เมืองใต้นิวส์ กรกฎาคม 2558

Page 1

รี แจกฟ

ปีที่ 4 ฉบับที่ 37 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2558

สัมภาษณ์พิเศษ นายวุฒิชัย วงษ์นาคเพ็ชร์ พาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี

อ่านต่อหน้า 5

ส.ท. สุราษฎร์ก้าวหน้า คว่ำ�อาคารเรียน ท. 1

อ่านต่อหน้า 10

ผลการแข่งขัน แร่นองเกมส์ คัดเลือกภาค 4 เที่ยวด่านสิงขร เชียร์เจ็ตสกี

อ่านต่อหน้า 8

อ่านต่อหน้า 2


2

เมืองใต้นิวส์

ฉบับประจำ�เดือนกรกฎาคม

ปีที่ 4 ฉบับที่ 37 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2558

เทยี่ วไป.. ..เชียร์ไป ช่วงนี้ผมวนเวียนอยู่แถวๆ ด่านสิงขร เพื่อเก็บข้อมูล ด้านต่างๆ ให้มากที่สุด ตั้งแต่ผมเขียนเที่ยวไป เชียร์ไปยังไม่ เคยเก็บข้อมูลมากเท่าครัง้ นี้ เพราะตัง้ แต่ตน้ ปีทผี่ มไปๆ มาๆ ประจวบคีรีขันธ์บ่อยๆ ก็ได้เข้าไปด่านสิงขรแทบทุกครั้งที่มา ตลอดหกเดือนทีผ่ า่ นมาทีแ่ ห่งนีเ้ ปลีย่ นแปลงตลอดเวลามีการ ปลูกสร้างมากมาย มีการจัดระเบียบร้านค้าและการจราจร จนถึงปัจจุบันเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว เมื่อมีการเปิดด่านสิงขรเป็นจุดผ่อนปรนพิเศษผมก็ได้ ไปร่วมอยู่ในวันสำ�คัญวันนั้น หลังเปิดด่านผมได้กลับไปเก็บ รายละเอียดอีกครัง้ ว่าท่านต้องทำ�อย่างไรถ้าต้องการเดินทาง ไปจังหวัดมะริด ประเทศเมียนมา วันนี้การเดินทางไปมะริด ง่ายกว่าตอนที่ผมไปมาก ผมเคยไปมะริดก่อนเปิดเป็นจุดผ่อนปรนต้องทำ�หนังสือ เรียนผูว้ า่ ราชการจังหวัดประจวบคีรขี นั ธ์ เมือ่ ได้รบั การอนุมตั ิ แล้วต้องทำ�เรือ่ งไปขออนุญาตจากมุขมนตรีภาคตะนาวศรีอกี ครั้ง จึงจะเดินทางได้ แต่ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2558 ที่ เปิดจุดผ่อนปรนแล้วทุกอย่างก็ง่ายดายขึ้นมาก ผมได้ไปติดต่อที่อำ�เภอเมืองประจวบฯ เพื่อทำ�บัตร ผ่านแดนแต่ทำ�ไม่ได้ เพราะอนุญาตเฉพาะคนไทยที่มีชื่ออยู่ ในทะเบียนบ้านในเขตอำ�เภอเมืองประจวบคีรขี นั ธ์เท่านัน้ แต่ ถ้าท่านย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาในเขตก็ท�ำ ได้ทนั ที โดยใช้บตั ร ประชาชน รูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป เงิน 200 บาท หลักฐานพร้อม ไปยื่นได้ทันที ในวันเวลาราชการ บัตรผ่านแดนนี้มีอายุ 2 ปี แต่ละครั้งที่ไปอยู่ได้ 14 วัน แต่ สำ � หรั บ คนไทยทั่ ว ไป ต้ อ งทำ � หนั ง สื อ ผ่ า นแดน ชัว่ คราว โดยยืน่ คำ�ขอทีส่ �ำ นักงานจัดทำ�บัตรผ่านแดนชัว่ คราว หาไม่ยากครับ เมื่อเห็นป้ายด่านสิงขรให้ชิดซ้ายหาที่จอดรถ ได้เลย ที่นี่เปิดบริการทุกวันในเวลาราชการ 8.30 - 16.30 น. วิธีทำ�ง่ายมากเพียงยื่นบัตรประชาชนและเสียค่าธรรมเนียม 30 บาท นัง่ รอไม่ถงึ 5 นาที ท่านก็ได้หนังสือผ่านแดนชัว่ คราวที่ ใช้ครั้งเดียว เพื่อไปเที่ยวมะริดได้ 7 วัน แต่มีเงื่อนไขว่าท่าน ต้องกลับเข้ามาทางเดิมตามเวลาเปิดปิดของด่านนีท้ เี่ ปิดช่วง

เที่ยวด่านสิงขร

6.30 - 18.30 น. ของทุกวัน เมือ่ ท่านได้เอกสารเรียบร้อยแล้ว นำ�เอกสารไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่อยู่พ้นไป อีกนิด ตรงนี้ถ้าท่านต้องการนำ�รถเข้าไปไม่ว่าชนิดใด ท่าน ต้ อ งเตรี ย มเอกสารเพิ่ ม เป็ นสำ � เนาทะเบี ย นรถที่ ท่ า นเป็ น เจ้าของ 2 ชุด พร้อมค่าธรรมเนียม 50 บาท แต่รถท่านต้อง ไม่ติดไฟแนนซ์จึงจะได้รับอนุญาต ถ้าท่านไม่ใช่เจ้าของรถก็ ต้องทำ�ยินยอมให้เรียบร้อยก็ไปได้ เมื่อเสร็จสิ้นตรงนี้แล้วจะถึงด่านสุดท้ายของไทย เป็น ด่าน ต.ช.ด. พ้นจากตรงนี้เป็นเขตที่เรียกว่า no man land ซึ่งเป็นเขตแดนที่ยังตกลงกันไม่ได้จึงกันที่ไว้ก่อน เมื่อถึง เขตแดนของเมียนมา ก็ตอ้ งไปยืน่ เอกสารเพือ่ เข้าประเทศ ซึง่ เป็นบ้านมูด่ อ่ งรถทีเ่ ข้ามาก็เทีย่ วได้เฉพาะหมูบ่ า้ นนี้ ถ้าจะไป ตะนาวศรี หรือมะริดต้องต่อรถของเมียนมา นี่คือขั้นตอนต่างๆ ที่ท่านต้องทำ�เพื่อจะไปมะริด ผม ต้องขอบคุณเจ้าหน้าทีส่ �ำ นักงานจัดทำ�บัตรผ่านแดนชัว่ คราว และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ให้ข้อมูลอย่างละเอียดและ บริการอย่างรวดเร็วเป็นกันเองมาก แต่ผมขอแนะนำ�ท่านทีจ่ ะ เดินทางไปมะริดควรติดต่อรถแถวๆ ด่านให้เรียบร้อยก่อนที่ จะเดินทาง แต่ถา้ ไปเพียงมูดอ่ งขับรถเข้าไปเองจะสะดวกกว่า ใครทีจ่ ะไปเทีย่ วด่านสิงขรผมแนะนำ�ให้ไปเช้าวันเสาร์ที่ มีตลาดนัดไทย - เมียนมา คนจะเยอะมากสินค้าก็มากด้วย วันธรรมดาก็ไปได้แต่จะเงียบเหงา คนส่วนใหญ่มาเพือ่ ซือ้ ของ ป่าและทานอาหารป่าแล้วถ่ายรูปกับป้ายด่านสิงขรบริเวณ จุดตรวจศุลกากรซึ่งยังอยู่ในประเทศไทย ออกจากด่านแล้วมีจุดน่าแวะอีกสองแห่งคือ หินเทิน ซึ่งบริเวณนี้จะมีหินก้อนใหญ่ๆ มากมายที่ตั้งซ้อนกันจนดู น่าหวาดเสียวทีห่ นิ จะหล่นมาทับ มีส�ำ นักสงฆ์ดแู ลสถานทีจ่ งึ มีคนมาปฏิบัติธรรม ทำ�ให้สถานที่สะอาดน่าเข้าไปเที่ยวชม วิวทิวทัศน์ และความมหัศจรรย์ของหินเหล่านั้น อี ก จุ ด เป็ น อุ ท ยานสั บ ปะรดทิ ป โก้ ฟ าร์ ม ที่ นี่ มี ร้ า น จำ�หน่ายน้�ำ ผลไม้ทปิ โก้ สับปะรดหอมสุวรรณ บริเวณร้านมีจดุ ให้ถ่ายรูปเป็นสวนสับปะรดพันธ์ุต่างๆ มีแกะให้เลี้ยงได้ด้วย เป็ น จุ ด พั ก ทานกาแฟและน้ำ � สั บ ปะรด หาไม่ ย ากอยู่ ติ ด ถนนใหญ่ ใครที่มาเที่ยวด่านสิงขรจะหาที่พักยากสักนิด เพราะ กำ�ลังอยูใ่ นช่วงพัฒนา แต่ถา้ จะพักผมแนะนำ�ให้พกั ทีต่ วั เมือง ประจวบซึ่งเดินทางไปอีกยี่สิบกว่ากิโล หรือเลือกที่พักแถว คลองวาฬก็ได้เป็นจุดที่ใกล้ที่สุด ผมไปสำ�รวจมาปรากฎว่าที่ พักแถบนีน้ า่ พักมาก จนผมคิดว่าทีน่ เี่ ป็นจุดทีต่ อ้ งห้ามพลาด ทีเดียว คลองวาฬ เป็นตำ�บลหนึ่งของอำ�เภอเมืองประจวบ ด่านสิงขรเป็นหมูบ่ า้ นหนึง่ ของตำ�บลนี้ คลองวาฬจึงมีทงั้ ภูเขา

เชียร์เจ็ตสกี

โดยพงษ์ศักดิ์ โพธิครูประเสริฐ

และทะเลส่วนทีแ่ คบแห่งประเทศไทยก็อยูท่ นี่ ่ี แต่เมือ่ ผมไปที่ ตราด ก็มีป้ายบอกว่าแคบสุดของประเทศไทยอยู่ที่นั่นท่าน ผู้อ่านที่ชอบความเป็นที่สุดลองไปหาอ่านในเน็ตดู ที่ผมหลงเสน่ห์คลองวาฬเพราะที่นี่เป็นเมืองเงียบๆ สะอาด ผู้คนเป็นมิตร และค่าครองชีพต่ำ� ใครที่ชอบทาน ปลาก็มีปลานวลจันทร์ถอดก้างให้ทาน มีร้านอาหารทะเล สดๆ จำ�หน่ายมากมาย ที่ผมชอบมาก คือ ตลาดโต้รุ่ง ที่พอ ตกเย็นจะมีร้านค้ามาตั้งร้านขายของสองข้างทาง อาหาร ถูกปาก ราคาถูกใจมาก ผมมักจะหาเวลามาทานอาหารเย็นเป็นประจำ� เวลา ครอบครัวมาเยีย่ ม ผมมักจะรับรองทีร่ า้ นอาหารริมทะเลคลอง วาฬแทนที่อ่าวประจวบ ส่วนที่พักแถวนี้ผมไม่เคยมานอน แต่ขับรถผ่านๆ มีมากมายตั้งแต่หลักร้อยจนหลักหลายพัน ร้านอาหารก็เช่นกันมีตงั้ แต่รมิ ถนนจนถึงระดับหรูหราริมทะเล ตอนแรกผมเองไม่ รู้ จ ะเชี ย ร์ อ ะไรพอดี มี ก ารแข่ ง ขั น ศึ ก เจ็ ต สกี โ ปรทั ว ร์ 2015 ที่ จั ด ร่ ว มกั น ระหว่ า งจั ง หวั ด ประจวบคีรีขันธ์ และสมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย เมื่อวัน ที่ 6 - 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ณ อ่าวประจวบ สนามนี้เป็นครั้ง แรกที่จัด จัดแข่งกันกลางทะเลมีการตั้งอัฒจรรย์บริเวณชายหาด ให้ช มกันอย่างสบาย การแข่งขันเก็บ คะแนนในแต่ล ะรุ่น นักแข่งชือ่ ดังของประเทศมากันเพียบ แต่ทเี่ ป็นคนดังคงไม่พน้ คุณเปิ้ล นาคร ศิลาชัย นักแข่งหมายเลข 666 ทราบมาว่า เจ็ตสกีที่ขับคันละ 3 ล้าน ส่วนรถที่ขับเป็น ปอร์เช่ ทะเบียน 9666 ไม่รู้คันละกี่ล้าน ผมดูการแข่งขันแล้วสนุกมากแต่ละรอบของการขับขี่มี เบียดมีบี้กันเหมือนแข่งรถ แต่ว่านี่มันเป็นการแข่งขันในน้ำ� ซึ่งดูแล้วให้ความรู้สึกไปอีกแบบ บริเวณรอบๆ ก็มีจุดบริการ เจ็ตสกีของแต่ละค่าย ยกมาบริการกันถึงชายทะเลเลยทีเดียว น่าเสียดายทีเ่ กาะลำ�พูของเราเคยใช้เป็นสนามแข่งมาหลายปี แต่บัดนี้เงียบหายไป อยู่ๆ ผมก็ได้มาเชียร์การแข่งขันเจ็ต สกีในทะเลครั้งแรกรู้สึกสุดยอดมาก ทั้งสนามแข่งที่สวยงาม และการแข่งขันที่สนุกเร้าใจปีหน้าขอให้มาจัดที่นี่อีกนะครับ


