหลำย ทั้ ง ปั่ น จักรยำน ถ่ำยรูป เพื่อเป็นจุด Check-in จน ขยำยสู่กำรท่องเที่ยววิถีชุมชนแนวอนุรักษ์ให้ นั ก ท่ อ งเที่ ย วได้ สั ม ผั ส วิ ถี ชี วิ ต ท้ อ งถิ่ น ของ จังหวัดน่ำน เรียนรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพรจำก สวนสมุ น ไพรพื้ น บ้ ำ นที่ มี อ ยู่ รวมถึ ง กำร แปรรูปเป็น ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ลูกประคบ ยำหม่อง สเปรย์ไล่ยุงตะไคร้หอม เป็นต้น

ชูศิลป์ สารรัตนะ ประธานวิสาหกิจชุมชนชีววิถี ชุมชนบ้านน้ำาเกี๋ยน และ สุวัฒน์ พรมสุวรรณ ที่ปรึกษาบริษัท ส.เต็งไตรรัตน์ (น่าน) จำากัด

รมว.อุตฯ เยี่ยมชมศูนย์ปฏิรูป อุตสาหกรรม 4.0 ระดับจังหวัด และวิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำาเกี๋ยน จ.น่าน เมือ่ เร็วๆ นี้ สมชาย หาญหิรญ ั รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย คณะผูบ้ ริหำรกระทรวงอุตสำหกรรม ร่วมด้วย ภานุวฒ ั น์ ตริยางกูรศรี รองอธิบดีกรมส่งเสริม อุตสาหกรรม (กสอ.) และคณะผู้บริหำรกรม ส่งเสริมอุตสำหกรรม ได้ลงพื้นที่ เยี่ยมชม ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 ระดับจังหวัด (Mini ITC) พร้ อ มตรวจเยี่ ย มและรั บ ฟั ง บรรยำยสรุ ป ผลกำรด� ำ เนิ น งำนวิ ส าหกิ จ ชุ ม ชนชี ว วิ ถี ชุ ม ชนบ้ า นน้� า เกี๋ ย น ซึ่ ง เป็ น วิสำหกิจชุมชนดีเด่นระดับประเทศปี พ.ศ. 2559 เพื่อให้ควำมช่วยเหลือ บ่มเพำะ และ ต่อยอดธุรกิจ SME ผ่ำนกำรถ่ำยทอดองค์ ควำมรูใ้ ห้แก่ผผู้ ลิตระดับชุมชนและผูป้ ระกอบ กำร เพื่อยกระดับโครงสร้ำงพื้นฐำนในกำร รองรับกำรบริกำรด้ำนนวัตกรรม กำรแปรรูป กำรออกแบบ และพั ฒนำผลิ ต ภั ณ ฑ์ โดย มี สัมฤทธิ์ สวำมิภกั ดิ์ รองผูว้ ำ่ รำชกำรจังหวัด น่ำน ให้กำรต้อนรับ

รมช.กระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามฯ

ถ่ายภาพร่วมกัน November-December 2018

19


กิจกรรมปั่นจักรยานท่องเที่ยวตามแนววิถีชุมชน

ผลิตภัณฑ์ชาสมุนไพรภายในอาคารผลิตชาสมุนไพรของชุมชน

นิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ (ที่ 2 จากขวา) รองอธิบดี กพร.ลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย

การทอผ้าลายโบราณต่าง ๆ ที่มีฝีมือ หนึ่งในอาชีพของชุมชนน้ำาเกี๋ยน

20

November-December 2018

ส.เต็งไตรรัตน์ (น่าน) จับมือวิสาหกิจชุมชนชีววิถี บ้านน้ำาเกี๋ยน ร่วมพัฒนาชุมชนบ้านน้ำาเกี๋ยน ไปด้วยกัน ในโอกำสนี้ รัฐมนตรีชว่ ยว่ำกำรกระทรวงอุตสำหกรรม ให้เกียรติเป็นประธำนในพิธีเปิดอาคารผลิตชาสมุนไพร ของชุมชน ส�ำหรับแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรในท้องถิ่น ภำยในมีโรงงำนผลิตชำสมุนไพรจำกใบเชียงดำ ซึ่งเป็น สู ต รที่ ช ำวบ้ ำ นคิ ด ค้ น ขึ้ น ท� ำ ให้ มี ร สชำติ ที่ ดี ทำนง่ ำ ย ช่วยลดน้ำ� ตำลในเลือด และลดปัญหำโรคเบำหวำน พร้อม ทั้งให้เกียรติเป็นสักขีพยำนในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือการส่งเสริมและพัฒนาตามมาตรการยก ระดับเศรษฐกิจฐานราก (Local Economy) ระหว่ำง บริ ษั ท ส.เต็ ง ไตรรั ต น์ (น่ า น) จ� า กั ด โดย สุ วั ฒ น์ พรมสุวรรณ ที่ปรึกษำบริษัท ซึ่งเป็น Big Brother กับ ชูศิลป์ สารรัตนะ ประธานวิสาหกิจชุมชนชีววิถี ชุมชน บ้ า นน้� า เกี๋ ย น เพื่ อ ร่ ว มมื อ กั บ ชุ ม ชนฯ ขั บ เคลื่ อ นกำร ส่งเสริมและพัฒนำโดยมุ่งเน้นกำรสร้ำงงำน สร้ำงโอกำส สร้ำงรำยได้ กำรยกระดับด้ำนเทคโนโลยี นวัตกรรมกำร ผลิ ต กำรออกแบบและพั ฒนำผลิ ต ภั ณ ฑ์ บรรจุ ภั ณ ฑ์ ตั้ ง แต่ ต้ น น้� ำ -ปลำยน้� ำ ตลอดจนกำรผลิ ต ผลิ ต ภั ณ ฑ์ สมุนไพรเพื่อสุขภำพของวิสำหกิจชุมชนชีววิถีของบ้ำน น้�ำเกี๋ยน ณ ศูนย์กำรเรียนรู้ชุมชนบ้ำนน้�ำเกี๋ยน


CSR

l

กองบรรณาธิการ

โรงไฟฟ้าราชบุรี จับมือ ยิปซัมตราช้าง

เดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตชุมชน สร้างโอกาสให้เยาวชนมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จ�ากัด ได้ ลงนามความร่ ว มมื อ กั บ บริ ษั ท สยาม อุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จ�ากัด หรือ ยิปซัมตราช้าง จัดท�า “โครงการติดตั้งฝ้า ยิปซัมให้กับอาคารและสถานที่สาธารณประโยชน์เพื่อชุมชนจังหวัดราชบุรี” โดย มุ่งเน้นตอบสนองนโยบายร่วมกันในด้าน การรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม โครงการนี้มีขึ้นเพื่อยกระดับสิ่งแวดล้อม และคุ ณ ภาพชี วิ ต ของคนในชุ ม ชน รวม ไปถึงการฝึกอบรมเพื่อสร้างอาชีพ ทั้งยัง เป็นการพัฒนาโรงเรียนซึ่งเป็นสถาบันที่ อบรมให้ความรู้กับเยาวชนในชุมชน โดย น� า ร่ อ งแห่ ง แรกที่ โ รงเรี ย นวั ด พิ กุ ล ทอง (แปลกประชาคาร) เพื่อสร้างโอกาสด้าน การศึกษา และวิชาชีพให้กบั บุคลากร และ เยาวชน

November-December 2018

21


บุ ญ ชั ย จรั ญ วรพรรณ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุร ี จ�ากัด กล่ำวว่ำ โรงไฟฟ้ำรำชบุรแี ละยิปซัมตรำช้ำง ได้ ป ระสำนควำมร่ ว มมื อ จำกกำรผสำน นโยบำยด้ำนสิง่ แวดล้อมร่วมกัน โดยมุง่ เน้น ที่ ก ำรจั ด ท� ำ โครงกำรเพื่ อ ชุ ม ชนเพื่ อ กำร พัฒนำที่ยั่งยืน ด้วยกำรจัดฝึกอบรมวิชำชีพ ภำยใต้ชื่อ “โครงการติดตั้งฝ้ายิปซัมให้กับ อาคารและสถานทีส่ าธารณประโยชน์เพือ่ ชุมชนจังหวัดราชบุรี” ซึ่งเป็นโอกำสที่จะ สร้ำงควำมร่วมมือระหว่ำงกันในกำรสร้ำง ควำมแข็งแกร่งให้ชุมชนและช่ำงฝ้ำเพดำน ยิปซัม ให้กับกลุ่มช่ำงฝีมือชุมชน รวมถึง กลุ่ ม บุ ค ลำกรและนั ก ศึ ก ษำในชุ ม ชม ให้ สำมำรถน�ำไปต่อยอดเพื่อประกอบอำชีพ สร้ำงมูลค่ำให้กับครอบครัวและชุมชน โดย น� ำ ร่ อ งที่ โ รงเรี ย นวั ด พิ กุ ล ทอง (แปลก ประชำคำร) เป็นแห่งแรก ซึ่งมีนักเรียนใน ระดั บ ชั้ น อนุ บ ำลถึ ง มั ธ ยมศึ ก ษำตอนต้ น เนื่องจำกเด็กๆ ประสบปัญหำเรื่องอำกำศ ร้อนจำกอำคำรเรียนเดิม ทำงยิปซัมตรำช้ำง จึงได้เข้ำมำช่วยแก้ไขปัญหำด้วยกำรติดตั้ง ฝ้ำเพดำนซึ่งช่วยลดควำมร้อนและระบำย อำกำศได้ ดีขน้ึ โดยกิจกรรมเพือ่ สังคมครัง้ นี้ เป็นเจตนำรมณ์ที่ชัดเจนที่โรงไฟฟ้ำรำชบุรี และยิปซัมตรำช้ำงต้องกำรมีสว่ นร่วมต่อสังคม เพื่อประโยชน์แห่งกำรพัฒนำที่ยั่งยืน

22

November-December 2018

จรุง กาญจนภูมิ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จ�ากัด หรือยิปซัมตรำช้ำง ผู้น�ำนวัตกรรมฝ้ำเพดำนและระบบผนังยิปซัมแนวหน้ำ ของประเทศไทย กล่ำวว่ำ บริษัทฯ มีควำมยินดีและภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งใน กำรร่วมพัฒนำชุมชนรำชบุรี ภำยใต้ “โครงกำรติดตั้งฝ้ำยิปซัมให้กับอำคำรและ สถำนที่สำธำรณประโยชน์เพื่อชุมชนจังหวัดรำชบุรี” ณ โรงเรียนวัดพิกุลทอง (แปลกประชำคำร) แห่งนี้


ด้วยพันธกิจทีส่ อดคล้องไปในทิศทำง เดียวกันของยิปซัมตรำช้ำงและโรงไฟฟ้ำ รำชบุรี เกีย่ วกับกำรรับผิดชอบต่อสังคมและ สิ่งแวดล้อม ท�ำให้โครงกำรนี้ได้ถูกริเริ่มขึ้น โครงกำรนีม้ วี ตั ถุประสงค์สำ� คัญทีจ่ ะพัฒนำ ชุมชนให้มชี วี ติ ควำมเป็นอยูท่ สี่ มบูรณ์อย่ำง ยั่งยืน กล่ำวคือ นอกจำกจะเข้ำมำพัฒนำ ชุมชนแล้ว เรำยังมุง่ เน้นทีก่ ำรสร้ำงทักษะใน งำนช่ำงยิปซัมสูก่ ำรพัฒนำเป็นฝีมอื แรงงำน ด้ำนงำนยิปซัม เพื่อใช้ประกอบอำชีพได้ เพื่ อ ให้ ค นในชุ ม ชนสำมำรถสร้ ำ งรำยได้ ต่ อ ไปในอนำคต รวมถึ ง น� ำ ควำมรู้ นี้ ไ ป พัฒนำช่วยเหลือชุมชนของตนเองได้ “กิจกรรมในครัง้ นี้ ทางยิปซัมตราช้าง ได้ จั ด ฝึ ก อบรมการติ ด ตั้ ง ฝ้ า เพดานเป็ น ระยะเวลา 3 วั น ให้ กั บ ผู้ เ ข้ า ร่ ว มอบรม ทั้งหมด 41 ท่าน ประกอบด้วยบุคลากร จากวิทยาลัยเทคนิคราชบุรี และช่างทั่วไป ในชุมชน ในการฝึกปฏิบตั งิ านจริง ได้มกี ารติดตัง้ ระบบฝ้าทีบาร์พมิ พ์ลาย “เปเปอร์ทชั ตราช้าง” รุน่ ป้องกันความร้อน เพือ่ เพิม่ ความ สบายและสร้างบรรยากาศทีด่ ใี นการเรียนการสอนให้กบั คณะครูอาจารย์ และน้องๆ นักเรียนโรงเรียนวัดพิกลุ ทอง (แปลกประชาคาร)” จรุง กล่ำว

