Silence

Page 1

สื่อสิ่งพิมพ์ร่วมสมัยคลายอึกทึก | เปสโลภิกขุ

สาส์น จาก ความ เงียบ




สาส์นจากความเงียบ เรื่อง เปสโลภิกขุ ภาพถ่ายวัดป่าหน้า ๒๖๖ / ๒๗๗ / ๒๘๕ เปสโลภิกขุ ภาพถ่ายปกและอื่นๆ Andrew Binkley ออกแบบปกและรูปเล่ม Dhamma Design Club พิสูจน์อักษร มานี มีตา คอมพิวเตอร์กราฟิก ibeepdesign@gmail.com จัดพิมพ์เป็นของขวัญธรรมะครั้งแรก มิถุนายน ๒๕๕๖


จ�ำนวน ๑,๕๐๐ เล่ม สงวนลิขสิทธิ์ 2013 © Dhamma Design Club อีบุ๊คส์ www.issuu.com/dhammavalley อีบล็อก http://fearlessdiary.exteen.com อีเมล์ peslo123 @ yahoo.co.th พิมพ์ที่ ห้างหุ้นส่วนจ�ำกัดภาพพิมพ์ โทรศัพท์ 02-433-0026-7


สารบัญ มังกรไฟเรียนรู้อะไร / ๑๐ ไม้กวาดพิสูจน์ค�ำสอน / ๑๖ ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย / ๒๒ ธรรมชาติบ�ำบัดขัดบางสิ่ง / ๕๓ เล็กแต่ไม่น้อย / ๖๐ เณรน้อยในป่าใหญ่ / ๖๘ จากบาโชถึงเอดิสัน / ๗๔ สว่างอยู่กลางไร่นา / ๙๐ The Way to Nowhere / ๙๖ เชียงใหม่สบายดี / ๒๔๒ เชียงรายสบายจัง / ๒๕๐ บันทึกมีนาคมห่มหนาว / ๒๕๘ นครราชสีมาดีไปดี / ๒๙๔ จิ้งจอกเร้นกาย / ๓๐๒ แท็บเล็ตผัดเผ็ด / ๓๑๘


สักค�ำสองค�ำ พระอาจารย์ฝรัง่ ท่านหนึง่ กล่าวว่า องค์ดาไลลามะเป็นผูท้ ที่ ำ� ให้ ชาวตะวันตกเห็นว่า “พุทธศาสนาเป็นสิง่ ทีด่ ”ี ฉันพิจารณาต่อ ไปว่า ถ้าเช่นนัน้ พระเดชพระคุณพระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี ก็เป็นผู้ที่ ท�ำให้ชาวตะวันตกเห็นว่า “ความดับทุกข์เป็นสิ่งที่ท�ำให้เกิด ขึ้นได้ในชาตินี้” เปสโลภิกขุ



สาส์น จาก ความ เงี ยบ


แด่...ความเงียบ



มังกรไฟเรียนรู้อะไร


แดดร่มลมร�ำเพยวันหนึ่ง ฉันเหลือบไปเห็นหนังสือปกแข็ง สองภาษาที่มีชื่อว่า “มังกรไฟไม่เรียนหนังสือ” วางอยู่ใกล้ ทีน่ งั่ ของท่านเจ้าอาวาส ฉันจึงขออนุญาตจากท่านรองฯหยิบ มังกรไฟเรียนรู้อะไร | 11


ติดมือมาทีก่ ฏุ ิ ฉันอนุมานว่าคงมีญาติโยมถวายไว้เป็นอุปกรณ์ สอนสามเณรน้อย เนื่องจากระแคะระคายระเคืองว่า ขณะนี้ ที่วัดมีสามเณรรูปหนึ่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ แต่อ่าน หนังสือได้พอๆกับเด็กอนุบาล ซึ่งหลายชีวิตที่แวดล้อมต่างก็ สงสัยเป็นกังวานกังวลเดียวกันว่า เขาผ่านชั้นประถมศึกษา มาได้อย่างไร? ฉันปล่อยให้เจ้ามังกรนอนอยูบ่ นโต๊ะ ๑ วันเต็มๆจึงมีโอกาส ทักทาย แล้วก็ได้เห็นความตั้งใจอย่างล้นทะลักของทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นคนเขียนเรื่อง (ประภาส ชลศรานนท์) คนเขียน ภาพ (ชัยพร พานิชรุทติวงศ์) คนเล่าเรื่อง (พัลลภ สินธุ์เจริญ) หรือคนขับร้อง (สุภัทรา อินทรภักดี โกราษฎร์) ล้วนบรรทุก ประสบการณ์ในสาขาอาชีพที่ตนถนัดมาเต็ม ๒-๓ กระบุง หรือมากกว่านั้น เนื้อเรื่องอ่านง่ายใช้ภาษาเรื่อยๆสบายๆ ตัวการ์ตนู สีสวยสดโลดแล่นอยูบ่ นฉากหลังเรียบๆ นอกจากนี้ ยังมีซีดีเพลงประกอบการเล่านิทานแถมมาด้วย แต่เมื่อพลิก 12 | มังกรไฟเรียนรู้อะไร


ผ่านไปถึงย่อหน้าสุดท้าย ฉันก็ได้กลิน่ ตุน่ ๆจนถึงกับกรุน่ ขึน้ มา ในใจว่า เฮ้ย! สรุปเอาดื้อๆแบบนี้เลยเหรอ...ง่ายไปหน่อยมั้ง หากใครตุ๊ดตู่ว่าฉันคิดซับซ้อนซ่อนขม ลองมาชมกันไหมล่ะ ...ตั้งแต่นั้นมาเจ้ามังกรไฟก็อ่านหนังสือออก ท�ำให้มัน รู้จักสัตว์ทุกชนิดในโลก ทีนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็คงหลอกมัน ไม่ได้แล้ว และเมื่อมันอ่านหนังสือเก่ง มันก็เลยกลายเป็น มังกรไฟใจดี ที่ไม่ท�ำร้ายใครๆอีกเลย หลังจากเครือ่ งหมายตกใจสลายตัว เครือ่ งหมายค�ำถามก็ ปรากฏกาย จริงหรือทีส่ งิ่ มีชวี ติ ชนิดหนึง่ เมือ่ อ่านหนังสือเก่ง แล้วจะไม่ท�ำร้ายใครๆอีกเลย? แม้มันจะเป็นเพียงนิทาน แต่ หากพิจารณาหาความสมเหตุสมผลก็จะพบว่า มันไม่สอดคล้อง กันเอาซะเลย คงจะมีอะไรหล่นหายไปในระหว่างเป็นแม่นมัน่ แล้วถ้าเปลี่ยนตอนจบเป็นแบบนี้ล่ะ ใครจะว่าอย่างไร

มังกรไฟเรียนรู้อะไร | 13


...เมื่อมันอ่านหนังสือเก่ง มันก็เริ่มอ่านหนังสือที่หลาก หลายขึน้ จนกระทัง่ วันหนึง่ มันได้อา่ นหนังสือธรรมะ แล้วมัน ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ตัวมันเองไม่ชอบให้ใครมารังแก แม้สัตว์ อื่นก็ไม่ชอบให้ใครมารังแกเช่นกัน นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา มันก็เลยกลายเป็นมังกรไฟใจดีที่ไม่ท�ำร้ายใครๆอีกเลย ในโลกแห่งความจริง มีคนอ่านหนังสือเก่งเป็นจ�ำนวนมากที่ ท�ำร้ายผูอ้ นื่ โดยเจตนา ทัง้ ทางการกระท�ำ ค�ำพูด และความคิด เพราะเขาเหล่านั้นรู้ไม่เท่าเอาไม่ทันเล่ห์กระเท่ของกิเลส ในขณะเดียวกันคนที่อ่านหนังสือไม่เก่งจ�ำนวนหนึ่ง กลับ ด�ำรงชีวิตอย่างสุขสงบเรียบง่าย ปราศจากพิษภยันตราย ต่อใครๆ อย่างไรก็ตาม คนประเภทที่โลกต้องการมากที่สุด ก็คือ คนที่อ่านหนังสือเก่งและมีคุณธรรมประจ�ำใจ เพราะ อย่างน้อยเขาก็รวู้ า่ จะใช้ไฟทีอ่ ยูภ่ ายในปาก ให้เป็นประโยชน์ กับตัวเองและผูอ้ นื่ อย่างไร เฮ้ย! สรุปเอาดือ้ ๆแบบนีเ้ ลยเหรอ

14 | มังกรไฟเรียนรู้อะไร



ไม้กวาดพิสูจน์ค�ำสอน


นอกจากการสวดพระปาฏิโมกข์คือศีล ๒๒๗ ข้อแล้ว วิชา ติดตัวอย่างหนึง่ ซึง่ นับเนือ่ งเข้าเป็นมาตรฐานของพระป่าก็คอื การท�ำไม้กวาดจากก้านมะพร้าว เมือ่ ครัง้ ทีฉ่ นั บ�ำเพ็ญสมณกิจ ไม้กวาดพิสูจน์ค�ำสอน | 17


อยูท่ วี่ ดั ป่าอภัยคีรี มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีญาติโยมจากเมืองไทยก�ำลังจะเดินทางไปเทีย่ วทีน่ นั่ ถามว่า ต้องการสิง่ ใดจากเมืองไทยไหม? ฉันจึงหยัง่ ถามว่าก้านมะพร้าว สักหลายๆมัดเป็นไง? หลายใครอาจจะไม่ทราบว่างานอดิเรก อย่างหนึง่ ของคนแก่คนเฒ่าทางภาคอีสานก็คอื การเหลาก้าน มะพร้าว บ้างก็เหลาเอาไว้ขาย บ้างก็เก็บเอาไว้ใช้เอง บ้างก็ เอาไปถวายวัด ภาพคนเฒ่าคนแก่ก�ำลังนัง่ เหลาก้านมะพร้าว จึงเป็นภาพปรกติทคี่ นุ้ ตา เมือ่ เดินธุดงค์ลดั เลาะไปตามหมูบ่ า้ น ในชนบทอีสานบ้านเฮา ทีว่ ดั ป่าอภัยคีรใี นบางฤดูจะมีใบไม้รว่ งเอาเรือ่ ง และเนือ้ ที่ กว่า ๗๐๐ ไร่ซงึ่ บรรจุทพี่ กั อาศัยและอาคารอเนกประสงค์กว่า ๓๐ หลังก็ต้องการการดูแล ช่วงเวลาระหว่างหลังสวดมนต์ ท�ำวัตรเช้าถึงอาหารเช้า คือ ๐๖:๓๐-๐๗:๐๐ น. จึงเป็นโอกาส ในการท�ำความสะอาด ฉันเคยได้รับมอบหมายให้กวาดถนน จากหน้าศาลา ระเรื่อยไปจนถึงประตูทางเข้าหน้าวัดซึ่งเป็น 18 | ไม้กวาดพิสูจน์ค�ำสอน


