เมืองใต้นิวส์เดือนธันวาคม2559

Page 1

ปีที่ 5 ฉบับที่ 54 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559

สัมภาษณ์หน้า 5

แจกฟ

รี

www.issuu.com/meuangtainews

สุวัธชัย ศรีโพธิ์ชัย

ผู้บริหาร The Port Hostel

อ่านต่อหน้า 10

หอฯ สุราษฎร์รับธงจัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ปี 2560

กฐินสามัคคี วัดไทร

เทีย่ วศรีสะเกษ เชียร์ศรีสะเกษ เอฟซี อ่านต่อหน้า 2

อ่านต่อหน้า 8

บริษัท มิตซูสุราษฎร์ จำ�กัด ผู้จำ�หน่ายรถยนต์มิตซูบิชิในจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมศูนย์บริการมาตรฐาน อะไหล่แท้ ศูนย์เคาะพ่นสีและตัวถัง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

สำ�นักงานใหญ่ (บางกุ้ง) 077- 285038, สาขาเกาะสมุย 077- 418898 สาขาธราธิบดี (แยกวัดมะปริง) 077- 269268


2

เมืองใต้นิวส์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 54 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559

เทยี่ วไป.. ..เชียร์ไป

ฉบับประจำ�เดือนธันวาคม

เที่ยวศรีสะเกษ เชียร์ศรีสะเกษ เอฟซี

โดยพงษ์ศักดิ์ โพธิครูประเสริฐ

ผมเดินทางไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือบ่อยมาก แต่ไม่ ค่อยได้พกั ทีศ่ รีสะเกษ พูดง่ายๆ คือเมืองนีเ้ ป็นเหมือนทางผ่าน ไปอุบลราชธานี ด้วยระยะทางห่างกันเพียง 60 กิโลเมตร คนส่วนใหญ่จึงมุ่งไปพักที่อุบลฯ กันมากกว่า เพราะมีที่พัก ให้เลือกมากและมีที่ท่องเที่ยวที่ดีกว่าอีกด้วย แต่ครัง้ นีผ้ มทำ�ย้อนกลับใช้ศรีสะเกษเป็นทีพ่ กั แล้วค่อย เดินทางไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ซึ่งเหตุผลของผมคงไม่ สามารถใช้ได้กับคนทั่วไป สาเหตุที่ผมทำ�อย่างนี้เพราะว่า ตั้งใจไปเชียร์ทีมศรีสะเกษ เอฟซี ที่เปิดบ้านพบกับทีมใหญ่ เอส ซี จี เมืองทอง ยูไนเต็ด การดูฟุตบอลจึงทำ�ให้ผมต้อง นอนที่นี่ ผมเองไปดู ฟุ ต บอลมาหลายสนาม เห็ น กองเชี ย ร์ ศรีสะเกษที่เดินทางไปชมทีมรักของตนเองแล้วทึ่งมากครับ คนที่ไปใช้ชื่อว่ากรูปรีผลัดถิ่น ฟังแล้วเข้าใจเลยว่าเป็นคน ศรีสะเกษที่ไม่ได้อยู่ในจังหวัดรวมตัวกันไปเชียร์ทีม ผมเห็น หลายสนามแล้วทีท่ มี เชียร์ศรีสะเกษมากกว่าฝัง่ เจ้าบ้าน ผมจึง อยากมาดูที่สนามศรีนครลำ�ดวนสักครั้งว่าแท้จริงเป็นเช่นไร จากสุราษฎร์ธานีขบั รถไปศรีสะเกษไม่ใช่ใกล้ๆ นะครับ แต่ผมชอบขับรถเพราะมีอสิ ระในการเดินทางและเป็นส่วนตัว ที่สุด มาครั้งนี้เลือกพักที่บุญศิริ บูติก โฮเต็ล เป็นที่พัก ตอน แรกคิดว่าจะนอนคืนเดียวดูฟุตบอลเสร็จก็จะไปพักที่อื่นบ้าง แต่ติดใจห้องพักที่สวย ใหญ่ สะอาด และที่สำ�คัญราคาถูก มากครับ ผมกับครอบครัวจึงปักหลักที่นี่ยาวถึง 3 คืนเลย ครัง้ นีจ้ งึ มีเวลาเทีย่ วศรีสะเกษได้เต็มที่ สิง่ แรกทีอ่ ยากทำ� คือการดูฟุตบอล เนื่องจากเป็นเกมใหญ่คนดูมาก ผมต้องไป ต่อคิวซือ้ ตัว๋ ตัง้ แต่บา่ ย ได้แล้วสบายใจไปเทีย่ วต่อได้ ตอนแรก ไปซื้อที่ทำ�การสโมสรตั๋วหมดผมใจเสียเลยครับ ขับรถมาตั้ง ไกลถ้าอดดูคงเสียเที่ยวแน่ แต่ยังดีที่มีตั๋วเหลือมาขายหน้า สนาม ที่ร้านค้าสโมสรตั้งอยู่ในปั๊มน้ำ�มันปตท.มีสินค้าหลาก หลายมาก แต่ไม่ถูกใจ ผมเลยตัดสินใจซื้อเคสโทรศัพท์มา เป็นของที่ระลึก เสร็จแล้วกลับมาที่สนามวันนั้นมีการแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิงอายุ 19 ปี ที่อาคารวีสมหมายติดกับสนาม ฟุตบอล ปรากฏว่า ตั๋วหมด อดดู ผมจึ ง ไปเที่ ย วศู น ย์ แ สดงพั น ธ์ุ สั ต ว์ น้ำ � เทศบาลเมื อ ง ศรีสะเกษ ซึง่ มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่เป็นทีพ่ กั ผ่อนคลายร้อน ได้ ที่นี่มีอุโมงค์ปลาให้ชมด้วย ใกล้ๆ กันมีหอคอยสร้างเสร็จ แล้ว แต่ไม่ทราบว่าทำ�ไมไม่เปิดบริการ มีเวลาเหลือ ผมจึงไปไหว้พระธาตุเรืองรองอยูน่ อกเมือง ไปหน่อยหนึ่ง แต่ใครมาเมืองนี้แล้วต้องไปไหว้ให้ได้ วัดนี่มี

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะมากมาย เดินเที่ยวกันเหนื่อย ยังไงก็ ต้องขึ้นไปกราบพระธาตุให้ได้ และอี ก วั ด ที่ พ ลาดไม่ ไ ด้ คื อ วั ด มหาพุ ท ธาราม พระอารามหลวง หรือ วัดพระโต ทีเ่ ป็นวัดสำ�คัญเก่าแก่คบู่ า้ น คูเ่ มืองศรีสะเกษมาแต่โบราณ หลวงพ่อโตตัง้ อยูใ่ นวิหาร องค์ หลวงพ่อปิดทองสวยงาม และวัดนี้ตั้งอยู่ในเมืองจึงสะดวก ที่จะไปกราบไหว้ และแล้วก็ถึงเวลาที่ผมรอคอยที่จะได้ดูฟุตบอลคู่สำ�คัญ แต่ก่อนแข่งฝนตกหนักมากจนน้ำ�เจิ่งนองไปหมด ทั้งเขต เทศบาลเมืองศรีสะเกษ แม้แต่สนามแข่งก็มีน้ำ�ท่วมขังหลาย จุด ผมถามลูกชายว่าจะไปดูไหม เพราะภรรยากับลูกสาว ขอกลับไปพักที่โรงแรม ด้วยว่ามาไกลมาก ยังไงก็ตอ้ งไปดูให้ได้ ผมคิดว่าฝนตก หนักมากขนาดนี้ คงมีคนมาดูนอ้ ยแน่ๆ แต่ผดิ คาดครับ รถติด ยาวเป็นกิโล จนผมต้องจอดรถริมถนนแล้วเดินกางร่มลุยน้ำ� ท่วมเข้าไปสนาม เห็นกองเชียร์ที่ล้นสนามแล้วปลื้มใจแทน นักเตะทั้ง 2 ทีม ผมนับถือคนศรีสะเกษมากครับ ที่มีใจรักกีฬา ผมเห็น ทีส่ นามวอลเลย์บอลเมือ่ กลางวัน แล้วมาเห็นทีส่ นามฟุตบอล ท่ามกลางฝนทีต่ กหนักตลอดเวลาการแข่งขัน แต่กองเชียร์ยงั นั่งให้กำ�ลังใจตลอดจนจบการแข่งขัน แม้วันนั้นทีมศรีสะเกษจะแพ้ และมีโอกาสตกชั้นสูงมาก แต่เมื่อจบฤดูกาลแล้ว ปรากฏว่า ทีมกรูปรีอันตรายรอดตาย ได้ ผมดีใจมากครับ เพราะจะได้มโี อกาสดูเกมส์ดาร์บร้ี ะหว่าง ศรีสะเกษพบกับน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้น อุบล ยู เอ็ม ที ผมว่า คงเป็นวันที่สนามแตกแน่ๆ เพราะทั้งสองจังหวัดนี้อยู่ติดกัน คงมีแฟนคลับของทั้ง 2 ทีมตามมาเชียร์มากแน่นอน ผมเห็นแล้วว่าวันนีว้ งการฟุตบอลภาคอืน่ ๆ ไปไกลมาก เมือ่ หันมาดูภาคใต้บา้ นเราแล้วห่างไกลเขาเหลือเกิน วันนีเ้ รา ไม่มีทีมที่เตะในลีกสูงสุดเลย เราไม่มีใครสร้างสนามที่ใช้แข่ง ฟุตบอลจริงๆ สักสนาม และยังไม่รู้ว่าเราจะไปถึงจุดนั้นได้ อย่างไร การมาศรีสะเกษครั้งนี้ ยังมีที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ผม

ตั้งใจไปให้ได้ เพราะไม่เคยไปมาก่อน นั่นคือ ผามออีแดง ซึ่ง อยู่ห่างจากตัวเมืองเกือบร้อยกิโลเมตร แต่มาแล้วไม่ผิดหวัง ทิวทัศน์สวยงาม อากาศเย็นสบาย ถนนหนทางก็เรียบดี มาถึงที่นี่ต้องเดินขึ้นไปให้ถึงจุดชมวิวและถ่ายรูปกับ ป้ายผามออีแดง เพือ่ บอกให้ทราบว่าได้มาแล้ว แต่ยงั มีอกี จุด ที่ต้องไม่พลาด คือ การลงไปดูภาพแกะสลักนูนต่ำ�ที่เป็น UNSEEN THAILAND ซึง่ เป็นภาพสลักรูปบุคคลในท่านัง่ 3 คน บนผาหินทราย ซึ่งสมบูรณ์และสวยงามมาก เสียดายที่วันนี้ไม่สามารถเดินไปชมปราสาทเขาพระ วิหารได้ ได้แต่มองผ่านทางกล้องส่องทางไกล ยิ่งได้ฟังผู้สูง อายุที่ขึ้นมาเที่ยว เล่าให้ฟังถึงอดีตที่เคยเดินเท้าไปเที่ยวได้ แล้วยิง่ เสียดาย ผมคงต้องคอยฟังข่าวว่าเมือ่ ไหร่เปิดให้เทีย่ ว คงมี โ อกาสได้ ก ลั บ มาเที่ ย วศรี ส ะเกษและเชี ย ร์ ศ รี ส ะเกษ เอฟซี อีกสักครั้งนะ