November-December 2018

23


บทความ l

กณิศ อ่าำ สกุล

ล้วงลึก อุตสาหกรรมอะลูมิเนียม

กับปัจจัยที่ไม่ควรละสายตา

ความต้องการใช้อะลูมิเนียมทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโต 4%CAGR ในช่วง ค.ศ. 2018-2020 โดยมีการเติบโตของ ภาคก่อสร้างและการผลิตรถยนต์ในจีนเป็นปัจจัยขับเคลือ่ น หลัก สวนทางกับก�าลังการผลิตที่คาดว่าจะหดตัวลงถึง 4 ล้ า นตั น หรื อ เที ย บเท่ า 7% ของก� า ลั ง การผลิ ต โลก จากสถานการณ์ดังกล่าวประเมินว่าราคาอะลูมิเนียมจะ ปรับตัวขึ้นราว 3%CAGR ในช่วง ค.ศ. 2018-2020 ส�ำหรับไทย อีไอซีประเมินว่ำกำรเติบโตของกำรผลิต รถยนต์ กำรก่ อ สร้ ำ งภำคเอกชน โดยเฉพำะโครงกำร คอนโดมิเนียมและอำคำรส�ำนักงำน รวมถึงกำรขยำยตัว ของตลำดเบียร์ น้�ำอัดลม และเครื่องดื่มชูก�ำลัง จะส่งผลให้ ควำมต้ อ งกำรใช้ อ ะลู มิ เ นี ย มเติ บ โต 5%CAGR ในช่ ว ง ค.ศ. 2018-2020 ควำมผัน ผวนของรำคำอะลูมิเนียม กำรขยำยตัวของ ปริมำณกำรน�ำเข้ำอะลูมเิ นียมส�ำเร็จรูป และมำตรกำรขึน้ ภำษี น�ำเข้ำอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ เป็น 3 ปัจจัยที่ผู้ผลิตและผู้ใช้ อะลูมิเนียม ควรติดตำมอย่ำงใกล้ชิด เนื่องจำกเป็นปัจจัยที่ ส่งผลกระทบต่อผลกำรด�ำเนินงำนโดยตรง ความต้องการใช้อะลูมเิ นียมทัว่ โลกมีแนวโน้มขยายตัว ต่อเนื่องกว่าปีละ 4%CAGR ในช่วง ค.ศ. 2018-2020 โดยมีการเติบโตของอุปสงค์ในจีนเป็นปัจจัยสนับสนุนหลัก หำกกล่ ำ วถึ ง โลหะที่ นิ ย มใช้ กั น มำกในภำคอุ ต สำหกรรม แน่นอนว่ำคนทั่วไปย่อมนึกถึงเหล็กเป็นล�ำดับแรก เนื่องจำก เหล็กเป็นวัสดุที่สำมำรถประยุกต์ใช้งำนได้หลำกหลำยและมี รำคำทีไ่ ม่สงู เกินไปนัก อย่ำงไรก็ตำม ด้วยคุณสมบัตทิ โี่ ดดเด่น ของอะลูมิเนียม ทั้งน้�ำหนักที่เบำกว่ำเหล็ก เมื่อเปรียบเทียบ ที่ควำมแข็งแรงเท่ำกัน และควำมต้ำนทำนต่อกำรกัดกร่อน ที่ ร ะดั บ สู ง ท� ำ ให้ อ ะลู มิ เ นี ย มถู ก น� ำ ไปใช้ ป ระโยชน์ อ ย่ ำ ง กว้ำงขวำงขึน้ ในหลำยอุตสำหกรรม เช่น ชิน้ ส่วนรถยนต์สำ� หรับ อุตสำหกรรมยำนยนต์ กรอบหน้ำต่ำงส�ำหรับอุตสำหกรรม ก่ อ สร้ ำ ง และภำชนะบรรจุ อ ำหำรและเครื่ อ งดื่ ม ส� ำ หรั บ อุตสำหกรรมอำหำรและเครื่องดื่ม เป็นต้น

24

November-December 2018

ตั้งแต่ ค.ศ. 2011 ควำมต้องกำรใช้อะลูมิเนียมทั่วโลก ได้ขยำยตัวมำกกว่ำ 40% มำอยูท่ ี่ 63 ล้ำนตันใน ค.ศ. 2017 ซึง่ กว่ำ 80% ของควำมต้องกำรใช้งำนทีม่ ำกขึน้ เป็นกำรเติบโต ในจีนเป็นหลัก ทัง้ นี้ อีไอซีคำดกำรณ์วำ่ แนวโน้มกำรขยำยตัว ของกำรก่ อ สร้ ำ งที่ อ ยู่ อ ำศั ย และอำคำรส� ำ นั ก งำนในจี น รวมถึงกำรเพิ่มขึ้นของปริมำณกำรผลิตรถยนต์จีน จะเป็น ปัจจัยสนับสนุนหลักให้กำรใช้อะลูมิเนียมทั่วโลกขยำยตัวได้ 4%CAGR ในช่วง ค.ศ. 2018-2020 อย่ ำ งไรก็ ต ำม อุ ป ทำนส่ ว นเกิ น ที่ เ กิ ด ขึ้ น จำกกำร ขยำยตัวอย่ำงรวดเร็วของก�ำลังกำรผลิตในจีน ได้ผลักดัน ให้รัฐบำลจีนออกมำตรกำรลดก�ำลังกำรผลิต ซึ่งอำจท�ำให้ รำคำอะลูมิเนียมปรับตัวสูงขึ้น ก�ำลังกำรผลิตอะลูมิเนียม ทีเ่ ติบโตเร็วกว่ำควำมต้องกำรใช้งำนส่งผลให้อปุ ทำนส่วนเกิน ของจีนเพิม่ ขึน้ จำก 0.9 แสนตันใน ค.ศ. 2011 เป็น 1.3 ล้ำนตัน ใน ค.ศ. 2017 โดยรั ฐ บำลจี น ได้ พ ยำยำมแก้ ไ ขปั ญ หำ ด้วยมำตรกำรสั่งปิดโรงงำนผลิตอะลูมิเนียมที่ผิดกฎหมำย (Document 656) และกำรควบคุ ม ก� ำ ลั ง กำรผลิ ต ของ อุตสำหกรรมหนัก (Policy 2+26) เช่น ถ่ำนหิน เหล็ก รวมถึง อะลูมเิ นียมในปักกิง่ เทียนจิน และอีก 26 เมือง ในช่วงฤดูหนำว (พ.ย.-มี.ค.) ของปี โดยผลของทั้ง 2 มำตรกำรจะท�ำให้ก�ำลัง กำรผลิตอะลูมเิ นียมของจีนลดลงถึง 4 ล้ำนตัน หรือรำว 7% ของก�ำลังกำรผลิตโลก ซึง่ อีไอซีประเมินว่ำภำยใต้สถำนกำรณ์


อุปสงค์มีแนวโน้มขยำยตัวสวนทำงกับกำรหดตัวของอุปทำน จะส่งผลให้รำคำอะลูมิเนียมมีแนวโน้มสูงขึ้น 3%CAGR ในช่วง ค.ศ. 2018-2020 ส�ำหรับประเทศไทย อีไอซีประเมินว่ำควำมต้องกำรใช้ อะลู มิ เ นี ย มมี แ นวโน้ ม ขยำยตั ว 5%YOY ขึ้ น ไปอยู่ ใ นระดั บ เกินกว่ำ 1 ล้ำนตัน ใน ค.ศ. 2018 และเติบโตต่อเนือ่ งในระยะกลำง โดยมีแรงขับเคลื่อนจำก 3 อุตสำหกรรมหลัก ซึ่งใช้อะลูมิเนียม กว่ำ 80% ของทั้งประเทศ ประกอบด้วย 1) อะลูมิเนียมใน อุตสาหกรรมยานยนต์ ทีม่ แี นวโน้มขยำยตัวตำมกำรเพิม่ ขึน้ ของ ปริมำณกำรผลิตรถยนต์เพื่อตอบสนองกำรฟื้นตัวของก�ำลังซื้อ ทั้งจำกในประเทศและต่ำงประเทศ ประกอบกับสัดส่วนกำรใช้ อะลูมเิ นียม (Aluminium Content) ทีม่ ำกขึน้ ในรถยนต์แต่ละคัน เพื่ อ ลดน้� ำ หนั ก และเพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ ำพของเครื่ อ งยนต์ 2) อะลูมิเนียมในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ที่คำดว่ำจะขยำยตัวตำม กำรเพิม่ ขึน้ ของโครงกำรคอนโดมิเนียมตำมแนวก่อสร้ำงรถไฟฟ้ำ และโครงกำรอำคำรส�ำนักงำนเพื่อรองรับควำมต้องกำรเข้ำใช้ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะท�ำให้ควำมต้องกำรใช้กรอบอะลูมิเนียมส�ำหรับ งำนกระจกอำคำร แผ่นอะลูมเิ นียมส�ำหรับงำนฝ้ำเพดำน รวมถึง อะลูมิเนียมคอมโพสิตส�ำหรับงำนหุ้มผนัง (Façade) ขยำยตัว ตำมไปด้วย และ 3) อะลูมิเนียมในอุตสาหกรรมอาหารและ เครื่องดื่ม ที่มีแนวโน้มเติบโตตำมกำรขยำยตัวของตลำดเบียร์ น้ำ� อัดลม และเครือ่ งดืม่ ชูกำ� ลังในประเทศ ซึง่ จะส่งผลต่อเนือ่ งให้ ควำมต้องกำรใช้อะลูมิเนียมส�ำหรับกำรผลิตกระป๋องเติบโตขึ้น ตำมไปด้วย อย่ำงไรก็ตำม ควำมผัน ผวนของรำคำและกำรขยำยตัว ของกำรน�ำเข้ำอะลูมิเนียมส�ำเร็จรูป เป็นปัจจัยที่ผู้ผลิตและผู้ใช้ อะลูมิเนียมต้องจับตำมองอย่ำงใกล้ชิด เนื่องจำกเป็นปัจจัยที่จะ ส่งผลกระทบต่อกำรด�ำเนินงำนของผู้ประกอบกำรโดยตรง ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกำรเปลี่ยนแปลงของรำคำอะลูมิเนียมกับรำคำ เหล็กที่มีควำมผัน ผวนมำกในช่วงที่ผ่ำนมำ อีไอซีพบว่ำรำคำ อะลูมิเนียมมีกำรเคลื่อนไหวขึ้นลงโดยเฉลี่ยเดือนละ 4%MOM ขณะที่รำคำเหล็กเคลื่อนไหวขึ้นลงโดยเฉลี่ย 5%MOM สะท้อน ถึงควำมผันผวนของรำคำที่ไม่แตกต่ำงกันมำกนัก นอกจำกนี้ ในช่ ว ง 5 ปี ที่ ผ่ ำ นมำ ไทยมี ก ำรน� ำ เข้ ำ อะลูมิเนียมส�ำเร็จรูปที่ขยำยตัวเร็วกว่ำกำรน�ำเข้ำวัตถุดิบอย่ำง อะลูมิเนียมที่ยังไม่ขึ้นรูป และเศษอะลูมิเนียมถึง 2 เท่ำ แสดง ให้ เ ห็ น แนวโน้มกำรแข่งขัน ที่จ ะรุน แรงมำกขึ้นระหว่ ำงผู้ ผ ลิ ต อะลูมิเนียมไทยกับสินค้ำน�ำเข้ำรำคำถูก โดยเฉพำะจำกจีนที่มี ข้อได้เปรียบด้ำนก�ำลังกำรผลิตที่สูงถึง 50% ของโลก จึงท�ำให้ อุตสำหกรรมอะลูมิเนียมจีนได้รับประโยชน์จำก Economies of Scale ในระดับสูง นอกจำกนี้ ผูผ้ ลิตอะลูมเิ นียมส�ำเร็จรูปของจีน

ความต้องการใช้อะลูมิเนียมของโลก

ขยายตัวอย่างต่อเนื่องปีละ 6%CAGR ในปี 2011-2017 โดยจีนเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก

ยังได้รับกำรอุดหนุนจำกรัฐบำลผ่ำนกำรคืนอำกรส่งออก (Export Tax Rebate) ในอัตรำ 13-15% จึงท�ำให้รำคำ น�ำเข้ำอะลูมิเนียมส�ำเร็จรูปจำกจีนต่�ำกว่ำอะลูมิเนียม ที่ผลิตในไทยได้ถึง 10-30% ขณะที่ ม ำตรกำรขึ้ น ภำษี น� ำ เข้ ำ อะลู มิ เ นี ย มของ สหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะท�ำให้ปริมำณอะลูมิเนียมไหลเข้ำ ไทยมำกขึ้น แต่ภำพรวมกำรส่งออกอะลูมิเนียมของไทย อำจไม่รบั ผลกระทบมำกนัก โดยอะลูมเิ นียมทีย่ งั ไม่ขนึ้ รูป จำกรัสเซียและสหรัฐอำหรับเอมิเรตส์ รวมถึงอะลูมเิ นียม แผ่ น และอะลู มิ เ นี ย มฟอยล์ จ ำกจี น เป็ น ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่มีควำมเป็นไปได้ที่จะไหลเข้ำมำไทยมำกขึ้น เนื่องจำก เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีกำรส่งออกมำยังไทยอยู่แล้ว ขณะที่

November-December 2018

25


การขยายตัวของกำาลังการผลิต

ที่เร็วกว่าความต้องการใช้ส่งผลให้เกิดอุปทานส่วนเกินในอุตสาหกรรมอะลูมิเนียมจีน

อีไอซีคาดว่าราคาอะลูมิเนียมจะปรับตัวสูงขึ้น 3%CAGR ในช่วงปี 2018-2020

ความผันผวนของราคาอะลูมิเนียม

และการขยายตัวของการนำาเข้าอะลูมิเนียมสำาเร็จรูป เป็นปัจจัยที่ควรเฝ้าติดตาม

ผลกระทบทำงตรงนั้น อีไอซีประเมินว่ำ มำตรกำรขึ้นภำษีจะไม่กระทบต่อ กำร ส่งออกอะลูมิเนียมของไทยในภำพรวมนัก เนื่องจำกไทยมีกำรส่งออก อะลูมิเนียมไปยังสหรัฐฯ เพียงปีละ 4 หมื่นตัน หรือรำว 9% ของปริมำณส่งออก อะลูมิเนียมทั้งหมด ซึ่งคิดเป็นมูลค่ำเพียง 7.6 พันล้ำนบำท เท่ำนั้น

26

November-December 2018

ข้อเสนอแนะ • ผู้ประกอบกำรควรวำงแผน กำรใช้ก�ำลังกำรผลิตเพื่อรองรับกำร เติ บ โตของอุ ป สงค์ อ ะลู มิ เ นี ย มใน อนำคต โดยเฉพำะกรอบอะลูมิเนียม ส� ำ หรั บ งำนก่ อ สร้ ำ ง และแผ่ น อะลูมเิ นียม ซึง่ เป็นวัตถุดบิ ส�ำหรับกำร ผลิตกระป๋อง ทั้งนี้ เพื่อตอบสนอง ค� ำ สั่ ง ซื้ อ ที่ ค ำดว่ ำ จะขยำยตั ว ขึ้ น ผู้ประกอบกำรที่มีก�ำลังกำรผลิตไม่ มำกพอ ควรพิจำรณำกำรลงทุนขยำย ก�ำลังกำรผลิตหรือพิจำรณำกำรน�ำเข้ำ ผลิตภัณฑ์สำ� เร็จรูปมำจัดจ�ำหน่ำยเพือ่ ตอบสนองควำมต้องกำรทีข่ ยำยตัวขึน้ • อย่ำงไรก็ตำม ผูป้ ระกอบกำร ควรให้ ค วำมส� ำ คั ญ กั บ กำรบริ ห ำร ควำมเสี่ยงจำกกำรผัน ผวนของรำคำ แม้ทิศทำงรำคำอะลูมิเนียมจะอยู่ใน ขำขึ้ น แต่ แ น่ น อนว่ ำ ในระหว่ ำ งปี รำคำอะลูมิเนียมจะผัน ผวนตำมกำร เปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทำน รวมถึงแรงเก็งก�ำไร ณ เวลำนัน้ ๆ กำร จับคู่ค�ำสั่งซื้อ และกำรบริหำรสินค้ำ คงคลั ง ให้ อ ยู่ ใ นระดั บ ที่ เ หมำะสม จะช่วยให้ผู้ประกอบกำรสำมำรถลด ควำมเสี่ยงที่จะเกิดกำรขำดทุนจำก กำรเปลีย่ นแปลงของรำคำอะลูมเิ นียม ได้ (Stock Loss)

ที่มำ : Economic Intelligence Center (EIC) ธนำคำรไทยพำณิชย์ จ�ำกัด (มหำชน)


แร่น่ารู้

l

กองบรรณาธิการ

แร่อิลเมไนต์ (Ilmenite) ต้นกำาเนิดให้ ไทเทเนียม

ใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างเครื่องบิน คุณสมบัติทางเคมี อิลเมไนต์ (Ilmenite) มาจากชื่อภูเขาอิลเมน (Ilmen) ในประเทศ รัสเซีย ส�าหรับแร่ประเภทเดียวกับอิลเมไนต์ คือแร่ไกคีไลต์ (Geikielike : MgTiO2) ซึ่งมาจากชื่อของ SirArchibald Geikie เป็นนักธรณีวิทยา ชาวอังกฤษ กับแร่ไพโรฟาไนต์ (Pyrophanite : MnTiO2) มาจากภาษา กรีกว่า Pyro หมายถึงไฟ (Fire) และ Phane หมายถึง Appear คือเป็นแร่ ที่มีสีทองราวกับไฟ

คุณสมบัติทางฟิสิกส์ รูปผลึกระบบเฮกซะโกนำล ผลึกมักจะเป็นแผ่นหนำหรือเป็นชัน้ ผลึก มักจะใกล้เคียงกับฮีมำไทต์ อำจพบเป็นแผ่นบำงๆ ซ้อนๆ กัน ปกติจะมี เนื้ อ สมำนแน่ น หรื อ เป็ น มวลเมล็ ด เท่ ำ เม็ ด ทรำย แข็ ง 5.5-6 ค่ ำ ควำมถ่วงจ�ำเพำะ 4.7 ควำมวำวคล้ำยโลหะหรือกึ่งโลหะ สีด�ำ แบบเหล็ก สีผงละเอียดด�ำ หรือแดงน้�ำตำล อำจมีคุณสมบัติแม่เหล็กได้สงู โดยไม่ต้อง เผำให้ร้อน เนื้ออับแสง (Opaque)

ส�ำหรับสูตรเคมีของแร่อิลเมไนต์ คือ FeTiO3 มี Fe 36.8% Ti 31.6% และ O 31.6% อัตรำส่วน ระหว่ำงไทเทเนียมกับเหล็กแปรเปลีย่ นได้มำก ถ้ำมี เหล็กออกไซด์มำกไปอำจจะเป็นเพรำะมีฮีมำไทต์ เป็นมลทิน แมกนีเซียมและแมงกำนีสอำจพบใน อิลเมไนต์ เนื่องจำกสำมำรถแทนที่เหล็กในแร่นี้ได้

ลักษณะเด่นและวิธีตรวจ มักเป็นผลึกแบนๆ มำก และบำงครัง้ อำจเห็น หกเหลี่ยมได้ อิลเมไนต์ต่ำงจำกฮีมำไทต์ตรงสีผง ละเอียด และต่ำงจำกแมกนีไทต์ตรงที่มีคุณสมบัติ แม่เหล็กอ่อนกว่ำ แต่ในกรณีที่แมกนีไทต์เกิดซ้อน อยู่ด้วยกัน ก็จ�ำเป็นต้องตรวจดูคุณสมบัติทำงเคมี โดยละลำยผงป่นในกรดเกลือแล้วใส่ดีบุก จะได้ ตะกอนสีม่วงอินเมไทต์ไม่หลอมตัว ถ้ำเผำจะมี คุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก November-December 2018

27


การเกิด เกิ ด เป็ น ตั ว เคลื อ บในลั ก ษณะเป็ น ชั้ น หรื อ รู ป เลนส์ ใ น หินไนส์และหินแปรชนิดอื่นๆ ได้ พบในสำยแร่หรือมวลสำรที่ เป็น ผลกำรแยกตัวของหินหนืด มีส่วนสัมพันธ์กับแมกนีไทต์ และเป็นแร่ไม่สำ� คัญ ในหินอัคนีปนอยูใ่ นทรำยร่วมกับแมกนีไทต์ รูไทล์ เซอร์คอน และโมนำไซต์ พบเสมอในแหล่งแร่ดีบุก

แหล่งที่พบ ในประเทศไทย มีขนำดเล็กเท่ำเม็ดทรำยพบในแหล่งดีบกุ ทั่วๆ ไป เช่น จังหวัดกำญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พังงำ ภูเก็ต ระนอง ตะกั่วป่ำ ฯลฯ สีคล้ำยดีบุกจนท�ำให้เข้ำใจผิดกันมำก พวกท� ำ เหมื อ งแร่ ดี บุ ก มั ก เรี ย กว่ ำ ขี้ แ ร่ (อำมั ง ) ชนิ ด ที่ เ ป็ น แผ่นบำงๆ ซ้อนๆ กัน พบในแหล่งพลอยที่จันทบุรี และตรำด ส่วนต่ำงประเทศ พบมำกที่ Kragero และแหล่งอื่นๆ ใน นอร์เวย์ ฟินแลนด์ ในลักษณะเป็น ผลึกพบที่ Miask ในภูเขำ อิลเมน สหพันธรัฐรัสเซีย อินเดีย บรำซิล มีกำรท�ำเหมืองจำก ทรำยชำยฝั่งเป็นปริมำณมำก

คุณประโยชน์ แร่อิลเมไนต์ เป็นต้นก�ำเนิดให้ไทเทเนียม สำรประกอบ ไทเทเนียมออกไซด์น�ำมำใช้เป็นแม่สีเป็นจ�ำนวนมำกแทนแม่สี เก่ ำ ซึ่ ง เป็ น สำรประกอบตะกั่ ว เนื่ อ งจำกมี คุ ณ สมบั ติ พิ เ ศษ สำมำรถเป็นวัตถุในกำรสร้ำงเครื่องบินทั้งส่วนที่เป็นโครงสร้ำง และเครือ่ งยนต์ อิลเมไนต์ไม่สำมำรถใช้ให้เหมือนสินแร่เหล็กได้ เพรำะถลุงยำก แต่ถ้ำน�ำส่วนผสมอิลเมไนต์ แมกนีไทต์ และ อิลเมไนต์-ฮีมำไทต์ เมื่อน�ำมำแยก ก็จะได้ทั้งไทเทเนียมและ เหล็ก

ที่มา: http://www.dmr.go.th/main.php?filename=ilmenite

28

November-December 2018


*ประกอบด้วย ทองแดง อะลูมิเนียม ดีบุก สังกะสี ไนโอเบียม แทนทำลัม และอื่นๆ **ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ท�ำด้วยเหล็ก ทองแดง อะลูมิเนียม โลหะสำมัญ *** ประกอบด้วย แร่หินอ่อนและหินแกรนิต เคโอลินและดินที่ใช้ในอุตสำหกรรม แอสเบสทอส และผลิตภัณฑ์จำกแร่อื่น

อ้างอิง : รำยงำนสถิติกำรค้ำไทย, กระทรวงพำณิชย์ http//www2.ops3.moc.go.th ที่มำ : กพร. เศรษฐกิจปริทรรศน์ เดือนกันยำยน ๒๕๖๑

November-December 2018

29


บทความ l

ยุพิน พินิจศักดิ์ กลุ่มสถิติและพัฒนาข้อมูล ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