พืน้ ทีล่ าดชัน มันท�ำให้ฉนั พบว่าไม้กวาดพลาสติกทีว่ ดั มีอยูไ่ ม่ เหมาะกับงานนี้เอาซะเลย นี่เป็นเหตุให้ฉันต้องสั่งน�ำเข้าก้าน มะพร้าวจากเมืองไทย เมื่อฉันท�ำไม้กวาดเสร็จ ๒ อัน ก็มีพระและโยมฝรั่ง ประจักษ์ในผลงานและสนใจที่จะท�ำบ้าง ฉันจึงเปิด Broom Class ขึน้ ในเย็นวันหนึง่ ทีไ่ ม่มกี ารรวมท�ำวัตรสวดมนต์นงั่ สมาธิ โดยได้ตระเตรียมอุปกรณ์ไว้ให้พวกเขาตั้งแต่ตอนกลางวัน อันประกอบด้วยก้านมะพร้าว ด้ามไม้ไผ่ยาวประมาณ ๑ ช่วงแขน เชือก หนังยาง ไฟแช็คและมีด เมื่อถึงเวลาก็มีพระ และโยมฝรั่งมาสมัครเป็นลูกศิษย์ ๔ ท่าน แต่ละท่านไม่เคย ฝึกท�ำไม้กวาดมาก่อน ฉันแนะน�ำพวกเขาทีละขั้นตอนอย่าง ค่อยเป็นค่อยไป ติดขัดตรงไหนก็ทำ� ให้ดเู ป็นตัวอย่าง พูดแซว บ้าง พูดให้ก�ำลังใจบ้างตามประสา เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ ๑ ชั่วโมงก็มี ๑ ท่านที่ท�ำส�ำเร็จ ไม้กวาดของเขาแข็งแรง สวยงามอย่างน่าทึ่ง เหตุที่น่าทึ่งก็เนื่องจากว่า ฉันต้องฝึกฝน ไม้กวาดพิสูจน์ค�ำสอน | 19


การท�ำไม้กวาดร่วม ๑๐ อัน กว่าจะท�ำออกมาให้ดดู ไี ด้ถงึ ขนาดนี้ ส่วนอีก ๒ ท่านอยู่ในระดับกลางๆ แม้ไม่สวยงามนักแต่ถ้า ฝึกอีกสักหน่อยคงพอไปได้ และ ๑ ท่านสุดท้ายท�ำไม่ส�ำเร็จ เมื่อหมดชั่วโมงเรียนจึงกองเละๆอยู่ตรงนั้น แต่เขาก็ตั้งใจว่า พรุ่งนี้จะมาท�ำต่อให้เสร็จ หลังจากเก็บกวาดสถานที่จนสะอาดเรียบร้อย เราก็ Say goodnight แล้วแยกย้ายกันกลับที่พัก ระหว่างที่เดิน กลับกุฏิฉันร�ำลึกถึงพระสูตร ที่พระพุทธองค์ทรงจ�ำแนกคน ออกเป็นสี่ประเภทคือ คนสอนง่าย คนสอนยาก คนสอนยาก มาก และคนสอนไม่ได้เลย โลกของเราก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ ไหนแต่ไร พรุ่งนี้พวกเรายังคงต้องตื่นแต่เช้า เพื่อมาร่วมกัน สวดมนต์ทำ� วัตรนัง่ สมาธิทพี่ ระอุโบสถกลางแจ้ง จากนัน้ ก็ตาม ด้วยงานปัดกวาด ลมฤดูร้อนก็ช่างขยันเขย่ากิ่งไม้ให้ใบร่วง หล่นไม่เว้นแต่ละวัน

20 | ไม้กวาดพิสูจน์ค�ำสอน



ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย


พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ตรัสรู้ในสิ่งเดียวกันหรือไม่ แล้ว ท�ำไมจึงมีพระพุทธเจ้าอุบัติในโลกได้มากกว่าหนึ่ง ในเมื่อ สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เป็นความรู้ที่เป็นอมตะ ท�ำไมจึงเกิด ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย | 23


ค�ำสอนใหม่อกี แล้วค�ำสอนของพระพุทธเจ้าองค์กอ่ นๆสูญหาย ไปได้ดว้ ยหรือ ยุคของเราก็ตอ้ งยึดค�ำสอนขององค์สมณโคดม แล้วสิ่งเหล่านั้นจะสูญหายไปได้อย่างไร ศาสนาอื่นเป็น แบบเดียวกับเราหรือไม่ ขอบพระคุณค่ะ ค�ำถามจาก คุณปัญญาพร ในนิตยสาร secret ปีที่ ๓ ฉบับที่ ๑๑๒ วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ในการตอบค�ำถามแต่ละครัง้ ฉันจะนึกถึงคนรุน่ ใหม่ดว้ ย ว่าเขาจะคิดตามได้ไหม แต่ถ้าเป็นคนวงในก็สามารถตอบ โยงใยไปถึงพระพุทธเจ้าที่เป็นเจ้าชายศากยะ เป็นบุคคลใน ประวัตศิ าสตร์ได้เลย ซึง่ คนรุน่ ใหม่เขาจะสงสัยว่า “พระพุทธเจ้า มีจริงไหม?” เพราะจิตของเขายังหยาบ ซึ่งเป็นเรื่องปรกติ ของผู้ที่ไม่ได้เจริญศีล สมาธิ ปัญญา ถ้าเป็นอย่างนี้มันก็คุย กันล�ำบาก เพราะฉะนั้นฉันจึงเลือกที่จะตอบด้วยการอ้างถึง พระพุทธเจ้าทีเ่ ป็น “พุทธภาวะ” มากกว่าพระพุทธเจ้าทีเ่ ป็น 24 | ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย


บุคคลในประวัตศิ าสตร์ ดังตัวอย่างนี้ ครัง้ หนึง่ มีญาติโยมนิมนต์ หลวงปู่ชาเดินทางไปอินเดียเพื่อ “นมัสการสถานที่เกิดของ พระพุทธเจ้า” หลวงปูช่ าจึงถามกลับไปว่า “พระพุทธเจ้าเกิด ทีน่ ไี่ ม่ได้หรือ?” “พระพุทธเจ้า” ในค�ำตอบของท่านหมายถึง “พุทธภาวะ” อันได้แก่ความรู้ ตื่น เบิกบาน ถ้าเป็นเช่นนั้น พระพุทธเจ้าก็สามารถอุบัติขึ้นในโลกได้ไม่จ�ำกัดทั้งจ�ำนวน กาลเวลา และสถานที่ หากผู้ใดสามารถรู้แจ้งแทงตลอดใน อริยสัจจ์ ซึง่ เป็นความจริงทีม่ อี ยูต่ ามธรรมชาติกส็ ามารถเป็น พระพุทธเจ้า คือเข้าถึง “พุทธภาวะ” ได้ ความรู้ต่างๆที่มีอยู่ในโลกไม่ว่าแขนงใด เมื่อไม่ได้รับการ ขวนขวายใส่ใจศึกษาจากคนรุน่ หลังก็มอี นั ต้องหายสาบสูญไป เป็นธรรมดา เช่นความรูเ้ กีย่ วกับสมุนไพรเป็นต้น “พระธรรม วินยั ” ก็เข้าข่ายนีเ้ ช่นกัน หากพุทธบริษทั ไม่ปฏิบตั สิ บื ต่อหรือ ไม่ฉลาดในการรักษาก็ย่อมมีการเสื่อมสิ้นไปโดยล�ำดับ แต่ จะช้าหรือเร็วก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย อาจจะเร็วหรือช้ากว่า ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย | 25


๕,๐๐๐ ปีอย่างทีเ่ ราๆท่านๆเคยรับรูก้ นั มา ซึง่ ตัวเลขห้าพันนี้ มิได้มาจากการพยากรณ์ (นิยามดัง้ เดิมของค�ำว่า ‘พยากรณ์’ หมายถึงการบอกความหมายของสิ่งนั้นๆให้ชัดเจน) ของ พระพุทธองค์ แต่เกิดจากการตีความของอาจารย์ชั้นหลัง ดังที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์อนาคตวงศ์ และถ้าเราพิจารณาตาม “วัชชีสตู ร” ก็จะพบว่า “เหตุปจั จัย" เป็นสิง่ ส�ำคัญทีส่ ดุ ในการ ด�ำรงอยู่หรือสูญสิ้นไปของพระพุทธศาสนา แคว้นมคธซึ่งปกครองด้วยระบอบกษัตริย์พระองค์เดียว เป็นใหญ่ หมายจะยึดครองแคว้นวัชชี ซึง่ ปกครองด้วยระบอบ กษัตริย์หลายพระองค์รวมกันเป็นใหญ่ พระเจ้าอชาตศัตรูซึ่ง เป็นกษัตริยข์ องแคว้นมคธในขณะนัน้ จึงส่งวัสสการพราหมณ์ ไปกราบทูลถามความเห็นของพระพุทธองค์วา่ มีความเป็นไป ได้มากน้อยเพียงใดที่จะท�ำการส�ำเร็จ ขณะนั้นพระพุทธองค์ ทรงประทับอยู่ที่เขาคิชกูฏ ใกล้กรุงราชคฤห์ ได้ตรัสถามพระ อานนท์วา่ ธรรมะ ๗ ประการนีช้ าววัชชียงั ประพฤติกนั อยูห่ รือไม่ 26 | ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย


๑. หมั่นประชุมกันเนืองนิตย์ ๒. พร้อมเพรียงกันประชุม พร้อมเพรียงกันเลิกประชุม ๓. ไม่ถอื อ�ำเภอใจบัญญัตสิ งิ่ ทีม่ ไิ ด้บญ ั ญัตไิ ว้ ไม่ลม้ ล้างสิง่ ที่ได้บัญญัติ ถือปฏิบัติมั่นตามวัชชีธรรม ๔. ท่านเหล่าใดเป็นผู้ใหญ่ ชนชาววัชชีเคารพนับถือ ท่านเหล่านั้น เห็นถ้อยค�ำของท่านว่าเป็นสิ่งอันพึงรับฟัง ๕. บรรดากุลสตรีกุลกุมารีทั้งหลาย มิให้อยู่อย่างถูก ข่มเหงรังแก ๖. เคารพสักการบูชาเจดีย์ของชาววัชชี ทั้งภายในและ ภายนอก ไม่ละเลยการท�ำมิกพลี ๗. จัดให้ความอารักขาคุ้มครองป้องกันอันชอบธรรม แก่พระอรหันต์ ตั้งใจให้ท่านที่ยังมิได้มา พึงมาสู่แว่นแคว้น ที่มาแล้วพึงอยู่โดยผาสุก ธรรมเหล่านี้มีชื่อเรียกว่า “อปริหานิยธรรม” เป็นธรรม ส�ำหรับผู้น�ำ ผู้ที่ต้องรับผิดชอบบ้านเมือง หากประพฤติแล้ว ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย | 27


จะไม่ท�ำให้เกิดความเสื่อม เป็นไปเพื่อความเจริญถ่ายเดียว วัสสการพราหมณ์กราบทูลว่า เพียงข้อใดข้อหนึ่งก็หวังความ เจริญได้ จะกล่าวไปไยถึง ๗ ข้อ พระเจ้าอชาตศัตรูไม่ควรรบ กับชาววัชชี เว้นแต่จะใช้วิธียุและท�ำให้แตกกัน พระพุทธเจ้า ปรินิพพานได้ไม่นาน วัสสการพราหมณ์ก็เริ่มแผน แสร้งท�ำ เป็นถูกพระเจ้าอชาตศัตรูโบยตีหนีไปพึ่งกษัตริย์วัชชี ยุแยง ตะแคงรั่ว จนกษัตริย์วัชชีบาดหมางใจกันเอง กองทัพของ แคว้นมคธจึงเข้ายึดเมืองวัชชีได้โดยง่าย แหล่งข้อมูล หนังสือ “ภัยแห่งพระพุทธศาสนาในประเทศไทย” พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรมและประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=42258.0 http://www.84000.org/anakot/kan1.html#1