เมืองใต้นิวส์

ฉบับประจำ�เดือนธันวาคม

ปีที่ 5 ฉบับที่ 54 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559

พลังพลเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย “ทำ�ไม? เราต้องปฏิรูปประเทศไทย” (1)

ตามทีค่ ณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการเมืองภาค พลเมือง ได้มีมติให้จัดการสัมมนา เรื่อง “พลังพลเมืองเพื่อ การปฏิรูปประเทศไทย” ใน 5 ภูมิภาคของประเทศไทย ในปี 2559 จึงมีประเด็นที่น่าสนใจว่า “ทำ�ไม? เราจึงต้อง ปฏิรูปประเทศไทย” ซึ่งปัญหาของประเทศไทยมีมากมาย โดยประชาชนภาคพลเมืองของประเทศไทย อาจจะคิดไม่ถึง บางปัญหาก็ฝังรากลึกมานานจนเกือบจะแก้ไขไม่ได้ เช่น ความไม่เป็นธรรมในสังคม อันเกิดจากระบบ “อุปถัมภ์” ที่ อยูค่ กู่ บั สังคมไทยมาอย่างยาวนาน หรือปัญหาของผูม้ อี �ำ นาจ ในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ได้คิดแก้ไข ปล่อยปละ ละเลย จนทำ�ให้ประชาชนเดือดร้อน ซึ่งอาจจะมีประเด็น ปัญหาต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่นำ�ไปสู่คำ�ถามว่า “ทำ�ไม? เราต้องปฏิรูปประเทศไทย” สำ�หรับ แนวทางที่ต้อง “ปฏิรูปประเทศไทย” พอ จะมีหลายแนวทาง ในแต่ละเรื่อง ในภาพรวม การปฏิรูป แนวทางแรกที่น่าสนใจเป็นอันดับแรก คือ “ความไม่เป็น ธรรมในสังคม” โดยเฉพาะเป็นเรื่องที่สำ�คัญในสังคมไทย ในหลายๆ ครั้ง หรือหลายรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ได้ให้ความ สนใจในนโยบายด้านนี้มากนัก ปล่อยให้ปัญหา “ความไม่ เป็นธรรมในสังคม” เกิดขึ้นจนเป็นเรื่องปกติ ชนชั้นใด มีอำ�นาจก็จะเป็นผู้ได้เปรียบ ส่วนชนชั้นที่ด้อยโอกาสทาง เศรษฐกิจ ต้องยอมรับและจำ�ทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตน ใน

เมืองใต้นิวส์

3

ความไม่เป็นธรรมทีเ่ กิดขึน้ ดัง้ นัน้ ลักษณะของสังคมไทย จึง การสนับสนุนผู้ใดต้องมีผลประโยชน์ตอบแทน นอกจากการ เป็นสังคมแบบ “ทุนนิยม” มองคุณค่าทางวัตถุและเงินตรา เป็นพรรคพวกกันแล้ว กลายเป็นการทำ�ความดีของผูน้ นั้ ทัง้ ๆ เป็นใหญ่ ซื้อได้ทุกอย่าง หรือที่เรียกว่า “สังคมประเทศ ที่เป็นสิง่ ที่เลวร้ายของสังคม ด้อยพัฒนา” หรือทีส่ หประชาชาติเรียกแบบให้ดแู ล้วสวยหรู หน่อย ว่า “สังคมประเทศทีก่ �ำ ลังพัฒนา” ประเทศไทย มี คนรวยประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ผูม้ รี ายได้ปานกลาง ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ และผู้ที่มีรายได้ต่ำ� ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะผูท้ มี่ รี ายได้ต� ่ำ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ช่วง คือ ราย ได้ต่ำ�ขั้นสูง รายได้ต่ำ�ขั้นปานกลาง และรายได้ต่ำ�ขั้นล่างสุด ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรหรือมากกว่านัน้ ดัง้ นัน้ จึงเห็นได้ว่าสภาพสังคมไทยที่เป็นอยู่มีการเอาเปรียบทาง ชนชั้น ในแทบจะทุกเรื่องของการดำ�เนินชีวิตของประชาชน ที่พบเห็นได้อย่างทั่วไป อีกประเด็นใน “ระบบอุปถัมภ์” เป็นอีกสาเหตุของเรือ่ ง ความไม่เป็นธรรมในสังคมไทย ซึ่งอยู่คู่กับสังคมไทยมาเป็น ระยะเวลาอันยาวนาน เมื่อประเทศมีความเจริญมากขึ้น ตาม อารยธรรมที่เปลี่ยนไปของโลก แทนที่ระบบนี้จะลดน้อยลง กลับแข็งแรงขึน้ เป็นตามลำ�ดับ จนกลายเป็นเรือ่ งธรรมดาของ สังคม โดยเฉพาะสังคมไทยยอมรับคำ�ว่า “พรรคพวก” ไม่วา่ จะเป็นคนในชนชัน้ ใด หรือมีอาชีพอะไร ต้องมี “พรรคพวก” หรือ “ผู้สนับสนุน” มิเช่นนั้น จะเดินไปสู่ความรุ่งเรือง หรือความสำ�เร็จได้ยาก ในปัจจุบันการช่วยเหลือหรือการให้

หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายเดือน สำ�นักงานเลขที่ 157 ถนนชนเกษม ตำ�บลตลาด อำ�เภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000

บรรณาธิการบริหาร/ผู้พิมพ์/ผู้โฆษณา : ชยุตม์ เชาวน์ณัฐเศวตกุล E-mail : chayutkok@gmail.com, Facebook : หนังสือพิมพ์เมืองใต้นิวส์

ปีที่ 5 ฉบับที่ 54 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559

www.issuu.com/meuangtainews

ติดต่อลงโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 081-9783401, 089-7258911


4

เมืองใต้นิวส์

ฉบับประจำ�เดือนธันวาคม

ปีที่ 5 ฉบับที่ 54 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559

สังคม...เมืองคนดี อินทรีย์ บ้านดอน

ธีระกิจ หวังมุทิตากุล

เมือ่ วันอังคาร ที่ 22 พฤศจิกายน 2559 เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ได้จัดพิธีเปิดการแข่งขัน กีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แห่งประเทศไทย รอบคัดเลือก ระดับภาคใต้ ครั้งที่ 34 ประจำ�ปีการ ศึกษา 2559 “บ้านดอนเกมส์” โดยมีนายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฏร์ธานี เป็นประธานในพิธี

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2559 นายธีระกิจ หวังมุทิตากุล นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมเซ็นสัญญาบันทึกข้อตกลง (MOU) การดำ�เนินงานพัฒนานโยบายสาธารณะเพือ่ สุขภาพ ในการจัด ทำ�ธรรมนูญสุขภาพระดับพืน้ ทีแ่ ละการประเมินผลต่อสุขภาพ (ปี 59-60)

องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำ�โดย นายทนงศักดิ์ ทวีทอง นายกอบจ.สุราษฎร์ธานี และคณะกรรมการขับเคลือ่ นโครงการ การจัดการศึกษาเพื่ออาชีพ ประชุมร่วมกับ สสค. ม.ธุรกิจบัณฑิต และ ม.ราชมงคลล้านนา จ.ตาก ร่วมแลกเปลีย่ นเรียนรู้ แนวคิดการบูรณาการ ศึกษาในการพัฒนากำ�ลังคน เตรียมความพร้อมเข้าสู่อาชีพ ของ จ.ตาก และอภิปรายการจัดทำ�แผนการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพ จ.สุราษฎร์ธานี

เมื่อวันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2559 ณ ศาลากลางจังหวัด สุราษฎร์ธานี นายธีระชัย ศรีโพธิ์ชัย ประธานหอการค้าจังหวัด สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยคณะกรรมการหอการค้า กลุ่ม YEC ร่วม กิจกรรม “รวมพลังแห่งความภักดี” โดยได้ร่วมออกบูธจำ�หน่าย ข้าวสารจากจังหวัดอุบลราชธานีและน้ำ�มันพืชราคาถูก