3 10 ปี ของท่าเรือ NP MARINE โลจิสติกส์แบบบูรณาการ เมืองใต้นิวส์

ฉบับประจำ�เดือนกรกฎาคม

ปีที่ 4 ฉบับที่ 37 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2558

ภาคกลางกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมถึงชายฝั่ง ทะเลภาคตะวันออก ลงสู่ภาคใต้ตอนบน และยังเชื่อมต่อการ ขนส่งกับภาคใต้ตอนล่าง ซึง่ เป็นการขนส่งสินค้าข้ามแดนไป ยังประเทศมาเลเซีย และต่อไปยังประเทศสิงคโปร์อีกด้วย ท่าเรือ เอ็นพีมารีน จึงมีศักยภาพที่จะรองรับการขนส่งสินค้า

จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในปัจจุบันเป็นจังหวัดที่มีความ สำ�คัญจังหวัดหนึง่ ในลักษณะภูมศิ าสตร์ทมี่ คี วามเหมาะสมต่อ การสร้างระบบการขนส่ง โดยเฉพาะในภาคธุรกิจในปัจจุบัน ได้ค�ำ นึงถึงระบบโลจิสติกส์เป็นอย่างมาก เพือ่ การขนส่งสินค้า ด้วยเหตุนี้ ท่าเรือเอ็นพีมารีน จึงเปิดดำ�เนินการเป็นท่าเทียบ เรือบรรทุกตูค้ อนเทนเนอร์ทใี่ หญ่ทสี่ ดุ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และภาคใต้ตอนบน บนพื้นที่ 66 ไร่ บริเวณริมแม่น้ำ�ตาปี ด้วยความยาวหน้าท่า 296 เมตร ความลึก 5 เมตร น้ำ�ลง ต่ำ�สุด รองรับเรือขนาด 3,000 DWT ได้พร้อมๆ กันถึง 3 ลำ� มีรายได้จากค่าผ่านท่ากว่าปีละ 60 ล้านบาท อีกทั้ง ทำ�เลที่มีความเหมาะสม นอกจากนี้ ยั ง ได้ รั บ การส่ ง เสริ ม การลงทุ น จาก คณะกรรมการส่ ง เสริ ม การลงทุ น (BOI) นอกจากนี้ ท่าเรือเอ็นพีมารีนยังเป็นศูนย์กลาง การขนส่งสินค้าจาก

เมืองใต้นิวส์

ทั้งการขนส่งภายในประเทศและการขนส่งระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเมื่ อ มี ก ารเปิ ด การค้ า เสรี ข องกลุ่ ม ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทางด้าน คุณณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี ประธาน กลุ่ม บริษัท เอสซี เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ในรูป แบบบูรณาการ มีประสบการณ์ด้านการให้บริการโลจิสติกส์ มากว่า 30 ปี ด้วยวิสัยทัศน์จึงได้เล็งเห็นภาคใต้ของประเทศ มีศกั ยภาพและมีความพร้อมในการยกระดับการขนส่งทางน้�ำ ให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น เป็นการประหยัดต้นทุนการขนส่ง จึงได้สร้างท่าเรือ เอ็น พี มารีน เพื่อเป็นยุทธศาสตร์ในด้าน การให้บริการโลจิสติกส์ทางน้�ำ ทีม่ ปี ระสิทธิภาพสูง ซึง่ ได้เปิด บริการมากว่า 10 ปีแล้ว ดังนั้น ด้วยระยะเวลา 10 ปี ของ เอ็นพี มารีนที่ผ่านมา จึงเป็นการดำ�เนินการโลจิสติกส์แบบบูรณการและมากด้วย ประสบการณ์แบบมืออาชีพอย่างแท้จริง

หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายเดือน

ปีที่ 4 ฉบับที่ 37 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2558

สำ�นักงานเลขที่ 157 ถนนชนเกษม ตำ�บลตลาด อำ�เภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000

บรรณาธิการบริหาร/ผู้พิมพ์/ผู้โฆษณา : ชยุตม์ เชาวน์ณัฐเศวตกุล E-mail : chayutkok@hotmail.com, Facebook : หนังสือพิมพ์เมืองใต้นิวส์

www.issuu.com/meuangtainews

ติดต่อลงโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 081-9783401, 089-7258911

สุราษฎร์ เมื่อวันวาน

ห้ า งพาต้ า สถานประกอบการด้ า น

รองเท้าแฟชั่น ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ในอดีตของบ้านดอน อำ�เภอเมืองสุราษฎร์ธานี


4

เมืองใต้นิวส์

ฉบับประจำ�เดือนกรกฎาคม

ปีที่ 4 ฉบับที่ 37 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2558

สังคม...เมืองคนดี อินทรีย์ บ้านดอน

สมบูรณ์ สุวรรณบุตร

“ดีเด่น” น.พ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง สาธารณสุข มอบโล่รางวัลเกียรติยศ สื่อมวลชนดีเด่นด้านสาธารณสุข ให้นายศุภพงษ์ เชาวน์แล่น ผอ.สทท.11 สุราษฎร์ธานี ในฐานะองค์กร ดีเด่นด้านการสนับสนุนงานสาธารณสุข ในเขตสุขภาพที่ 11 ที่โรงแรม ทวินโลตัส จ.นครศรีธรรมราช

นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ เจ้าหน้าที่ภาครัฐและเอกชน ร่วมประกาศประกาศเจตนารมณ์ต่อต้าน การทุจริต สร้างจิตสำ�นึกไทยไม่โกง เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2558 ณ ห้องเมืองคนดี ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

บริษทั เอ็กซ์โปลิง้ ค์ โกลบอล เน็ทเวิอร์ค จำ�กัด ร่วมกับหอการค้า จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงข่าว งาน Food and Hotelex 2015 เมือ่ วันที่ 2 มิถนุ ายน 2558 ณ ลานชัน้ ที่ 1 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี

ครบรอบ 10 ปี คุณธีระกิจ หวังมุทิตากุล นายกเทศมนตรี นครสุราษฎร์ธานี คุณธีรชัย ศรีโพธิ์ชัย ประธานหอการค้าจังหวัด สุราษฎร์ธานี พล.อ. มนตรี สังขทรัพย์ ที่ปรึกษาบริษัท เอสซี กรุ๊ป จำ�กัด ร่วมแสดงความยินดีกบั คุณณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี ประธานกลุม่ บริษัท เอสซี กรุ๊ป จำ�กัด เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ดำ�เนินกิจการ ท่าเรือ NP MARINE ณ ท่าเรือ NP MARINE จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2558