28 | ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย


ญาติโยมผูห้ นึง่ ถามพระว่า “จะท�ำอย่างไรดีเมือ่ ลูกเกลียดพ่อ? เพราะพ่อไม่ให้ไปวัด” แรกได้ยินฉันยังตอบค�ำถามนี้ไม่ได้ ๒-๓ วันผ่านไปจึง นึกถึงกรณีคล้ายๆกันนี้ของพระอาจารย์ฝรั่งหลายท่าน ทว่า ประสบการณ์และการตัดสินใจของพระอาจารย์ทา่ นหนึง่ ช่าง น่าจดจ�ำ เมื่อเป็นพระหนุ่ม พระอาจารย์ท่านนี้มีศรัทธาใน พระพุทธศาสนาอย่างมากและตัง้ ใจจะบวชเป็นพระ แต่โยมพ่อ กับโยมแม่ของท่านไม่เห็นด้วย เพราะอยากให้ลกู ชายประกอบ อาชีพที่มั่นคงในบริษัท ขณะนั้นพระอาจารย์พิจารณาเรื่องนี้ ว่า “ถ้าเราท�ำงานในบริษทั แล้วโยมพ่อโยมแม่เห็นเรามีความ ทุกข์ ท่านก็คงพลอยเป็นทุกข์ไปกับเราด้วย ถ้าเราบวชเป็นพระ แล้วโยมพ่อโยมแม่เห็นเรามีความสุข แม้ว่าท่านจะไม่เต็มใจ แต่อย่างหลังคงจะท�ำให้ท่านเป็นทุกข์น้อยกว่าอย่างแรก” เมื่อพิจารณาได้ดังนั้นพระอาจารย์ก็อยู่เป็นพระมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบันท่านด�ำรงเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งหนึ่งใน ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย | 29


ต่างประเทศ และพ่อแม่ของท่านก็ถึงแก่กรรมไปแล้ว ไม่วา่ ยุคใดก็มเี รือ่ งอย่างนีเ้ กิดขึน้ กรณีของเจ้าชายสิทธัตถะ ก็สามารถน�ำมาเป็นอุทาหารณ์ได้ ท่านไม่ได้หนีออกจากวัง เพราะเกลียดชังพระราชบิดา แต่ทา่ นปรารนาทีจ่ ะช่วยให้พน้ จากมหันตภัยคือความแก่ ความเจ็บ ความตาย อีกอย่างคนที่ มีมจิ ฉาทิฐนิ นั้ กระจัดกระจายอยูท่ วั่ โลก ทุกวันนีย้ งิ่ เห็นได้งา่ ย ตามสือ่ ต่างๆ ให้ถอื เสียว่าเป็นโอกาสทีเ่ ราจะได้สร้างบารมีเช่น ขันติบารมี เมตตาบารมี ปัญญาบารมี และอื่นๆ ในวันหนึ่ง ข้างหน้าพ่อจะได้เห็นว่าการปฏิบัติในทางพุทธศาสนา ท�ำให้ ลูกมีความสุขมากขึ้น และความสุขนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหาก ลูกไม่ได้เข้าใกล้ความสงบวิเวก และกัลยาณมิตรผู้มีวิถีชีวิต แนบแน่นอยู่กับวัด

กองบรรณาธิการนิตยสารฉบับหนึ่งส่งค�ำถามมาให้ฉันช่วย 30 | ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย


ตอบ ฉันจึงบอกให้เขาไปอ่านในบล็อกดูก่อนว่า ชอบใจการ ตอบค�ำถามแบบนีไ้ หม ไม่กอี่ ดึ ใจทางกองบรรณาธิการก็เสนอ มาว่า “รบกวนช่วยตอบยาวๆ เพราะตอบสั้นๆ แบบเซนกลัว คนอ่านงง” ฉันจึงตอบอีเมล์กลับไปว่า “อาตมาไม่เคยระแคะ ระคายเลยว่า การตอบสัน้ ๆ ตรงไปตรงมาแบบย้อนถามตามที่ ปรากฏในบล็อกของอาตมา เขาเรียกว่าตอบแบบเซน อาตมา เพียงแต่ตอบไปตามลักษณะของค�ำถาม ส่วนคนอ่านก็มีทั้ง ที่มีปัญญามากและมีปัญญาน้อย คนที่มีปัญญามากถึงแม้ จะงง แต่เขาก็คงเก็บเอาไปพิจารณาหาทางสว่างของเขาเอง ซึ่งการกระท�ำเช่นนี้นักปราชญ์ทางพุทธศาสนาสรรเสริญ ส่วนคนที่มีปัญญาน้อยเมื่อตกอยู่ในความงงง เขาก็ปล่อยให้ ตัวเองงงงงอยู่อย่างนั้นชั่วกัปชั่วกัลป์” ในอีเมล์ถัดมาฉันอธิบายเพิ่มเติมว่า “การตอบค�ำถาม แบบพระป่า มีจุดมุ่งหมายให้ผู้ถามย้อนกลับมาดูตัวเอง เพื่อ ให้เกิดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง มากกว่าที่จะมุ่งให้ ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย | 31


ความรู้เชิงวิชาการ จึงเป็นธรรมดาที่เจ้าของค�ำถามจะได้รับ แรงสั่นสะเทือนมากกว่าใครอื่น”

ตอบค�ำถามให้กบั คอลัมน์ Dhamma 360° นิตยสาร Secret ปีที่ ๕ ฉบับ ๑๑๐ วันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๖ ถาม ปัจจุบนั ความหมายของค�ำว่า “ศีลธรรม” เริม่ เปลีย่ นแปลง ไปตามยุคสมัย คนเริ่มรับได้กับการท�ำความชั่วและเห็นการ กระท�ำชั่วเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ท�ำกัน... ในเมื่อเราถูก สังคมหล่อหลอมให้เห็นว่าความชัว่ เป็นเรือ่ งธรรมดา แล้วเรา จะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรถูกหรือผิด เพราะแม้แต่ความคิดของ เราก็ถูกหล่อหลอมโดยสังคมที่ชาชินกับความชั่ว ตอบ ใจใสเป็นบุญ (ถูก) ใจขุ่นเป็นบาป (ผิด) ถาม เราเอาอะไรเป็นมาตรวัดความถูกผิดได้บ้างคะ 32 | ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย


ตอบ เอาใจใสเป็นบุญ ใจขุ่นเป็นบาป เป็นมาตรวัดได้ ถาม หมายความว่า เราควรหันกลับมาดูใจของเราเองตลอด ใช่ไหมคะ ตอบ ตั้งแต่ตื่นยันหลับเลยทีเดียว ถาม รบกวนท่านช่วยแนะน�ำวิธีดูใจให้หน่อยได้ไหมคะ ว่าท�ำอย่างไร ตอบ ถ้ามันคิดไปในทางบุญก็ลูบหัวให้ก�ำลังใจ ถ้ามันคิดไป ในทางบาปก็ดึงหางมันเอาไว้ ถาม ในเมื่อความคิดของเราถูกหล่อหลอมโดยสังคมที่ชาชิน กับความชัว่ แสดงว่าความคิดของเราเชือ่ ไม่ได้เลยหรือเปล่าคะ ตอบ เชื่อได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ถาม เชื่อได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เพราะอะไรคะ ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย | 33


ตอบ เพราะมันเป็นของไม่แน่นอน ถาม เราจะท�ำอย่างไรไม่ให้เราตกเป็นทาสของความคิด ตัวเองคะ ในเมื่อเกิดมาก็คิดแล้ว... ตอบ พระเดชพระคุณพระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี เคยให้คติธรรมไว้วา่ “ในโลกนี้มีคนอยู่ประเภทเดียวที่ไม่คิด คนประเภทนั้นคือ... คนตาย กรุณากลับไปอ่านข้อ ๔ อีกครั้ง” ถาม ถ้าความคิดของเราเชือ่ ถือไม่ได้แล้ว เราควรเชือ่ ถืออะไร หรือใครคะ ตอบ ควรเชื่อถือผู้มีปัญญาและปรารถนาดีต่อเรา อาตมา แนะน�ำให้ศึกษาค�ำสอนของพระพุทธเจ้า ถาม เราจะทราบได้อย่างไรคะ ว่าคนนั้นคนนี้เป็นผู้มีปัญญา (อย่างแท้จริง) มีวิธีสังเกตไหมคะ 34 | ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย


ตอบ การรู้จักปล่อยวางและความอ่อนน้อมถ่อมตัว เป็น เครื่องหมายของผู้มีปัญญา ถาม ซิกมันด์ ฟรอยด์เชื่อว่าพฤติกรรมของคนเกิดจากการ เลี้ยงดูในวัยเด็ก ในทางพระพุทธศาสนามีความเชื่อในเรื่อง พฤติกรรมของคนบ้างไหมคะว่าเกิดมาจากอะไร และถ้า พฤติกรรมของคนทุกคนเกิดจากการเลี้ยงดูจริง แสดงว่าสิ่ง ที่เขาท�ำก็ไม่ผิด เพราะมันเกิดจากการเลี้ยงดูมาแบบผิดๆ ใช่หรือเปล่าคะ ตอบ หลวงพ่อชาเคยให้ข้อคิดเตือนสติลูกศิษย์ไว้ว่า “จงระวังความคิดของท่าน เพราะความคิดของท่าน จะกลายเป็นความประพฤติของท่าน จงระวังความประพฤติของท่าน เพราะความประพฤติ ของท่าน จะกลายเป็นความเคยชินของท่าน จงระวังความเคยชินของท่าน เพราะความเคยชินของ ท่าน จะกลายเป็นอุปนิสัยของท่าน ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย | 35


จงระวังอุปนิสัยของท่าน เพราะอุปนิสัยของท่าน จะ ก�ำหนดชะตากรรมของท่านชั่วชีวิต” ถาม การกระท�ำของคนทีไ่ ม่รใู้ นถูกหรือผิด ถือว่าบาปไหมคะ เพราะเขาอาจไม่ได้เจตนาท�ำ แต่ท�ำด้วยความเคยชิน เช่น ถูกเลี้ยงดูมาอย่างทารุณ พอโตขึ้นเขาจึงทารุณคนอื่นบ้าง เพราะคิดว่าการทารุณคนอื่นเป็นเรื่องปรกติ ตอบ ถ้าโจรมาปล้นบ้านของโยม เมื่อโจรรวบรวมทรัพย์สิน เงินทองได้ตามทีต่ อ้ งการแล้ว ก็มดั โยมและคนในครอบครัวไว้ กับเสา ก่อนจะจุดไฟเผาโจรคนนั้นท�ำหน้าระรื่นแล้วบอกว่า สิ่งที่ฉันท�ำวันนี้ไม่ผิดนะ เพราะฉันถูกเลี้ยงดูมาแบบผิดๆ โยมจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างไร? ถาม มีไหมคะที่การกระท�ำในทางโลกถือว่าไม่เป็นไร ไม่ผิด แต่ในทางธรรมถือว่าผิด ตอบ มี เช่นการเปิดบ่อนการพนันโดยถูกต้องตามกฏหมาย 36 | ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย


ขึน้ ชือ่ ว่าการพนันไม่วา่ จะเล่นในยุคดึกด�ำบรรพ์หรือยุคปัจจุบนั ไม่ว่าจะเล่นในกาสิโนหรูหราที่ลาสเวกัสหรือบ่อนซ่อมซ่อที่ ชายแดนเขมรก็ให้โทษเสมอกัน เพราะผู้แพ้ย่อมเสียทรัพย์ ผู้ชนะย่อมก่อเวร นี้เป็นความจริงตามธรรมชาติ ไม่ขึ้นต่อ กาล สถานที่ เทคโนโลยี เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ความเชือ่ หรือความคิดเห็นของบุคคล ถาม หลายคนเป็นคนดี รู้ผิดชอบชั่วดีอยู่แล้ว จ�ำเป็นต้อง ปฏิบัติธรรมไหมคะ ตอบ จ�ำเป็น ถาม เพราะอะไรจึงจ�ำเป็นคะ ตอบ เพราะคนดีก็ยังมีความทุกข์ ถาม ระหว่างคนปฏิบตั ธิ รรมทีน่ สิ ยั แย่ กับคนดีทไี่ ม่ปฏิบตั ธิ รรม แบบไหนดีกว่า ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย | 37


ตอบ คนปฏิบัติธรรมที่นิสัยแย่ ไม่ช้าก็เร็วจะเปลี่ยนเป็นคน ปฏิบตั ธิ รรมทีน่ สิ ยั ดีและอยูเ่ หนือดี ส่วนคนดีทไี่ ม่ปฏิบตั ธิ รรม เขาไม่มีโอกาสเปลี่ยนเป็นคนปฏิบัติธรรมที่อยู่เหนือดี เมื่อ พบเห็นคนไม่ดีเขาก็เป็นทุกข์ร�่ำไป เพราะเขายึดมั่นถือมั่น ในความดี ถาม บางคนบอกว่าเขาไม่คอ่ ยมีทกุ ข์ แบบนีเ้ ขาจะไปปฏิบตั ธิ รรม ท�ำไมคะ ตอบ นัน่ นะสิ คนไม่หวิ ก๋วยเตีย๋ วจะไปร้านขายก๋วยเตีย๋ วท�ำไม ถาม เป็นคนดี-ไม่ดี วัดจากอะไรคะ เพราะถ้าวัดจากสายตา แต่ละคน มันนานาจิตตัง คนที่รับได้ก็จะบอกว่าคนนั้นเขาดี แต่คนที่รับไม่ได้ก็จะบอกว่าเขาไม่ดี ตอบ เอานานาจิตตังของคนมีกเิ ลสมาวัดมันก็ยงุ่ อย่างนีแ้ หละ ถาม การเป็นคนดี (ในใจ) แล้วไม่กล้าเป็นคนดีขา้ งนอก เพราะ 38 | ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย


อายเพื่อน อายสังคมแวดล้อมของตัวเอง แบบนี้ถือว่าเป็น คนดีไหมคะ เพราะอะไร ตอบ เป็นบ้าง ครูบาอาจารย์ที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบมักจะ แนะน�ำให้ลูกศิษย์ท�ำความดีแบบ “ปิดทองหลังพระ” เพราะ ความดีที่เกิดจากการท�ำความดีแบบนี้ เป็นความดีที่บริสุทธิ์ และเป็นไปเพื่อลดละอัตตาตัวตน วัดหนองป่าพงสมัยก่อน ต้องตักน�้ำ หาบน�้ำจากบ่อมาใส่โอ่งตามจุดต่างๆภายในวัด พระอาจารย์ท่านหนึ่งมักจะแอบไปตักน�้ำตอนที่ไม่มีใครเห็น ภายหลังท่านเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า เพราะอยากทดลองดูว่า การทีเ่ ราตักน�ำ้ ให้คนอืน่ อาบจะมีความรูส้ กึ อย่างไร ซึง่ มันเป็น การทดลองที่น่ารักมากกว่าน่าอาย และได้คุณงามความดี เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะความดีหรือบุญสามารถบ�ำเพ็ญได้ สามทางคือกาย วาจา ใจ ถาม เห็นผู้ปฏิบัติหลายคนหรือคนดีหลายคนต้องตายอย่าง น่าสงสาร ในขณะที่คนชั่วยังอยู่เป็นปรกติสุขดี แบบนี้เรา ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย | 39


จะท�ำดีหรือปฏิบตั ธิ รรมไปเพือ่ อะไรคะ เพราะถึงเราเป็นคนดี หรือปฏิบัติธรรมแค่ไหนก็ตายอยู่ดี แถมตายก่อนคนชั่วด้วย ตอบ คนเกิดน่าสงสารกว่าเยอะ

ตอบค�ำถามให้กบั คอลัมน์ Dhamma 360° นิตยสาร Secret ปีที่ ๕ ฉบับ ๑๑๖ วันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๖ และฉบับที่ ๑๑๗ วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ถาม อาการไม่ชอบหน้าตั้งแต่แรกพบ (หรือภาษาชาวบ้าน เรียกว่า เกลียดขี้หน้า) โดยไม่รู้สาเหตุ เกิดจากสาเหตุอะไร ได้บ้างคะ ตอบ แรกเกิดมาบนโลกใบนี้ เรายังไม่รู้จักค�ำว่า “เกลียด ขี้หน้า” เมื่อโตขึ้นเราจึงเริ่มจ�ำแนกสิ่งที่เราชอบและไม่ชอบ เช่นเราชอบคนใจดี ผ่อนคลาย ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาไพเราะ อ่อนหวาน เพราะอยู่ใกล้แล้วเรามีความสุข เราไม่ชอบคน 40 | ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย


อารมณ์ร้าย จู้จี้เจ้าระเบียบ หน้าขมึงทึง พูดกระโชกโฮกฮาก เพราะอยู่ใกล้แล้วเราเป็นทุกข์ จากนั้นเราก็จะเก็บสัญญา (ความหมายดั้งเดิมแปลว่า ความก�ำหนดหมายให้จ�ำอารมณ์ นั้นๆ ได้) เหล่านี้เอาไว้ในใจ ส่วนนิสัยใจดีหรือใจร้ายดังกล่าว ข้างต้นก็มีประจ�ำสันดานของบุคคลทั่วไปอยู่แล้ว ซึ่งจะ แสดงออกมาทางใบหน้าตลอดจนอากัปกิริยาโดยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเมคอัพหนาเตอะเพียงใดก็ยังปรากฏให้เห็น เมื่อมี เหตุให้ต้องพบกับบุคคลที่เราเคยท�ำสัญญาไว้ว่า “ไม่ชอบ” (เพราะอยูใ่ กล้แล้วเราเป็นทุกข์) อาการเกลียดขีห้ น้าก็จะปรากฏ ขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่ทั้งนี้ “สัญญา” เป็นของไม่แน่นอน หาก มีเหตุจำ� เป็นต้องเกีย่ วข้องหรือร่วมงานกับบุคคลทีเ่ ราเกลียด ขี้หน้า เราสามารถสร้างสัญญาขึ้นมาใหม่ได้ ด้วยการมองหา คุณสมบัตดิ ๆี ในตัวเขา เช่นความขยันหมัน่ เพียร ความเอาจริง เอาจังในการท�ำงาน ความซือ่ สัตย์ ความรักครอบครัวหรืออืน่ ๆ ถาม เราจะท�ำยังไงให้อาการเหล่านี้หายไปได้บ้าง ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย | 41


ตอบ ไม่ต้องท�ำอะไรพิเศษ อาการเหล่านี้แวบไปแวบมา ของมันเองโดยธรรมชาติ มันไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลา ถ้ามันอยู่กับเราตลอดเวลา ป่านนี้เราคงจะอกแตกตายไป นานแล้ว (ฮา) ที่ต้องท�ำก็คือสอนจิตของตัวเองให้เห็นความ ไม่แน่นอนของอาการเหล่านี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจิตจะฉลาด ในการปล่อยวางอารมณ์ ถาม เวลาเราเกลียดเราแค้นใครจนไม่อยากเกีย่ วพันเกีย่ วข้อง กันอีกในชาติต่อๆไป นอกจากเราจะหนีไปนิพพานแล้ว เรา จะมีวิธีอะไรให้ชาติหน้าไม่ต้องเจอกับเขาอีกคะ ตอบ แผ่เมตตาเยอะๆ จนเป็นสันดาน ถ้าเราพบใครคนนั้น อีกครั้งในชาตินี้ แล้วความเมตตาเกิดขึ้นภายในใจก่อนความ เกลียดชัง แสดงว่าใช้ได้ ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนเราก็จะ ไม่ได้เจอคนที่เราเกลียดชังอีกต่อไป เพราะเขาได้กลายเป็น คนที่เรารักเสียแล้ว

42 | ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย


ถาม ได้ยนิ มาว่า “กรวดน�ำ้ คว�ำ่ ขัน” คือการตัดขาด ตัดเยือ่ ใย ถ้าเราอยากตัดขาดกับใครสักคน เรากรวดน�้ำคว�่ำขันแล้ว จะได้ผลไหมคะ ตอบ ขึ้นอยู่กับว่าคว�่ำที่ไหน ถ้าคว�่ำลงบนหัวของใครคนนั้น ก็น่าจะได้ผล ถาม หากไม่ได้ผลควรท�ำอย่างไรดี ตอบ คว�่ำอีกขันลงบนหัวของตัวเอง จะได้เย็นลง ถาม ความเกลียดเกิดจากอะไรคะ ตอบ ส่วนหนึ่งเกิดจากการตั้งจิตไว้ไม่ดี อาตมาเคยปฏิบัติ ธรรมกับพระอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งยิ้มได้กับทุกเรื่อง คนชมว่า วัดสวย ท่านก็ยิ้ม คนบอกว่าไม่ศรัทธาวัดนี้ ท่านก็ยิ้ม ท�ำให้ อาตมาสงสัยมากถึงมากที่สุดว่าท่านท�ำได้ยังไง เรื่องที่เรา หงุดหงิดงุ่นง่านแต่ท่านกลับยิ้มได้ ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือท่าน สามารถรักษาอารมณ์แบบนี้ได้ตั้งแต่ตื่นยันหลับเลยทีเดียว ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย | 43


เมือ่ ปฏิบตั ธิ รรมไปนานๆอาตมาจึงพบค�ำตอบ นัน่ ก็คอื “การ ตั้งจิตไว้ดี” ถ้าจิตใจของเราดี ไม่ว่าดีหรือร้ายมากระทบ มันก็ดีทั้งนั้น แต่ถ้าจิตใจของเราไม่ดี ได้ยินหรือเห็นอะไรก็ ขวางหูขวางตาไปหมดแม้แต่เรื่องดีๆ ถาม เวลาเราเกลียดใคร เราจะนึกหน้าเขาออกง่ายกว่าคนอืน่ ๆ ที่เรารู้สึกเฉยๆ เพราะอะไรคะ ตอบ เพราะเราให้ความส�ำคัญมั่นหมายในอารมณ์นั้นอยู่ บ่อยๆ มันจึงฝังใจ ถาม เราจะรักและเมตตาให้กบั คนทีเ่ ราแสนเกลียดได้อย่างไร ในเมื่อใจไม่ยอม ตอบ ใจมันยังไม่ยอมก็ไม่เป็นไร พิจารณาให้เห็นโทษของ ความเกลียดชังไปเรื่อยๆ ถ้าเราไม่รีบสะสาง ก็ต้องจองล้าง จองผลาญกันอย่างนี้ไม่รู้จบสิ้น