ประสิทธ์ ทับทิมทอง

สุชาญ ทวิชสังข์

สมบูรณ์ สุวรรณบุตร

ประกิต ประสิทธิ์ศุภผล วรภรณ์ คงอุดหนุน

เมืองใต้นิวส์ฉบับประจำ�เดือนธันวาคม ปี 2559 เป็นฉบับส่งท้ายปีเก่า 2559 ต้องถือว่าในปี 2559 ที่ผ่านมา หลายๆ เหตุการณ์ ไม่ว่าทั้งการเมืองท้องถิ่น เศรษฐกิจของสุราษฎร์บ้านเรา ทั้ง 3 ไตรมาส รวมทั้งไตรมาสที่ 4 มีอาการแบบ เอนไป เอนมา ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า “ทำ�มาหากินแสนยากเข็ญ” เกิดอาการชักหน้าไม่ถึงหลัง ชักหลังไม่ถึงหน้า ยุคนี้ ทำ�มาหากินพอได้รับประทานไม่เป็นหนี้ก็ถือว่าเป็นบุญหนักหนาแล้ว หากจะมาเรียงข่าวคราวในวงการเมืองท้องถิ่นของบ้านเราแห่งเมืองร้อยเกาะ ก็ถือว่า ในรอบปี 2559 ที่ผ่านมา มี สีสันพอสมควร แม้ว่าจะไม่มีศึกเลือกตั้ง โดย “รักษาการ” ตามแบบฉบับ ของ “คสช” หาก “ท่านผู้บริหาร ฝ่ายนักการ เมือง” ไม่เกิดพลาดพลั้งสะดุดขาเก้าอี้ของตนเองหรือโดนคำ�สั่งปังตอตามแบบฉบับมาตรา 44 ก็คงนั่งทำ�งานเพื่อบ้านเพื่อ เมือง แบบสอ บอ มอ สบายบรือ๋ เริม่ จากสนามอย่างเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี “ทำ�เนียบบ้านดอน” ทีท่ มี สุราษฎร์กา้ วหน้า สีชมพูของหญิงแกร่ง สมบูรณ์ สุวรรณบุตร แห่งวังมะขามเตี้ย ที่ชูนักธุรกิจใหญ่แห่ง “กูรูโลจิสติกส์แห่งลุ่มน้ำ�ตาปี” อย่าง ประกิต ประสิทธิ์ศุภผล (เสี่ยหลี) มาเป็นพ่อทัพของทีม แต่จะเป็นที่แน่นอนตลอดไปหรือไม่ คงต้องติดตามความ เคลื่อนไหวหรือกระแสของการเตรียมกลุ่มเตรียมทีม ที่ยังจะชูชื่อเสียงเรียงนามนี้ตลอดไปหรือไม่ ส่วนทีมคนดี (ต้องซือ่ สัตย์สฟี า้ ) ของธีระกิจ หวังมุทติ ากุล (เสีย่ เป้าแห่งคุม้ ศุขเจริญ) ต้องถือว่าเข้าวินมาเป็นนายกฯ แห่ง “ทำ�เนียบบ้านดอน” แบบ “ข้ามาคนเดียว” แม้ว่าจะมี ส.ท. ในมุ้งของตนเองแห่งทีมเมืองคนดี (ต้องซื่อสัตย์สีฟ้า) เข้ามาในทำ�เนียบบ้านดอนบ้างก็ตาม แต่กต็ อ้ งฝ่าฟันอุปสรรคอยูห่ ลายครัง้ หลายครา เมือ่ เปิดศึกอภิปรายในสภา “ทำ�เนียบ บ้านดอน” ต้องกางตำ�ราป่วนแบบฉบับสามก๊กเล่นเกมกันอย่างถึงพริกถึงขิงอภิปรายกันแบบเก็บทุกตัวอักษรทุกบรรทัด ของญัตติอภิปรายในสภาบ้านดอนมาช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องปลูกต้นเงาะโรงเรียนบนเกาะกลางถนน เป็นประเด็นฮอตฮิตเป็นกระแสต่อการติดตามของการทำ�งานของฝ่ายบริหารที่ผ่านมา ส่วนอีกสนามทีอ่ ยูใ่ กล้ๆ กับเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี (ทำ�เนียบบ้านดอน) อย่าง “เทศบาลตำ�บลวัดประดู”่ (ทำ�เนียบ แห่งท่ากูบหรือเซนกูบ) ต้องถือว่ามีสีสันเช่นเดียวกัน เมื่อคนใจใหญ่แต่ชื่อเสียงเรียงนามไม่ใหญ่ วรภรณ์ คงอุดหนุน (เสี่ยเล็กแห่งคุ้มท่ากูบแห่งสระลานชล) ประกาศความพร้อมแบบด้วยแรงแห่งความปรารถนาที่จะลงสู้ศึกทำ�เนียบท่ากูบ หรือเซ็นกูบ ซึ่งก่อนหน้านั้น ประสิทธิ์ ทับทิมทอง (สจ.) น้องรักของหญิงแกร่ง สมบูรณ์ สุวรรณบุตร แห่งวังมะขามเตี้ย ทีมสุราษฎร์ก้าวหน้าสีชมพู ก็ประกาศถึงความสนใจที่จะลงสู้ศึกสนามนี้ด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามการเมืองสนามนี้ คงต้องมารอดูกันว่า “บ้านหลังหนึ่งกับอีกบ้านหลังนั้น” จะแสดงนัยสำ�คัญทางการเมืองแบบแสดงอาการแบบฉบับ “บ้านหลังหนึ่งกับอีกบ้านหลังนั้น” เป็นเช่นไร โดยเฉพาะ สนามการเมืองท้องถิ่นเทศบาลตำ�บลวัดประดู่ (ทำ�เนียบท่ากูบหรือเซ็นกูบ) เป็นสนามแบบ “ศึกสาย เลือด” ของตระกูลทวิชสังข์ มาหลายครั้งในสนามนี้ เพราะทุกครั้งในศึกเลือกตั้งที่ผ่านมาต้องมีคนในตระกูลทวิชสังข์ ร่วม กลุ่มหรือร่วมทีมแทบจะทุกครั้งในศึกเลือกตั้งในสนามนี้ ฉะนั้นคงต้องรอดูกันว่าจะมีทายาทของ ตระกูลทวิชสังข์ ไปร่วมกับ ทีมใดบ้าง เพราะสนามนี้ ในอนาคตมีโอกาสที่น่าสนใจเพราะมีพื้นที่ที่รอการพัฒนาและกำ�ลังขยายตัวอย่างมาก ทั้งนี้และ ทั้งนั้น มีกระแสแว่วๆ ออกมาแบบกระซิบแล้วว่า “ลูกหลานของตระกูลทวิชสังข์” มีโอกาสที่จะปรากฎชื่อเสียงเรียงนาม แล้วในทีมหนึ่งส่วนชื่ออะไรคงต้องติดตามกันต่อไป โดยเฉพาะ สุชาญ ทวิชสังข์ (ผู้ใหญ่ชาญแห่งวัดประดู่) ที่ยังรักษาการตำ�แหน่งนายกเทศมนตรีตำ�บลวัดประดู่ แบบ ฉบับ คสช. อยู่ในปัจจุบันหลังจากความแนบแน่นแบบชนิดแบบ ใจต่อใจ กึ๋นต่อกึ๋น ในอดีตกับวังลิโด้สุดหล่อ ยุครุ่งเรือง ในอดีต ซึ่งปัจจุบันเริ่มทิศทางแนวโน้มทางการเมืองในท้องถิ่นทำ�เนียบท่ากูบหรือเซ็นกูบ ที่มีนัยทางการเมืองที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะขั้วการเมืองในอนาคต น่าติดตามอย่างยิ่ง บวกกับนัยทางการเมืองที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ที่จะพินิจ วิเคราะห์ ได้ประมาณหนึ่งว่า “ไผเป็นไผ” ให้มันรู้แจ้งเห็นแจ๋ ว่า โอเค ซิกาเเร็ต แบบชัวร์ๆ ชิวๆ ล้านเปอร์เซ็นต์ ส่วนอีกสนามเลือกตั้งอย่างเทศบาลตำ�บลท่าทองใหม่ หลังจาก อำ�พนธ์ เพชรชู (นายกฯ โหร่ง) ผู้ได้รับชัยชนะ ในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ด้วยคะแนน 2,019 คะแนน โดยเฉือนชนะแชมป์เก่า ศุภชัย วิชัยดิษฐ (อดีตนายกฯ ล้าน) แบบขาดลอย ซึ่งได้คะแนนเพียง 997 คะแนน เท่านั้น ส่วน โกสีย์ บุญเจริญ ผู้สมัครแข่ง ตำ�แหน่งนายกฯ ได้คะแนนเพียง 354 คะแนน เท่านั้น โดยการเลือกตั้งครั้งนั้น ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า นายกฯ ล้าน ศุภชัย วิชัยดิษฐ จะพ่ายแพ้มากมายถึงขนาดนั้น เป็นการแสดงถึงกระแสของการอยาก “เปลี่ยนแปลง” ผู้ที่จะมาเป็น นายกเทศบาลตำ�บลท่าทองใหม่ จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามแต่ผลในการเลือกตั้งครั้งนั้น ก็พอจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า “หากผู้ใด ก็แล้วแต่ เข้ามานั่งเก้าอี้นายกฯ” เข้ามาบริหารเทศบาลตำ�บลท่าทองใหม่ (ทำ�เนียบแห่งเมืองห่อหมก) แล้ว “บ่อมิไก๊” ไม่มีผลงานอยู่บริหารแบบ “ขาดกุนซือ” ที่แนะนำ�ทำ�งานแบบไม่เข้าตาของสายตาประชาชนชาวบ้านก็จะ โบกมือ “บ๊ายบาย” ท่านแน่นอน โดยเฉพาะระยะเวลาในช่วง ปี 2559 ใกล้ทจี่ ะครบ การทำ�งานแบบ “ครบเทอม” สีสนั สนามการเมืองของ “ทำ�เนียบ เมืองห่อหมก” เริ่มมีสีสันหลังจากที่ อำ�พนธ์ เพชรชู (นายกฯ โหร่ง) นั่งเก้าอี้นายกฯ เกิดอาการอึดอัด เอ็นเกือบขาด เกิดอาการอึดอัด แน่นอก ทำ�งานค่อนข้างแบบเล่นเครื่องดนตรี คนละจังหวะ ไม่สามารถทำ�งานแบบ “ทีมเวิร์ค” ได้ดี เท่าทีค่ วร กอปรด้วย ช่วงระยะหลัง มีกระแสของการเคลือ่ นไหว การจัดทัพจัดกลุม่ หรือจัดทีมขึน้ มาทีมหนึง่ โดยมี ผูท้ จี่ ะอาสา มาลงชิงชัยตำ�แหน่ง “นายกฯ ทำ�เนียบเมืองห่อหมก” ซึ่งเป็นคนหนุ่มไฟค่อนข้างแรงพอสมควรนามอักษรว่า “สอ เสือ” และผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังหรือเบื้องหน้าก็มีนามอักษรว่า “สอ เสือ” เช่นเดียวกันทำ�เอากระแสคลื่นการเมืองท่าทองใหม่ มีสีสันขึ้นมาทันที คงต้องติดตามกันต่อไปว่า “ผู้ที่จะลงสนามนี้ จะชื่อเสียงเรียงนาม” กี่ท่านที่สนใจจนถึงวันศึกเลือกตั้ง ในอนาคตที่ไม่ช้าหรือเร็วคงน่าติดตามสนามนี้


ฉบับประจำ�เดือนธันวาคม

5

เมืองใต้นิวส์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 54 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559