การพยากรณ์ปริมาณนำาเข้าถ่านหินของประเทศไทย ปี พ.ศ. 2561-2565

ถ่ ำ นหิ น เป็ น ทรั พยำกรแร่ ในกลุ่ ม แร่ เชื้ อ เพลิ ง หรื อ แร่ ท่ี ให้พลังงำนที่มีบทบำทและควำมส�ำคัญกลุ่มแร่หนึ่ง และเป็น กลุม่ แร่ทมี่ สี ดั ส่วนกำรผลิต กำรใช้ กำรน�ำเข้ำอยูใ่ นอันดับสูงสุด กลุ่มหนึ่งของประเทศ ถ่ำนหินเป็นวัตถุดิบในกระบวนกำรผลิต กระแสไฟฟ้ำและน�ำไปใช้เป็นเชือ้ เพลิงหลักในภำคอุตสำหกรรม กำรผลิตถ่ำนหินของประเทศส่วนใหญ่เป็นกำรผลิตถ่ำนหิน ลิกไนต์ โดยมีผลผลิตหลักจำกเหมืองของกำรไฟฟ้ำฝ่ำยผลิต แห่งประเทศไทย อ�ำเภอแม่เมำะ จังหวัดล�ำปำง ซึง่ ลิกไนต์ทผี่ ลิต ทั้งหมดจะถูกน�ำไปใช้ในกำรผลิตไฟฟ้ำของโรงไฟฟ้ำแม่เมำะ และเหมืองของบริษัทเอกชน ใช้เป็นเชื้อเพลิงให้พลังงำนใน อุตสำหกรรมซีเมนต์เป็นหลัก เนื่องจำกแนวโน้มกำรขยำยตัว ทำงเศรษฐกิจของไทยที่ปรับตัวและแผนกำรลงทุนโครงสร้ำง พื้นฐำนตำมนโยบำยของรัฐบำล ส่งผลต่อกำรใช้ไฟฟ้ำในภำค อุตสำหกรรมโดยรวม เป็นเหตุให้ควำมต้องกำรใช้ถ่ำนหินเพิ่ม มำกขึ้ น แต่ ก ำรน� ำ ถ่ ำ นหิ น ที่ ผ ลิ ต ได้ ภ ำยในประเทศมำใช้ ประโยชน์เริ่มลดลง เนื่องจำกคุณภำพของถ่ำนหินมีข้อจ�ำกัดใน ด้ำนกำรให้พลังงำนควำมร้อนและชั้นคุณภำพต่�ำ จึงจ�ำเป็น ต้องมีกำรน�ำเข้ำจำกต่ำงประเทศให้เพียงพอในกำรขับเคลื่อน กำรผลิตได้อย่ำงต่อเนื่อง ควำมต้องกำรใช้ถ่ำนหินจะเพิ่มขึ้นใน อีก 5 ปีข้ำงหน้ำ (พ.ศ. 2561-2565) ในปริมำณเช่นไรนั้น จ�ำเป็นต้องประมำณกำรแนวโน้มปริมำณกำรน�ำเข้ำถ่ำนหิน โดยใช้ขอ้ มูลตัง้ แต่ พ.ศ. 2550-2561 (ไตรมำสที่ 2) ด้วยวิธกี ำร วิ เ ครำะห์ อ นุ ก รมเวลำแบบคลำสสิ ค เป็ น กำรพิ จ ำรณำกำร เคลื่อนไหวของข้อมูลและเหตุกำรณ์ในอดีตเพื่อน�ำมำใช้ในกำร วำงแผนนโยบำยในอนำคต โดยใช้โปรแกรมส�ำเร็จรูปทำงสถิติ และโปรแกรมตำรำงกำรท�ำงำนเป็นเครื่องมือท�ำกำรวิเครำะห์ และพยำกรณ์ปริมำณกำรน�ำเข้ำถ่ำนหินของประเทศไทย

» การวิเคราะห์ข้อมูล

กำรวิ เ ครำะห์ แ นวโน้ ม ปริ ม ำณกำรน� ำ เข้ ำ ถ่ ำ นหิ น ของ ประเทศไทยด้วยเทคนิคอนุกรมเวลำแบบคลำสสิคเพื่อให้ได้ ตั ว แบบที่ เ หมำะสมที่ สุ ด ในกำรประเมิ น ผลกำรวิ เ ครำะห์ ส่วนประกอบของข้อมูลอำจถูกกระทบด้วยปัจจัยแนวโน้ม (T) ฤดูกำล (S) วัฏจักร (C) หรือควำมรบกวนสุ่ม (I) ซึ่งคำดว่ำเป็น ปัจจัยทีม่ อี ทิ ธิพลต่อปริมำณกำรน�ำเข้ำถ่ำนหินของประเทศไทย ดังนี้ 30

November-December 2018

1. จำกกำรรวบรวมข้อมูลมำเขียนกรำฟพบว่ำ ข้อมูล มีส่วนประกอบของแนวโน้ม ควำมเคลื่อนไหวของข้อมูลใน ลักษณะแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น แสดงว่ำปริมำณกำรน�ำเข้ำถ่ำนหิน มีอัตรำกำรน�ำเข้ำที่เพิ่มขึ้น

ภาพที่ 1 แสดงปริมาณการนำาเข้าถ่านหินของประเทศไทย ที่แท้จริงและค่าแนวโน้ม

เมื่อพิจำรณำรูปแบบแนวโน้มโดยใช้หลักกำรวิเครำะห์ กำรถดถอย ให้ตวั แปรอิสระ t เป็นเวลำ และตัวแปรตำม T เป็น แนวโน้มของอนุกรมเวลำ ซึ่งผลกำรวิเครำะห์พบว่ำ รูปแบบ แนวโน้มโพลีโนเมียลก�ำลังสองเป็นรูปแบบแนวโน้มที่เหมำะสม ที่สุด เนื่องจำกค่ำสัมประสิทธิ์กำรตัดสินใจ (R2) มีค่ำสูงกว่ำ แสดงว่ำตัวแปรอิสระมีควำมสัมพันธ์กับตัวแปรตำมมำกกว่ำ และค่ำควำมคลำดเคลื่อน (Mean Square Error : MSE) มีค่ำ ต่�ำสุด

ตารางที่ 1 แสดงค่าสัมประสิทธิ์การพยากรณ์ รูปแบบแนวโน้ม R2 Adj. R2 MSE R เส้นตรง 0.833 0.694 0.687 216,341 โพลีโนเมียลก�ำลังสอง 0.837 0.701 0.687 211,534 ดั ง นั้ น จะได้ ส มกำรค่ ำ ประมำณกำรแนวโน้ ม T = 3628.995 + (32.096*t) + (0.440*(t2)) ที่ 2

2. ข้อมูลมีรปู แบบกำรเปลีย่ นแปลงตำมฤดูกำล ดังตำรำง


ตารางที่ 2 แสดงค่าดัชนีการผันแปรตามฤดูกาล ดัชนี ฤดูกำล (%)

ไตรมำสที่ 1 96.0

2 107.3

3 102.2

4 94.6

ใน พ.ศ. 2554 ไม่ส่งผลต่อปริมำณกำรใช้พลังงำน กำรน�ำเข้ำ ถ่ำนหินเป็นไปอย่ำงต่อเนื่อง ค่ำควำมผันแปรผิดปกติเป็นสิ่งที่ ไม่สำมำรถคำดกำรณ์ได้ จึงไม่มีกำรน�ำมำใช้ในกำรพยำกรณ์

ภาพที่ 3 แสดงค่าความผันแปรผิดปกติ

กล่ ำวคื อ ปริมำณกำรน�ำ เข้ำ ถ่ ำ นหิน ของประเทศไทย มีคำ่ สูงสุดในไตรมำสที่ 2 ต่อเนือ่ งถึงไตรมำสที่ 3 เนือ่ งจำกเป็น ช่วงฤดูรอ้ น ควำมต้องกำรใช้พลังงำนค่อนข้ำงสูง ส่งผลให้ควำม ต้องกำรใช้ถ่ำนหินเป็นเชื้อเพลิงในอุตสำหกรรมเพิ่มมำกขึ้น และจะลดน้อยลงในไตรมำสที่ 4 ต่อเนื่องถึงไตรมำสที่ 1 ซึ่ง เป็นช่วงที่เข้ำสู่ฤดูหนำว ควำมต้องกำรใช้ถ่ำนหินเป็นเชื้อเพลิง ในกำรผลิตพลังงำนลดน้อยลง 3. กำรเคลื่อนไหวตำมวัฏจักรมีลักษณะคล้ำยกับกำร เคลื่อนไหวตำมฤดูกำล แต่มีระยะเวลำที่ยำวนำนกว่ำ

ภาพที่ 2 ค่าการเคลื่อนไหวตามวัฏจักร

ค่ ำ กำรเปลี่ ย นแปลงตำมวั ฏ จั ก รที่ เ พิ่ ม ขึ้ น หรื อ ลดลง ช่ ว งระยะเวลำ 1 รอบของปริ ม ำณกำรน� ำ เข้ ำ ถ่ ำ นหิ น ของ ประเทศไทยเป็นช่วงระยะเวลำ 5 ปี ดังนั้นกำรเคลื่อนไหว ตำมวัฏจักรน่ำจะมีอิทธิพลต่อผลกำรวิเครำะห์ข้อมูล 4. ค่ำอิทธิพลของควำมผันแปรผิดปกติไม่มีอิทธิพลต่อ กำรเคลื่อนไหวในสถำนกำรณ์ใดๆ ที่เกิดขึ้น เช่น น้�ำท่วมหนัก

5. เมื่อได้ส่วนประกอบครบทั้ง 4 ส่วน แล้วน�ำมำผสม สร้ำงตัวแบบอนุกรมเวลำแบบคลำสสิค เลือกตัวแบบพื้นฐำน ทัง้ ตัวแบบเชิงคูณและตัวแบบผสม มำช่วยในกำรก�ำหนดสมกำร ดังนี้ สมกำรภำยใต้ตัวแบบเชิงคูณที่ได้รับอิทธิพลจำกแนวโน้ม ฤดูกำลและวัฏจักร คือ Y = T x S x C สมกำรภำยใต้ตัวแบบเชิงคูณที่ได้รับอิทธิพลจำกแนวโน้ม และฤดูกำล คือ คือ Y = T x S สมกำรภำยใต้ตวั แบบเชิงผสมทีไ่ ด้รบั อิทธิพลจำกแนวโน้ม ฤดูกำลและวัฏจักร มี 2 รูปแบบ คือ Y = T + S x C และ Y=TxS+C 6. กำรตรวจสอบค่ำทีไ่ ด้จำกกำรพยำกรณ์เพือ่ หำตัวแบบ ทีเ่ หมำะสมพบว่ำ สมกำรพยำกรณ์ทกุ สมกำรให้คำ่ คงเหลือทีไ่ ด้ จำกกำรพยำกรณ์เป็นไปตำมคุณสมบัติขั้นต่�ำของกำรพยำกรณ์ จึ ง ถื อว่ ำ สมกำรพยำกรณ์ แ ต่ ล ะสมกำรสำมำรถน� ำ ไปใช้ ใ น กำรพยำกรณ์ปริมำณกำรน�ำเข้ำถ่ำนหินของประเทศไทยได้ ดังตำรำงที่ 3

ตารางที่ 3 แสดงผลการทดสอบความเหมาะสมของตัวแบบพยากรณ์

1. ค่ำคงเหลือ et ควรมีค่ำเฉลี่ยไม่แตกต่ำงไปจำกศูนย์ 2. ค่ำคงเหลือ et ควรเป็นค่ำที่เกิดขึ้นอย่ำงสุ่มๆ 3. ค่ำคงเหลือ et และค่ำพยำกรณ์จะต้องไม่มีควำมสัมพันธ์กัน

สมกำรที่ 1

สมกำรที่ 2

Y=TxSxC

Y=TxS

√ √ √

√ √ √

สมกำรที่ 3

สมกำรที่ 4

Y=T+SxC Y=TxS+C

√ √ √

November-December 2018

√ √ √

31


7. ตัวแบบที่ให้ค่ำควำมคลำดเคลื่อนน้อยที่สุดคือ ตัวแบบเชิงคูณ (Y = T x S x C) ซึ่งเป็นตัวแบบพยำกรณ์ที่ดีและแม่นย�ำ ที่สุดในกำรพยำกรณ์ปริมำณกำรน�ำเข้ำถ่ำนหินของประเทศไทย เนื่องจำกให้ค่ำ MSE 80,047 ตัน2, ค่ำ MAD 223.88 ตัน และ ค่ำ MAPE 4.88% ต่�ำสุดเมื่อเทียบกับตัวแบบอื่น ดังนั้นภำยใต้ตัวแบบเชิงคูณที่ได้รับอิทธิพลจำกแนวโน้ม ฤดูกำลและวัฏจักร คือ Y = T x S x C ถือได้วำ่ เป็นสมกำรพยำกรณ์ทด่ี ที ส่ี ดุ ทีส่ ำมำรถน�ำไปใช้ในกำรพยำกรณ์ปริมำณกำรน�ำเข้ำถ่ำนหินของประเทศไทยได้ ดังตำรำงที่ 4