44 | ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย


ถาม กับคนที่เราไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เช่นนักการเมืองที่ คดโกง นักธุรกิจที่เอาเปรียบลูกค้า เราจะเมตตา แผ่เมตตา หรือส่งความปรารถนาดีให้เขาได้อย่างไร ตอบ เมตตานักการเมืองผูน้ นั้ ด้วยการไม่เลือกเขาเข้าไปบริหาร บ้านเมืองอีก ส่งความปรารถนาดีให้นักธุรกิจผู้นั้นด้วยการ ไม่อุดหนุนกิจการของเขา เราไม่ได้ท�ำสิ่งนี้ด้วยความโกรธ หรือเกลียดชัง แต่เราท�ำเพื่อให้เขาได้เรียนรู้ วันหนึ่งเขาอาจ ฉุกคิดได้วา่ เอ๊ะ! เราท�ำอะไรไม่ถกู ต้องหรือเปล่า ประชาชนจึง ไม่เลือกเรา หรือ เอ๊ะ! เราท�ำอะไรผิดหรือเปล่า ธุรกิจของเรา จึงขาดทุน ในมงคลสูตรก็บอกไว้ชดั เจนอยูแ่ ล้วว่า “อ เสวนา จ พาลานํ การไม่คบหรือสนับสนุนคนพาล น�ำมาซึง่ ความเจริญ” ถาม เราควรอธิษฐานอย่างไรให้คนเหล่านี้ส�ำนึกตัวหรือ ท�ำตัวดีขึ้น ตอบ อธิษฐานให้ตัวเองส�ำนึกตัวหรือท�ำตัวดีขึ้นมีโอกาส เป็นไปได้มากกว่า ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย | 45


ถาม กับคนที่เราแค้นมากๆ เช่นคนที่ฆ่าพ่อแม่พี่น้องของเรา คนที่โกงเงินเราจนท�ำให้บริษัทล้มละลายฯลฯ เราควรท�ำ อย่างไรให้ใจปล่อยวาง ไม่เคียดแค้นคนเหล่านี้ (ปล่อยวาง เมตตา พูดง่ายแต่ท�ำยาก) ควรคิดหรือท�ำอย่างไรดี ไม่ให้ ตัวเองหยิบปืนไปยิงเขาเพราะความแค้น ตอบ อาตมาเป็นเด็กบ้านนอก สมัยเป็นวัยรุ่นเคยไปเที่ยว งานวัดแล้วถูกท�ำร้ายบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ แต่ที่เจ็บไม่น้อย ก็คือใจ เมื่อหนีกลับมาถึงบ้านจึงคว้าดาบยาวเล่มหนึ่ง แล้ว ไปนั่งเงียบๆมืดๆ อยู่คนเดียวใต้ต้นไม้ คิดกลับไปกลับมาว่า จะเอายังไง ถ้าเราย้อนกลับไปที่งานวัดแล้วไล่ฟันพวกมัน ให้เลือดสาด คงจะสะใจที่ได้แก้แค้น แต่เราอาจต้องหนี หัวซุกหัวซุนเหมือนเจ้าของดาบเล่มนี้ ดาบเล่มนี้เป็นของ พี่ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นญาติห่างๆ บ้านของเขาอยู่อีกจังหวัด หนึ่ง เขามีเรื่องตีรันฟันแทงกับคนต่างหมู่บ้าน จึงหนีมาพึ่ง บารมีคุณตาคุณยายพร้อมดาบเล่มนี้ เมื่อคิดได้ดังนั้นเราจึง เอาดาบบางระจันไปเก็บแล้วทายาหม่อง (นัง่ อยูใ่ นทีม่ ดื นานๆ 46 | ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย


ถูกยุงรุมกัด) จากนั้นก็เข้านอน พยายามข่มตาหลับ เพราะ พรุ่งนี้ต้องรีบตื่นแต่เช้าไปโรงเรียนเพื่อลอกการบ้าน (ฮา) ทีบ่ อกว่า “ปล่อยวาง - เมตตา พูดง่ายแต่ทำ� ยาก” พระจ�ำนวน ไม่นอ้ ยทีท่ า่ นอยูม่ าจนเป็นครูบาอาจารย์ของพวกเราทุกวันนี้ เพราะว่าการปฏิบัติธรรมมันท�ำยากนี่แหละ แต่ท่านเห็นเป็น เรื่องท้าทาย แถมยังพูดได้น่าคิดว่า “ท�ำเรื่องยากๆนี่แหละดี ไปท�ำท�ำไมเรื่องง่ายๆ ใครก็ท�ำได้” ถาม ท�ำไมบางอย่างยิง่ เกลียดยิง่ เจอ เช่น ไม่ชอบคนกินเหล้า แต่ได้สามีเป็นคนกินเหล้าฯลฯ ตอบ “สิ่งที่ไม่ชอบ...เราจะได้” อาตมาได้ยินครูบาอาจารย์ พูดอย่างนีบ้ อ่ ยครัง้ ก็ทำ� ให้สงสัยเหมือนกันว่า เพราะเหตุใด? อันทีจ่ ริงเราก็ได้ทงั้ สิง่ ทีช่ อบและไม่ชอบนัน่ แหละ แต่สงิ่ ทีช่ อบ มันท�ำให้เราเพลิดเพลิน จนลืมตนลืมตัว ส่วนสิ่งที่ไม่ชอบ มันท�ำให้เราเป็นทุกข์ เผ็ดร้อน ขมขื่น ไม่เจริญใจ ความทุกข์ เป็นอาการที่โดดเด่นเข้มข้น พระพุทธองค์ทรงเห็นธรรมชาติ ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย | 47


อันนี้ จึงยกมาเปิดประเด็นในการศึกษาหาความจริงของชีวติ (ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค) ถาม หากนั่นเป็นเพราะกรรม แปลว่าเราไม่ควรปฏิเสธกรรม หรือเปล่า ควรยอมรับและปล่อยให้ทุกอย่าง เป็นไปตาม กรรมใช่ไหมคะ ตอบ กรรม แปลว่าการกระท�ำประกอบด้วยเจตนา คือกระท�ำ ด้วยความจงใจ ในภาษาอังกฤษจะอธิบาย “กรรม” ด้วยค�ำว่า action หรือ deed ซึ่งให้ความหมายเป็นกลางๆ ส่วนค�ำ ว่ากรรมที่คนไทยทั่วไปเข้าใจมักจะหมายถึงอกุศลกรรม ซึ่งเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะกรรมมีทั้งชนิดที่เป็น กุศลและอกุศล และมนุษย์สามารถเลือกที่จะกระท�ำ หรือ ไม่กระท�ำกรรมสองอย่างข้างต้นได้ด้วยตัวของเขาเอง จาก ตัวอย่างที่ยกมา ถ้าภรรยาได้สามีเป็นคนกินเหล้า ก็ต้องถาม ตัวเองว่า เมื่อก่อนเราอยู่เป็นอิสระของเราดีๆ แล้วใครเป็น คนตัดสินใจตามเขามา? ถ้าสามีได้ภรรยาเป็นคนชอบเล่น 48 | ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย


การพนัน ก็ต้องถามตัวเองว่า เมื่อก่อนเขาอยู่กับพ่อแม่ของ เขาดีๆ แล้วใครเป็นคนพาเขามา? นอกจากนี้ควรมองในอีก มุมหนึ่งว่า การที่เราต้องเจอกับสิ่งที่เราเกลียดซ�้ำๆ ซากๆ ก็ มีแง่ดีเหมือนกัน เพราะมันท�ำให้เราเห็นโทษภัยในวัฏสงสาร และขวนขวายหาทางออกจากมัน ถาม ท�ำไมจึงนึกถึงความชัว่ ของคนอืน่ ออกง่ายกว่าการนึกถึง ความดีของเขา ตอบ คนที่มีนิสัยอย่างนี้ส่วนใหญ่จัดอยู่ในกลุ่มโทสจริต ต้อง พยายามฝึกมองในแง่ดีตั้งแต่ตื่นยันหลับ ถาม อาวุธที่สามารถฆ่าความเกลียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ คืออะไรคะ ตอบ เมตตากับปัญญา ถาม ท�ำอย่างไรให้ใจปราศจากความเกลียดชัง (รบกวนขอ ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย | 49


ค�ำตอบแบบน�ำไปใช้ได้จริงและเป็นรูปธรรมด้วยคะ) ตอบ ย้อนกลับไปทบทวนเนื้อหาทั้งหมดหนึ่งรอบ ตามด้วย การนั่งสมาธิหรือเดินจงกรมอีกหลายๆรอบ (สามารถท�ำได้ จริงและน�ำใช้ไปได้จริง ของอย่างนี้ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง)

บ่อยครั้งที่สังคมมักเชื่อว่าการส่งเสริมศีลธรรมจะท�ำให้ คนในสังคมเป็น “คนดี” และหวังต่อไปว่าการเพิม่ จ�ำนวนคนดี จะช่วยลดเรื่องไม่ดีต่างๆลง (คอรัปชั่น อาชญากรรม ฯลฯ) แต่ปัญหาของแนวคิดนี้คือเราไม่สามารถชั่ง ตวง วัด ความ เป็น “คนดี” ของผู้คนได้ อีกทั้งการเป็นคนดีในแง่มุมหนึ่ง ก็อาจเป็นคนเลวในอีกแง่มุมหนึ่งได้เช่นกัน (เช่นโจรที่เลว ก็อาจเป็นพ่อทีด่ ไี ด้ในคนเดียวกัน) ดังนัน้ การมุง่ ส่งเสริมศีลธรรม เพือ่ หวังจะช่วยแก้ปญั หาสังคมนัน้ อาจยังต้องเป็นข้อถกเถียงกัน ต่อไป เนือ่ งจากไม่สามารถหาหลักฐานข้อมูลทางสถิตมิ าสรุปได้

50 | ค�ำถามห้าม (ไม่) หาย


ข้อมูลจาก www.whereisthailand.info หัวข้อ ‘ศีลธรรม GDP และ อาชญากรรม’

ฉันขอเสนอหลักการและมุมมองดังต่อไปนี้ ถ้าคนไทย เข้าใจและน�ำศีลห้าไปปฏิบัติในชีวิตประจ�ำวัน คอรัปชั่น อาชญากรรม ฯลฯ จะลดลงไหม? สังคมใดอยูเ่ ย็นเป็นสุขย่อม แสดงว่า มี “คนดี” เป็นสมาชิกของสังคมนัน้ อยูเ่ ป็นจ�ำนวนมาก รูเ้ ท่านีก้ เ็ พียงพอแล้วกระมัง จะชัง่ ตวง วัด ความเป็น “คนดี” ของผูค้ นกันไปไหนไทยแลนด์ สูเ้ อาเวลาทีจ่ ะสูญเสียไปกับการ หาหลักฐานข้อมูลทางสถิตใิ นเรือ่ งนี้ มาเพิม่ พูนคุณงามความดี ในตัวเองจะคุม้ ค่ากว่าไหม? ส่วนในวงเล็บทีบ่ อกว่า “โจรทีเ่ ลว ก็อาจเป็นพ่อที่ดไี ด้ในคนเดียวกัน” ถ้าเขารู้ว่าการเป็นพ่อที่ดี เป็นอย่างไร เขาคงจะไม่เป็นโจร เพราะการเป็นโจรนัน้ เท่ากับ ว่า เขาได้ปลูกฝังนิสยั โจรให้แก่ลกู ผ่านการกระท�ำค�ำพูดของ เขาทัง้ โดยรูต้ วั และไม่รตู้ วั ไม่นา่ แปลกใจเลยว่าเหตุใดสมาชิก ของบางครอบครัวจึงเป็นโจรกันถ้วนหน้า


ธรรมชาติบ�ำบัดขัดบางสิ่ง


ครั้งหนึ่งฉันมีโอกาสเข้าคอร์สธรรมชาติบ�ำบัด เพื่อท�ำการ ล้างพิษและเรียนรู้ที่จะพึ่งตัวเองในการดูแลสุขภาพ โดย ไม่ต้องเอาความหวังไปฝากไว้ที่ยาหรือหมอ แถมยังหัน ธรรมชาติบ�ำบัดขัดบางสิ่ง | 53