สุวัธชัย ศรีโพธิ์ชัย

ผู้บริหาร The Port Hostel

ใกล้สิ้นปีแบบนี้ การท่องเที่ยวย่อมคึกคัก สัมภาษณ์ พิ เ ศษฉบั บ เดื อ นธั น วาคมนี้ ถื อ โอกาสไปสั ม ภาษณ์ คุณสุวัธชัย ศรีโพธิ์ชัย ผู้บริหาร The Port Hostel โรงแรม น้องใหม่ของเมืองสุราษฎร์ธานี ว่าแล้วจะช้าอยูไ่ ย ไปติดตาม กันได้เลย ทำ�ไมถึงมาเปิดธุรกิจ The Port Hostel ? ก็ ต้ อ งบอกทุ ก ท่ า นก่ อ นว่ า แต่ เ ดิ ม บ้ า นเลขที่ 4 ถ.ปรีดาราษฎร์ หลังนี้ ผมได้ปล่อยให้มกี ารเช่าตึกมาเป็นเวลา นาน เมื่อมีการใช้งานมามากจำ�เป็นต้องมีการดูแลรักษาตัว อาคาร ประกอบกับว่างเว้นจากผู้เช่ามาระยะหนึ่งแล้ว จึงมา เริ่มคิดว่าเราจะทำ�อย่างไรกับอาคารหลังนี้ดี เมื่อปรึกษากับ หลายๆ ท่าน มีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำ�ว่าน่าจะทำ�เป็นโรงแรม แบบราคาประหยัด ทีน่ กั ท่องเทีย่ วสามารถแวะพักผ่อน ในงบ ประมาณสมน้ำ�สมเนื้อกับการท่องเที่ยวในเมืองสุราษฎร์ธานี ของเรา จึงได้น�ำ แนวคิดดังกล่าวมาต่อยอดและเริม่ ดำ�เนินการ ปรับปรุงตกแต่งอาคารหลังดังกล่าว เมือ่ ประมาณ 3 ปีทผี่ า่ นมา ในขณะเดียวกันที่ตนเองเป็นนักการเมืองท้องถิ่น คือ สมาชิกสภาเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เป็นสมัยที่ 2 ทำ�ให้การ ขยับติดตามธุรกิจด้านนี้มีการขาดช่วง ขาดตอนไปบ้าง แต่ ในฐานะที่ตนเองเคยทำ�ธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์นากุ้งมาก่อน ทำ�ให้เข้าใจว่าถ้าเราเริ่มลงมือทำ�ธุรกิจอะไรก็ตามแต่ ถ้าเดิน ไปไม่สดุ เราก็จะไม่รวู้ า่ เราจะเข้าเส้นชัยในธุรกิจนัน้ หรือเปล่า แต่ ป ระเด็ น หนึ่ ง ที่ ทำ � ให้ ผ มคิ ด เรื่ อ งการทำ � โรงแรมราคา ประหยั ด ก็ เ พื่ อ ที่ จ ะคื น กำ � ไรให้ กั บ ท้ อ งถิ่ น ของเมื อ ง สุราษฎร์ธานีเอง เพราะปัจจุบันนี้คนที่เข้ามาในตัวเมืองเพื่อ ศึกษาเล่าเรียนในวันเสาร์ อาทิตย์ หรือมาติดต่อธุระต่างๆ แล้วต้องการพักแค่ 1 - 2 คืน แต่ไม่ได้มีบ้านเพื่อน หรือญาติ

ในตัวเมือง บางครั้งการที่จะต้องหาที่พักในราคา 1 คืนก็ 400 - 500 บาทขั้นต่ำ�แล้ว ทำ�ให้เราอยากให้คนท้องถิ่นบ้านเรา ได้มีที่พักในราคาถูกด้วย ถือว่ายิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว แนวความคิดในการทำ� The Port Hostel เป็น อย่างไร ? อย่างที่บอกแล้วว่าโรงแรมของเราเป็นโรงแรมในราคา ประหยัด หรือที่เราเรียกว่า Backpack Hotel ที่มีการแบ่ง ที่นอนเป็นล็อคๆ อย่างเป็นสัดส่วน ในต่างประเทศการนอน รวมกันแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะจะสามารถทำ�ให้ประหยัด ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวได้ส่วนหนึ่ง สำ�หรับเดอะ พอร์ต ของผมนั้น จะแบ่งออกเป็น 3 ห้องพัก 1. ห้องเดี่ยว พัก 2 คน ราคาห้องละ 450 บาท ต่อคืน 2. ห้องพักแบบรวมหมู่ 6 คน ราคา 1,200 บาท ต่อคืน เฉลี่ยเพียงแค่ คนละ 200 บาท 3. แบบแบ่งล็อค ราคา 250 บาท ต่อคน ต่อหนึง่ คืน โดย ราคานีเ้ ราไม่มกี ารชาร์จเพิม่ ใดๆ ทัง้ สิน้ รวมค่าผ้าห่ม หมอน ให้ เรียบร้อย เพราะหลายแห่งเขาจะคิดค่าบริการเหล่านีเ้ พิม่ เติม โดยเดอะพอร์ทของเราจะมีทงั้ หมด 5 ชัน้ โดยแต่ละชัน้ จะตกแต่งอย่างมีสีสันที่แตกต่างกันไป โดยชั้น 2 จะเป็นห้อง รวมใหญ่ 6 คน ชั้น 3 จะเป็นห้องแบ่งล็อครวมชายและหญิง ชั้น 4 จะเป็นห้องแบ่งล็อคหญิง และชั้น 5 จะเป็นห้องแบ่ง ล็อคชาย โดยในแต่ละชั้น จะมีห้องเดี่ยวไว้รองรับทุกชั้น แล้วความสะดวกและการรักษาความปลอดภัยของ The Port Hostel เป็นอย่างไร ? เมื่อเราเป็นโรงแรมราคาประหยัด สิ่งที่ตามมาคือเรื่อง ของความปลอดภัย โดยเราจะมีรสิ แบนด์ส�ำ หรับแขกทีเ่ ข้ามา พักทุกคน เสมือนคียก์ าร์ดประจำ�ตัว โดยท่านพักอยูท่ ชี่ นั้ ไหน

ลิฟท์ก็จะอนุญาตให้ท่านขึ้นไปบนชั้นนั้นได้ และเวลาจะเข้า ห้องก็ต้องใช้ริสแบนด์นี้เป็นตัวเปิดประตูเข้าไปได้ ส่วนห้อง รวมและห้องเดี่ยวก็จะมีกุญแจเฉพาะของแต่ละห้องอยู่แล้ว นอกจากนี้เรายังมีกล้องวงจรปิดทุกชั้น ทุกมุม เพื่อบันทึก เหตุการณ์ตา่ งๆ ไว้ตลอด 24 ชัว่ โมงด้วย เรียกได้วา่ เราคำ�นึง ถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลักเลยทีเดียว แล้วมีแผนอนาคตสำ�หรับ The Port Hostel เป็น อย่างไร ? ในอนาคตเรื่องธุรกิจของโรงแรม ก็คงต้องว่ากันไป ตามเนื้อผ้าของธุรกิจ แต่อีกเรื่องหนึ่งคือ ตัวอาคารของผม ชั้นบนสุด เป็นจุดชมวิวของแม่น้ำ�ตาปีอย่างไม่เป็นสองรอง ใคร ลูกค้าสามารถผ่อนคลายในยามเช้า หรือรับบรรยากาศ ยามเย็นได้อย่างเต็มที่ ในอนาคตอยากจะทำ�ร้านอาหารและ เครื่องดื่มเบาๆ ไว้รองรับกลุ่มลูกค้าในลักษณะอย่างนี้ด้วย สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงผูอ้ า่ นเมืองใต้นวิ ส์บา้ ง ? ก็คงต้องฝากโรงแรมเดอะ พอร์ท ไว้ให้เป็นหนึ่งในทาง เลือกที่พักของเมืองสุราษฎร์ธานีด้วย และแม้ว่าผมจะขยับ ขยายงานด้านธุรกิจ และงานเรื่องการเมืองที่ต้องทำ�หน้าที่ รับใช้พนี่ อ้ งประชาชนก็ยงั คงดำ�เนินไปตามปกติเช่นเคย และ ต้องขอบคุณทางทีมงานเมืองใต้นวิ ส์ ทีเ่ ปิดโอกาสให้ได้พดู คุย กับทุกท่านในวันนี้ด้วย ทางทีมงานเมืองใต้นิวส์ ต้องขอบคุณ คุณสุวัธชัย ศรีโพธิ์ชัย ผู้บริหาร The Port Hostel และสมาชิกสภา เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เป็นอย่างสูง ทีใ่ ห้เกียรติสมั ภาษณ์ กับเราในฉบับนี้ สุดท้ายคงต้องกล่าวคำ�ว่า “ส่งท้ายปีเก่า” แด่ท่าน ผู้อ่านทุกท่าน


6

เมืองใต้นิวส์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 54 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559