ตารางที่ 4 แสดงเกณฑ์การวัดความคลาดเคลื่อนของตัวแบบพยากรณ์

ค่ำควำมคลำดเคลื่อนก�ำลังสองเฉลี่ย (MSE) ค่ำควำมคลำดเคลื่อนเฉลี่ยสัมบูรณ์ (MAD) ร้อยละของค่ำควำมคลำดเคลื่อนเฉลี่ยสัมบูรณ์ (MAPE)

» ผลการพยากรณ์

กำรพยำกรณ์ปริมำณกำรน�ำเข้ำถ่ำนหินของประเทศไทย ภำยใต้ตัวแบบเชิงคูณ ผลปรำกฏว่ำเมื่อพิจำรณำในช่วงระยะ เวลำรอบปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2561-2565 แนวโน้มกำรเคลื่อนไหว ของค่ำพยำกรณ์ขึ้นลงตำมจังหวะเช่นเดียวกับข้อมูลแท้จริง เนือ่ งมำจำกอิทธิพลของฤดูกำลและวัฏจักรมีผลต่อค่ำพยำกรณ์ ในอนำคต ในขณะเดี ย วกั น เมื่ อ พิ จ ำรณำแนวโน้ ม ของค่ ำ พยำกรณ์ในระยะยำวพบว่ำ ปริมำณกำรน�ำเข้ำถ่ำนหินของ ประเทศไทยมีทิศทำงเพิ่มขึ้นตำมลักษณะกำรเคลื่อนไหวของ ค่ำแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นกำรน�ำเข้ำถ่ำนหินเพื่อเป็นวัตถุดิบ ในกำรผลิตพลังงำนไฟฟ้ำและเป็นเชื้อเพลิงในอุตสำหกรรม เพือ่ ตอบสนองควำมต้องกำรของผูบ้ ริโภคทุกภำคส่วนให้เพียงพอ จึงมีควำมเป็นไปได้ที่จะคำดกำรณ์เพื่อประเมินและติดตำม สถำนกำรณ์ กำรวำงแผนเพือ่ เป็นแนวทำงในกำรตัดสินใจจัดหำ ถ่ำนหินจำกต่ำงประเทศให้เพียงพอต่ออุปสงค์ภำยในประเทศ แสดงค่ำพยำกรณ์ ดังตำรำงที่ 5

32

November-December 2018

สมกำรที่ 1

สมกำรที่ 2

Y=TxSxC

Y=TxS

80,072 225.06 4.89

142,632 303.07 6.77

สมกำรที่ 3

สมกำรที่ 4

Y=T+SxC Y=TxS+C

211,487 373.25 8.19

142,619 302.96 6.77

ตารางที่ 5 แสดงค่าการพยากรณ์ปริมาณนำาเข้าถ่านหิน ของประเทศไทย ปี 2561 2562 2563 2564 2565

ค่าพยากรณ์ (หน่วย : พันเมตริกตัน) 24,274 25,470 26,722 28,030 29,395


เรื่องเล่าจากชาวเหมือง l

ชีวิต...

รุ่งศักดิ์ อินทร์สิงห์

ข้อคิดคำาคน

คื อ กำรค้ น หำค� ำ ตอบในเรื่ อ งที่ เ รำมี ค�ำถำม เพรำะเรำเกิดมำพร้อมกับควำมไม่รู้ นั่นคือเหตุผล ที่ท�ำให้เรำต้องมีกำรศึกษำ ต้องหำควำมรู้ใส่ตัว เพื่อจะได้รับรู้ เรื่องรำวต่ำงๆ ในโลกกว้ำงใบนี้ และรู้วิธีคิดที่จะใช้ชีวิตต่อไป อย่ำงไร พึงจ�ำไว้ว่ำจะดีหรือร้ำย จะผิดหรือถูก ส�ำเร็จหรือ ล้มเหลว ฯลฯ อยู่ที่ควำมคิดของเรำนั่นเอง... ควำมคิดจึงเป็น ตัวก�ำหนดชะตำชีวิตของคนเรำ ครับ...เดิน “หมากรุก” ยังต้องคิด แล้ว “หมากชีวิต” จะ ไม่คิดได้อย่างไร ท่านอาจารย์ ม.จ.พิริยดิศ ดิศกุล ปรมำจำรย์ทำงด้ำน เหมื อ งแร่ ได้ เ ขี ย นเล่ ำ เรื่ อ งในอดี ต ลงในหนั ง สื อ ร้ อ ยปี กรมทรัพยำกรธรณี มีใจควำมบำงตอนที่น่ำสนใจว่ำ มีเมืองเหมืองแร่เล็กๆ เมืองหนึ่งกลำงทะเลทรำยของ มลรัฐแอริโซนำ สหรัฐอเมริกำ เมืองนีช้ อ่ื ว่ำทูมบ์สโตน ซึง่ แปลว่ำ ศิ ล ำหลุ ม ศพ เป็ น เมื อ งร้ ำ งจำกกำรท� ำ แร่ ยุ ค บุ ก เบิ ก แต่ ยั ง โด่งดังเป็นแหล่งท่องเที่ยวอยู่จนปัจจุบัน ก็เพรำะมีประวัติด้ำน อำชญำกรรมเป็นที่เลื่องลือ ถึงกับฮอลลีวู้ดเอำมำสร้ำงเป็น ภำพยนตร์ทค่ี นไทยติดอกติดใจกันหลำยเรือ่ ง ก็เหมือนแบบอย่ำง เมืองเหมืองแร่ทั้งหลำยนั่นแหละ ที่เสียงร่�ำลือเล่ำอ้ำงเชิญชวน ให้ นั ก เผชิ ญ โชคที่ มี กิ เ ลสหนำทั้ ง หลำยบุ ก บั่ น กั น ไป ไปแล้ ว ก็วิวำทกัน หักหลังกัน ในที่สุดก็ฆ่ำกันไปฆ่ำกันมำจนหมดเรื่อง เพรำะคนหรือไม่กห็ มดแร่ สถำนทีท่ ม่ี ชี อ่ื เสียงของเมืองทูมบ์สโตน ก็คือสุสำนที่มีชื่อว่ำ “บูทธ์ฮิลล์” เดินดูตำมหลุมศพก็จะพบ ป้ำยชื่อผู้ตำยที่เคยเป็นตัวเป็นตนในภำพยนตร์ตะวันตกมำแล้ว และข้ำงใต้ป้ำยก็จะเขียนประวัติย่อว่ำเป็นอะไรตำย และตำย เมื่อไร เป็นต้น ซึ่งเกือบทุกรำยปรำกฏว่ำถูกคนฆ่ำตำยทั้งนั้น และที่น่ำปลงสังเวชก็คือ ไม่ห่ำงไปจำกนั้น ก็จะมีหลุมศพของ คนฆ่ำ แต่ถูกคนอื่นเขำฆ่ำอีกทีหนึ่ง วนเวียนอยู่บริเวณนั้น เมืองทูมบ์สโตนจึงได้รับสมญำนำมว่ำ “แกร่งเกินไปที่จะตาย” ซึง่ ก็หมำยถึง “ยากทีจ่ ะลืมได้ลง” ถึงควำมโหดเหีย้ มอ�ำมหิตฤทธิเ์ ดช ของโลภ โกรธ หลง นั่นเอง จำกเรื่องของโจรโหดเมืองเหมืองแร่ทูมบ์สโตน ผมขอ นอกเรือ่ งเป็นข้อคิดในมุมข�ำ ด้วยหนังโรบินฮูด้ ทีเ่ คยดูมำตัง้ แต่เด็ก เป็นเรือ่ งของโจรใหญ่ใจดี ทีอ่ ยูใ่ นป่ำเชอร์วดู้ ทีช่ นบทนอตติงแฮม

ในอังกฤษ จอมโจรนอกกฎหมำยคนนีจ้ ะปล้นเฉพำะคนรวยและ ข้ำรำชกำร มำช่วยคนจนที่ถูกกดขี่ จึงท�ำให้เป็นฮีโร่ขวัญใจของ คนผู้ยำกไร้โดยทั่วไป หนุม่ ขีเ้ มำ 2 คน นัง่ ถกกันในวงเหล้ำถึงวีรกรรมของโรบินฮูด้ โดยขี้เมำคนแรกตั้งข้อสังเกตว่ำ “รู้ไหม ทำาไมโรบินฮู้ดถึงปล้นแต่คนรวย ไม่ปล้นคนจน” “กูว่ามันเป็นเรื่องของอุดมการณ์ว่ะ” ขี้เมำคนที่ 2 ตอบ “ไม่ใช่หรอก....ทีไ่ ม่ปล้นคนจนเพราะคนจนไม่มเี งินให้ปล้น โว้ย!” พอได้ฟังขี้เมำคนแรกตอบดังนั้น ขี้เมำคนที่ 2 เลยพูด ขึ้นบ้ำงว่ำ “มึงรู้ไหม โจรบ้านเราดีกว่าโจรโรบินฮู้ด” “ดีกว่ายังไงวะ” ขี้เมำคนแรกขมวดคิ้วถำมขึ้น “โจรบ้านเรามีมาตรฐานเสมอต้นเสมอปลาย แต่ก่อน เรียกโจรห้าร้อยยังไง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีกี่ชาติ ก็ยังคง เรียกโจรห้าร้อยเหมือนเดิม ไม่มีขึ้นราคาค่าตัวเลยโว้ย!” พูดเสร็จขี้เมำทั้ง 2 ก็ปล่อยก๊ำก หัวเรำะออกมำด้วย ควำมข�ำขันชอบใจ ท่านอาจารย์ ม.จ.พิริยดิศ ยังได้เขียนเล่ำต่ออีกว่ำ....หวน กลับมำพิจำรณำเรื่องที่ลืมไม่ลงจำกเหมืองแร่ของไทยเรำบ้ำง เรือ่ งอย่ำงนีใ้ ช่วำ่ จะไม่มี แต่บำ้ นเมืองเรำไม่นยิ มฝังศพอย่ำงหนึง่ อีกอย่ำงหนึง่ เรือ่ งของคนตำยแล้วสังคมไทยจะไม่ปรำรมภ์รอื้ ฟืน้ ควำมไม่ดีมำวิพำกษ์วิจำรณ์ เพรำะพุทธศำสนิกชนจะหำข้อยุติ ด้วยกำรให้อภัยเสมอมำ อันนี้เป็นส่วนดีของสังคมไทย จน บำงครั้งดูประหนึ่งว่ำวิวัฒนำกำรของบ้ำนเมืองเรำเป็นไปอย่ำง รำบเรียบ บำงคนเก็บเอำมำภูมใิ จต่อเติมว่ำ “เป็นไปอย่างไทยๆ” คือเต็มไปด้วยกำรประนีประนอมรอมชอม มีอะไรเกิดขึน้ ก็ไม่ถงึ เลือดตกยำงออกเหมือนๆ อีกหลำยประเทศ หลำยคนก็ยกให้ เป็นเพรำะสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิพ์ ระมหิทธำนุภำพของพระสยำมเทวำธิรำช ไปเลย ซึง่ บัดนีเ้ ดีย๋ วนี.้ ..รูปกำรณ์ได้เปลีย่ นไปคนละเรือ่ งแล้วครับ พูดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เครื่องรำงของขลังแล้ว ผมมีเรื่องของ นักเลงพระกับหลวงพ่อคูณมำเล่ำเป็นวิทยำทำนให้ฟงั ... นักเลงพระ คนหนึง่ ทีเ่ ชือ่ ว่ำตัวเองยิง่ ใหญ่หนังเหนียว เพรำะมีพระดี ฟันไม่เข้ำ ยิงไม่ออก วันหนึง่ ได้มีโอกำสกรำบนมัสกำรหลวงพ่อคูณเกจิดงั November-December 2018