หลังให้วิตามินหรืออาหารเสริมราคาสูง ในการเข้าคอร์ส ครั้งนั้นมีวิทยากรหลัก และวิทยากรรองอีกสองท่าน เนื่อง จากฉันมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่มากนัก จึงวางต�ำแหน่ง ของตัวเองไว้ที่การเป็นผู้รับฟังและผู้ทดลอง ฉันทดลอง ทุกอย่างแม้ในสิง่ ทีไ่ ม่คดิ ว่าชาตินจี้ ะท�ำ เช่นการดืม่ น�ำ้ ปัสสาวะ การสวนล�ำไส้ดว้ ยน�ำ้ เปล่า ซึง่ อย่างหลังนอกจากจะท�ำให้รสู้ กึ เสียวไส้แล้ว ยังเสียวไปถึงอวัยวะอื่นอีกด้วย ขณะที่การอบรมด�ำเนินไปในวันหนึ่ง ฉันก็สะดุดสะดุ้ง เมือ่ พิธกี รพูดว่า “ธรรมชาติบำ� บัดกับการปฏิบตั ธิ รรมเป็นอัน เดียวกัน แต่เราใช้โรคเป็นตัวบังคับ เราจะกินตามใจตัวเอง ไม่ได้ เพราะถ้าเรากินแบบเดิมเราก็จะป่วย เราต้องลดละ ความอยากของเรา วิถีธรรมชาติบ�ำบัดจึงเป็นวิถีของการละ กิเลส” แม้จะฟังเพียงผ่านๆแต่ฉันก็อดสงสัยไม่ได้ว่า มันจริง หรือเปล่าหว่า? ถ้าเช่นนั้นคนที่ปฏิบัติตนตามวิถีธรรมชาติ บ�ำบัด ก็คงจะเข้าใกล้อริยภาวะก่อนใครเพือ่ น แต่ทหี่ นักหนา 54 | ธรรมชาติบ�ำบัดขัดบางสิ่ง


กว่านั้นก็คือ วิทยากรท่านหนึ่งบอกว่า มีผลการวิจัยจาก ผู้เชี่ยวชาญสรุปออกมาอย่างท้าทายว่า “พระที่ไม่ฉันข้าว ซ้อมมือไม่มีวันได้ตรัสรู้ธรรม เพราะวิตามินในข้าวซ้อมมือ จะไปบ�ำรุงสมอง ท�ำให้เกิดความเฉลียวฉลาดในการพิจารณา ธรรมะ” เนื่องจากไม่รู้จะไปถามใคร วิทยากรก็ยืนยันเสียขันแข็ง ขนาดนั้น ส่วนครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณธรรม ก็ไม่ได้มาเข้า คอร์สกับเรา ฉันจึงปล่อยให้ความสงสัยในโคเทชั่นแรก ลอยนวลไปพลางๆก่อน แต่โคเทชัน่ ทีส่ องไม่รอเกินนานฉันก็ได้ ค�ำตอบว่า หาได้เป็นความจริงแม้สกั กระผีก เพราะหลวงปูม่ นั่ หลวงพ่อชา หรือครูบาอาจารย์ทรี่ ว่ มยุคกับท่าน ต่างก็บริโภค ขบฉันข้าวเหนียวธรรมดาๆอย่างชาวบ้าน อาหารก็มีส้มต�ำ น�ำ้ พริก ปลาร้ากับผักพืน้ บ้านเป็นหลัก แต่ทา่ นก็ยงั สามารถพา ตัวเองไปสูท่ สี่ ดุ ของการปฏิบตั ไิ ด้ โดยไม่ตอ้ งพึง่ วิตามินเกลือแร่ จากข้าวซ้อมมือเป็นยานพาหนะสูพ่ ระนิพพานแต่ประการใด ธรรมชาติบ�ำบัดขัดบางสิ่ง | 55


ครูบาอาจารย์สอนพระหนุม่ เณรน้อยเรือ่ งการบริโภคขบฉัน อยู่เสมอว่า “ถ้า (กิเลส) มันอยากฉันอาหารชนิดใด ไม่ต้อง ตักอาหารชนิดนั้น” ด้วยศรัทธาอย่างเหลือล้นฉันจึงด้นท�ำดู ผ่านไปเพียงไม่กวี่ นั ก็แทบลงแดงตาย แล้วฉันก็กลับไปบริโภค อาหารโปรดปรานตามปรกติ อันประกอบด้วยหมูปิ้ง ไก่ย่าง ไส้กรอก น�้ำพริก เค้ก คุ้กกี้ ไอศกรีม เป็นอาทิ เมื่อเจอผลไม้ ที่ชอบมากๆก็กอบโกยเอาจนพอใจ เป็นเช่นนี้อยู่หลายนาน ครูบาอาจารย์คงสังเกตเห็นจึงบอกโดยเลียบเคียง ผ่านการ แสดงธรรมครั้งหนึ่งว่า “ชอบก็อย่าเอามากนัก สัก ๒-๓ ลูก ก็พอ” เมื่อฉันน�ำอุบายนี้ไปทดลองก็พบว่าตัวเองสามารถ ปฏิบตั ธิ รรมได้อย่างมีความสุข เนือ่ งจากได้ขดั เกลากิเลสด้วย ท่าทีอันอ่อนโยน ภายหลังการเข้าคอร์สธรรมชาติบำ� บัดท�ำให้ฉนั ได้ขอ้ มูลว่า อาหารที่ฉันบริโภคเป็นประจ�ำถูกจัดอยู่ในสิ่งต้องห้ามแทบ ทั้งหมด ฉันจึงพยายามลดปริมาณอาหารเหล่านั้นทีละน้อย 56 | ธรรมชาติบ�ำบัดขัดบางสิ่ง


เคยคว้าไก่ย่าง เค้ก คุกกี้ทีละ ๓-๔ ชิ้นก็ลดลงเหลือ ๑ ชิ้น ครั้นเวลาผ่านไปไม่กี่เดือนฉันก็งดเนื้อสัตว์ได้อย่างสิ้นเชิง แต่ยงั บริโภคเนือ้ ปลาเป็นครัง้ คราว ส่วนเบเกอรีก่ เ็ ลือกเฉพาะ ทีม่ คี ณ ุ ภาพน่ารับประทาน (ฮา) ฉันบริโภคข้าวซ้อมมือกับผัก ผลไม้เป็นหลัก จนกระทัง่ น�ำ้ หนัก ๕๐ กิโลกรัม ลดเหลือเพียง ๔๕ กิโลกรัมจึงได้รับค�ำตอบว่า “ธรรมชาติบ�ำบัดมีบางส่วน ที่เชื่อมโยงกับการลดละความอยาก แต่ไม่ได้จบอยู่แค่นั้น” เมือ่ งดบริโภคเนือ้ และอาหาร ทีข่ ดั ต่อหลักธรรมชาติบำ� บัด ได้ประมาณ ๘๐-๙๐ เปอร์เซนต์ ฉันก็พบว่าตัวเองสามารถเดิน ตัวปลิว ผ่านอาหารเหล่านัน้ ไปได้อย่างสบาย แม้ตาจะช�ำเลือง ไปทีเ่ นือ้ แดดเดียวทีเ่ คยขบเคีย้ วกับปัน้ ข้าวเหนียวร้อนๆตอน เป็นเด็กก็ไม่สร้างปัญหา ปฏิบัติมาได้ถึงขั้นนี้แต่ความโลภที่ หมมหมักอยูภ่ ายในใจก็ยงั ดีดดิน้ หาทางไปโผล่ยงั ช่องอืน่ หนนี้ ย้ายไปที่ผักออร์แกนิกกับผลไม้บานฉ�่ำ จนฉันต้องกระหน�่ำ ตัวเองว่า “จะเอาแต่สุขภาพของตัวเองดีคนเดียว จนไม่แบ่ง ธรรมชาติบ�ำบัดขัดบางสิ่ง | 57


ให้เพื่อนๆสุขภาพดีด้วยเชียวหรือ” เป็นไปได้วา่ วิทยากรอาจจะเห็นเรือ่ งนีไ้ ม่ชดั เพราะสามารถ จับจ่ายในสิง่ ทีต่ วั เองต้องการได้อย่างสะดวก อยากรับประทาน ผลไม้หรือผักออร์แกนิกสดๆสักสามมื้อ ก็สามารถจัดสรรให้ เพียงพอแก่ความต้องการของตนเองและคนในครอบครัวได้ แต่พระป่าท�ำอย่างนัน้ ไม่ได้ เพราะเราฉันอาหารเพียงหนึง่ มือ้ ต่อวัน บางวันก็มีผลไม้อยู่เพียงไม่กี่ชนิดและชนิดละไม่กี่ชิ้น จึงต้องมีการแบ่งสรรปันส่วนให้สหธรรมิกทีอ่ ยูร่ ว่ มกันภายใน วัด ทว่าหากผู้ปฏิบัติธรรมด�ำเนินไปตามวิถีแห่งการเอื้อเฟื้อ อย่างสม�ำ่ เสมอ รับรองได้เลยว่าสุขภาพของกิเลสจะเสือ่ มโทรม ลงทุกวันๆ ฉันขอเอาน�้ำหนัก ๕ กิโลกรัมที่หายสาบสูญเป็น ประกัน

58 | ธรรมชาติบ�ำบัดขัดบางสิ่ง



เล็กแต่ไม่น้อย


โยม : พระอาจารย์ต้องตอบค�ำถามของญาติโยมซ�้ำๆซากๆ รู้สึกเบื่อบ้างไหมเจ้าคะ? พระอาจารย์ : ถ้าอาตมาเบื่อแสดงว่าก�ำลังถูกกิเลสครอบง�ำ โยม : แสดงว่าพระอาจารย์ก็เบื่อเหมือนกัน พระอาจารย์ : อาตมาไม่ได้พูดอย่างนั้น เล็กแต่ไม่น้อย | 61


นักกายกรรมสองคนจัดการแสดงโดยนักกายกรรมตัวโต ยืน อยู่ด้านล่างถือไม้ขนาดยาวไว้ท่อนหนึ่ง จากนั้นนักกายกรรม ตัวเล็กก็ปีนขึ้นไปเลี้ยงตัวอยู่บนปลายไม้ ก่อนการแสดงนัก กายกรรมตัวโตบอกกับนักกายกรรมตัวเล็กว่า “เราต้องดูแล กันและกันจึงจะปลอดภัย” แต่นกั กายกรรมตัวเล็กบอกกับนัก กายกรรมตัวโตว่า “เราต่างคนต่างดูแลตัวเองจึงจะปลอดภัย” เป็นธรรมเนียมที่ชาวศรีลังกาจะฝึกให้บุตรหลานของตน จด บันทึกคุณงามความดีที่เขาได้ท�ำในแต่ละวันลงในสมุด เมื่อ เด็กเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นหน้าที่ของพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ ที่ จะน�ำข้อความในสมุดเล่มนัน้ มาอ่านให้เด็กฟัง หากเด็กทีเ่ ป็น เจ้าของสมุดบันทึกอยูไ่ ปจนแก่เฒ่า ก็ถอื เป็นธุระของเขาทีจ่ ะ น�ำข้อความในสมุดเล่มนั้นมาอ่านสู่ลูกหลาน เมื่อวันปวารณาออกพรรษามาถึง พระใหม่จึงบอกโยมพ่อ ว่าจะลาสิกขา แต่โยมพ่อกลับบอกว่าอยากให้พระลูกชาย 62 | เล็กแต่ไม่น้อย