บอกเก้า

เล่าสิบ

โดย.....เลขาเก้า

สวัสดีครับ สำ�หรับเดือนนีก้ เ็ ป็นเดือนสุดท้ายของปี 2559 คอลัมน์บอกเก้าเล่าสิบ ก็ได้น�ำ เรือ่ งราวต่างๆ มาเล่าให้พนี่ อ้ ง ได้อ่านกันมาตลอดปี 2559 สำ�หรับเดือนพฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา ผมได้ไปประชุมหอการค้าทั่วประเทศที่จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 34 สำ�หรับบรรยากาศท่านผู้อ่าน สามารถติ ด ตามได้ ใ นหน้ า 10 ซึ่ ง ทางคุ ณ พงษ์ ศั ก ดิ์ โพธิครูประเสริฐ รองประธานหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะนำ�มาเล่าให้ทุกท่านได้อ่านกัน สำ�หรับหน้านี้ผมจะนำ� เนื้อหาที่ได้เข้าร่วมประชุมมาให้ทุกท่านได้ติดตามอ่านกัน ว่า ปีนชี้ าวหอการค้าไทยและหอการค้าทุกจังหวัด มีแนวทาง กันอย่างไร ปี 2559 หอการค้าไทยได้กำ�หนดหัวข้อสัมมนาเรื่อง “นวัตกรรม ทำ�จริง สู่ประเทศไทย 4.0” (Executing Innovation toward Thailand 4.0) ซึ่งจัดประชุมใน วันที่ 25 - 27 พฤศจิกายน 2559 โดยหอการค้าจังหวัด พระนครศรีอยุธยา เป็นเจ้าภาพครัง้ ที่ 34 คอลัมน์บอกเก้าเล่า สิบ จะนำ�เนื้อหาที่ได้ประชุมในวันที่ 26 และ 27 พฤศจิกายน 2559 โดยสรุปมาให้ติดตามกันครับ วันเสาร์ที่ 26 มีรายละเอียดหัวข้อของการสัมมนาฯ ของแต่ละท่านมาเรียนให้ทราบดังนี้ ในช่วงเช้าได้มีการ สัมมนาหัวข้อ “Mega Trends และการปรับตัวเข้าสู่ Thailand 4.0” โดยรศ.ดร.เสาวนี ย์ ไทยรุ่ ง โรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การเปลี่ยน แปลงของโลก นักธุรกิจต้องติดตาม Trend (แนวโน้ม)ให้ทนั โดยอาศัยทฤษฎีของ Forst Sullivan ที่ว่ากระแสการ เปลี่ยนแปลงทั่วโลกที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม วัฒนธรรม และชีวติ ความเป็นอยูข่ องคนอย่างหลีกเลีย่ งไม่ได้ เช่น ในปี 2015 หุน่ ยนต์จะมีสว่ นร่วมกับการดำ�รงชีวติ อุปกรณ์ IT สามารถรับรูค้ วามรูส้ กึ ของคน การเปลีย่ นทางการเงินโดย สามารถดำ�เนินการได้บนมือถือ เป็นต้น นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษทั ทรู คอร์ปอเรชัน่ จำ�กัด (มหาชน) กล่าวว่า การปรับตัว ในยุคดิจิตอล แบ่งเป็น 4 ด้าน ได้แก่ การปรับตัวทางด้าน การสื่อสาร การปรับตัวด้านการใช้เครือข่ายเคลื่อนที่ในรูป แบบต่างๆ การเชื่อมโยงเครือข่ายอินเตอร์เน็ต การใช้ระบบ Cloud Computing และการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนั้น 4 Megatrend ที่ไทยมีพื้นฐานและศักยภาพที่จะพัฒนาต่อไป ในอนาคต ได้แก่ BIOTECH ROBOTICS NANOTECH และ DIGITAL ในเวลา 11.00 น. นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีชว่ ยว่าการ กระทรวงมหาดไทย ได้ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ความร่วมมือ ภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อน 4.0 สู่การปฎิบัติ จริง และมอบรางวัล สำ�เภาทอง แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ประจำ�ปี 2559” กล่าวว่า ในปัจจุบันรัฐบาล ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ควรมีการบริหารงานอย่างบูรณาการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถทางการแข่งขัน โดยเริ่มจากการพัฒนาเชิงพื้นที่ของแต่ละพื้นที่ รวมใจเป็น หนึง่ เดียว ไม่แข่งขันกันเอง มีการวางกรอบ Positioning ใน ระดับของจังหวัด กลุม่ จังหวัด และภูมภิ าค การเพิม่ ภาวะผูน้ � ำ การเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดที่จำ�เป็น จะต้องมีวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น ในช่วงบ่ายของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2559 มีการ สัมมนาเชิงปฎิบัติการ 3 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 เรื่อง “การ เชือ่ มโยงในภูมภิ าค CLMVT+” (CLMVT+ : Regional Value Chain Linkage) กลุ่มที่ 2 เรื่อง “องค์กรที่ประสบ

ฉบับประจำ�เดือนธันวาคม

การสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 34 ความสำ�เร็จในสภาวะเศรษฐกิจยุคใหม่” (Successful Enterprise for Modern Environment) และกลุ่มที่ 3 เรื่อง “การสร้างเศรษฐกิจจากวัฒนธรรม” (Cultural Economy) ซึ่งทั้ง 3 กลุ่ม จะมีการสรุปให้ฟังในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2559 โดยดร.เดช เฉิดสุวรรณรักษ์ กรรมการ เลขาธิการหอการค้าไทย ในช่วงเย็นมีการปาฐกถาพิเศษ เรื่ อ ง “อาเซี ย นกั บ อนาคตของเศรษฐกิ จ ไทย” โดย ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการ พัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ท่านกล่าวว่าอาเซียนสำ�คัญ กับเศรษฐกิจไทย อาเซียนจะเติบโตอย่างรวดเร็วโดยช่วงปี 2559 - 2563 โดยกลุ่มอาเซียน จะเติบโตเฉลี่ย 5 - 6% ต่อปี ในขณะทีก่ ลุม่ CLMV จะเติบโตถึง 6.0 - 8.5 % ต่อปี ชนชัน้ กลางในอาเซียนเติบโตอย่างรวดเร็ว เนือ่ งจากการเติบโตทาง เศรษฐกิจและการพัฒนาเมืองซึ่งทำ�ให้เกิดโอกาสทางธุรกิจ สำ�หรับไทย ธุรกิจไทยควรวางกลยุทธ์เติบโตโดยการไปลงทุน ในอาเซียนโดยเฉพาะ CLMV ธุรกิจไทยส่วนหนึง่ ไปลงทุนใน อาเซียน ใช้อาเซียนเป็นฐานการส่งออกและยกระดับการผลิต แม้ว่าอาเซียนจะมีความเสี่ยงมาก แต่บริษัทที่ไปลงทุนใน อาเซียนโดยเฉพาะ CLMV มักจะมีผลประกอบการที่ดี รัฐต้องปรับกลยุทธ์ในการส่งเสริมการลงทุนในอาเซียนให้ เหมาะสม วันที่ 27 พฤศจิกายน 2559 ในเวลา 9.00 น. มีการ ปาฐกถาพิเศษ เรือ่ ง “ยุทธศาสตร์การค้าสู่ Thailand 4.0” โดยดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง พาณิชย์ กล่าวว่า การปรับโครงสร้างประเทศไทย 4.0 เพื่อ ต้องการให้ประเทศหลุดพ้นจากประเทศรายได้ปานกลาง ความเหลื่อมล้ำ� และความไม่สมดุล ซึ่งจะพัฒนาไปพร้อม กับการปฎิรูปประเทศไทยที่มีเป้าหมายสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม โดยการสร้างความเข้มแข็งจาก ภายในขับเคลือ่ นตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผ่าน กลไกประชารัฐ ให้สามารถเป็นประเทศโลกที่ 1 ในศตวรรษที่ 21 โดยการใช้กลไกขับเคลื่อนประเทศสู่ Thailand 4.0 ดังนี้ 1. เตรียมคนไทย 4.0 สู่โลกที่ 1 (สู่ศตวรรษที่ 21) 2. พัฒนา คลัสเตอร์ เทคโนโลยี/อุตสาหกรรม แห่งอนาคต 3. บ่มเพาะ เครือข่ายวิสาหกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม 4. เสริมความ เข้มแข็งเศรษฐกิจภายในผ่าน 18 กลุม่ จังหวัด และ 77 จังหวัด 5. บูรณาการอาเซียน เชื่อมประเทศไทยสู่ประชาคมโลก นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “70 เส้นทางตามรอยพระบาทสู่ประเทศไทย 4.0” กล่าวว่า ประเทศไทยได้ตระหนักถึงความสำ�คัญของการท่องเที่ยว ในฐานะเป็นเครือ่ งมือสำ�คัญในการช่วยรักษาเสถียรภาพและ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยอาศัยข้อได้เปรียบของ ทำ�เลที่ตั้งความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร และความหลาก หลายทางวัฒนธรรม ซึ่งรวมถึงความเป็นไทยเป็นจุดขาย สำ�คัญในการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม การเปลีย่ นแปลงอย่างรวดเร็วซึง่ เป็นผลมาจาก กระแสโลกาภิวัฒน์ ทำ�ให้ไทยต้องปรับตัวเพื่อดึงดูดนักท่อง เที่ยวทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น โดยที่ ผ่านมารัฐบาลได้กำ�หนดเป้าหมายการท่องเที่ยวของไทยไว้ ดร.เดช เฉิ ด สุ ว รรณรั ก ษ์ กรรมการเลขาธิ ก าร หอการค้าไทย นำ�เสนอสรุปผลการสัมมนาหอการค้าทั่ว ประเทศ ครั้งที่ 34 โดยปฎิญญาอยุธยา ดังนี้ 1. หอการค้า ทั่ ว ประเทศ จะสานพลั ง ร่ ว มมื อ ตามแนวทางประชารั ฐ ร่ ว มกั บ ภาคส่ ว นต่ า งๆ ทั้ ง ภาครั ฐ ภาคประชาชน และ