33


ทำงเครื่องรำงของขลังแห่งวัดบ้ำนไร่ นครรำชสีมำ นักเลงพระ คนนี้ได้หยิบพระเครื่องรำคำแพงองค์หนึ่ง อำยุหลำยร้อยปี ที่คล้องคอขึ้นมำอวด แล้วสำธยำยสรรพคุณให้หลวงพ่อฟังว่ำ “พระเครื่องวิเศษองค์นี้ท�าจากเนื้อดินเผาแกร่ง สีขาว ขีเ้ ถ้ามีแร่ธาตุตา่ งๆ ทีห่ ายากหลายชนิดครบถ้วน... เขาว่ากันว่า ขลังอยู่ยงคงกระพัน มีอิทธิฤทธิ์ท�าให้รอดตาย” “คนทำาตายรึยัง” หลวงพ่อคูณถำมขึ้น “ตายนานแล้วครับ” “คนทีท่ า� ยังตายเลย แล้วเราจะหวังสิง่ นีช้ ว่ ยให้เราไม่ตาย ได้อย่างไร” ค� ำ ตอบเรี ย บง่ ำ ย แต่ แ ฝงไว้ ด้ ว ยปรั ช ญำชวนคิ ด จำก หลวงพ่อคูณครับ ในอุตสำหกรรมรถยนต์ที่ผลิตขึ้นแต่ละคัน มีชิ้นส่วนที่มี ส่วนผสมของแร่หำยำก (Rare Earth) อยูร่ ะหว่ำง 40-60 ปอนด์ หรือ 18-27 กิโลกรัม แร่หำยำกหรือ Rare Earth เป็นแร่ท่ีมี องค์ ป ระกอบของธำตุ ใ นรู ป โลหะต่ ำ งๆ บำงชนิ ด ก็ ห ำง่ ำ ย บำงชนิดก็หำยำกมำก โดยเฉพำะถ้ำจะให้มีควำมบริสุทธิ์สูง จำกรำยงำนของไพรซ์วอเตอร์เฮำส์ คูเปอร์ส ระบุว่ำใน พ.ศ. 2555 จำกกำรส�ำรวจบริษัทผู้ประกอบกำรด้ำนยำนยนต์ ด้ำนอุตสำหกรรมเคมี และอุตสำหกรรมพลังงำน ที่น�ำกลับมำ ใช้ใหม่ (Renewable) พบว่ำแร่ธำตุหำยำกเหล่ำนีก้ ำ� ลังจะถึงจุด ที่หำไม่ได้ในอนำคต แร่ ธ าตุ ห ายากเหล่ า นี้ ใ ช้ ใ นการผลิ ต สิ น ค้ า ประเภท คอมพิวเตอร์ จอโทรทัศน์ อุปกรณ์เลเซอร์ อุปกรณ์ไฮเทค แบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า กังหันลม หลอดประหยัดไฟฟ้า เลนส์ อุปกรณ์การแพทย์ ยุทโธปกรณ์ทางการทหาร อย่าง เรดาร์นา� วิถแี ละกล้องไนท์วชิ นั่ หรือแม้แต่โทรศัพท์มอื ถือ ฯลฯ ขณะนีเ้ หมืองทีป่ ระสบควำมส�ำเร็จในกำรผลิตแร่หำยำกนี้ ขึน้ มำขำย มีหลักๆ เพียง 2 เหมือง แห่งหนึง่ อยูท่ แี่ คลิฟอร์เนีย กับอีกแห่งหนึง่ ในมองโกเลีย ซึง่ ไม่ใช่ประเทศทีเ่ ป็นเขตปกครอง พิเศษของจีน ชื่อเหมืองบำยัน โอโบ เมือ่ พ.ศ. 2517 ...ผมได้เริม่ เข้ำท�ำงำนทีอ่ งค์กำรเหมืองแร่ ซึ่งเป็นรัฐวิสำหกิจที่ด�ำเนินกิจกำรเกี่ยวกับเหมืองแร่ดีบุก ที่ผม น�ำเรื่องนี้มำเขียนก็เพื่อเป็นข้อคิดว่ำ แร่ธำตุมีค่ำหำยำกที่กล่ำว มำนี้ สมัยก่อนบ้ำนเรำมีมำกมำย แทบจะเรียกได้ว่ำมหำศำล เลยก็ว่ำได้ โดยแร่พวกนี้จะเกิดร่วมกับแหล่งแร่ดีบุก ซึ่งในอดีต ประเทศไทยเรำจัดว่ำเป็นแหล่งดีบกุ ทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ แห่งหนึง่ ของโลก ทีเดียว แร่พวกนี้ ได้แก่ โคลัมไบต์-แทนทำไลต์ โมนำไซต์ รูไทล์ อิลเมไนต์ ลูโคซีน สตรูเจอไรต์ เซอร์คอน ฯลฯ ในสมัยก่อนนมนำนมำแล้วเรำยังไม่รู้จักแร่เหล่ำนี้ดีพอ คนท�ำเหมืองดีบุกส่วนใหญ่จะรู้เฉพำะแร่ดีบุก เมื่อท�ำเหมือง ก็จะล้ำงเอำแต่ดบี กุ อย่ำงเดียว แร่หำยำกทีเ่ หลือเหล่ำนีจ้ ะถูกน�ำ ไปกองทิ้งไว้ปนกับพวกขี้แร่ และเพรำะเป็นแร่หนัก บำงส่วน ก็จะปะปนไปกับแร่ดีบุกด้วย เมื่อน�ำไปถลุงที่โรงถลุงไทยซำร์โก จังหวัดภูเก็ต เขำก็จะถลุงเอำแต่โลหะดีบุก แร่พวกนี้ก็จะถูก

34

November-December 2018

ทิ้งไป ที่เรียกว่ำ ขี้ตะกรัน ต่อมำภำยหลังเพิ่งจะมำรู้ว่ำโลหะ ตะกรันมีค่ำ ชำวบ้ำนจึงพำกันแตกตื่นเฮโลไปขุดหำกันใหญ่ แม้อยู่ใต้อำคำรบ้ำนเรือน ถนนหนทำง ก็ขุดกันพรุนไปเลย... เป็นข่ำวเกรียวกรำวที่ภูเก็ตเมื่อหลำยปีมำแล้ว ต่อมำภำยหลังได้มีกำรสร้ำงเครื่องแยกแร่แม่เหล็กไฟฟ้ำ และเครือ่ งแยกแร่ไฟฟ้ำแรงสูง จึงสำมำรถแยกแร่หำยำกเหล่ำนี้ ออกจำกดีบุกได้ แต่กว่ำจะมีเครื่องแยกแร่นี้ออกมำใช้ แร่มีค่ำ หำยำกเหล่ำนีก้ ถ็ กู ทิง้ ขว้ำงเสียหำยไปไม่รเู้ ท่ำไหร่แล้ว... เข้ำต�ำรำ กว่ำถั่วจะสุก งำก็ไหม้ ท�ำนองนั้น ย้อนอดีตเมื่อครั้งเหตุกำรณ์วิปโยค “ยุคมืดของเหมืองแร่ ไทย” หลังตุลำคม 2516 จำกกำรที่ชำวบ้ำนบุกรุกเข้ำไปท�ำ แร่ดีบุกในเขตประทำนบัตรของต่ำงชำติที่ภำคใต้ จังหวัดภูเก็ต และพังงำ โดยไม่เคำรพเกรงกลัวต่อกฎหมำย ท�ำให้แหล่งดีบุก ใหญ่ๆ ดีๆ ที่สมบูรณ์ถูกกระท�ำเสียหำยย่อยยับเกือบหมด แร่เถือ่ นถูกลักลอบไปขำยนอกประเทศจ�ำนวนมำก เพรำะไม่ตอ้ ง เสี ย ภำษี ค่ ำ ภำคหลวง สุ ด ท้ ำ ยแร่ ดี บุ ก ล้ น ตลำด รำคำตก คนท�ำขำดทุน เจ๊งสิ้นเนื้อประดำตัว... จนต้องเลิกท�ำกันในที่สุด และใน พ.ศ. 2534 ...ก็ ถึ ง กาลอวสานปิ ด ฉาก ประวั ติ ศ าสตร์ อั น ยิ่ ง ใหญ่ แ ร่ ดี บุ ก และแร่ ห ายากของ ประเทศไทย ซึ่งเป็นไปตามสัจธรรมที่ว่า สรรพสิ่งทั้งหลาย มีเกิดขึ้น ด�ารงอยู่ และเสื่อมสลายในที่สุดนั่นเอง พระเจ้ำได้สร้ำงให้มนุษย์มี 2 หูกับ 1 ปำก ก็ด้วยนัย ควำมหมำยคือ ให้ฟังมำกกว่ำพูด เศรษฐศำสตร์นอกต�ำรำ บอกไว้ว่ำ กำรพูดคือกำรจ่ำย และกำรฟังคือกำรรับ ถ้ำพูด มำกกว่ำฟังก็ขำดทุน และถ้ำฟังมำกกว่ำพูดก็คือก�ำไร ฉะนั้น ถ้ำท่ำนอยำกได้ก�ำไรในชีวิตละก้อ.... ควรฟังมำกกว่ำพูดครับ “ลาร์ลี่ คิง” นักพูดชื่อดังเคยบอกว่ำ “เราไม่เคยฉลาดขึ้น จากการพูด มีแต่การฟังเท่านั้นที่จะได้ความรู้จากผู้อื่น” หนุม่ เมืองจันท์... เจ้ำของคอลัมน์ฟำสต์ฟดู้ ธุรกิจ ได้เขียน เรื่องรำว “จงรับฟัง” ของ กานต์ ตระกูลฮุน อดีตกรรมกำร ผู้ จั ด กำรใหญ่ ข องเอสซี จี ห รื อ ปู น ซิ เ มนต์ ไ ทย ซึ่ ง เคยบอกว่ ำ ตอนทีจ่ ะเปลีย่ นองค์กรเอสซีจสี นู่ วัตกรรมนัน้ เขำต้องเข้ำอบรม หลั ก สู ต รหนึ่ ง ชื่ อว่ ำ “การฟั ง ” โดยสอนให้ รู้ จั กอดทนรับฟัง ควำมคิดเห็นของลูกน้อง เพรำะถ้ำไม่มีท่ำทีรับฟัง ก็จะไม่มีลูกน้องคนใดกล้ำเสนอ ควำมคิดเห็นทีน่ อกกรอบ และองค์กรนัน้ ก็ยำกทีจ่ ะเปลีย่ นแปลง มีค�ำพูดที่ส�ำคัญที่ผู้รับฟังที่ดีไม่ควรพูดก็คือ “ผมรู้แล้ว” เพรำะเมื่อมีคนก�ำลังพูดให้เรำฟัง เมื่อเอ่ยค�ำนี้ ทุกสิ่งทุกอย่ำง ก็จบ ไม่มีใครอยำกพูดแสดงควำมคิดเห็นต่อ ฉะนั้นกำรท�ำตัว เป็นน้�ำพร่องแก้ว คือแก้วน้�ำที่ยังไม่เต็ม ดีกว่ำที่จะท�ำตัวเป็น น้�ำเต็มแก้ว ไม่สำมำรถที่จะรับน้�ำเพิ่มได้อีกแล้ว เติมเข้ำไป ก็ไหลออกหมด... มี ห นั ง สื อ น่ ำ สนใจเล่ ม หนึ่ ง “ซั ม ซุ ง มหาอ� า นาจ อิเล็กทรอนิกส์” ซึ่งชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่ำงๆ ของซัมซุงถูกท�ำมำ จำกแร่หำยำก (Rare Earth) นัน่ แหละ... ผมขอน�ำมำบอกกล่ำว