อยู่ในผ้าเหลืองต่อไป พระใหม่ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับโพล่งขึ้น อย่างฉุนเฉียวว่า “ท�ำไมโยมพ่อไม่มาบวชเองซะล่ะ!” พระนิด : ตอนที่เป็นพระบวชใหม่ผมอธิษฐานว่าจะอยู่ให้ได้ อย่างน้อย ๕ พรรษา เมื่อบวชได้ ๕ พรรษาผมอธิษฐานว่าจะ อยูต่ อ่ ไปอีก ๕ พรรษา เมือ่ บวชได้ ๑๐ พรรษาผมอธิษฐานว่า จะอยู่ต่อไปอีก ๕ พรรษา ท่านเคยอธิษฐานอย่างนี้บ้างไหม? พระน้อย : ผมอธิษฐานว่าจะอยู่ให้ได้วันนี้เพียงวันเดียว ชายหนุ่ม : ผมกลัวความแก่ควรจะท�ำยังไงดีครับ? พระอาจารย์ : กลัวก็แก่ ไม่กลัวก็แก่ เพราะมันเป็นธรรมชาติ สามเณรวัยรุ่นปรารภกับเพื่อนรุ่นเดียวกันว่า “นอนมากก็ เหนือ่ ย กินมากก็เหนือ่ ย มินา่ พระพุทธเจ้าจึงไม่อยากมาเกิดอีก” พระไทย : โยมสนใจที่จะบวชเป็นแม่ชีหรือภิกษุณีไหม? เล็กแต่ไม่น้อย | 63


อุบาสิกาฝรั่ง : ดิฉันไม่สนใจสีของผ้า ดิฉันสนใจสีของใจ หลานสาวอายุ ๔ ขวบมาท�ำบุญทีว่ ดั เมือ่ เห็นหลวงลุงนุง่ ห่มต่าง คนทัว่ ไปจึงพูดขึน้ ว่า “หลวงลุงใส่กระโปรงเหมือนมินนีเ่ ม้าส์” โยม : บริษัทโด่งดังแห่งหนึ่งออกแบบผลิตภัณฑ์ได้เรียบง่าย ตามหลักปรัชญาของพุทธศาสนานิกายเซน พระ : อาจจะเป็นอย่างนั้น แต่มันก็เป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ ของทุนนิยม วัดป่าแห่งหนึ่งจัดให้มีการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ก่อนสิ้น สุดโปรแกรมสามเณรทุกรูปจะได้รับประกาศนียบัตรหนึ่งใบ เพือ่ รับประกันความเป็นเลิศในด้านต่างๆ เช่นด้านสมาธิ ด้าน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ฯ ในประกาศนียบัตรของสามเณรน้อย รูปหนึ่งระบุไว้อย่างน่าเอ็นดูว่า “มีไหวพริบปฏิภาณในการ ผ่อนคลายความเครียดให้กับเพื่อนๆ” 64 | เล็กแต่ไม่น้อย


พระอาจารย์รูปหนึ่งไปเยี่ยมวัดป่าที่เพิ่งเปิดใหม่ในประเทศ โปรตุเกส เมื่อกลับมาถึงเมืองไทยท่านเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า “โปรตุเกสเป็นศรีสะเกษของยุโรป” พระวัยกลางคน : สามเณรมีความสุขดีไหม? สามเณรวัยรุ่น : บางวันก็สุข บางวันก็ทุกข์ครับ พระวัยกลางคน : วันที่ทุกข์เป็นเพราะอะไร? สามเณรวัยรุ่น : อยากเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆครับ หลังจากสิ้นสุดการเข้าคอร์สกรรมฐานครั้งหนึ่ง ทางเจ้าภาพ ได้จัดให้มีการถ่ายรูปหมู่ร่วมกับพระวิปัสสนาจารย์ ตาม ค�ำขอของผูเ้ ข้าอบรม โดยแบ่งเป็นกลุม่ ต่างๆเช่นกลุม่ แม่บา้ น กลุ่มโยคะ กลุ่มครูอนุบาล กลุ่มพนักงานบริษัทฯ เมื่อถึง วาระของกลุ่มทันตแพทย์ก็เกิดความอลหม่านในการจัดแถว พระวิปัสสนาจารย์เห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีว่า “หมอฟันต้องจัดสองแถว...แถวบนกับแถวล่าง” เล็กแต่ไม่น้อย | 65


หลวงตา : ห้องสมุดของวัดมีหนังสือเกีย่ วกับศาสนาเปรียบเทียบ ไหมครับ? ผมอยากรู้ว่าศาสนาต่างๆมีแนวความคิดอย่างไร หลวงพี่ : ถ้าหลวงตาบวชตอนหนุ่มๆก็น่าสนใจ แต่ตอนนี้ หลวงตาไม่มีเวลามากขนาดนั้น

66 | เล็กแต่ไม่น้อย



เณรน้ อยในป่าใหญ่ สามเณรแสนสุข อุทภู อายุ ๑๕ ขวบ


ผมบวชเป็นสามเณรในสายของหลวงปู่ชา สุภทฺโท แห่งวัด หนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี ขณะนีผ้ มบวชได้หนึง่ พรรษา ต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครูบาอาจารย์เมตตาให้ผม เณรน้อยในป่าใหญ่ | 69


ติดตามไปปลีกวิเวก ทีส่ ำ� นักสงฆ์แห่งหนึง่ ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนพม่า วันแรกผมได้ฝึกความอดทน โดย การเดินเข้าไปที่ส�ำนักสงฆ์แห่งนี้เป็นระยะทาง ๑๘ กิโลเมตร ผมต้องมีสติทุกย่างก้าว ไม่เช่นนั้นอาจลื่นล้มจนใบหน้า เสียโฉม อากาศวันนั้นร้อนมากแต่ผมก็อดทนก้าวเดินไปด้วย ความเพียร ผมเดินทางมาถึงส�ำนักสงฆ์อย่างปลอดภัยเพราะ ขันติ สติ และวิริยะ พวกเราหยุดพักครู่ใหญ่ที่หอฉันซึ่งอยู่เชิงเขา จากนั้นก็ ออกเดินกันต่อเพือ่ ไปยังศาลาทีอ่ ยูบ่ นภูเขา พระอาจารย์บอก ว่าต้องเดินข้ามล�ำธารถึง ๕ ครั้ง ผมออกเดินน�ำหน้าเพราะ ตั้งใจว่าจะไปให้ถึงจุดหมายก่อนใครๆ แต่เมื่อผ่านล�ำธารที่ ๕ ผมก็สงสัยว่า ท�ำไมจึงยังไม่ถึงศาลาสักที เมื่อผมถามพระ อาจารย์ ท่านตอบว่าเราเพิง่ เดินมาได้แค่ครึง่ ทาง จากนีต้ อ่ ไป จะเป็นทางสูงชัน ผมได้ยนิ แล้วตกใจแต่กจ็ ำ� เป็นต้องเดินต่อไป

70 | เณรน้อยในป่าใหญ่


เมื่อเดินไปได้ครู่หนึ่งรองเท้าของผมก็ขาด ผมจึงเดินเท้า เปล่า ตอนนีผ้ มรูส้ กึ ปวดไหล่เพราะแบกบริขารหนักมาหลาย ชั่วโมง ผมคิดในใจว่า โอ้โห! ท�ำไมมันไกลอย่างนี้ ผมอดทน เดินต่อไปจนถึงศาลาด้านบน ขณะนัน้ พระภิกษุสามเณรก�ำลัง ฉันน�้ำปานะกันอยู่พอดี ผมดีใจมากที่มาถึงซะที หลังจาก ฉันน�ำ้ ปานะเสร็จผมก็เดินไปส่งพระอาจารย์ทกี่ ฏุ ิ ระหว่างทาง ได้ยินเสียงเหมือนมีเฮลิคอปเตอร์บินอยู่บนหัว ผมจึงถาม พระอาจารย์วา่ มันคือเสียงอะไร? ท่านตอบว่านกเงือก ป่าทีม่ ี นกเงือกแสดงว่ายังมีธรรมชาติอดุ มสมบูรณ์ เมือ่ ส่งพระอาจารย์ แล้ว ผมก็กลับมาท�ำกิจส่วนตัว คืนนีผ้ มพักทีศ่ าลากับพระใหม่ รูปหนึ่งที่มาด้วยกัน ตอนเช้าผมใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเดินลงจากภูเขาเพื่อมาที่ หอฉัน เมื่อฉันอาหารเสร็จแล้วพระอาจารย์ก็พาเดินกลับขึ้น ไปบนภูเขาเพื่อไปดูน�้ำตก มีศาลาอีกหลังหนึ่งอยู่ลึกเข้าไป ในป่า ที่พักของพระเป็นแคร่ท�ำจากไม้ไผ่มีทั้งหมด ๑๖ แห่ง เณรน้อยในป่าใหญ่ | 71


บนแคร่หมายเลข ๕ มีร่องรอยหมีปีนขึ้นไปกินน�้ำผึ้งอยู่ด้วย ยิง่ เราเดินเข้าไปหาแคร่ทอี่ ยูล่ กึ เข้าไป ป่าก็ยงิ่ หนาทึบขึน้ ตาม ล�ำดับ แปลกดี...ป่าใหญ่ขนาดนีแ้ ต่ผมกลับไม่รสู้ กึ กลัว ยิง่ อยาก เห็นเสือเห็นหมี ผมคิดเล่นๆว่า ถ้ามีเสือโผล่มาจะกระโดดขึน้ ขี่หลังมันแล้วให้มันพาไปส่งที่หอฉันซะเลย เช้าวันหนึง่ มีการปัดกวาดทางเดินบนภูเขาครัง้ ใหญ่ ขณะ ที่ผมก�ำลังกวาดใบไม้เพลินๆไม้กวาดก็พัง ผมจึงเดินลงไปที่ หอฉันก่อนใครๆ เพื่อจัดเตรียมที่ส�ำหรับฉันอาหาร หลังจาก ฉันอาหารเสร็จแล้ว ผมก็รีบเดินขึ้นไปที่ศาลาด้านบนเพื่อท�ำ ไม้กวาด เมื่อท�ำไม้กวาดเสร็จ ผมกับโยมพี่คนหนึ่งที่พักอยู่ ศาลาด้านนอกด้วยกัน ก็ชว่ ยกันกวาดทางเดินกว้างประมาณ หนึ่งเมตรครึ่ง เริ่มต้นจากศาลาด้านนอกเข้าไปหาศาลาที่อยู่ ในป่าลึก ใช้เวลาในการกวาดประมาณสองชัว่ โมง ระหว่างทาง ผมพบสัตว์สเี่ ท้าตัวเล็กๆหางยาวๆ ในวันถัดมาเมือ่ ได้ดหู นังสือ รวมรูปภาพสัตว์จงึ รูว้ า่ มันคือหมาหริง่ ส่วนโยมพีเ่ ล่าให้ฟงั ว่า 72 | เณรน้อยในป่าใหญ่


ในคืนที่ผ่านมาได้ยินเสียงหายใจแรงๆของสัตว์ชนิดหนึ่งและ มีกลิ่นเหม็นสาบด้วย พระอาจารย์บอกว่าคงจะเป็นเสือหรือ หมี โยมพี่ได้ยินดังนั้นก็เก็บข้าวของย้ายเข้าไปอยู่ที่แคร่ หมายเลข ๑๖ ผมจึงต้องพักอยูท่ ศี่ าลาด้านนอกเพียงรูปเดียว คืนนัน้ อากาศค่อนข้างเย็น ผมนัง่ สมาธิไม่สงบเลย เพราะกลัว สัตว์จะมาท�ำร้าย ผมจึงถามตัวเองว่าถ้ากลัวจะมาท�ำไม? ผมอดทนนัง่ สมาธิตอ่ ไปจนความกลัวลดลงจึงจ�ำวัด แม้จะเกิด ความกลัวถึงขนาดนี้ แต่ขอบอกตามตรงว่าผมยังไม่อยาก กลับไปสู่โลกที่วุ่นวาย