ธีระกิจ หวังมุทิตากุล ประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี

สุวัธชัย ศรีโพธิ์ชัย

สันติ นุ้ยเมือง

เมืองใต้นิวส์ ฉบับประจำ�เดือนกรกฎาคม และแล้ววันเวลา ปี 2558 ก็ผ่านไปด้วยความรวดเร็ว ของครึ่งปีแรกเสมือน ราวกับว่าพึ่งจะปีใหม่หยกๆ หย่อนๆ ผ่านไปแล้ว 6 เดือน หลายๆ ท่านด้วยสถานการณ์ทั้งสังคม เศรษฐกิจ ปากท้อง ชาวบ้าน ช่วงนี้ออกอาการ “โซซัด โซเซ จนถึงขั้นรำ�มวยเก๊กซิม” กันทั่วหน้า ส่วนอุณหภูมิ การเมืองท้องถิ่น อย่างเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ยุค “ถูกคุมกำ�เนิดชั่วคราว” ด้วยสร้างบรรยากาศ “สภาทำ�เนียบบ้านดอนแบบสภาสีชมพู” ของคุ้มวังมะขามเตี้ยของหญิงแกร่ง สมบูรณ์ สุวรรณบุตร แห่งค่ายสุราษฎร์ ก้าวหน้า แสดงฤทธิ์เดชแผลงฤทธิ์ “สีชมพู” ด้วยการ “คว่ำ�ญัตติหลายวาระ” แบบเป็นที่น่าสงสัยมีอะไรเสียบเข้าไป ในรูหู ให้คว่ำ�หลายๆ วาระ ทำ�เอา ทีมคนดี (ต้องซื่อสัตย์) ถึงกับโซซัดโซเซแบบฉบับ ธีระกิจ (เฮียเป้าแห่งคุ้มวังศุขเจริญ) ทำ�เอาเซียนคอการเมืองตามสภากาแฟถึงกับคันปากอึดอัดใจใคร่อยากทราบถึง “เหตุไฉนอันใด” ถึงเหล่าขุนพล สท. แห่งค่ายสุราษฏร์ก้าวหน้า “แบบเนื้อแท้และแบบเนื้องอก” แสดงอิทธิฤทธิ์แบบมือในสภาบ้านดอนสีชมพูที่มีเสียง มากกว่า ฝ่ายบริหารของ ธีระกิจ (เฮียเป้าแห่งคุ้มวังศุขเจริญ) หวังมุทิตากุล ว่า “กุนซือ” ที่สั่งให้คว่ำ�เป็น แบบ “ใบสั่ง สีชมพู” แบบสงสัยคาใจคอเซียนการเมืองด้วยเหตุผลกลใดถึงคว่ำ�ตามใบสั่ง “ยุคการเมืองคุมกำ�เนิดชั่วคราว” ส่วนเซียนคอการเมืองที่พร้อมจะขยายปอดขยับปากเพื่อสอบถามรายละเอียดที่มาที่ไป ของ “มติลับ” ที่เป็น “ใบสั่ง” หรือ “ไม่เป็นใบสั่ง” โดย ขุนพล สท. ที่มิยอมให้ผ่าน “แบบคว่ำ�ญัตติ” ในการประชุมที่ผ่านมา ประกอบไป ด้วย ขุนพล สท. ที่มีอักษรย่อด้วยกัน ถึงสี่ สอ. เสือ : หนึ่ง ฟอ. ฟัน : หนึ่ง รอ. เรือ : หนึ่ง มอ. ม้า และ อีก หนึ่ง ปอ. ปลา ที่เป็นอักษรย่อนามเหล่าขุนพลสท. ที่มิยอมให้ผ่านในญัตติต่างๆ หลายวาระ สำ�หรับเหตุการณ์ ของการผนึกกำ�ลัง “คว่ำ�ญัตติ” หลายๆ วาระที่ผ่านมา ถือเป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่า “เกม การเมือง” หาก “สภาทำ�เนียบบ้านดอน” เป็นของคุม้ สีชมพู สุราษฎร์กา้ วหน้าแห่งวังมะขามเตีย้ ของหญิงแกร่งสมบูรณ์ สุวรรณบุตร ก็ยังคงแสดงอิทธิฤทธิ์ และยังคงสร้างความเก๊กซิมผสมกับน้ำ�บัวบกแก้ช้ำ�ในหัวใจได้เสมอ หากมี “ระเบิด เถิดเทิง” ไฟเขียวให้ทำ�เกม ต่อทีมคนดี (ต้องซื่อสัตย์) ของธีระกิจ (เฮียเป้าแห่งคุ้มศุขเจริญ) หวังมุทิตากุล แบบฉบับ “ ...จะเอาอะไรกันนัก.....” หลังจาก “สภาทำ�เนียบบ้านดอน” ถุกคว่ำ�ผ่านไป ธีระกิจ (เฮียเป้าแห่งคุ้มศุขเจริญ) หวังมุทิตากุล บินลัดฟ้าสู่ เมืองกวางเจา ประเทศจีน พร้อม “กุนซือ คู่กาย” ไปแบบมีนัยยะทางการเมืองในสมัยหน้า โดยเฉพาะ หลังจากเสร็จศึกคว่ำ�ในสภาทำ�เนียบบ้านดอนผ่านไป ทำ�เอา สท. สันติ นุ้ยเมือง (แห่งคุ้มตาปี สปอร์ต) ออกอาการอึดอัดมันแน่นอก สามศอกกับ มติของค่ายสีชมพู สุราษฎร์ก้าวหน้า จนล่าสุดสุดล่า ด้วยพันธสัญญาใจ “วิกเตอร์แห่งตาปีสปอร์ต” ตัดสินใจ ถอดเสื้อสีชมพู “สุราษฎร์ก้าวหน้าของคุ้มวังมะขามเตี้ย สู่อ้อมกอดเสื้อสีฟ้า ทีมคนดี (ต้องซื่อสัตย์) แห่งคุ้มวังศุขเจริญ แบบแบเบอร์ล้านเปอร์เซนต์แน่นอนแล้ว ส่วนอีกคน สท.สุวัธชัย (สท.ตุ้ย เสียงดังฟังชัด) ศรีโพธิ์ชัย แห่งริมแม่น้ำ�ตาปีบ้านดอน เกิดอาการอึดอัดมันแน่นอก เช่นเดียวกัน แต่ด้วยเป็น สท. มีสัจจะ ขอให้ครบวาระ ณ เดือนกันยายนก่อน แล้วหลังจากนั้น ขอโยนหินถามใจดูก่อนว่า จะ ยังสวมเสื้อสีชมพูหรือสีอะไรในสมัยต่อไป แต่หากทีมเสื้อสีชมพูสุราษฎร์ก้าวหน้ายังเป็น ประกิต (เสี่ยหลีกูรูโลจิสติกส์แห่ง ลุ่มน้ำ�ตาปี) ประสิทธิ์ศุภผล ยังคงเป็นแม่ทัพใหญ่ สท.ตุ้ย คงต้องใส่เสื้อสีชมพูต่อไป อีกข่าวด้านโลจิสติกส์ ระบบการขนส่งกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจสุราษฎร์ธานี อินทรีย์ บ้านดอน ขอแสดงความ ยินดีกับคุณณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี ประธานกลุ่มบริษัท เอสซี กรุ๊ป จำ�กัด ที่ดำ�เนินกิจการท่าเรือ NP Marine Port ครบรอบ 10 ปี โดยเริ่มดำ�เนินการมาตั้งแต่ปี 2548 ถือเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ด้านโลจิสติกส์ มากว่า 30 ปีแล้ว

มิ ต ซู สุ ร าษฎร์ มอบเครื่ อ งยนต์ บริ ษั ท มิ ต ซู บิ ชิ มอเตอร์ ส (ประเทศไทย) จำ�กัด โดย คุณกสิน ไลยโฆษิต ผูจ้ ดั การฝ่ายศูนย์บริการ มิตซูสุราษฎร์ มอบเครื่องยนต์มิตซูบิชิ แก่วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี 2 เพื่อสนับสนุนในโครงการ โปรแกรมสนับสนุนสถาบันอาชีวศึกษา เพื่อผลิตบุคลากรในระดับช่างฝีมือ ช่างเทคนิค ทางยานยนต์ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2558 ณ วิทยาลัยเทคนิคสราษฎร์ธานี 2

เมื่ อ วั น ที่ 25 มิ ถุ น ายน 2558 นายฉั ต รป้ อ ง ฉั ต รภู ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานที่ประชุมคณะกรรมการ จัดงาน Southern International Trade Expo ณ ห้องประชุม เมืองคนดี ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยงานดังกล่าวจะจัด ระหว่างวันที่ 23 - 26 กรกฎาคม 2558 ณ สุราษฎร์ธานี ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี


ฉบับประจำ�เดือนกรกฎาคม

5

เมืองใต้นิวส์ ปีที่ 4 ฉบับที่ 37 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2558

นายวุฒิชัย วงษ์นาคเพ็ชร์ พาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สวัสดีครับท่านผู้อ่านนังสือพิมพ์เมืองใต้นิวส์ทุกท่าน ฉบับนี้ ก็เป็นฉบับที่ 7 ของปี 2558 สำ�หรับเดือนกรกฎาคม 2558 นี้ มี กิ จ กรรมต่ า งๆ มากมายเกิ ด ขึ้ น ในจั ง หวั ด สุ ร าษฎร์ ธ านี ซึ่ ง ในวั น ที่ 2-5 กรกฎาคม 2558 มี ง าน Food Hotelex เรียกง่ายๆ ว่าเป็นงานอาหารและโรงแรม ในงานนี้มีผู้ประกอบการมาออกบูธมากมาย และในวันที่ 23-26 กรกฎาคม 2558 ก็มีงาน Southern Interational Trade Expo ซึ่งงานนี้มีแม่งานหลัก คือ กระทรวงพาณิขย์ ฉบั บ นี้ ผมได้ มี โ อกาสขอสั ม ภาษณ์ ท่ า นพาณิ ช ย์ จั ง หวั ด สุ ร าษฎร์ ธ านี ซึ่ ง ท่ า นเป็ น แม่ ง านในจั ง หวั ด สุราษฎร์ธานี ท่านคือ คุณวุฒชิ ยั วงษ์นาคเพ็ชร์ ก่อนอืน่ ต้อง ขอถามท่านวุฒิชัย ก่อนที่ท่านจะมาดำ�รงตำ�แหน่งพาณิชย์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ท่านอยูท่ ไี่ หนมาก่อน ท่านวุฒชิ ยั ได้บอก ว่าท่านเป็นคนกรุงเทพ รับราชการตัง้ แต่ปี 2524 เคยปฎิบตั งิ าน ในจังหวัดพิษณุโลก สตูล ราชบุรี กาญจนบุรี และท่าน วุฒชิ ยั ไปดำ�รงตำ�แหน่งพาณิชย์จงั หวัดครัง้ แรกทีจ่ งั หวัดน่าน ในปีพ.ศ. 2542 และย้ายไปทีจ่ งั หวัดพังงา หนองบัวลำ�ภู ตาก ลำ�ปาง และปัจจุบันมาอยู่ที่สุราษฎร์ธานี ท่านวุฒิชัย ได้บอกว่าในสมัยที่ดำ�รงตำ�แหน่งพาณิชย์ จั ง หวั ด ในทางภาคเหนื อ จะมี ก ารกระตุ้ น เศรษฐกิ จ ค่ อ น ข้ า งบ่ อ ย เช่ น การจั ด งานพื ช สวนโลกที่ เชี ย งใหม่ หรื อ การจัดการเจรจาการค้า การโรดโชว์สินค้าไปภาคต่างๆ ในการที่ท่านวุฒิชัย ย้ายมาดำ�รงตำ�แหน่งพาณิชย์จังหวัด สุราษฎร์ธานีในครั้งนี้ ได้มองในส่วนของภาคใต้ 14 จังหวัด เมื่อถามว่าในเรื่องของสภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ต้อง ตอบว่าสภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีจากการที่เราเคยมีสินค้า ที่เชิดหน้าชูตาของภาคใต้ในอดีต เช่น แร่ ยางพารา ปาล์ม น้ำ�มัน อาหารทะเล เเหล่งท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งผลไม้ ซึ่ง ในปัจจุบนั นีส้ นิ ค้าสำ�คัญหลายๆ ชนิด ตัวอย่างเช่น แร่ ก็ไม่มี การผลิตในประเทศไทย ยางพาราก็มรี าคาค่อนข้างต่�ำ ปาล์ม น้�ำ มันราคาทรงตัว สัตว์น�้ำ ทะเลก็มแี ต่วนั ลดลงไปเรือ่ ยๆ สิง่ ที่ เราพอจะมีเหลืออยูใ่ นช่วงนีท้ ภี่ าคใต้มี ก็คอื ผลไม้ และแหล่ง ท่องเทีย่ ว ซึง่ 14 จังหวัดภาคใต้จะขับเคลือ่ นในภาวะเศรษฐกิจ ภาคใต้ไปได้ด้วยดี เราต้องกลับมามองศักยภาพของแต่ละ จังหวัด เราต้องยอมรับว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีปัญหา ในเรือ่ งความมัน่ คง จังหวัดสตูล และพัทลุง เป็นจังหวัดขนาด เล็ก แรงในการขับเคลือ่ นเศรษฐกิจภาคใต้กห็ ายไป 5 จังหวัด แล้ว ส่วนจังหวัดที่เหลืออยู่ไม่ว่าจะเป็นสุราษฎร์ธานี กระบี่ ตรัง ภูเก็ต นครศรีธรรมราช อาจจะพูดได้ว่าเป็นจังหวัด ท่องเที่ยว จังหวัดที่มีการนำ�เข้าส่งออก คงจะเป็นสงขลา จังหวัดทีม่ ผี ลไม้เป็นจังหวัดชุมพร จังหวัดเหล่านีก้ เ็ ป็นจังหวัด ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ในประเด็นแรกที่ท่านวุฒิชัยมองว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะอันใกล้ก็สามารถทำ�ได้โดยใช้ งบประมาณไม่สงู นัน่ ก็คอื การจัดกิจกรรมขึน้ มาสักอย่างหนึง่