เล่ำต่อ เคล็ดลับต�ำนำนควำมส�ำเร็จของซัมซุงให้ฟังเป็นข้อคิด ครับ วันที่ผู้พ่อ ลี เบียง ซอล ประกำศผู้สืบทอดกิจกำรซัมซุง คือ ลี กอน ฮี บุตรชำยคนที่ 3 เขำเรียกลูกคนนีม้ ำทีห่ อ้ งท�ำงำน แล้วหยิบพู่กันจุ่มหมึกเขียนข้อควำมสั้นๆ ให้คิดว่ำ “จงรับฟัง” ลี เบียง ซอล ผู้พ่อรู้ซึ้งกับสัจธรรมของ “อำานาจ” ว่ำยิ่งมีอ�ำนำจ ยิง่ รับฟังน้อยลง และเมือ่ พูดมำกกว่ำฟัง ควำมรูใ้ หม่กไ็ ม่เกิดขึน้ นี่คือเคล็ดลับหนึ่งของควำมส�ำเร็จของซัมซุง เคล็ดลับที่ 2 ที่ ลี เบียง ซอล มอบให้ลูกชำยก็คือ “ไก่ไม้” ไก่ไม้ คือไม้ที่แกะสลักเป็นตัวไก่ ไก่ไม้นั้นมำจำกนิทำนเรื่องหนึ่งในหนังสือของปรำชญ์ คนหนึง่ ของจีน ทีเ่ ขียนเล่ำเป็นข้อคิดไว้วำ่ .... คนเลีย้ งไก่ชนชือ่ ดัง เป็นคนเลี้ยงไก่ชนให้เจ้ำของไก่คนหนึ่ง วันหนึ่งเจ้ำของไก่น�ำไก่ชนตัวหนึ่งมำให้เลี้ยง ผ่ำนไป 10 วันแรก เจ้ำของไก่ก็ถำมว่ำ “ไก่ชนใช้ได้หรือยัง” คนเลี้ยงตอบ “ยังไม่ได้ เพราะมันยังเดินกร่างอยู่ ทะนงตนท้าทายทั่วไป” ผ่ำนไปอีก 10 วัน เจ้ำของก็ถำมด้วยค�ำถำมเดิม “ไก่ชน ใช้ได้หรือยัง” ค�ำตอบของคนเลีย้ งเหมือนเดิมคือ “ยัง” แต่เหตุผล เปลีย่ นไป “ยังไม่ได้ ตอนนีไ้ ม่ทา้ ทายไก่ตวั อืน่ แล้ว แต่มกั จะโดดตี ถ้าไก่ตัวอื่นเข้าใกล้” อีก 10 วันต่อมำเจ้ำของไก่ถำมอีก “ไก่ชนใช้ได้หรือยัง” ได้รับค�ำตอบจำกคนเลี้ยง “ยังไม่ได้ ตอนนี้ไม่โดดตีแล้ว และ ลดความทะนงตนลง แต่สายตายังดุรา้ ยเหมือนพร้อมจะตีกบั ไก่ ตัวอื่น” ใน 10 วันหลังสุด ถำมด้วยค�ำถำมเดิม ครั้งนี้ค�ำตอบ มีพัฒนำกำรดีขึ้น โดยคนเลี้ยงตอบว่ำ...ใช้ได้แล้ว เพรำะเมื่อ มันเห็นไก่ตัวอื่นขัน ก็ไม่แสดงอำกำรตอบ เป็นรำวกับ “ไก่ไม้” “เห็นไก่ตวั อืน่ ก็ไม่มปี ฏิกริ ยิ าตอบโต้ ไก่ตวั อืน่ เห็นก็ไม่กล้า เข้าใกล้ เดินหนีไปหมด” ครับ... “ไก่ชน” ที่ดีนั้น ไม่ใช่ไก่ที่ตีเก่ง ฮึกเหิม ห้ำวหำญ ท้ำตีท้ำต่อยไปทั่ว แต่ไก่ชนที่ดีต้อง “นิ่ง” เป็นกำรใช้ควำมสงบ สยบกำรเคลื่อนไหว รู้จักเก็บควำมรู้สึกของตนเอง แต่สำมำรถ เปล่งประกำยจนไก่ชนตัวอื่นย�ำเกรง... ชนะโดยไม่ต้องชน เขำมอบไก่ไม้ให้ลูกชำย เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจให้รู้จักนิ่ง “จงรับฟัง” และ “ไก่ไม้” เป็นข้อคิดที่ ลี กอน ฮี ผู้ลูก ใช้ในการบริหาร จนท�าให้เกิดการเปลีย่ นแปลงครัง้ ใหญ่สซู่ มั ซุง และน�าพา “ซัมซุง” ยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน! กูรูนิรนำมทำงด้ำนมำนุษยวิทยำได้ให้ข้อคิดว่ำ “ขัดหม้อ ขัดไห ขัดถ้วยโถโอชาม ฯลฯ พอขัดได้ แต่ขัดใจคน....ไม่ดี และ ตามรถตามเรือ ตามม้าตามช้าง ฯลฯ เรายังตามได้ กะอีแค่ ตามใจคนทำาไมจะตามไม่ได้ พึงจำาไว้ว่า ถูกอะไรไม่น่ารักเท่า ถูกใจ ผิดอะไรไม่นา่ เกลียดเท่าผิดใจ” เหมือนกับเรือ่ งเล่ำกำรโชว์ ควำมยิ่งใหญ่ของคู่หนุ่มสำวที่แต่งงำนกัน แล้วจะรู้ว่ำผู้ยิ่งใหญ่ ในบ้ำนคือใคร...เขียนแทรกรำยกำรให้ท่ำนอึ้งทึ่งฮำกันครับ ในงำนแต่งงำนของเจ้ำบ่ำวเจ้ำสำวคู่หนึ่ง โดยปกติฝ่ำย

เจ้ำสำวเป็นคนดุเฉียบขำด ไม่กลัวเกรงใคร ในระหว่ำงพิธตี ดั เค้ก ตำมประเพณีเขำถือเคล็ดว่ำ ใครที่เป็นคนกุมมือและวำงมือ อยูเ่ หนืออีกฝ่ำยในขณะใช้มดี ตัดเค้ก ย่อมหมำยถึงกำรมีอำ� นำจ เป็นใหญ่หรือผู้เหนือกว่ำ ซึ่งในสำยตำของแขกในงำนก็พำกัน คำดเดำว่ำ คงจะเป็นเจ้ำสำวที่กุมและวำงมือลักษณะนี้อย่ำง แน่นอน แต่เรื่องกลับพลิกล็อกกลำยเป็นเจ้ำบ่ำวโชว์ฟอร์ม กินดิบเหนือเจ้ำสำวไปซะฉิบ สร้ำงควำมเซอร์ไพรส์ให้แก่แขกเหรือ่ ในงำนเป็นอย่ำงมำก หลังจำกเสร็จพิธีแล้ว มีเพื่อนสนิทคนหนึ่งได้เร่เข้ำถำม ด้วยควำมแปลกใจว่ำ “เฮ้ย มึงไปกินดีหมีหวั ใจเสือมาตัง้ แต่เมือ่ ไหร่วะ ถึงกล้า กุมมือข่มเหนือเจ้าสาวได้... แสดงว่าตั้งแต่ต่อไปนี้มึงไม่กลัว เมียมึงแล้ว เยี่ยมจริงๆ ถามหน่อยเหอะ...ท�าไมมึงกล้าท�า เช่นนี้วะ” ได้ยินเพื่อนพูดชมดังนั้น ฝ่ำยเจ้ำบ่ำวจึงค่อยๆ กระซิบ เสียงอ่อยว่ำ “อย่าเอ็ดไป ทีก่ ตู อ้ งท�าอย่างนี ้ เพราะเอ้อ...เมียกูเป็นคน สั่งให้ท�าโว้ย” ครับ....นึกว่ำจะแน่แค่ไหน ให้รซู้ ะบ้ำง ไผเป็นไผ (ฮะแอ้ม) คนเรำย่อมมีครั้งแรกที่เคยปล่อยไก่เชยเปิ่นในชีวิตกัน ทั้งนั้น... และผมขอปิดท้ำย “ข้อคิดคำาคน” ด้วยเรื่องโจ๊กใส่ไข่ ของคนบ้ ำ นนอกที่ เ พิ่ ง มี มื อ ถื อ ใหม่ ๆ ก� ำ ลั ง ฮิ ต อ่ ำ นเรื่ อ งนี้ ถ้ำนึกข�ำก็ฮำด้วยนะครับ หนุ่มนักส�ำรวจแร่คนหนึ่งออกท�ำงำนต่ำงจังหวัดบ่อย สมัยก่อนตอนก�ำลังเริ่มมีโทรศัพท์มือถือกัน หนุ่มคนนี้ได้เอำใจ สำวคนหนึง่ โดยซือ้ มือถือให้ ซึง่ เป็นสำวบ้ำนนอกเพิง่ จีบเป็นแฟน กันใหม่ๆ ก่อนหน้ำนีเ้ มือ่ แรกเริม่ เสำส่งสัญญำณยังมีไม่มำกพอ สัญญำณโทรศัพท์จึงไม่ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ ครำวหนึ่งหนุ่มนักส�ำรวจได้เข้ำไปส�ำรวจแร่ที่ต่ำงจังหวัด แถวชำยแดนไกลโพ้น หลังจำกเข้ำไปท�ำงำนส�ำรวจได้ระยะหนึง่ ได้กลับมำเยี่ยมสำวคนรัก ทันทีที่เจอหน้ำแฟนสำวก็ต้องตกใจ เพรำะแฟนสำวได้ปล่อยโฮร้องไห้สะอึกสะอื้นต่อว่ำด้วยควำม น้อยใจว่ำ “พี่นอกใจหนูแล้วใช่ไหม หนูโทรไปหาพี่ตั้งหลายครั้ง มี แต่เสียงผูห้ ญิงรับโทรศัพท์ พูดกันท่าทุกครัง้ ไม่ให้หนูพดู กับพี ่ ตอนนั้นพี่อยู่กับใคร...บอกมานะ” “เปล่านี่ พี่ไม่ได้อยู่กับใครที่ไหนเลย” ชำยหนุ่มพูดด้วย ควำมแปลกใจ พร้อมกับถำมขึ้นว่ำ “เสียงผู้หญิงจริงๆ หรือ เขา รับโทรศัพท์แล้วพูดว่าอย่างไรล่ะ” ถำมพร้อมกับขมวดคิว้ ด้วยควำมสงสัย พลันก็ตอ้ งปล่อยก๊ำก หัวเรำะด้วยควำมชอบใจ เมื่อแฟนสำวสะอื้นตอบขึ้นมำว่ำ “เป็นเสียงผูห้ ญิงจริงๆ เขาพูดว่า... เลขหมายทีท่ า่ นเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ ฮือ...ฮือ” “ข้อคิดคำาคน” ก็ขอจบเรือ่ งข�ำขันของมือถือแต่เพียงเท่ำนี.้ .. วันนี้ท่ำนได้หัวเรำะแล้วหรือยัง ?

November-December 2018

35


บทความ l

กองบรรณาธิการ

ทาทา สตีล แนะ 5 เคล็ดลับ เลือกเหล็กเส้นตามมาตรฐาน มอก. ใหม่ สร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้ผู้บริโภค

ามที่ส�านักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ออกมาตรฐาน มอก.เหล็กก่อสร้างฉบับ ใหม่ ครอบคลุมมาตรฐานเหล็กเส้นคอนกรีต (ทั้งเหล็กเส้น กลมและเหล็ ก ข้ อ อ้ อ ย) เพื่ อ ให้ มี ค วามทั น สมั ย ยกระดั บ มาตรฐานความปลอดภัยมากขึน้ และสอดคล้องกับสถานการณ์ ปัจจุบนั มากขึน้ คือเหล็กเส้นกลม มอก.20-2543 เปลีย่ นเป็น มอก.20-2559 ส่วนเหล็กข้ออ้อย มอก.2548 เปลี่ยนเป็น มอก.24-2559 ซึ่งได้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 20 ธันวาคม 2559 โดยมีระยะเวลาด�าเนินการ 180 วัน ให้ผผู้ ลิตและน�าเข้าต้องปฏิบตั ติ ามหลังวันประกาศในราชกิจจา นุเบกษา คือ วันที่ 18 มิถุนายน 2560 ท่ำมกลำงภำวะเหล็กเส้นล้นตลำด ซึ่งอำจมีเหล็กที่ไม่ได้ คุณภำพตำมมำตรฐำน มอก. ปะปนอยูใ่ นตลำด บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จ�ากัด (มหาชน) ในฐำนะผู้น�ำกำรผลิต และจ�ำหน่ำยเหล็กเส้นก่อสร้ำงรำยใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จึงตระหนักถึงควำมส�ำคัญของกำรเลือกใช้เหล็กของผู้บริโภค ให้ได้เหล็กเส้นก่อสร้ำงที่ได้คุณภำพ เพื่อตอบสนองกำรใช้งำน ของผู้สร้ำงบ้ำน รวมทั้งกำรลงทุนของภำครัฐและภำคเอกชน โดยจุดสังเกตเหล็กที่ได้คุณภำพตำมมำตรฐำน มอก. สำมำรถ พิจำรณำได้จำก 5 จุดสังเกต ต่อไปนี้ 1. ตัวนูนบนเนือ้ เหล็ก จะต้องแสดงข้อมูลทีจ่ ำ� เป็นดังต่อไปนี้ บนเนื้ อ เหล็ ก เส้ น กลม เหล็ ก เส้ น ข้ อ อ้ อ ยทุ ก เส้ น ได้ แ ก่ เครื่ อ งหมำยกำรค้ ำ โรงงำนผู้ ผ ลิ ต ประเภทของสิ น ค้ ำ ชัน้ คุณภำพ ขนำด และทีส่ ำ� คัญต้องบ่งบอกถึงกระบวนกำรผลิต ด้วย เช่น EF (Electric Arc Furnace) ซึง่ เป็นกระบวนกำรผลิต เหล็กของบริษัทด้วยเตำหลอมไฟฟ้ำที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ และรักษำสิ่งแวดล้อม 2. ผิวเหล็ก เหล็กเส้นกลม ต้องมีผิวเรียบเกลี้ยง ไม่มีปีก ไม่มีลูกคลื่น หน้ำตัดต้องกลม ไม่เบี้ยว ผิวไม่มีรอยปริแตก ในขณะที่ เ หล็ ก เส้ น ข้ อ อ้ อ ย ต้ อ งมี ร ะยะห่ ำงของบั้ ง เท่ ำ กั น และสม่�ำเสมอตลอดทั้งเส้น ผิวไม่มีรอยปริแตกร้ำว 3. ขนาดและน้าำ หนัก เหล็กทีด่ ตี อ้ งมีขนำดเส้นผ่ำนศูนย์กลำง และน้�ำหนักถูกต้องตำมที่ มอก. ระบุ 36