ภาคเอกชน ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ เพื่อลด ความเหลื่ อ มล้ำ � และนำ � พาประเทศสู่ ก ารพั ฒ นาที่ ยั่ ง ยื น (Inclusive Growth) 2. หอการค้าทั่วประเทศจะสนับสนุน ภาครั ฐ ในการขั บ เคลื่ อ นประเทศไทยตามนโยบาย Thailand 4.0 3. หอการค้าทั่วประเทศจะลงมือทำ� นำ� นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนากระบวนการ ทางธุ ร กิ จ ไปสู่ ก ารค้ า และบริ ก าร 4.0 (Trade and Service 4.0) ซึ่งเป็นการค้าและบริการบนระบบอัจฉริยะ (Smart Platform) ทัง้ นี้ การดำ�เนินการดังกล่าวหอการค้าคาด ว่า ช่วยผลักดันให้มูลค่าการค้าและบริการของประเทศไทย เพิม่ ขึน้ จากเดิมอีกอย่างน้อยไม่ต�่ำ กว่าปีละ 50,000 - 100,000 ล้ า นบาท หรื อ ช่ ว ยให้ เ ศรษฐกิ จ ไทยขยายตั ว เพิ่ ม ขึ้ น ได้ ไม่ต�่ำ กว่าปีละ 0.4 - 0.7 % ซึง่ จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทย ในปี 2560 เติบโตที่ระดับ 4.0% สรุปผลการเชิงปฎิบตั กิ ารกลุม่ ที่ 1 กล่าวคือ 1. โครงสร้าง พืน้ ฐาน ผลักดันให้ยกระดับด่านการค้าเพิม่ ขึน้ ขยายเวลาเปิด ด่านการค้าชายแดน 2. ปลดล็อคทางการค้า ใช้เงินสกุลท้องถิน่ ยกเลิก NTM/NTB ผลักดันความตกลง GMS CBTA, การนำ�เข้าสินค้า, ความร่วมมือการขนส่งสินค้า 3. Knowledge Tank ศูนย์รวมข้อมูลการค้า การลงทุนให้กับผู้ประกอบการ ไทย สามารถหาข้อมูลได้ในจุดเดียว 4. การพัฒนาบุคลากร และการศึกษา การพัฒนาผูป้ ระกอบการไทยให้มคี วามพร้อม ในการเข้าสูต่ ลาด CLMV รวมทัง้ บุคลากรในประเทศ CLMV เพื่อรองรับการลงทุนของธุรกิจ 5. การอำ�นวยความสะดวก ด้านการท่องเที่ยว 6. ความร่วมมือระหว่างกัน กลุม่ ที ่ 2 กล่าวคือ 1. สร้างข้อมูลและพัฒนาองค์ความรู้ พั ฒ นาความรู้ ค วามสามารถของผู้ ป ระกอบการด้ า น E-commerce, digitize และการประกอบการโดยมีระบบ Big Data ทีเ่ ข้าถึงได้งา่ ยและเพิม่ จำ�นวนงานวิจยั และพัฒนา 2. เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรม เพิ่มมูลค่าในสินค้า และบริการโดยการใช้นวัตกรรมและเชื่อมโยงนวัตกรรมกับ ภาคการผลิต 3. เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน สร้าง โอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการที่ใช้ นวัตกรรม IDE และ Smart Enterpreneur และคัดเลือกและ ผลักดันแผนงานโครงการที่มีศักยภาพในด้านธุรกิจสำ�หรับ ผู้ประกอบการที่หาแหล่งเงินทุน 4. เอื้ออำ�นวยความสะดวก ทางด้านธุรกิจให้ก้าวไปสู่ประเทศไทย 4.0 เอื้ออำ�นวยความ สะดวกให้กับธุรกิจ (Ease of Doing Business) โดยเฉพาะ นวัตกรรมการวิจยั และพัฒนามากขึน้ 5.สร้างระบบเทคโนโลยี และ digital สำ�หรับธุรกิจยุคใหม่ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ให้สอดรับกับเทคโนโลยีและครอบคลุมทุกพืน้ ที่ รวมถึงพัฒนา ระบบป้องกันความเสี่ยงและปลอดภัยทางด้านเทคโนโลยี เพื่อรองรับการเข้าสู่ประเทศไทย 4.0 กลุ่มที่ 3 กล่าวคือ 1. การปรับเปลี่ยนภาคการบริการ (Service Sector) ของประเทศไทยให้เข้าสู่ Thailand Services 4.0 โดยดำ�เนินการผ่านแนวคิด Cultural Economy 2. ขับเคลื่อนการสร้าง Cultural Economy ผ่านโครงการ ไทยเท่ ทั่ ว ไทย ซึ่ ง เป็ น การจั ด ประกวดโครงการที่ นำ � วัฒนธรรมท้องถิน่ ผนวกกับความคิดสร้างสรรค์มาสร้างสินค้า และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจในพื้นที่แต่ละจังหวัด ทั่วประเทศไทย สำ�หรับฉบับนี้ ท่านผู้อ่านคงได้รับทราบกันแล้วว่า เรา ต้องมีนวัตกรรม นำ�เทคโนโลยีมาใช้ในชีวติ ประจำ�วันมากขึน้ และยังต้องปรับตัวให้ทนั กับการเปลีย่ นแปลงของโลก ก็ขอจบ เพียงเท่านี้ พบกันใหม่ฉบับหน้า ขอให้ทุกท่านโชคดี


ฉบับประจำ�เดือนธันวาคม

เมืองใต้นิวส์

7

ขอเชิญร่วมงานสมโภชเบิกพระเนตร ปีที่ 5 ฉบับที่ 54 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559

9 5 5 2 ม ค า ว น ั ธ น า 2-4 ถ ส ม ร ร ธ บ ว จ ะ ปร ง า ่ ว ส ิ ธ ิ น ล ู ม ณ

อวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ พระแม่กวนอิม ปรางค์ประทานพร และปรางค์ประทานบุตร ในงานมีการสวดเจริญพระพุทธมนต์ สวดสะเดาะเคราะห์, เทพประทับม้าทรง, ลุยไฟ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถ ร่วมบริจาคสมทบทุนได้ที่มูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน + - รักคณิตศาสตร์ x -


8

เมืองใต้นิวส์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 54 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559

หลากเรื่อง เมืองคนดี โดย..ส.ท.ลก พงษ์ศักดิ์ โพธิครูประเสริฐ ตัง้ แต่ตน้ ปี ผมเข้าออกวัดไทรมากกว่าทีไ่ หน เริม่ ตัง้ แต่ ปลายปีทแี่ ล้ว ทีม่ ลู นิธมิ ทุ ติ าจิตธรรมสถาน ตัดสินใจใช้วดั ไทร เป็นสถานที่จัดงานล้างป่าช้า ทำ�ให้ต้องปรับปรุงสถานที่กัน ยกใหญ่ถ้าใครเคยเข้าวัดไทรปีที่แล้วกับปีน้ีจะเห็นชัดว่าวัด ไทรเปลี่ยนไปจนแทบจำ�ไม่ได้ เมือ่ มูลนิธเิ ข้ามาก็ได้กอ่ สร้างอาคารหลังหนึง่ เพือ่ ใช้เป็น สถานทีป่ ระกอบพิธี แล้วยังมีสงิ่ ปลูกสร้างทีไ่ ม่ถาวรอีกหลาย อย่าง ซึ่งเมื่อเสร็จงานแล้วได้รื้อถอนออกไป ด้วยว่าวัดไม่ สามารถนำ�สิ่งเหล่านั้นมาใช้งานได้ คงเหลืออาคารหลังนี้เท่านั้น ที่เป็นถาวรวัตถุที่ทาง มูลนิธิได้มอบให้วัดใช้งานตามประสงค์ของวัด ทางวัดก็ได้ ใช้งานอาคารหลังนี้ในหลากหลายวัตถุประสงค์ จึงได้เรียก อาคารหลังนี้ว่า อาคารเอนกประสงค์ เท่าที่ผมเห็นอาคารหลังนี้ถูกใช้งานบวช ใช้เป็นที่พัก ของคณะเทียนพรรษาจากอุบลราชธานี แล้วล่าสุดยังใช้เป็น ที่ทอดกฐินสามัคคี เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่ง ผมได้มีโอกาสคุยกับคุณจิระวัฒน์ หวังมุทิตากุล ประธาน มูลนิธิมุทิตาจิตธรรมสถาน ท่านได้บอกผมว่า ทางมูลนิธจิ ะมาปรับปรุงอาคารหลังนี้ ให้ทางวัดไทร ตามที่ทางวัดต้องการและจะได้ส่งมอบให้วัด ไทรอย่างเป็นทางการ เพื่อให้วัดได้ใช้ประโยชน์ตามที่วัด ตัง้ ใจไว้ สาเหตุทลี่ า่ ช้า เพราะอาคารหลังนีม้ กี ารใช้งานตลอด เสร็จงานกฐินแล้วจะเข้ามาทำ�ให้จบตามที่วัดเสนอมา ผมเองก็ดใี จทีม่ สี ว่ นช่วยวัดไทรในการดำ�เนินการต่างๆ ไม่ว่างานล้างป่าช้า งานรับคณะเทียนพรรษา แต่งานที่ผม รับเต็มๆ ทุกปี คือ งานวันคล้ายวันมรณภาพหลวงพ่อฉุย วันที่ 2 กันยายน ของทุกปี ผมจัดมาติดต่อกันเป็น 10 ปีแล้ว ปีนี้เป็นปีที่ 43 ของการมรณภาพ ประจวบกับได้มีการ รื้อหอฉันและโรงครัวหลังเก่า เพื่อสร้างหลังใหม่แทนในที่ เดิม ซึ่งก็เป็นผลจากงานล้างป่าช้า ที่จะต้องใช้พื้นที่นี้เป็นที่ จัดเลี้ยง จึงได้ปรับพื้นที่จากเดิมที่มีน้ำ�ท่วมขังเป็นประจำ�มา เป็นพื้นคอนกรีต และได้สร้างหอฉันใหม่ขึ้นมาเพื่อให้พอใช้ งานได้ไปก่อน ปีนกี้ ารจัดงานวันมรณภาพ จึงมีหลายหน่วยงานมาร่วม กันมากกว่าทุกปี เพราะผมได้ไปขอหน้าต่าง ประตูม้วนจาก ที่ต่างๆ การจัดงานปีนี้จึงถือโอกาสให้เจ้าภาพได้ส่งมอบสิ่ง ที่ได้ทำ�บุญมาให้วัดเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป แต่หอฉันหลังนี้ ก็ยังไม่เสร็จ ซึ่งต้องหาเงินมาทำ�ต่อไป การสร้างหอฉันใหม่นั้น ได้คุณพิพิศน์ วัฒนาวีรชัย รองนายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี เป็นเจ้าภาพใหญ่ แต่ การสร้างต้องใช้เงินถึง 3 ล้านบาท จึงต้องช่วยกันทำ�ให้ส�ำ เร็จ ซึง่ ก่อนทอดกฐินได้จา่ ยเงินไปแล้ว 2,600,000 บาท ยังขาดอยู่ อีก 400,000 บาท จึงต้องจัดงานทอดกฐินสามัคคีขึ้น ผมเองตัง้ ใจว่ากฐินปีนจี้ ะให้คณ ุ จิระวัฒน์ เป็นประธาน ทอดกฐิน ผมไปเชิญตั้งหลายครั้ง ท่านก็ไม่รับด้วยเหตุผลว่า ปีนที้ า่ นได้ท�ำ บุญใหญ่เป็นประธานจัดงานล้างป่าช้าแล้ว ท่าน ได้เสนอให้คุณแม่ผมเป็นประธานแทน ผมจึงได้ปรึกษากัน แล้วจึงเป็นที่มาของกฐินสามัคคี วัดไทร ในครั้งนี้ ปีนี้ผมจึงต้องรับเป็นคนประสานการจัดกฐินสามัคคี ตัง้ แต่เขียนฎีกา จัดสถานที่ เตรียมงานต่างๆ เพือ่ ให้ออกมาดี ทีส่ ดุ และปีนไี้ ด้พมิ พ์หนังสือทีร่ ะลึกงานกฐินสามัคคีแจกด้วย เพราะหนังสือประวัติวัดไทรและประวัติหลวงพ่อฉุยหมดมา หลายปีแล้ว