ท่านเคยลอกเลียนว่าทางภาคเหนือมักจะจัดกิจกรรมการจัด งาน เพื่อดึงในคนจากที่อื่นไปเที่ยวในภาคนั้นๆ ก็เลยคิดว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีเราเคยมีการจัดงานเซาร์เทริ์นเอ็กซ์โป ที่บริเวณสหกรณ์สุราษฎร์ธานี หรือโคอ๊อฟ ซึ่งมีคนจากที่ อื่นมาเที่ยวที่สุราษฎร์ธานี มาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำ�นวนมาก และในการจัดงานทุกครั้งก็ประสบความสำ�เร็จ จึงมีการนำ� เสนอกระทรวงว่าถ้าหากจะมีกจิ กรรมกระตุน้ เศรษฐกิจก็ขอให้ พิจารณาในเรือ่ งของเซาร์เทริน์ เอ็กซ์โปด้วย อันนีเ้ ป็นประเด็น แรก ที่ท่านวุฒิชัยได้นำ�เสนอไป เมื่อต้นปี 2558 ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง พาณิชย์ รวมถึงทีมทีป่ รึกษาได้มาสำ�รวจสภาพเศรษฐกิจของ ภาคใต้ โดยท่านได้เลือกจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดแรก ที่ลงมาสำ�รวจ ในประเด็นของการจัดงานเซาร์เทริ์นเอ็กซ์โป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทางหอการค้าจังหวัด พาณิชย์จังหวัด ภาคเอกชนได้ร่วมกันให้ทางกระทรวงพิจารณาเรื่องการ กระตุน้ เศรษฐกิจโดยการจัดงานเซาร์นเทริน์ เอ็กซ์โป หลังจาก ที่ ท่ า นรั ฐ มนตรี ช่ ว ยว่ า การกระทรวงกลั บ ไป ท่ า นได้ รั บ ในหลักการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ดีในการพิจารณา ของระดับบริหาร ได้มองว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นผล ระยะสั้น ทางกระทรวงพาณิชย์จึงเล็งเห็นถึงผลระยะยาว ประกอบกับนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหมด ของประเทศในการแก้ไขปัญหาในเรื่องยางพาราราคาตกต่ำ� ยางพาราค้างสต็อกอยู่ในประเทศเป็นจำ�นวนมาก ประกอบ กับสิ่งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี คือการ ที่สุราษฎร์ธานีมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับประเทศอินเดีย ในฐานะที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ได้ทรงนำ�ชื่อของเมืองสุราษฎร์ และแม่น้ำ�ตาปีจากเมืองสุราต รัฐคุชราช ประเทศอินเดีย มา พระราชทานให้เมืองบ้านดอนเมื่อ 100 ปี ที่แล้ว ซึ่งในปี นี้เป็นปีที่ครบรอบ 100 ปี ของการได้รับพระราชทานนาม เป็นจุดแข็งอีกจุดหนึ่งประกอบกับในส่วนของทางอินเดีย เป็นประเทศที่รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะขยายสร้างมูลค่าทาง การค้า ก็ได้หยิบยกเอาจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นต้นแบบใน การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยใช้ความสัมพันธ์ เชื่อมโยงระหว่างจังหวัดสุราษฎร์ธานี กับเมืองสุราตของ ประเทศอิ น เดี ย ส่ ว นการดำ � เนิ น การของรั ฐ บาลในเดื อ น กุมภาพันธ์ปีนี้ ทางกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงท่องเที่ยว และกีฬา ท่านรัฐมนตรีว่าการทั้งสองกระทรวงได้ไปเยือน ประเทศอินเดีย ซึ่งการไปเยือนประเทศอินเดีย ประเทศไทย ได้นำ�เสนอสินค้าและบริการที่อินเดียสามารถใช้บริการจาก ประเทศไทยได้ เช่น การบริการด้านท่องเที่ยว เรามีสถาน ที่ท่องเที่ยวมาก ในขณะเดียวกันท่านรัฐมนตรีกระทรวง พาณิ ช ย์ ได้ ม องถึ ง ว่ า ยางพาราเป็ น สิ น ค้ า ที่ น่ า จะมี ก าร นำ � เสนอ มี ก ารเจรจาการค้ า ในระดั บ เวที โ ลก ในการไป อินเดียได้มีผู้แทนนักธุรกิจ นักลงทุนไปลงนามบันทึกความ เข้าใจหรือ MOU ที่อินเดีย จำ�นวน 12 ฉบับ ซึ่งใน 1 ใน 12 ฉบับเป็น MOU ระหว่างหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี กับหอการค้าและอุตสาหกรรมรัฐคุชราชใต้ ซึ่งเหมือนเป็น ความเข้ า ใจว่ า เราจะมี ก ารค้ า ระหว่ า งกั น ในประเด็ น นี้ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการเชิญทาง อิ น เดี ย เชิ ญ ผู้ ป ระกอบการนั ก ธุ ร กิ จ รวมถึ ง เชิ ญ เมื อ ง สุราตของประเทศอินเดียได้เข้ามา โดยท่านรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ ท่านได้บอกว่าอินเดียได้มคี วามผูกพันกับ สุราษฎร์ธานี ขอเชิญทางอินเดียได้มาเยือนเมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา

กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย การท่องเที่ยวและ หน่วยงานต่างๆ จะได้ร่วมกันจัดกิจกรรมขึ้นมาสักกิจกรรม หนึ่ง และขอเชิญทางอินเดียไม่ว่าจะเป็นเมืองสุราต นักธุรกิจ นักการค้า นักลงทุน ได้เข้ามาเยี่ยมประเทศไทย ซึ่งท่าน รัฐมนตรีได้เรียนเชิญตัง้ แต่เดือนกุมภาพันธ์ทผี่ า่ นมา เมือ่ ท่าน ได้กลับมาถึงประเทศไทยได้มอบนโยบายกับกรมส่งเสริมการ ค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ว่าเรามีความจำ�เป็นที่ จะต้องดำ�เนินการกระชับความเข้าใจระหว่างไทยกับอินเดีย โดยใช้โอกาสในเรื่องของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และหลังจาก นั้นทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศก็ได้ประสานกับ สำ�นักงานการค้าระหว่างประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นหน่วยงาน ราชการของกระทรวงพาณิชย์ในต่างประเทศได้ก�ำ หนดสินค้า เป้าหมายอยู่ 5-6 หมวด เช่น สินค้าฮาลาล สินค้าอาหาร สินค้าสปา และเครื่องตกแต่งบ้าน เป็นต้น โดยเชิญนักธุรกิจ นักลงทุนได้มาดูสินค้า เป็นการเชิญผู้ซื้อ หรือ Buyer จาก ทั่วโลก สินค้าทั้งห้าหกหมวดจะเน้นสินค้าในภาคใต้ และจะ มีกจิ กรรมในการเจรจาซือ้ ขายสินค้าทำ�เหมือนทีก่ รุงเทพเป็น ลักษณะงานสากล ซึง่ งานจะจัดในวันที่ 23 ถึง 26 กรกฎาคม 2558 จะเป็นลักษณะของการแสดงสินค้าและเจรจาการค้า ณ ห้อง สุราษฎร์ธานี ฮอลล์ 1 ชั้น 4 เซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี สำ � หรั บ กิ จ กรรมที่ สำ � คั ญ ยิ่ ง คื อ การที่ เราเชิ ญ นั ก ธุ ร กิ จ ที่ เกี่ยวข้องเฉพาะยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางพารา รวมถึง การท่ อ งเที่ ย วเราจะมี ก ารจั บ คู่ นั ก ธุ ร กิ จ Business Matching ในวั น ที่ 23 กรกฎาคม 2558 ณ โรงแรม ไดมอนด์พลาซ่า สุราษฎร์ธานี การเจรจาการค้าเป็นเรือ่ งของ ยางพาราและการท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จะเปิดเพื่อเจรจา มีการนำ�เสนอในรูปแบบต่างๆ ที่ให้ชาว ต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวอินเดียได้ทราบและ มี ก ารจั บ คู่ ธุ ร กิ จ กั น สำ � หรั บ เป้ า หมายในการเจรจาจั บ คู่ ธุรกิจของยางพารา กระทรวงพาณิชย์มีเป้าหมายเบื้องต้น น่าจะมีการเจรจาซื้อขายยางพาราโดยตั้งเป้าไว้ 5 แสน 5 หมื่นตัน ซึ่งในขณะนี้มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับยางพารา และผลิตภัณฑ์ยางพารา ที่ได้ตกลงแจ้งมายังกรมส่งเสริม การค้าระหว่างประเทศ มากกว่า 70 บริษัท ที่จะเข้ามา เจรจากัน ในส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับเกียรติ ในเรื่องของการใช้จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นต้นแบบในการ กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เป็นการสร้างช่องทางการค้า สร้างเวทีการค้าให้กับภาคใต้ 14 จังหวัด เป็นเรื่องที่น่า ภาคภูมิใจของชาวสุราษฎร์ธานีที่มีชาวต่างประเทศ เข้ามา ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นจำ�นวนมาก และในฐานะชาว สุราษฎร์ธานี ต้องแสดงมิตรจิตมิตรใจในความเป็นเจ้าภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องคู่แฝดของเรา คือ เมืองสุราต ของ อินเดีย ท่านเอกอัครราชฑูตของอินเดียประจำ�ประเทศไทย และท่านนายกเมืองสุราต จะพานักธุรกิจชั้นนำ�มาที่จังหวัด สุ ร าษฎร์ ธ านี มาเยื อ นคาราวะท่ า นผู้ ว่ า ราชการจั ง หวั ด สุราษฎร์ธานี ซึ่งเราถือว่าคนสุราต ประเทศอินเดีย เป็นแขก เมืองของเราที่สำ�คัญคนหนึ่งของเรา ผมและทีมงานเมืองใต้นิวส์ ขอขอบคุณท่านวุฒิชัย วงษ์นาคเพ็ชร์ เป็นอย่างสูงที่นำ�รายละเอียดต่างๆ ในงาน Southern Interational Trade Expo ที่จะเกิดขึ้นในจังหวัด สุราษฎร์ธานี ในช่วงวันที่ 23 - 26 กรกฎาคม 2558 มาให้ ชาวสุราษฎร์ ได้รับทราบและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ประเทศไทย และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชาวสุราษฎร์ทุกคน คงต้องร่วมกันต้อนรับชาวต่างชาติเป็นอย่างดี


6

เมืองใต้นิวส์ ปีที่ 4 ฉบับที่ 37 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2558

ฉบับประจำ�เดือนกรกฎาคม

บอกเก้า

เล่าสิบ

โดย.....เลขาเก้า

ตะนาวศรี หลังจากข้ามเขตแดนไทยไปฝัง่ เมียนมาแล้ว ผมรูส้ กึ ถึง ความแตกต่างของสองประเทศอย่างชัดเจน การพัฒนาด้าน ต่างๆ ช้ากว่าไทยหลายสิบปี ที่เห็นชัดเจน คือ เรื่องถนนที่มี การลาดยางเพียงบางๆ ยังไม่ได้มาตรฐาน และเป็นหลุมเป็น บ่อมาก จนรถต้องหยุดและขับหลบทางที่ขรุขระตลอดเวลา เมื่อผมถามคนนำ�ทาง อาจารย์สมเกียรติ บอกว่าถนน ตอนนี้ดีกว่าก่อนมาก เพราะถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางการค้า โบราณจึงเป็นทางเกวียนมาก่อน ต่อมามีการมาทำ�เหมือง ถ่านหิน จึงมีการทำ�ถนนลาดยางขึ้นเพื่อใช้เป็นเส้นทางขน ถ่านหิน เมื่อเลิกทำ�เหมือง ถนนจึงขาดการดูแลจึงมีสภาพ อย่างที่เห็น จุดแรกทีค่ ณะของเราเข้าไปชม คือ กิจการโรงไม้แปรรูป ที่บ้านมูด่อง ซึ่งเป็นหมู่บ้านชายแดนติดกับไทย ที่นี่ขึ้นกับ อำ�เภอตะนาวศรี ขณะนี้กำ�ลังจะยกฐานะเป็นอำ�เภอเพราะ เริ่มมีประชากรมากขึ้น อีกทั้งระยะทางห่างจากตะนาวศรี เกือบร้อยกิโลเมตร ทีน่ เ่ี ริม่ มีประชากรย้ายมาอยูม่ ากขึน้ ปัจจุบนั มีประมาณ 6,000 คน มีบา้ นเรือน 1,000 หลัง บริเวณนีไ้ ด้มกี ารสร้างด่าน ตรวจสินค้าทีร่ องรับการเปิดประตูการค้าไทย-เมียนมาเสร็จ แล้ว แต่ยังไม่ได้ใช้เพราะการเปิดด่านยังไม่เรียบร้อย สิ่งหนึ่งที่เปิดให้คนต่างชาติเข้าไปลงทุนได้ทันที คือ การตั้งโรงงานไม้แปรรูป ทราบว่าเปิดให้ถึง 50 โรง เพราะ บริเวณนี้มีป่าไม้ที่สมบูรณ์สามารถนำ�มาแปรรูปได้ แต่มี ปัญหาเรือ่ งไฟฟ้าทีย่ งั ไม่มี ต้องใช้เครือ่ งปัน่ ไฟ และแรงงานที่ มีฝมี อื ส่วนแรงงานทัว่ ไปมีมากและค่าแรงยังต่�ำ กว่าไทยมาก ระหว่างทางที่คณะไปจะพบเห็นการโค่นไม้และภูเขา เริ่มจะกลายเป็นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น ยางพารา ปาล์ม