November-December 2018

4. ดัดโค้งได้ โดยไม่ปริแตก เหล็กเส้นก่อสร้ำงมักจะถูกน�ำ ไปดั ด เพื่ อ ให้ เ ข้ ำ กั บ รู ป ทรงของสิ่ ง ก่ อ สร้ ำ ง ซึ่ ง เหล็ ก เส้ น ที่ ดี เมือ่ ท�ำกำรดัดโค้งตำมมำตรฐำนแล้วจะต้องไม่ปริแตกและหักง่ำย 5. ไม่เป็นสนิม เหล็กเส้นทีด่ ตี อ้ งไม่เป็นสนิมขุม เพรำะสนิมขุม จะกินเข้ำไปในเนื้อเหล็ก ท�ำให้ควำมแข็งแรงของเหล็กลดลง ในขณะที่สนิม ผิวสำมำรถเกิดบนผิวเหล็กได้ ไม่เป็นอันตรำย ต่ อ กำรใช้ ง ำนและก� ำ ลั ง รั บ แรงดึ ง ของเหล็ ก เส้ น วิ ธี สั ง เกต สนิมผิว ให้ใช้ผ้ำหรือกระดำษทรำยขัดตรงที่เป็นสนิม ถ้ำสนิม สำมำรถหลุดออกง่ำยไม่มีรอยสนิมฝังลึกในเนื้อเหล็ก แสดงว่ำ เป็นสนิมผิว สำมำรถใช้งำนได้ แต่ถ้ำขัดแล้วพบสนิมฝังลึกใน เนื้อเหล็กหรือสนิมขัดไม่ออก แสดงว่ำเป็นสนิมขุม ไม่ควรน�ำ มำใช้งำน

วิธีสังเกต มอก. เหล็กใหม่ ที่ออกโดย สำานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) จะต้องมีรายละเอียดในป้ายฉลากบอก รายละเอียดสินค้า ดังต่อไปนี้ 1. บนเหล็กเส้นจะต้องมีการระบุชอื่ ผูท้ าำ หรือโรงงานทีท่ าำ หรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน และชื่อผู้ ได้รับอนุญาต เช่น “TATA TISCON” 2. สัญลักษณ์กรรมวิธีการทำาเหล็กแท่งเล็ก หรือเหล็ก แท่ ง ใหญ่ ที่ เ ป็ นวั ต ถุ ดิ บในการทำา เหล็ กข้ ออ้ อยด้ ว ย โดยที่ ปัจจุบันมีเตาหลอมอยู่ 4 ชนิด ได้แก่ OH, BO, EF และ IF 3. ระบุธาตุที่เพิ่มเติมเข้ามาในใบรับรองคุณภาพ ได้แก่ Al, Mo, B, Ni, Cr, Co, Cu, Nb, Ti, Pb, W, Zr



ข่าวเศรษฐกิจแร่

ทาทาสตีล ตั้งเป้ายอดขายเหล็กปีการเงิน 2562 ที่ 1.21 ล้านตัน มั่นใจยอดขายครึ่งปีหลังเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ EEC

มร.ราจีฟ มังกัล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จ�ากัด (มหาชน) กล่ำวว่ำ ในไตรมำสที่ 2 ปีกำรเงิน 2562 ระหว่ำงเดือนกรกฎำคม-กันยำยน 2561 บริษัทฯ มียอดขำยจ�ำนวน 288,000 ตัน เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบ เทียบกับไตรมำสที่ผ่ำนมำ ซึ่งมีปริมำณกำรขำย 281,000 ตัน โดยในช่วงครึ่งปีแรก ปีกำรเงิน 2562 มีปริมำณกำรขำยรวม จ�ำนวน 569,000 ตัน และมีปริมำณกำรส่งออก 74,000 ตัน เพิ่มขึ้นจำกช่วงครึ่งปีแรกของปีก่อน ที่มีปริมำณกำรส่งออก 48,700 ตัน ถึง 52% โดยเป็นกำรส่งออกสินค้ำไปยังประเทศ ในภูมิภำคเอเชีย ได้แก่ อินเดีย กัมพูชำ และ ลำว ที่ยังคงสูงขึ้น อย่ำงต่อเนื่อง ส�ำหรับยอดขำยสุทธิในไตรมำสนี้อยู่ที่ 5,822 ล้ำนบำท ซึง่ สูงกว่ำยอดขำยสุทธิ 5,443 ล้ำนบำท ของไตรมำส ที่แล้ว 7% โดยมียอดขำยสุทธิของครึ่งปีแรก ปีกำรเงิน 2562 จ�ำนวน 11,265 ล้ำนบำท ซึง่ สูงกว่ำยอดขำยสุทธิของครึง่ ปีแรก ของปีกำรเงินที่ผ่ำนมำ ซึ่งมีมูลค่ำ 10,394 ล้ำนบำท หรือ เพิ่มขึ้น 8% เนื่องจำกรำคำสินค้ำเหล็กส�ำเร็จรูปส่วนใหญ่ปรับ ตั ว สู ง ขึ้ น จำกกำรเพิ่ ม ขึ้ น ของรำคำวั ต ถุ ดิ บ และบำงส่ ว นได้ ถูกชดเชยกับปริมำณกำรขำยทีล่ ดลง ขณะทีค่ วำมต้องกำรเหล็ก ทรงยำวยังคงชะลอตัวอย่ำงต่อเนือ่ ง โดยเฉพำะตลำดเหล็กเส้น และเหล็กรูปพรรณขนำดเล็ก

ในส่วนตัวเลขก�ำไรก่อนหักภำษี EBITDA (Earnings Before Interest, Taxes, Depreciation and Amortization) ของไตรมำสนี้ อยูท่ ี่ 234 ล้ำนบำท สูงขึน้ จำกไตรมำสทีผ่ ำ่ นมำ ซึ่งอยู่ที่ 216 ล้ำนบำท ถึง 8% สะท้อนให้เห็นถึงปริมำณกำร ขำยและรำคำขำยที่ปรับตัวดีขึ้น แต่เมื่อเทียบกับช่วงเวลำเดียว ในที่ปีที่ผ่ำนมำ พบว่ำ ตัวเลข EBITDA ลดต่�ำลง เนื่องจำก ต้นทุนกำรผลิตสูงขึ้น นอกจำกนี้บอร์ดได้อนุมัติเงินทุน 100 ล้ำนบำท ในกำรปรับปรุงประสิทธิภำพโรงงำน และมีแผน โครงกำร Solar Roof เพื่อลดต้นทุนด้ำนพลังงำน มร.ราจีฟ ได้คำดกำรณ์ถึงควำมต้องกำรสินค้ำเหล็กใน ธุรกิจค้ำปลีกของไทยและจำกประเทศเพื่อนบ้ำนว่ำ จะปรับตัว ดีขึ้นหลังจำกสิ้นสุดฤดูมรสุม ซึ่งตำมปกติในไตรมำสที่ 4 จะ เป็ น ช่ ว งที่ มี ก ำรซื้ อ สู ง ตั้ ง แต่ เ ดื อ นธั นวำคม เนื่ อ งจำกเข้ ำ สู่ ฤดูหนำว ตัวแทนจ�ำหน่ำยจะเริ่มซื้อเพื่อเก็บเข้ำคลังสินค้ำไว้ใช้ ในช่วงมกรำคม-เมษำยน 2562 ส่งผลให้ยอดขำยในครึ่งปีหลัง เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพำะยอดขำยในเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจ ภำคตะวันออก (EEC) จะเพิ่มขึ้น “ในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายให้ได้ 1.21 ล้านตัน เช่นเดียวกับ ปีที่ผ่านมา โดยในครึ่งปีแรก มียอดขายแล้วกว่า 6 แสนตัน คาดว่าในครึง่ ปีหลังน่าจะได้ตามเป้าทีต่ งั้ ไว้” มร.ราจีฟ กล่ำว

SCG ชี้ปริมาณการใช้เหล็ก ปูน และวัสดุก่อสร้างอื่นๆ เติบโตขึ้น ตามนโยบายการลงทุนภาครัฐ และการก่อสร้างของเอกชน

รุ่ ง โรจน์ รั ง สิ โ ยภาส กรรมการผู้ จั ด การใหญ่ บริ ษั ท ปูนซิเมนต์ไทย จ�ากัด (มหาชน) หรือ SCG กล่ำวว่ำ งบกำร เงินรวมก่อนสอบทำนของ SCG ในไตรมำสที่ 3 ปี พ.ศ. 2561 มีรำยได้จำกกำรขำย 122,518 ล้ำนบำท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จำกช่ ว งเดี ย วกั น ของปี พ .ศ. 2560 และเพิ่ ม ขึ้ น ร้ อ ยละ 2 จำกไตรมำสที่ 2 ของปี พ.ศ. 2561 จำกกำรเติบโตของทุกกลุ่ม ธุรกิจ โดยมีก�ำไร 9,473 ล้ำนบำท ลดลงร้อยละ 20 จำก ช่วงเดียวกันของ ปี พ.ศ. 2560 และลดลงร้อยละ 24 จำก ไตรมำสที่ 2 ของปี พ.ศ. 2561 จำกกำรปรับลดมูลค่ำสินทรัพย์ ทำงบัญชี (Asset Impairments) ตำมมำตรฐำนบัญชี 1,670 ล้ำนบำท และต้นทุนวัตถุดบิ Naphtha ทีส่ งู ขึน้ ตำมรำคำน้ำ� มัน ในตลำดโลก ซึง่ หำกไม่รวมกำรปรับลดมูลค่ำสินทรัพย์ทำงบัญชี ดังกล่ำว จะท�ำให้ SCG มีก�ำไร 11,143 ล้ำนบำท ส�ำหรับผลประกอบกำร 9 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2561 SCG มีรำยได้จำกกำรขำย 361,215 ล้ำนบำท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จำกช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. 2560 เนื่องจำกรำยได้ของ ทุกกลุ่มธุรกิจที่เพิ่มขึ้น โดยมีก�ำไร 34,281 ล้ำนบำท ลดลง 38

November-December 2018

ร้อยละ 19 จำกช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. 2560 จำกผลกำร ด�ำเนินงำนทีล่ ดลงของธุรกิจเคมิคอลส์ ประกอบกับกำรปรับลด มูลค่ำสินทรัพย์ทำงบัญชีในไตรมำสที่ 3 นอกจำกนี้ SCG ยังมี รำยได้จำกกำรส่งออก 97,924 ล้ำนบำท คิดเป็นร้อยละ 27 ของยอดขำยรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จำกช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. 2560 รุ่งโรจน์ กล่ำวว่ำ ในปี พ.ศ. 2561 SCG ได้ปรับลด งบลงทุนลงเหลือ 40,000-45,000 ล้ำนบำท จำกเดิมที่เคย วำงเป้ำไว้ประมำณ 50,000 ล้ำนบำท โดย 9 เดือนแรกปี พ.ศ. 2561 นี้ใช้เงินลงทุนไปแล้ว 35,000 ล้ำนบำท ส่วนกำร ลงทุนในปี พ.ศ. 2562 วำงเป้ำงบลงทุนไว้ที่ 50,000-60,000 ล้ำนบำท ส�ำหรับภำพรวมเศรษฐกิจไทยใน 9 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2561 มีทศิ ทำงทีด่ ขี นึ้ โดยเฉพำะด้ำนกำรก่อสร้ำงตำมนโยบำย กำรลงทุนภำครัฐ และกำรก่อสร้ำงภำคเอกชน ทั้งในและต่ำง ประเทศ ท�ำให้ปริมำณกำรใช้เหล็ก ปูน และวัสดุก่อสร้ำงอื่นๆ เติบโตขึ้น




Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.