ฉบับประจำ�เดือนธันวาคม

กฐินสามัคคี วัดไทร

แม้ว่าอากาศจะไม่เป็นใจฝนตกมาตั้งแต่เช้า ทำ�ให้ไม่ สามารถเดินแห่รอบโบสถ์ได้ แต่กม็ คี นมาร่วมงานมากกว่าทุก ปี เพราะปีนี้ผมได้ใช้วิธีการเดียวกับการจัดงานวันมรณภาพ โดยเชิญกลุ่มอาสามูลนิธิมุทิตาจิตธรรมสถาน ชมรมตระกูล เกียง ลือ คู สุราษฎร์ธานี ชมรมลูกหลานแต้จิ๋วสุราษฎร์ธานี และสภาพลเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี มาร่วมเป็นเจ้าภาพ นอกจากนี้ยังมีอุบาสก อุบาสิกาของวัดไทร มาร่วมงาน และยังจัดอาหารมาเลี้ยงแก่คนที่มาร่วมทอดกฐินอีกด้วย สถานที่จัดงานปีนี้ที่อาคารเอนกประสงค์ก็ใหญ่โต มีพ้ืนที่ใช้ งานกว้างขวาง คนนั่งกันเต็ม เก้าอี้ที่จัดไว้ไม่เพียงพอกับคน ที่มาร่วมงาน สว่ นทีจ่ ดั เลีย้ งใช้พนื้ ทีเ่ ดิมทีเ่ ป็นศาลาทีต่ งั้ ศพ ซึง่ ปัจจุบนั ไม่ได้เปิดใช้งานแล้ว เนื่องจากอาคารมีปัญหาหลังคารั่วและ ความมั่นคงของอาคาร ซึ่งทางวัดกำ�ลังหาปัจจัยมาซ่อมแซม ต่อไป การจัดเลี้ยงตรงนี้จึงสะดวกกับผู้มาร่วมงานอย่างยิ่ง ด้วยว่าอาคารทั้งสองอยู่ติดกัน ผมเสียดายว่าคนที่มาร่วมทำ�บุญไม่ได้เห็นหอฉันและ โรงครัว ทำ�ให้หลายท่านไม่ทราบว่าได้สร้างใหม่ใกล้เสร็จแล้ว การทอดกฐินครั้งนี้ก็เพื่อหาเงินที่ยังขาดอยู่ 400,000 บาท มาทำ � ต่ อ ให้ เ สร็ จ แต่ ว่ า เงิ น ที่ ไ ด้ จ ากการทอดกฐิ น ครั้ ง นี้ เพียง 329,480 บาท หักค่าใช้จ่าย 42,100 บาท คงเหลือ เงิน 287,380 บาท แม้ว่ายังขาดเงินอีกไม่มากแล้ว การดำ�เนินการสร้าง หอฉันและโรงครัวก็ตอ้ งทำ�ต่อไปให้เสร็จ ผมได้แต่หวังว่าการ

ปรับปรุงอาคารเอนกประสงค์ และการสร้างหอฉันและโรงครัว จะสามารถดำ�เนินการได้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ แล้วจะได้ทำ�พิธี ส่งมอบอาคารทั้งสองให้วัดได้ก่อนตรุษจีน ท่านใดที่ต้องการ มีส่วนร่วมทำ�บุญก็ติดต่อได้ที่วัดไทรเลยครับ


ฉบับประจำ�เดือนธันวาคม

พลังประชาชน สุราษฎร์ธานี

โดย.. ฉัตรวรุณธ์ คูเศรษฐวัฒน์ สวั ส ดี ค รั บ ท่ า นผู้ อ่ า นทุ ก ท่ า น เดื อ นนี้ ก็ เข้ า สู่ เ ดื อ น สุดท้ายของปี แม้วา่ เรายังอยูใ่ นช่วงแห่งความเศร้าเสียใจ แต่ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องเดินต่อไป โลกของเราในปัจจุบันนี้ มีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้าง มาก ที่สำ�คัญพลังแห่งโซเซียลมีพลังค่อนข้างมาก ถ้าเปรียบ ให้เข้าใจง่ายคงเหมือนกับเรื่องไสยศาสตร์ที่มีพลังมากมาแต่ อดีต ตอนนี้โซเซียลมีเดียที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันมีมากมาย หลายช่องทาง ใกล้ตัวหน่อยก็คงเป็น Fackbook Line YouTube ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ทำ�ให้มีการบอกเล่า เรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำ�วันอย่างมากมาย กระจายเรื่อง ของตนเอง เรื่องของสาธารณะ หรือแจ้งเหตุการณ์ต่างๆ ให้ ผู้คนทราบ รวมไปถึงเรื่องของการค้าขายออนไลน์ด้วย จากเมื่อก่อนเราต้องมีร้านค้า ลูกค้าต้องเดินมาหาเรา เพื่อซื้อสินค้าของเรา ต้องเอาเงินสดมาจ่ายให้เรา แล้วพ่อค้า ก็น�ำ เงินไปเข้าธนาคาร เพือ่ ชำ�ระสินค้าทีส่ งั่ มาจำ�หน่ายต่อไป แต่การค้าขายในปัจจุบนั มีการเปลีย่ นไปอย่างมากมาย การใช้ e-Commerce ในการทำ�ธุรกิจในโลกปัจจุบนั มีมากมาย และ เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์กร มหาชน) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงจัดให้มี การอบรมหลักสูตรบ่มเพาะผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซไทย สู่ เศรษฐกิจดิจทิ ลั ทีม่ นั่ คงปลอดภัย ในหัวข้อ “กลยุทธ์รวยทะลุ ล้านด้วยร้านค้าออนไลน์” เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ

9

เมืองใต้นิวส์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 54 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559

พลังแห่งโซเซียล ที่ทำ�ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เกี่ยวกับ e-Commerce ให้กับผู้ประกอบการและผู้สนใจ ทั่วประเทศไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดขึน้ เมือ่ วันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2559 ณ โรงแรมบรรจงบุรี มีคุณสาวิณี วิมานะ ผู้ช่วย สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์กรมหาชน) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในการ กล่าวเปิดงาน มีหวั เรือ่ งต่างๆ ทีเ่ กีย่ วกับ e-Commerce อาทิ เทคนิค การสร้าง Fackbook Fan page การสร้างแบรนด์ดว้ ยโซเซียล มีเดีย การสร้างร้านค้าออนไลน์ การสร้างแค็ทตาล็อกออนไลน์ เทคนิคการเลือกคีย์เวิร์ด และคอนเซ็ปต์การทำ� Search Engine Optimization เป็นต้น โดยมีวทิ ยากรทีม่ าบรรยายให้ความรู้ อาทิ คุณประสิทธิ์ วรฉัตราวนิช คุณเมธปริยา คำ�นวณวุฒิ บริษัท LAW จำ�กัด คุณ ชาคริต ยศสุวรรณ จากนิตยสาร SMW Thailand เป็นต้น แม้ว่าระยะเวลามีจำ�กัดเพียงแค่ 2 วัน แต่เนื้อหา สาระ ทีใ่ ช้ในการอบรมแน่นมากๆ สามารถทำ�ให้ผเู้ ข้าร่วมการ อบรมเรียนรู้ ฝึกปฏิบัติ เข้าใจในเรื่องของการตลาดออนไลน์ มากยิ่งขึ้น ซึ่งผู้ที่เข้ารับการอบรมทุกท่านสามารถนำ�ความรู้ ที่ได้ไปใช้จริงๆ นั่นคือสิ่งที่ทางสำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ (องค์กรมหาชน) กระทรวงดิจทิ ลั เพือ่ เศรษฐกิจ และสังคม ต้องการให้เกิดขึ้นในยุคนี้จริงๆ ลองนึกภาพดูว่าถ้าต่อไปในอนาคต สุราษฎร์ธานีของ

เรามีร้านค้าออนไลน์มากขึ้น มีการใช้โซเซียลในการส่งเสริม การค้าขายมากขึ้น รวมถึงการท่องเที่ยว หรืองานบริการ ต่างๆ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเยอะขึ้น ถือได้ว่าเป็นพลังอัน ยิ่งใหญ่ของสังคมจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ต้องใช้พลังจาก ประชาชนทุกคน พลังจากผู้ประกอบการที่สนใจ เป็นพลัง ประชาสั ง คม ทำ � ให้ เ ศรษฐกิ จ ของบ้ า นเราเป็ น เศรษฐกิ จ โซเซี ย ล การค้ า ขายดี ขึ้ น การนำ� เงิ น มาจั บ จ่ า ยใช้ ส อยก็ มีมากขึ้น ย่อมจะเป็นผลดีกับทุกๆ คนในสังคมของเมือง สุราษฎร์ธานี รองรับการเปลี่ยนแปลงก่อนเข้าสู่ ไทยแลนด์ 4.0 ในอนาคตข้างหน้าต่อไป สิน้ ปีทจี่ ะถึงนี้ ใครวางแผนจะเดินทางไปพักผ่อนทีไ่ หน หรือมีกจิ กรรมกับคนทีร่ กั ในครอบครัว ในกลุม่ เพือ่ นๆ ก็ขอให้ สนุกสนาน เบิกบานให้เต็มที่ เตรียมร่างกาย เตรียมกำ�ลังใจ ให้พร้อม ก่อนที่จะเข้าสู่ปีใหม่ที่จะถึงกันต่อไป สวัสดี

ร้านกาแฟนายเฮง ซอยเซ็นเตอร์พ้อยท์ (รร.เทศบาล ๑) เปิดบริการ 06.30-10.30 น. naihengcoffee 094-453-6964


10

เมืองใต้นิวส์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 54 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559