น้�ำ มัน มะละกอ หมาก ซึง่ ทราบว่าเอกชนสามารถเช่าพืน้ ทีจ่ าก รัฐได้ แต่มสี วนปาล์มแห่งหนึง่ ทีม่ รี วั้ กันไว้ขนานกับถนนทีเ่ รา เดินทางระยะทางหลายกิโลเมตร จนเริม่ สงสัยว่าเป็นของใคร จนเมื่ออาจารย์สมเกียรติ พาคณะมาถึง PYI PHYO TUN INTERNATIONAL CO.,LTD. OIL PALM PROJECT หรือโครงการปาล์มน้ำ�มัน ของบริษัท พี พี ที จึง ได้ทราบว่าสวนปาล์มทีเ่ ห็นนัน่ เป็นของบริษทั นี้ ซึง่ เจ้าของคือ อู ลา ตัน ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมจังหวัดมะริด โครงการปาล์มน้ำ�มันแห่งนี้มีพื้นที่ปลูกปาล์มกว่าแสน ไร่ มีส�ำ นักงานทีไ่ ว้ตอ้ นรับคณะทีม่ าเยีย่ มชมกิจการทัง้ ในและ ต่างประเทศ มีร้านค้า ที่พักคนงาน และมีโรงงานสกัดน้ำ�มัน เป็นของตนเอง แต่ยังไม่มีโรงงานกลั่นน้ำ�มันบริโภค ผมเพิ่ ง เคยเห็ น โรงสกั ด น้ำ � มั น ปาล์ ม เป็ น ครั้ ง แรก สอบถามจากพี่ๆ ที่ร่วมคณะไปด้วยกัน ทราบว่าที่นี้ยังขนาด เล็กและใช้วธิ กี ารผลิตทีไ่ ม่ทนั สมัยเหมือนทีบ่ า้ นเรา ผลผลิตที่ ได้บรรจุในถังสองร้อยลิตรตั้งเต็มไปหมด ทราบมาว่าตั้งแต่ ปาล์มเริ่มให้ผลและโรงงานสกัดน้ำ�มันได้แล้วยังไม่สามารถ ส่งออกไปจำ�หน่ายได้ ออกจากอาณาจักรปาล์มแล้ว คณะของเราแวะไปเยีย่ ม หัวหน้ากะเหรี่ยง ซึ่งเปิดร้านค้าของชำ�เพื่อแวะดื่มน้ำ� มาที่นี้ พอจะพูดคุยภาษาไทยได้ เพราะลูกๆ ของเจ้าของร้านไปเรียน หนังสือทีเ่ มืองไทย ช่วงทีเ่ ราไปเป็นช่วงปิดเทอมลูกๆ จึงกลับ มาอยู่บ้าน พี่มนตรี เป็นคนเดียวในคณะเราที่เคยเดินทางเข้ามาที่ บ้านมูดอ่ ง ได้บอกพวกเราว่า เมือ่ ก่อนเคยเดินทางมาถึงตรงนี้ กับคณะของทหารชายแดนไทย เพือ่ มาไหว้พระทีว่ ดั ตรงข้าม ร้านค้านีพ้ อดี เมือ่ ก่อนผ่อนปรนให้เพียงเท่านีไ้ ม่สามารถเดิน ทางต่อไปได้อีก เดินทางออกจากร้านค้าสักครู่หนึ่ง จะถึงบ่อถ่านหินที่ เคยมีการทำ�สัมปทานแล้วส่งถ่านหินผ่านไปทางด่านสิงขร ระยะทางจากชายแดนไทยมาถึงบ่อถ่านหิน ราว 20 กิโลเมตร ถนนลาดยางที่เป็นหลุมเป็นบ่อก็สิ้นสุดลง ถนนจากนี้เปลี่ยน เป็นถนนดินที่บดอัดด้วยหินจากภูเขา การเดินทางช่วงนี้จึง ลำ�บากยิ่งขึ้น ระหว่างทางไม่มจี ดุ พักรถเหมือนบ้านเรา ส่วนใหญ่เป็น ป่าเขา เมื่อถึงหมู่บ้านจึงมีร้านค้าขายของชำ� สินค้าส่วนใหญ่ มาจากฝัง่ ไทยจึงเลือกได้ตามความชอบของแต่ละคน แต่รา้ น ทีเ่ ราหยุดพักจะมีขายข้าวให้คนเดินทางได้แวะพัก ซึง่ คล้ายๆ ร้านข้าวแกงบ้านเรา แต่ทนี่ มี้ กี บั ข้าวมากมายดูๆ แล้วหน้าตา ไม่ค่อยเหมือนที่เราทานกัน แต่ทแี่ ปลก คือ ทุกร้านจะจุดเทียนไขไว้ขา้ งๆ หม้ออาหาร ทัง้ ๆ ทีเ่ ป็นเวลากลางวัน ทีเ่ ป็นเช่นนัน้ เพือ่ ไล่แมลงวันนัน่ เอง

ที่ นี่ ถื อ เป็ น จุ ด พั ก รถชั้ น ดี ที่ สุ ด มี ร้ า นอาหาร ร้ า นของชำ � และห้ อ งน้ำ � บริ ก ารฟรี ห้ อ งน้ำ � ยั ง เป็ น แบบเก่ า นั่ ง ยอง แต่มีความสะอาดใช้ได้ทีเดียว คณะของเราแวะพักเข้าห้องน้ำ� แต่ไม่ได้รับประทาน อาหารที่นี่ ทั้งๆ ที่เลยเวลาไปมากแล้ว ดีว่าประธานสั่งให้ผม นำ�ขนมเปี๊ยะมาด้วย คณะเราจึงได้บรรเทาหิวไปได้ เพราะ กว่าจะถึงอำ�เภอตะนาวศรี ก็เป็นเวลาบ่ายสองโมงไทยแล้ว จึงได้ทานอาหารกลางวัน ร้านอาหารตัง้ อยูร่ มิ น้�ำ ตะนาวศรีบรรยากาศดี ร้านนีถ้ อื ได้วา่ เป็นร้านอาหารทีด่ ที สี่ ดุ ของอำ�เภอแล้ว อาหารทีจ่ ดั ให้มี กุง้ แม่น�้ำ ทอดตัวโตมาก น้�ำ พริก ผัดผัก ปลาทอด และไข่เจียว รสชาติอาหารไม่ตา่ งจากบ้านเราจึงทานได้อย่างสบายใจ มีแต่ น้�ำ พริกทีด่ แู ล้วแปลกๆ จึงไม่มใี ครกล้าทานเพราะกลัวท้องเสีย ระหว่างทางและกลัวเข้าห้องน้ำ�ไม่ได้ จึงไม่มีใครเสี่ยง ผมจึง ไม่ทราบว่ารสชาติเป็นยังไง เสร็จแล้วเดินทางไปชมสระน้ำ�โบราณ เนื่องจากเมือง ตะนาวศรีเคยเป็นเมืองโบราณมาก่อน ที่นี้จึงเคยมีกษัตริย์ มาปกครองจึงมีการสร้างสระน้ำ�ไว้ใช้ จากนั้นจึงไปสักการะ ศาลหลักเมืองตะนาวศรี และศาลนางเอาตา ซึ่งใครผ่านมา ต้องแวะสักการะ มีเรื่องเล่าขานกันมาว่า เจ้าเมืองตะนาวศรี พยายาม หาที่ตั้งเมืองให้เป็นที่มั่นคง แต่ก็ไม่สำ�เร็จมักเกิดเหตุเภทภัย น้ำ�ท่วม โรคระบาด และภัยอันตรายเกิดขึ้นอยู่เสมอ คืนหนึ่ง เกิดนิมติ ว่า ได้ยนิ เด็กๆ เล่นกันแล้วพูดว่าต้องนำ�ผูห้ ญิงทีม่ ชี อื่ แรกว่า “เอา” มาฝังไว้ใต้เสาหลักเมืองจึงจะตัง้ เมืองได้ส�ำ เร็จ ต่อมาเจ้าเมืองได้หญิงสาวผู้หนึ่งชื่อ “เอาตา” ที่ยอม สละชีวิต จึงสามารถตั้งเมืองได้สำ�เร็จ และเมื่อจะเกิดภัยร้าย แรงกับเมืองตะนาวศรี ก็จะมีเลือดไหลออกจากเสาหลักเมือง บอกเหตุให้ชาวเมืองได้รู้ ที่นี่จึงมีเสาหลักเมืองคู่กันกับศาล นางเอาตา ระยะทางจากชายแดนไทยถึงมะริด ราว 200 กิโลเมตร มาถึงตะนาวศรี ประมาณ 100 กิโลเมตร คณะของเราเดินทาง มาได้ครึ่งทางแล้ว สภาพการข้างหน้าจะเป็นอย่างไรติดตาม กันได้ฉบับหน้าครับ


ฉบับประจำ�เดือนกรกฎาคม

เมืองใต้นิวส์ ปีที่ 4 ฉบับที่ 37 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2558

7

คนหัวใจสิงห์.....

อัสนี - วสันต์ โชติกุล

นับเป็นเวลากว่า 30 ปี ทีผ่ ลงานเพลงอย่าง บ้าหอบฟาง น้ำ�เอยน้ำ�ใจ ผักชีโรยหน้า บังเอิญติดดิน หัวใจสะออน ยินดี ไม่มีปัญหา เธอปันใจ ลงเอย คนหลายใจ สิทธิ์ของเธอ อยาก ให้อยูด่ ว้ ยไหม รวมถึง ยินยอม ทีต่ ดิ หูใครหลายๆ คน เพราะ ถือเป็นผลงานเพลงคุณภาพที่ยังหาฟังได้ในปัจจุบัน ทั้งนี้ เนือ่ งจากศิลปินเจ้าของบทเพลงเหล่านี้ หากเมือ่ เอ่ยชือ่ ทุกคน ต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเหล่าแฟนเพลงรุ่นใหญ่ ที่ ชื่นชอบสำ�เนียงการร้องแบบลากเสียงหนักๆ ยาวๆ และคงจะเป็ น ใครไปไม่ ไ ด้ หากไม่ ใช่ พี่ น้ อ งโชติ กุ ล อัสนีและวสันต์ ซึ่งเริ่มมีผลงานเพลงมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 นับจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ที่ทั้งสองพี่น้องยัง โลดแล่นอยู่ในวงการดนตรีอย่างไม่มีเบื่อหน่าย ไม่ว่าจะเป็น ทั้งงานเบื้องหน้าหรืออยู่เบื้องหลังก็ตาม ซึ่งใครหลายคนยัง คงเฝ้ารอและติดตามผลงานเพลงของสองพีน่ อ้ งโชติกลุ มาโดย ตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมาจังหวัด สุราษฎร์ธานี ได้มีโอกาสต้อนรับศิลปินเพลงคุณภาพอย่าง อัสนี-วสันต์ โชติกุล จากค่ายสหภาพดนตรี มาร่วมสร้าง ความสุขให้กับพี่น้องชาวสุราษฎร์ธานีและจังหวัดใกล้เคียง โดยความร่วมมือกันของสมาคมกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสิ ง ห์ ค อร์ ป อร์ เรชั่ น ได้ ร่ ว มกั น จั ด มหกรรมคอนเสิ ร์ ต “คนหั ว ใจสิ ง ห์ ” ขึ้ น ซึ่ ง ถื อ ว่ า เป็ น จั ง หวั ด ที่ 44 ของ ประเทศไทย โดยคอนเสิ ร์ ต ครั้ ง นี้ จั ด ขึ้ น บริ เวณสนาม

ข้ า งโรงแรมวั ง ใต้ เพื่ อ หารายได้ ส มทบทุ น ให้ กั บ กองทุ น สวัสดิการนักกีฬาของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นการ ตอบแทนและเป็นการสร้างขวัญและกำ�ลังใจให้กับนักกีฬา ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ได้ร่วมกันสร้างชื่อเสียงให้กับ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งระดับจังหวัดและระดับประเทศ ทั้งนี้ ในงานคอนเสิร์ตดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 19.00 น. โดยมี นายก่ อ เกี ย รติ์ อิ น ทรั ก ษ์ นายกสมาคมกี ฬ าจั ง หวั ด สุราษฎร์ธานี เป็นประธานในการเปิดงาน พร้อมด้วยผูใ้ ห้การ

สนั บ สนุ น งานดั ง กล่ า วอย่ า งคั บ คั่ ง โดยคอนเสิ ร์ ต ครั้ ง นี้ มีประชาชนและแฟนเพลงของ อัสนี-วสันต์ เข้าร่วมชม กว่า 10,000 คน ทำ�ให้สนามข้างโรงแรมวังใต้แคบไปถนัดตา ทั้งนี้ทางสมาคมกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขอขอบคุณ ผู้ว่า ราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี

ตำ�รวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี องค์การบริหารส่วนจังหวัด สุราษฎร์ธานี เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี สิงห์คอร์ปอร์เรชั่น โรงแรมวังใต้ และผู้ให้การสนับสนุนทุกท่าน รวมถึงพี่น้อง ประชาชน ที่ทำ�ให้เกิดคอนเสิร์ตระดับคุณภาพในครั้งนี้


8

เมืองใต้นิวส์ ปีที่ 4 ฉบับที่ 37 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2558

ฉบับประจำ�เดือนกรกฎาคม

ผลการแข่งขัน แร่นองเกมส์ คัดเลือกภาค 4

ผลการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครัง้ ที่ 44 “แร่นองเกมส์” คัดเลือกภาค 4 ระหว่างวันที่ 25 พ.ค. - 3 มิ.ย. 2558 ณ จังหวัดระนอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยสมาคมกีฬา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สง่ นักกีฬาไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา แห่งชาติ ครั้งที่ 44 คัดเลือกภาค 4 “แร่นองเกมส์” ระหว่าง วันที่ 25 พ.ค. – 3 มิ.ย. 2558 จำ�นวน 28 ชนิดกีฬา โดยมี นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ จำ�นวน 485 คน นั ก กี ฬ าที่ ผ่ า นการคั ด เลื อ กได้ เ ป็ น ตั ว แทนจั ง หวั ด สุราษฎร์ธานี ไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 44 ระดับชาติ ระหว่างวันที่ 11 - 21 ธ.ค. 2558 ณ จังหวัด นครสวรรค์ จำ�นวน 26 ชนิดกีฬา รวมนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ประมาณ 410 คน ประกอบด้วยชนิดกีฬาต่อไปนี้ กรีฑา ว่ายน้�ำ ยิงปืน เทนนิส ยกน้�ำ หนัก วอลเลย์บอลในร่ม มวยไทย สมัครเล่น มวยสากลสมัครเล่น รักบี้ฟุตบอล บาสเกตบอล เปตอง จักรยาน เทควันโด ปันจักสีลัต แบดมินตัน เทเบิล เทนนิส ยิมนาสติก ซอฟท์บอล เรือพาย หมากล้อม คาราเต้โด กีฬาทางอากาศ ซอฟท์เทนนิส เนตบอล เอ็กซ์ตรีม และ ชักเย่อ ทัง้ นีใ้ นบางประเภทกีฬาต้องรอสถิตจิ ากการแข่งขันฯ รอบคัดเลือกระดับภาค ทัง้ 5 ภาค ทัว่ ประเทศไทย เช่น กรีฑา ยกน้ำ�หนัก และยิงปืน เป็นต้น

ประเภทของกีฬาและจำ�นวนนักกีฬาทีไ่ ด้เข้าไปแข่งขัน กีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 44 ระดับชาติ ระหว่างวันที่ 11 - 21 ธันวาคม 2558 ณ จังหวัดนครสวรรค์ ดังนี้ 1. กรีฑา ชาย 30 คน หญิง 30 คน เจ้าหน้าที่ 8 คน รวม 68 คน (รอสถิติจาก 5 ภาค) 2. ว่ายน้ำ� ชาย 1 คน หญิง 2 คน เจ้าหน้าที่ 1 คน รวม 4 คน 3. ยิงปืน ชาย 5 คน หญิง 2 คน เจ้าหน้าที่ 2 คน รวม 9 คน 4. เทนนิส ชาย 6 คน หญิง 6 คน เจ้าหน้าที่ 3 คน รวม 15 คน 5. ยกน้ำ�หนัก ชาย 3 คน หญิง 1 คน เจ้าหน้าที่ 4 คน รวม 8 คน (รอสถิติจาก 5 ภาค) 6. วอลเลย์บอลในร่ม ชาย 16 คน หญิง 16 คน เจ้าหน้าที่ 6 คน รวม 38 คน 7. มวยไทยสมัครเล่น ชาย 1 คน หญิง 4 คน เจ้าหน้าที่ 3 คน รวม 8 คน 8. มวยสากลสมัครเล่น ชาย 2 คน หญิง 1 คน เจ้าหน้าที่ 3 คน รวม 6 คน 9. รักบีฟ้ ตุ บอล ชาย 32 คน หญิง 16 คน เจ้าหน้าที่ 7 คน

รวม 55 คน 10. บาสเกตบอล ชาย 15 คน หญิง 15 คน เจ้าหน้าที่ 8 คน รวม 38 คน 11. เปตอง ชาย 3 คน หญิง 3 คน เจ้าหน้าที่ 3 คน รวม 9 คน 12. จักรยาน ชาย 5 คน เจ้าหน้าที่ 1 คน รวม 6 คน 13. เทควันโด ชาย 7 คน หญิง 6 คน เจ้าหน้าที่ 3 คน รวม 16 คน 14. ปันจักสีลัต ขาย 1 คน เจ้าหน้าที่ 1 คน รวม 2 คน 15. แบดมินตัน ชาย 1 คน หญิง 7 คน เจ้าหน้าที่ 3 คน รวม 11 คน 16. เทเบิลเทนนิส ชาย 4 คน เจ้าหน้าที่ 2 คน รวม 6 คน 17. ยิมนาสติก หญิง 1 คน เจ้าหน้าที่ 1 คน รวม 2 คน 18. ซอฟท์บอล หญิง 14 คน เจ้าหน้าที่ 3 คน รวม 17 คน 19. เรือพาย ชาย 14 คน หญิง 7 คน เจ้าหน้าที่ 4 คน รวม 25 คน 20. หมากล้อม ชาย 5 คน หญิง 5 คน เจ้าหน้าที่ 2 คน รวม 12 คน 21. คาราเต้-โด ชาย 2 คน เจ้าหน้าที่ 1 คน รวม 3 คน 22. กีฬาทางอากาศ ชาย 3 คน หญิง 1 คน เจ้าหน้าที่ 1 คน รวม 5 คน 23. ซอฟท์เทนนิส ชาย 6 คน หญิง6 คน เจ้าหน้าที่ 3 คน รวม 15 คน 24. เนตบอล หญิง 12 คน เจ้าหน้าที่ 4 คน รวม 16 คน 25. เอ็กซ์ตรีม ชาย 2 คน เจ้าหน้าที่ 1 คน รวม 3 คน 26. ชักเย่อ ชาย 10 คน เจ้าหน้าที่ 3 คน รวม 13 คน รวมทั้งสิ้นชาย 174 คน หญิง 155 คน เจ้าหน้าที่ 81 คน รวม 410 คน หมายเหตุ จำ�นวนอาจมีการเปลี่ยนแปลง ตามสถิติการแข่งขัน 5 ภาค


ฉบับประจำ�เดือนกรกฎาคม

80 ปี เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี โดย..ส.ท.ลก พงษ์ศักดิ์ โพธิครูประเสริฐ

ปีพ.ศ. 2553 ผมต้องจารึกว่าเป็นปีทผี่ มดวงตกสุดๆ เหตุการณ์ แรกเกิดขึ้นช่วงบ่ายวันที่ 29 กรกฎาคม ผมถูกจับถึงที่ทำ�งานบริษัท สุราษฎร์มีเดีย จำ�กัด โดนดำ�เนินคดีพร้อมกัน 2 เรื่อง คือ ความผิด ต่อพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม ของวิทยุชุมชน “นิวส์ เอฟ เอ็ม 89 MHz.” และสถานีโทรทัศน์ “สุราษฎร์แชนแนล” ผลของการถูกจับ ทำ�ให้ทมี รักท้องถิน่ ทีก่ �ำ ลังไปได้สวยต้องขาด สือ่ วิทยุและโทรทัศน์ ทีใ่ ช้ในการสร้างกระแสทางการเมือง ต่อมาเช้า วันที่ 4 ธันวาคม จู่ๆ ผมรู้สึกปากเบี้ยวและอาการชาซีกขวา จนต้อง รีบเข้าโรงพยาบาล ปรากฎว่าผมเป็นโรคเส้นเลือดในสมองด้านซ้าย ตีบ ทำ�ให้ผมเป็นอัมพฤกษ์ดา้ นขวา ไม่สามารถทำ�อะไรได้เลย แม้แต่ ดื่มน้ำ�ยังไม่ได้ พูดไม่ชัด แขน และขาขวาไม่มีแรง สภาพในวันนั้นทำ�ให้ผมเข้าใจภาษิตที่ว่า “เคราะห์ซ้ำ�กรรม ซัด” ชีวิตคนเราก็เป็นอย่างนี้เวลาตกต่ำ�มักจะมีอะไรมารุมกระหน่ำ� ทำ�ให้ทกุ อย่างมันเลวร้ายไปเสียหมด ดีทวี่ า่ เวลานัน้ ครอบครัวเอาใจ ใส่ผมอย่างดี และประคับประคองให้ผมผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด ของชีวิตไปได้ แม้ว่าสภาพของผมตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะกลับมาเป็นปกติได้ หรือไม่ แต่หัวหน้ากลุ่มการเมืองทุกคนได้มาเยี่ยมผมและเชิญชวน ให้ผมไปทำ�งานการเมืองด้วย ผมเองก็แปลกใจอยู่ว่าตัวเองยังช่วย ไม่ได้ แล้วจะกลับไปสูเ่ วทีการเมืองได้อย่างไร แต่ละวันนับจากทีอ่ อก จากโรงพยาบาลมาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน จะมีนักการเมืองมาเยี่ยมเยียน ให้กำ�ลังใจทุกวัน ด้วยกำ�ลังใจที่ครอบครัวและเพื่อนๆ มีให้อย่างไม่ขาดสาย ทำ�ให้ผมฮึดสูแ้ ละทำ�ตามทีห่ มอสัง่ อย่างจริงจัง ภายในเดือนเดียวผม เริ่มกลับมาเดินได้เอง ปากหายเบี้ยว แต่ยังพูดไม่ชัด มือเริ่มใช้การ ได้แต่เขียนหนังสือไม่ได้ โชคดีที่สมองยังเป็นปกติ ผมจึงสามารถ ทำ�งานได้แต่รสู้ กึ อึดอัดทีร่ า่ งกายไม่สามารถทำ�ได้ตามทีส่ มองสัง่ การ พอเริ่มเข้า พ.ศ. 2554 การเมืองเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี มา ถึงโค้งสุดท้ายแล้ว เพราะเหลือเวลาอีกไม่กเี่ ดือนจะมีการเลือกตัง้ แล้ว ช่วงทีผ่ มพักรักษาตัวอยูท่ บี่ า้ น ยังมีนกั การเมืองมาเจรจาจัดทีมกันที่ บ้านผมหลายครั้ง แต่สุดท้ายไม่สามารถตกลงกันได้ ทำ�ให้เกิดกลุ่มการเมืองใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่งกลุ่ม ใช้ชื่อว่า “ทีม