ฉบับประจำ�เดือนธันวาคม

หอฯ สุราษฎร์รับธงจัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ปี 2560 หอการค้าไทย จัดงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 34 ระหว่างวันที่ 25 - 27 พฤศจิกายน 2559 ภายใต้ แนวคิด “นวัตกรรม ทำ�จริง สู่ประเทศไทย 4.0” โดยมี หอการค้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเจ้าภาพ ปีนี้หอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ต้องเดินทางเพื่อไป รับธงการเป็นเจ้าภาพ ในการจัดงานสัมมนาหอการค้าทั่ว ประเทศปี 2560 ซึ่งการเดินทางครั้งนี้นำ�โดยนายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนาย ธีระชัย ศรีโพธิ์ชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี คณะของประธานหอการค้า ได้เดินทางในเช้าวันที่ 25 พฤศจิ ก ายน นำ � โดยนายธี ร ะชั ย พร้ อ มด้ ว ยคณะ กรรมการ และคณะกรรมการผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หรือ YEC สุ ร าษฎร์ ธ านี ได้ เ ดิ น ทางโดยเครื่ อ งบิ น ไปยั ง ท่ า อากาศยานดอนเมือง โดยมีกรรมการจากหอการค้าจังหวัด พระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าทีห่ อการค้าไทย มารอต้อนรับ เพื่อนำ�ไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากเข้าทีพ่ กั เรียบร้อยแล้ว เวลา 17.00 น. ได้เดินทาง ไปร่ ว มงานเลี้ ย งรั บ รองผู้ เข้ า ร่ ว มสั ม มนาของหอการค้ า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ บริเวณเดอะฮอลล์ คอนเวนชัน่ เซ็นเตอร์ ชั้น 2 อยุธยาซิตี้พาร์ค ซึ่งบริเวณลานเอนกประสงค์ชั้นล่าง ได้มีการออกร้าน ของหอการค้าต่างๆ ของกลุ่มจังหวัดภาคกลาง พร้อมกับ การออกร้ า นของผู้ ป ระกอบการโอทอปของจั ง หวั ด พระนครศรีอยุธยา ส่วนบริเวณด้านหน้าที่จัดงานได้มีการ ออกบูทของผู้สนับสนุนการจัดงานสัมมนาในครั้งนี้ เมือ่ ลงทะเบียนจะได้รบั ถุงผ้าทีใ่ ส่เอกสารแนะนำ�แหล่ง ท่องเทีย่ วของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทีจ่ ดั ทำ�โดยองค์การ บริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหนังสือแนะนำ� แหล่งท่องเทีย่ วจังหวัดสุราษฎร์ธานี “เทีย่ วเมืองร้อยเกาะ” ที่จัดทำ�โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่ ง หอการค้ า จั ง หวั ด สุ ร าษฎร์ ธ านี ได้ รั บ มอบจาก องค์ ก ารบริ ห ารส่ ว นจั ง หวั ด สุ ร าษฎร์ ธ านี เพื่ อ ใช้ ประชาสั ม พั น ธ์ แ หล่ ง ท่ อ งเที่ ย วของจั ง หวั ด ให้ กั บ สมาชิ ก หอการค้าทัว่ ประเทศได้รบั ทราบล่วงหน้า เพือ่ จะได้เตรียมตัว เดินทางมาร่วมงานในปีหน้า ในโอกาสนี้ต้องขอบคุณเป็น อย่างยิง่ สำ�หรับหอการค้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทีไ่ ด้ชว่ ย แจกจ่ายหนังสือดังกล่าว สำ�หรับงานในคืนนี้เจ้าภาพได้จัดเลี้ยงอาหารเย็นเป็น โต๊ะจีน โดยเริ่มงานด้วยการรับชมพระราชกรณียกิจ เพื่อ แสดงความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ล อดุลยเดช เสร็จแล้ว นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวต้อนรับ พร้อมถวายความ อาลัยแก่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้น นายเกรียงไกร ด่านชัยวิจิตร ประธาน หอการค้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวรายงาน และ นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย ได้กล่าวเปิดงาน พร้อมมอบโล่ให้แก่ผู้สนับสนุนการจัดงาน และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกัน เป็นอันเสร็จสิ้นงานเลี้ยง แยกย้ายกันกลับโรงแรมที่พัก วันที่ 26 พฤศจิกายน 2559 ซึง่ เป็นวันที่ 2 ของการจัดงาน ได้แบ่งผู้เข้าร่วมงานเป็น 2 กิจกรรม คือ การเข้าร่วมสัมมนา ของประธานหอการค้า พร้อมเลขาธิการ และคณะกรรมการ ที่สนใจร่วมงานสัมมนา ซึ่งจัดที่ห้องกรุงศรีอยุธยา แกรนด์ บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ (รายละเอียดอ่านได้ที่ หน้า 5) สำ � หรั บ ผู้ ที่ ไ ม่ ไ ด้ เข้า ร่วมสัมมนาหอการค้า จัง หวัด

พระนครศรีอยุธยา ได้จดั นำ�เทีย่ วบริการฟรี แบ่งเป็น 2 เส้นทาง เส้นทางแรก “ยลยินถิ่นอยุธยา ชมโบราณสถานด้วยรถ ล้อยาง” และ “ยลยินถิ่นอยุธยา ชมโบราณสถานด้วย รถบัส” โดยกรรมการหอการค้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ ร่วมกับมัคคุเทศก์ นำ�ชมโบราณสถานสำ�คัญ ทีไ่ ด้ขนึ้ ทะเบียน ไว้ในบัญชีมรดกโลกขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และ วัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534 ซึ่งได้รับการบริการอย่างประทับใจโดยไม่ ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย และช่ ว งเวลาสำ � คั ญ ของการเดิ น ทางมาครั้ ง นี้ ข อง หอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี เริ่มขึ้นเวลา 18.00 น. ในงาน เลี้ยงภาคค่ำ� ที่หอการค้าไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น หลังจาก รับประทานอาหารเสร็จแล้ว พิธีการเริ่มขึ้นด้วยการนำ�เสนอ ความพร้อมการจัดการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 36 ปี 2561 โดยหอการค้าจังหวัดลำ�ปาง เสร็ จ แล้ ว เป็ น การมอบธงการจั ด สั ม มนาหอการค้ า ทัว่ ประเทศ ครัง้ ที่ 35 ปี 2560 พิธกี ารเริม่ ขึน้ โดยพิธกี รได้เชิญ นายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมกับนายธีระชัย ศรีโพธิ์ชัย ประธานหอการค้าจังหวัด สุราษฎร์ธานี ขึ้นบนเวทีพร้อมด้วยประธานหอการค้าภาค ใต้ทุกท่าน และคณะของหอการค้าที่มาร่วมงานครั้งนี้ทุกคน จากนัน้ นายอวยชัย ได้กล่าวถึงความพร้อมของจังหวัด สุราษฎร์ธานี และนายธีระชัย ได้กล่าวถึงการเตรียมการของ หอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อกล่าวเสร็จแล้ว พิธีกรได้ เชิญนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย ขึ้นเวที

แ ล้ ว เ ชิ ญ ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ห อ ก า ร ค้ า จั ง ห วั ด พระนครศรีอยุธยา ที่นำ�ธงเจ้าภาพการจัดงานมอบคืนให้ หอการค้าไทย แล้วนายอิสระได้มอบธงให้นายธีระชัย เจ้าภาพ การจัดงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 35 ปี 2560 ที่หอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นเจ้าภาพจัดงาน หลังรับ มอบธงได้ถ่ายภาพร่วมกัน และพิธีการสุดท้าย เป็นพิธีมอบรางวัล ประจำ�ปี 2559 คือ รางวัลรณรงค์เพิม่ สมาชิก และรางวัลหอการค้ายอดเยีย่ ม โดย นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย เมือ่ มอบรางวัลเสร็จเป็นอันเสร็จสิน้ งานเลีย้ งภาคค่� ำ แยกย้าย กันเดินทางกลับโรงแรมที่พัก วันอาทิตย์ ที่ 27 พฤศจิกายน 2559 วันสุดท้ายของการ สัมมนาหอการค้าทัว่ ประเทศ ครัง้ ที่ 34 ช่วงเช้ามีการปาฐกถา พิเศษ และการนำ�เสนอผลการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ จนถึงเวลาเที่ยง หลังจากรับประทานอาหารร่วมกันเป็นอัน เสร็จสิ้นการสัมมนาในครั้งนี้ และคณะของหอการค้าจังหวัด สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางกลับภูมิลำ�เนาโดยสวัสดิภาพ


ฉบับประจำ�เดือนธันวาคม

เมืองใต้นิวส์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 54 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559

กราบแทบฝ่าพระบาท ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย น้อมรำ�ลึกพระมหากรุณาธิคุณ และร่วมถวายความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ข้าพระพุทธเจ้า ชมรมลูกหลานแต้จิ๋วสุราษฎร์ธานี

สถิตในใจตราบนิรันดร์ น้อมสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้า ชมรมตระกูลเกียง ลือ คู สุราษฎร์ธานี

กราบพระยุคลบาท อภิวาทองค์ราชัน เสด็จสู่สรวงสวรรค์ เป็นมิ่งขวัญนิรันดร ข้าพระพุทธเจ้า กลุ่มอาสามูลนิธิมุทิตาจิตธรรมสถาน

ปวงประชาสำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้า นายพงษ์ศักดิ์ โพธิครูประเสริฐ สมาชิกสภาเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี

ธ สถิตในดวงใจไทยทั่วหล้า ขอเป็นข้ารองพระบาทกาลนิรันดร์ ข้าพระพุทธเจ้า นายไชยกฤต เอื้อกฤดาธิการ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี

11


12

ขอเชิญสมาชิกชมรม

เมืองใต้นิวส์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 54 ประจำ�เดือนธันวาคม 2559

ลูกหลานแต้จิ๋วร่วมงานเลี้ยงประจำ�เดีอน ในวันพุธที่ 14 ธันวาคม 2559

ฉบับประจำ�เดือนธันวาคม

เอทีเอ็ม ทรัพย์เจริญ 2 หมู่ที่ 3 ต.บางใบไม้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000

เวลา 18.00 น.

ณ สมาคมแต้จิ๋วสุราษฎร์ธานี

คุณธรรมนูญ จันทร์เมือง (นูญ) คุณกรรณิการ์ จันทร์เมือง (แอ)

มือถือ 081 - 6065349 FAX. 077 - 292906

ซื้อ - ขาย

จัดไฟแนนซ์ แลกเปลี่ยน จำ�นำ� ไถ่ถอนรถยนต์

วันอาทิตย์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560

ณ ห้องบรรจงแกรนด์บอลรูม 5 โรงแรมบรรจงบุรี เวลา 18.00 น.

สอบถามติดต่อผู้ประสานงานแต่ละห้อง • ม.1/1 ชยุ ต ม์ เชาวน์ ณั ฐ เศวตกุ ล 089-7258911 • ม.1/2 นั น ทวุ ฒิ วุ ฒิ จั น ทร์ (ทนายล้ า น) 081-3973999 ยุทธนัย บุญยัง (โหน่ง) 087-3883994 • ม.1/3 อารีพัฒน์ ประศาสตร์ศิลป์ (จิ๊ก) 081-0844697 • ม.1/4 คงเดช สีริวรจรรยาดี 081-9384129 และโกศล วีรดิษฐกิจ 081-8922245 • ม.1/5 อ๊อฟ ร้านอาหารน้ำ�เพชร 084-6253081 • ม.1/6 สุพจน์ 099-3106554 • ม.1/7 เกษมชัย ธนประโยชน์ศักดิ์ (ร้านรวมศิลป์ 2 ทำ�ป้าย) 081-8943811 • ม.1/8 สมชาติ ไทยมิตร 095-4183958 • ม.1/9 มาโนช ธนอารักษ์ หมู สุราษฎร์ 081-6935039, เริงชัย บุญมี 083-6444401 • ม.1/10 วรพันธ์ ตู้วิเชียร (ผู้ใหญ่วอ เกาะเต่า) 081-8937233, สถาพร บุญชู 081-0786161


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.