เมืองใต้นิวส์

9

ทีมโกฟ้าน

ปีที่ 4 ฉบับที่ 37 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2558

โกฟ้าน” ทีมนี้แปลงร่างมาจากทีมรักท้องถิ่นที่ผมกล่าว ถึงในฉบับที่แล้ว สาเหตุที่เกิดทีมนี้ขึ้นมาเพราะว่าคุณ ประเสริฐ บุญประสพ หัวหน้าทีมรักท้องถิ่น บรรลุข้อ ตกลงเข้าไปเป็นรองนายกเทศมนตรีให้ทีมคนดี จึงมอบ ทีมให้คุณสุฟ้าง แซ่หว่อง รองหัวหน้าทีมดำ�เนินการต่อ เมือ่ เป็นเช่นนี้ คุณสุฟา้ งได้มาปรึกษากันในสมาชิก ซึ่งมีมากจนไม่สามารถนำ�ไปฝากเข้าทีมไหนได้ ในที่สุด คุณสุฟ้าง ตัดสินใจรับผิดชอบกลุ่มแทน แล้วมอบให้ผม เป็นผูอ้ �ำ นวยการทีมและให้ผมเป็นผูจ้ ดั ทำ�นโยบายพร้อม จัดตัวผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ขณะนั้นสมาชิกที่คุณประเสริฐหาเข้ามาในทีมได้ ออกตามไปด้วย มีที่เหลืออยู่ในทีมโกฟ้านส่วนใหญ่ผม เป็นผู้ไปติดต่อเข้ามา แม้ว่าจะมีเวลาให้ผมทำ�งานไม่นาน นัก แต่ทุกอย่างที่ผมได้เตรียมการให้ทีมรักท้องถิ่น ก็ถูก กลับนำ�มาใช้ในทีมโกฟ้าน สาเหตุที่ผมใช้ชื่อทีมโกฟ้าน เพราะเป็นชื่อเล่นของ หัวหน้าทีม ส่วนสโลแกนใช้ว่า “เรียกง่าย ใช้คล่อง ต้อง...โกฟ้าน” ซึง่ สะท้อนจากบุคลิกของหัวหน้าทีมทีเ่ ป็น สมาชิกสภาเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ทีช่ าวบ้านชืน่ ชอบ ในความขยันและเต็มใจรับใช้ประชาชนด้วยความจริงใจ ส่วนสีทีมและที่ตั้งทีมเป็นไปตามอาจารย์ที่โกฟ้าน นับถือ เป็นผู้กำ�หนดมาให้ แม้ว่าจะเป็นทีมที่เพิ่งตั้งได้ไม่ นาน แต่สามารถเปิดกลุม่ ได้กอ่ นใคร โดยเวลา 07.39 น. ของ วันที่ 29 มกราคม 2554 ได้เปิดที่ทำ�การทีมโกฟ้านแถวๆ สี่แยกน้ำ�ค้าง เนือ่ งจากอยูใ่ นช่วงเทศกาลตรุษจีนผมจึงใช้นโยบาย ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีน 9 แห่ง ในเขตเทศบาลนคร สุราษฎร์ธานี พร้อมกับแผ่นพับแนะนำ�สถานทีเ่ พือ่ ใช้เป็น ข้อมูลในการเดินทางไปไหว้ แต่ที่ฮือฮามาก คือท่ายืนใน การถ่ายภาพของโกฟ้านที่ผิดแปลกจากทั่วไป หลังจาก เปิดตัวแล้วเริ่มมีกระแสและมีผู้มาสมัครเข้าทีมมากขึ้น เรื่อยๆ จนได้ผู้สมัครเขตครบอย่างรวดเร็ว จนสามารถ เปิดตัวผู้สมัครได้ก่อนทุกทีม เมื่อทีมโกฟ้านพร้อมแล้ว การหาเสียงเป็นไปอย่าง ราบรืน่ แต่มปี ญ ั หาในทีมบริหารทีห่ าได้ไม่ดพี อ จนปัญญา ที่ผมจะทำ�ได้ เพราะไปทาบทามใครก็ไม่มีใครเชื่อว่าทีม โกฟ้านจะชนะการเลือกตัง้ มีแต่คนจะลงสมัครรับเลือกตัง้ เป็นสมาชิกมากกว่า ขณะเดี ย วกั น เริ่ ม มี ค วามแตกแยกในที ม โกฟ้ า น ระหว่ า งคนของผมกั บ คนของ โกฟ้าน จนในที่สุดผมให้คนของ ผมออกจากทีมทั้งหมด แล้วผม ขอลงสมั ค รเป็ น สมาชิ ก สภา เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และ ให้คนของโกฟ้านมาบริหารทีม แทน แต่สุดท้ายความขัดแย้งไม่ จบ ผมจึงต้องออกจากทีมที่ผม เป็นคนสร้างมา ตอนผมออกมายังไม่มที ไี่ ป ได้แต่เก็บความชอกช้�ำ ระกำ�ใจไว้ คนเดียว จนวันหนึ่งคุณสุชาดา ศิ ล ปพรหมมาศ รองนายก เทศมนตรี น ครสุ ร าษฎร์ ธ านี

มาหาเสียงในหมู่บ้านที่ผมอยู่ และมาเรียกผมให้ช่วยพา เดินในหมู่บ้าน แล้วถามผมว่าทำ�ไมไม่ไปหาเสียง ผมจึง บอกว่าผมไม่มีทีมอยู่แล้ว คิดจะไปสมัครเป็นสมาชิกสภา องค์การบริหารส่วนจังหวัดแก้มืออีกสักครั้ง เมื่ อ คุ ณ อำ � นาจ ศรี วั ช รกาญจน์ ทราบเรื่ อ งนี้ จึงจัดเลี้ยงสามเจ็กที่ภัตตาคารฉ่ายฮวย เพื่อตกลงทาง การเมื อ งให้ น้ อ งชายผม คุ ณ พสุ ธ ร ลงส.ท.แล้ ว ให้ ผมไปลงส.อบจ.ในเขต 2 ไม่ ใ ห้ แข่ ง กั บ คุ ณ ประมุ ท สมบูรณ์ลกั ขณา หรือสจ.ตีใ๋ หญ ทีเ่ ป็นเจ้าของพืน้ ทีเ่ ขต 1 อยูแ่ ล้ว พร้อมกับให้คณ ุ สุดารัตน์ สมบูรณ์ลกั ขณา ขยับ ไปลงเขต 3 แทนซึ่งผู้ใหญ่ทุกคนเห็นชอบด้วย แต่ พ อใกล้ วั น สมั ค ร ปรากฎว่ า น้ อ งชายผมไม่ สบายต้องเข้าโรงพยาบาล ทำ�ให้ต้องเปลี่ยนตัวให้ผม สมัครแทน เมื่อรู้ว่าผมต้องลงแทนน้องชาย คุณภานุ ศรีบุศยกาญจน์ ได้มาชวนผมไปอยู่ทีมคนดี แต่การ เจรจาไม่ส�ำ เร็จ ผมจึงลงสมัครรับเลือกตัง้ เป็นสมาชิกสภา เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ในนามกลุ่มสุราษฎร์ก้าวหน้า ซึง่ ผลการเลือกตัง้ เมือ่ วันที่ 11 กันยายน 2554 ทีมคน ดีชนะ ได้คณ ุ ธีระกิจ หวังมุทติ ากุล เป็นนายกเทศมนตรี ส่วนสมาชิกส่วนใหญ่ได้กลุ่มสุราษฎร์ก้าวหน้า ส่วนทีม โกฟ้านแพ้หมดรูป ทั้งนายก และสมาชิก ต่ อ มาคุ ณ กิ ต ติ โพธิ์ พิ ช ญ์ กุ ล ได้ ล าออกจาก ตำ�แหน่งรองนายกอบจ. เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2556 คุณสุฟา้ ง แซ่หว่อง จึงได้รบั การแต่งตัง้ ให้เป็นรองนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2556 คุณสุฟา้ ง เป็นรองนายกอบจ.ได้ 99 วัน คุณมนตรี เพชรขุ้ม นายกอบจ. ก็ลาออกจากตำ�แหน่ง ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2556 ก่อนหมดวาระ 1 วัน และคุณสุฟ้าง ได้ร่วมทีมสุราษฎร์ร่มเย็น ของคุนมนตรี สู้ศึกเลือกตั้ง นายกอบจ. เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2556 การเลือกตั้งครั้งนั้น ทีมคุณมนตรี พ่ายแพ้หมดรูป ต่ อ คุ ณ ทนงศั ก ดิ์ ทวี ท อง จากพรรคประชาธิ ปั ต ย์ คุณสุฟ้าง จึงเว้นวรรคทางการเมืองอีกครั้ง ต่อมาเมื่อ นายกเป้า ปรับรองนายกใหม่ ก็ได้แต่งตั้งคุณสุฟ้าง แซ่ ห ว่ อ ง เป็ น รองนายกเทศมนตรี น ครสุ ร าษฎร์ ธ านี ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2557 จนถึงปัจจุบัน เป็นการ สิ้นสุดทีมโกฟ้าน แล้วเข้าเป็นทีมคนดี ในการเลือกตั้ง ครั้งต่อไป ที่ยังไม่รู้ว่าจะมีเมื่อไหร่


10

เมืองใต้นิวส์ ปีที่ 4 ฉบับที่ 37 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2558

ฉบับประจำ�เดือนกรกฎาคม

ส.ท. สุราษฎร์ก้าวหน้าคว่ำ�อาคารเรียน ท.1

การประชุ ม สภาเทศบาลนครสุ ร าษฎร์ ธ านี สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 1 ประจำ�ปี 2558 ยื้อกัน ถึ ง 2 วั น สุ ด ท้ า ยไม่ ผ่ า นทั้ ง ค่ า ก่ อ สร้ า งโรงเรี ย น ท่ อ ระบายน้ำ � และต้ อ งถอนญั ต ติ ก ารซื้ อ เสาสนาม แบดมินตัน ทำ�ให้ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2558 ได้มีการประชุมสภา เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ณ ห้องประชุมชั้น 2 สำ�นักงาน เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เริม่ ประชุมเวลา 10.00 น. การประชุม ครัง้ นี้ มีสมาชิกสภาเทศบาล ได้ยนื่ กระทูถ้ ามนายกเทศมนตรี ถึง 5 ท่าน ทำ�ให้การประชุมในวันแรก ต้องใช้เวลาตลอดทั้ง วันเกี่ยวกับการถามและตอบกระทู้ วันที่ 29 พฤษภาคม วันที่ 2 ของการประชุม จึงได้เริ่ม พิจารณาญัตติต่างๆ ซึ่งมีเรื่องสำ�คัญที่ต้องพิจารณาถึง 16 เรื่อง โดยเริ่มจากระเบียบวาระที่ 5 เป็นเรื่องของสำ�นักการ สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ที่ขอโอนงบประมาณรายจ่าย ประจำ�ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 เพื่อซ่อมแซมอาคารศูนย์ บริการสาธารณสุข ฝั่งบางใบไม้ เป็นเงิน 284,000 บาท ซึ่ง มีสมาชิกสภาเทศบาล ได้อภิปรายเล็กน้อยแล้วมีมติเห็นชอบ อย่างเป็นเอกฉันท์ การประชุมเริม่ มีการอภิปรายมากขึน้ ในระเบียบวาระที่ 6 ทีเ่ ป็นเรือ่ งขออนุมตั แิ ก้ไขเปลีย่ นแปลงคำ�ชีแ้ จงงบประมาณ รายจ่ายประจำ�ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ของสำ�นักการ ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องดนตรีสำ�หรับวงมโหรี โดยที่ประชุมได้ อภิปรายเกีย่ วกับการเสนอญัตติทไี่ ม่ระบุชดั เจนว่าจะนำ�ไปใช้ ที่โรงเรียนเทศบาลไหน แต่ในที่สุดที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ อย่างเป็นเอกฉันท์ แต่แล้วได้เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝัน ว่าที่ประชุมจะได้มีมติ ไม่เห็นชอบ ในการลงมติระเบียบวาระที่ 7 เรื่องญัตติขอ อนุมัติจ่ายเงินสะสมเพื่อจ่ายสมทบเป็นค่าก่อสร้างอาคาร เรียนโรงเรียนเทศบาล 5 ซึ่งเรื่องนี้เนื่องจากว่ากรมส่งเสริม การปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ให้เงินอุดหนุนสำ�หรับสนับสนุน การก่อสร้างอาคารเรียนและอาคารประกอบ ให้กับเทศบาล นครสุราษฎร์ธานี เป็นค่าก่อสร้างอาคารเรียน 4 ชั้น 12 ห้องเรียน จำ�นวน 1 หลัง เป็นเงิน 10,328,000 บาท สำ�หรับ โรงเรียนเทศบาล 5 แต่เนื่องจากโรงเรียนเทศบาล 5 มีพื้นที่ไม่เพียงพอที่ จะทำ � การก่ อ สร้ า ง คณะผู้ บ ริ ห ารเทศบาลจึ ง มี ค วามเห็ น ให้ย้ายไปก่อสร้าง ณ โรงเรียนเทศบาล 1 (แตงอ่อนเผดิม วิทยา) บริเวณพรุคลองควายแทน และขอเปลี่ยนแบบการ ก่อสร้างอาคารเรียนมาเป็นแบบแปลนของเทศบาล ซึง่ มีราคา ประมาณการที่ 21,100,000 บาท สูงกว่างบประมาณที่ได้รับ มา 10,772,000 บาท จึงต้องให้สภาเทศบาลอนุมตั ใิ ห้จา่ ยขาด เงินสะสมสมทบค่าก่อสร้างอาคารเรียนดังกล่าว หลังรับทราบหลักการและเหตุผลแล้ว สมาชิกได้สลับ กันอภิปรายอย่างกว้างขวาง เมื่อประธานได้ขอให้ที่ประชุม ลงคะแนน ปรากฎว่ามีสมาชิกเห็นชอบเพียง 6 ท่าน โดย

คุณสันติ นุ้ยเมือง รองประธานสภาเทศบาลสมาชิกกลุ่ม สุราษฎร์ก้าวหน้า ได้ยกมือเห็นชอบ ขณะที่ไม่เห็นชอบถึง 13 ท่าน ทำ�ให้ญตั ตินตี้ ก ต้องกลับไปสร้างอาคารแบบเก่าและ ที่เดิม ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะดำ�เนินการได้ การประชุมเริ่มเคร่งเครียดขึ้น เมื่อเข้าสู่ระเบียบวาระ ที่ 8 เรื่องญัตติขออนุมัติจ่ายเงินสะสมเพื่อเป็นค่าก่อสร้างท่อ ระบายน้ำ�ถนนเมืองใหม่ 5 เนื่องจากถนนนี้มีท่อระบายน้ำ� เพียงด้านเดียว ทำ�ให้การระบายน้ำ�ฝนเมื่อฝนตกหนักน้ำ�จะ ระบายไม่ทันเกิดน้ำ�ท่วมขังเป็นประจำ� คุ ณ วี ร ะพงษ์ เจริ ญ สุ ข สมาชิ ก สภาเทศบาล ที่ รู้ จั ก กั น ในนาม ส.ท.สำ � ลี ได้ เ ห็ น ความเดื อ ดร้ อ นของ ประชาชนจากปั ญ หาน้ำ � ท่ ว ม จึ ง ได้ นำ � เรื่ อ งเสนอต่ อ นายธีระกิจ หวังมุทิตากุล นายกเทศมนตรีเพื่อขออนุมัติ สภาเทศบาลจ่ า ยเงิ น สะสมเพื่ อ ใช้ เ ป็ น ค่ า ก่ อ สร้ า งจำ� นวน 680,000 บาท แม้ ว่ า สมาชิ ก จะอภิ ป รายญั ต ติ นี้ ไ ม่ ม ากนั ก แต่ เ มื่ อ ประธานสภาคุณประเสริฐ ทับทิมทอง ให้ลงมติปรากฎว่า ผลการลงคะแนนเสียงออกมาใกล้เคียงกับญัตติทผี่ า่ นมา โดย มีผู้เห็นชอบเพียง 5 เสียง และไม่เห็นชอบ 13 เสียง ทำ�ให้ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านจากน้ำ�ท่วมขัง ต้องเลื่อนออกไปไม่มีกำ�หนด หน้าฝนที่กำ�ลังจะมาถึงต้อง ทนทุกข์ทรมานต่อไป เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ผ่านถึง 2 วาระ ประธานสภา จึงเสนอให้พักการประชุม เพื่อให้นายกเทศมนตรีได้พูดคุย นอกรอบกับสมาชิกเสียงส่วนใหญ่ทไี่ ม่เห็นชอบ ทีเ่ ป็นสมาชิก กลุม่ สุราษฎร์กา้ วหน้า แต่ไม่เป็นผล ทำ�ให้การประชุมเป็นไป อย่างตึงเครียด ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน จนนายกต้องกล่าวกับที่ประชุมว่า ญัตติที่นำ�เสนอต่อ สภาเทศบาลในเรื่องการก่อสร้างท่อระบายน้ำ�นั้น เป็นการ เสนอมาจากสมาชิกที่ได้ไปสำ�รวจจากความเดือดร้อนของ พี่น้องประชาชนที่มีน้ำ�ท่วมขัง และเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว อย่างเร่งด่วน จึงนำ�เสนอสภาเทศบาลเพือ่ อนุมตั จิ า่ ยเงินสะสม

ซึง่ เทศบาลมีกว่า 200 ล้าน แต่ท�ำ ไมท่านสมาชิกผูท้ รงเกียรติ จึงไม่เห็นชอบกับสิ่งที่ท่านเป็นผู้เสนอ แต่แล้วในการลงมติ ตั้งแต่วาระที่ 9 ถึงวาระที่ 19 ซึ่ง เกี่ยวกับการก่อสร้างท่อระบายน้ำ�ทั้งหมด จะมีคะแนนเสียง เห็นชอบเพียง 5 เสียง ซึ่งเป็นสมาชิกทีมคนดีเท่านั้น ทำ�ให้ การแก้ปัญหาน้ำ�ท่วมขังตามจุดต่างๆ ที่ชาวบ้านเดือดร้อน ต้องล่าช้าออกไปโดยไม่มีกำ�หนด ทั้งนี้ ในระเบียบวาระที่ 11 เรื่องญัตติขออนุมัติจ่าย เงินสะสมเพื่อเป็นค่าก่อสร้างท่อระบายน้ำ�ถนนโฉลกรัฐ 19 คุณสากล เพชรมีศรี สมาชิกสภาเทศบาล ได้กล่าวยอมรับ ว่าตนเป็นผูเ้ สนอให้ท�ำ เอง แต่ตอ้ งการให้ท�ำ ในปีงบประมาณ ปกติ ไม่ใช่จ่ายเงินสะสม ทำ�ให้นายธีระกิจ นายกเทศมนตรี ได้ขอถอนญัตติซึ่งที่ประชุมได้รับรอง จึงไม่มีการลงมติใน วาระนี้ และระเบียบวาระที่ 20 เรื่องญัตติขออนุมัติโอนเงิน งบประมาณรายจ่าย ประจำ�ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ไปตั้ง จ่ายเป็นรายการใหม่ ของสำ�นักการศึกษา เรือ่ งนีเ้ กีย่ วกับการ ที่เทศบาลได้ก่อสร้างสนามแบดมินตันบริเวณสวนหลวง ร.9 ซึ่งได้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดให้บริการ แก่ประชาชน จึงจำ�เป็นต้องจัดซื้อชุดเสาแบดมินตัน แบบมีล้อเลื่อน (ระบบเฟื่องปรับสูง-ต่ำ�) เพื่อใช้สำ�หรับจัดการแข่งขันกีฬา แบดมินตัน และให้บริการประชาชนในการเล่นกีฬาและออก กำ�ลังกาย จำ�นวน 6 ชุด เป็นเงิน 108,000 บาท วาระนี้มิได้ มีการลงมติ เนื่องจากนายกได้ขอถอนญัตติ การประชุ ม สภาเทศบาลครั้ ง นี้ ใช้ เวลา 2 วั น มี ระเบียบวาระการประชุม ทั้งหมด 21 เรื่อง มีเรื่องที่ต้องลงมติ 16 เรื่อง สมาชิกเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ 2 วาระ ไม่เห็น ชอบ 12 วาระ และนายกขอถอนญัตติ 2 วาระ ซึ่งหลังจากที่ประชาชนได้ทราบผลการประชุมแล้ว มี การพูดคุยตามโต๊ะกาแฟ รวมทั้งในโซเชียลมีเดียกันอย่าง มากมาย


ฉบับประจำ�เดือนกรกฎาคม

เมืองใต้นิวส์ ปีที่ 4 ฉบับที่ 37 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2558

11

ชมรมวี อ าร์ พ าณิ ช ย์ สั ม พั น ธ์ ร่ ว มกั บ ชมรมวี อ าร์ เ มื อ งคนดี , มู ล นิ ธิ มุ ฑิ ต าจิ ต ธรรมสถาน, มู ล นิ ธิ กุ ศ ลศรั ท ธาสุ ร าษฎร์ ธ านี ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี, อี อาร์ เอ สุราษฎร์ธานี, หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเมืองใต้นิวส์ และสุราษฎร์ทูเดย์ Magazine

ขอเชิญร่วม

ทำ�บุญถวายเทียนพรรษามหากุศล ๙ วัด

ในวันอาทิตย์ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เส้นทางอำ�เภอเมืองสุราษฎร์ธานี - อำ�เภอบ้านนาเดิม

๑. วัดท่าสะท้อน ๒. วัดอินทการาม ๓. วัดปัฏนาราม (วัดท่าเรือ) ๔. วัดห้วยใหญ่ ๕. วัดทองประธาน ๖. วัดชโลตธรรมาราม ๗. วัดบ้านนา ๘. วัดควนพระ ๙. วัดสวยศรี สอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 081- 597- 9432, 083 -180- 9239, 081- 788- 8195, 091-826-9258, 087-281-1953


12

เมืองใต้นิวส์ ปีที่ 4 ฉบับที่ 37 ประจำ�เดือนกรกฎาคม 2558

ฉบับประจำ�เดือนกรกฎาคม

เอทีเอ็ม ทรัพย์เจริญ 2 หมู่ที่ 3 ต.บางใบไม้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000

คุณธรรมนูญ จันทร์เมือง (นูญ) คุณกรรณิการ์ จันทร์เมือง (แอ)

มือถือ 081 - 6065349 FAX. 077 - 292906

ซื้อ - ขาย

จัดไฟแนนซ์ แลกเปลี่ยน จำ�นำ� ไถ่ถอนรถยนต์

โรงแรมบรรจงบุรี ม่ ห ใ ง ุ ร ป ง ั ร ป ก ั พ ห้ อ ง ชุ ม ะ ร ป ง อ ้ ห ม พ ร้ อ สวย ่ ญ ห ใ ด า น ข ง จั ด เ ลี้ ย ร์ ฎ ษ า ร ุ ส น ใ ด ุ ทั น ส มั ย ที่ ส ึง ถ ้ ด ไ า ้ ค ก ู ล บ ั ร ง สามารถรอ ี่จอดรถ ท ม อ ้ ร พ น ค 0 0 5,0 สะดวกสบาย

เอสที

กาแฟชุมพร ST Chumphon Coffee

มีจำ�หน่ายที่ร้าน

์ ณ ร ภ า อ วิไล

สนใจติดต่อ ฝ่ายขาย 077-264888, 077-489111, 086-4754710

โทร. 077-273352, 081-978 3401


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.