เณรน้อยในป่าใหญ่ | 73


จากบาโชถึงเอดิสัน


สระโบราณ กบตัวน้อยกระโจนลงไป เสียงน�้ำกระจาย จ๋อม มาสึโอะ บาโช (ค.ศ. ๑๖๔๔-๑๖๙๔) จากบาโชถึงเอดิสัน | 75


นับตัง้ แต่อา่ นออกเขียนได้จนอายุถกู ปาผ่านเลขสีก่ บั เลข ศูนย์ ฉันเคยพบหนังสือรวมบทกวีไฮกุทเี่ ขียนโดยชาวญีป่ นุ่ แล้ว แปลเป็นภาษาไทยเพียง ๓ เล่มคือ ‘คลืน่ กระทบฝัง่ ’ ปรากฏชือ่ รองศาสตราจารย์แสงอรุณ รัตกสิกร อยู่ในนั้น แต่จ�ำไม่ได้ ว่าเกีย่ วข้องกับหนังสืออย่างไร ฉันไม่ได้สงั เกตปีทพี่ มิ พ์เสียด้วย ด้วยแต่ถนัดถนี่ทีเดียวว่าได้อ่านเมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ราวๆปี พ.ศ. ๒๕๓๕ เล่มต่อมาคือ ‘ยามพลบ’ เขียนโดยมิตซู ซูซูกิ แปลโดยสุภาพร พงศ์พฤกษ์ ตีพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๓ และเล่มล่าสุดคือ ‘สีฤ่ ดู, ทัง้ ชีวติ ’ รวบรวมและถอดความบทกวี ไฮกุโบราณโดยวินทร์ เลียววาริณ นักเขียนดับเบิล้ ซีไรต์ พิมพ์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๓ แม้จะอ่านผ่านการแปลจากภาษาหนึง่ สูอ่ กี ภาษาหนึง่ แต่ ฉันก็สมั ผัสได้ถงึ ความง่ายงาม นิง่ งัน พลิว้ ไหว และมี “ธรรมะ” ซ่อนอยู่ในนั้น ซึ่งคงจะเป็นเพราะบทกวีไฮกุมีความสัมพันธ์ 76 | จากบาโชถึงเอดิสัน


เกี่ยวใยกับพุทธศาสนานิกายเซน เล่าไปร่ายมาฉันชักคันไม้ คันมือคันอวัยวะอยากเขียนไฮกุงูๆ ปลาๆ ตามรอยกวีชั้นครู เหล่านั้นบ้าง “อัจฉริยะอาศัยแรงบันดาลใจหนึ่งเปอร์เซนต์ อาศัยความพากเพียรเก้าสิบเก้าเปอร์เซนต์” โธมัส อัลวา เอดิสัน (ค.ศ. ๑๘๔๗-๑๙๓๑) ว่าไว้คงไม่ผิด แหล่งข้อมูล http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=haiku&month=1401-2010&group=9&gblog=26 http://en.wikiquote.org/wiki/Thomas_Edison

จากบาโชถึงเอดิสัน | 77


เช้าที่แสงแดดอ่อนโยน ล�ำน�้ำสงบนิ่ง หลังสายฝนฤดูร้อน แพนเค้กกับกล้วยหอม ฉันสงสัยว่า กล้วยน�้ำว้าได้ไหม? ภิกษุวัยกลางคน กับเด็กสามคน ผจญภัยในป่าใหญ่

78 | จากบาโชถึงเอดิสัน


พักกลางวัน บนเตียงไม้ไผ่ ลมฤดูร้อนไม่ปราณี เตรียมตัวเดินทางไกล รู้เพียงว่าตัวเองคิดอะไร ใบมะขามสีเขียวอ่อน ชักชวนเพื่อนต่างแดน ให้ลิ้มรส ข้าวเหนียวมะม่วง

จากบาโชถึงเอดิสัน | 79


ต้นตะเคียนใหญ่ในป่า พระเจ้าถิ่นบอกว่า มีผี! ลูกสาวอายุสี่สิบ แม่ห่วงเหมือนเด็กอายุสิบสี่ สายน�้ำไหลสู่ทิศตะวันออก ดอกแก้ว สะพรั่งพร้อมกันทั้งต้น หล่นลงอ่างล้างจาน

80 | จากบาโชถึงเอดิสัน


บ้านเมืองระส�่ำระสาย สิ่งที่ฉันท�ำได้ คือสวดมนต์ภาวนา ผู้หญิงสวย ไร้ความซื่อสัตย์ ไม่สวย เดินจงกรม บนดินเปียก แดดร�ำไรบนผืนทราย

จากบาโชถึงเอดิสัน | 81


สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ คือความรู้สู่สันติ เสียงการจราจร บนถนนเลี่ยงเมือง กระหน�่ำผืนป่า ยินข่าวความป่วยไข้ ของผู้เฒ่า ภาระกับสังขาร

82 | จากบาโชถึงเอดิสัน


ส้วมสังกะสี โดดเดี่ยวในป่าไผ่ ไร้ผู้ใช้บริการ กวาดจากสูงลงต�่ำ ตามค�ำสอน ของอาจารย์ผู้เฒ่า ดาวพราวฟ้า อากาศยานโฉบผ่าน ใกล้เทศกาลบุญบั้งไฟ

จากบาโชถึงเอดิสัน | 83


เช้าหลังฝนตก เด็กกรูกันมาที่วัด เพื่อเก็บมะม่วง มะนาวต้นนั้น จากไป เพราะความซุกซนของแมลง คาราโอเกะกระหึ่ม นกนิ่งงัน จักจั่นท้าสู้

84 | จากบาโชถึงเอดิสัน


พระอุโบสถแคลสสิก บานหน้าต่างแกะสลัก ปรากฏชื่อของย่า ทารกมองตาฉัน แล้วถามว่า เรามาที่นี่ท�ำไม? เผ็ดบ้าง เค็มบ้าง บางวันก็เย็นชืด เราควรท�ำตัวให้เขาเลีย้ งง่าย

จากบาโชถึงเอดิสัน | 85


ผู้เฒ่าจากหมู่บ้าน พยากรณ์สายฝน แม่นย�ำราวเทพเจ้า รังอีกา บนต้นมะขามใหญ่ บ่ายนี้ช่วยกันขนดิน อ้อยอิ่ง คลอเคลียผืนทราย แม่น�้ำมูลที่รัก

86 | จากบาโชถึงเอดิสัน


มดเดินเรียงราย ฉันเองก็อยากรู้ คืนนี้ฝนจะตกไหม? กลิ่นควันจากหมู่บ้านเผาอิฐ อากาศขุ่นทั่วผืนป่า ตะวันโพล้เพล้ กวาดใบไม้หลังคืนฝนตก แสนเข็ญ กวาดท�ำไม?

จากบาโชถึงเอดิสัน | 87


กล้วยไม้ของพ่อ ทั้งหอม ทั้งเย็น กลิ่นกลางคืน ราดหน้าฝีมือแม่ มะนาวนิด น�้ำปลาหน่อย ไม่ปรุงอร่อยกว่า ขอฟางข้าวจากชาวสวน คลุมโคนต้นมะละกอ เชื้อเชิญไส้เดือน

88 | จากบาโชถึงเอดิสัน


นั่งคุยกับเพื่อน ถึงการให้อภัย แก่ผู้สมควรให้อภัย เติมน�้ำในอ่างให้นก ฉันจะเป็นทุกข์ไหม? ถ้าพวกมันไม่มา พบกันอีกครั้ง จากกันอีกครั้ง ชีวิตก็เท่านี้

จากบาโชถึงเอดิสัน | 89


สว่างอยู่กลางไร่นา

90 |


วันที่ ๓๑ มกราคม-๒ กุมภาพันธ์ทผี่ า่ นมา รัฐมนตรีกระทรวง ป่าไม้และการเกษตร ของประเทศภูฏานได้แถลงกลางทีป่ ระชุม Delhi Sustainable Development Summit 2013 ว่า สว่างอยู่กลางไร่นา | 91


“ภายในระยะเวลา ๑๐ ปีประเทศของเราจะท�ำการเกษตร แบบไร้สารเคมี ๑๐๐% อย่างค่อยเป็นค่อยไป” เพียงทราบข่าว ฉันก็ทึ่งปนเอ็นดู จนอยากตีตั๋วเครื่องบินชั้นพอเพียง เหาะ ไปเยือนอย่างไม่เป็นทางการสักครั้ง แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ ยากจนทีม่ ภี มู ปิ ระเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา มีจำ� นวนประชากร อยู่เพียง ๗๐๐,๐๐๐ คน แต่ผู้น�ำของเขาก็มีวิสัยทัศน์ร�่ำรวย กว่าไทยแลนด์ของเรามากมายหลายช่วงเหว ที่เหนือกว่านั้น ก็คือเขายังน�ำแนวคิดทางพุทธศาสนา มาป่าวประกาศใส่หู ชาวโลกด้วยความภาคภูมใิ จ และไม่มที ที า่ ว่าจะอายเพราะถูก ใส่ร้ายป้ายเชย “เราเป็นเมืองพุทธศาสนา เราเชื่อในการอยู่ ร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน สัตว์ตา่ งๆก็มสี ทิ ธิท์ จี่ ะมีชวี ติ อยู่เช่นเดียวกับเรา เราอยากเห็นต้นไม้มีความสุข พืชพรรณ มีความสุข และแมลงก็มีความสุขด้วย” เชื่อหรือไม่ก็ต้องท�ำใจดีๆไว้ ในขณะที่ทั่วทั้งโลกก�ำลัง ตื่นตัวกับกระแสโลกร้อน พลังงานทางเลือก การขี่จักรยาน 92 | สว่างอยู่กลางไร่นา


การงดใช้สารเคมี การรีไซเคิลฯ แต่ประเทศของเรากลับมี การตระเตรียมโครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ มันช่างน่าอดสูที่ไทยแลนด์มีประชากร ๖๔ ล้านคน มีพื้นที่ ขนาดใหญ่เป็นสิบเท่าของภูฏาน มีภมู ปิ ระเทศหลากหลายทัง้ ชายทะเล ภูเขา ทีร่ าบลุม่ ทีร่ าบสูง มีทรัพยากรอย่างล้นเหลือ พืชพรรณธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ อากาศไม่แปรปรวนสุดขั้ว หน�ำซ�้ำเรายังเป็นประเทศที่นับถือพุทธศาสนามายาวนาน แต่ความคิดอ่านและนโยบายในการพัฒนาประเทศของเรา กลับล้าหลังประเทศของเขา พระอาจารย์ทา่ นหนึง่ กล่าวว่า “การพัฒนาคือการท�ำลาย” มันไม่ได้หมายถึงการท�ำลายทรัพยากรทางธรรมชาติอันทรง คุณค่า เพือ่ ให้ได้มาซึง่ สิง่ สนองความต้องการในการเสพบริโภค แต่มนั หมายถึงการท�ำลายความโลภทีเ่ ร่งเร้าให้มนุษย์กอบโกย เอาผลประโยชน์จากธรรมชาติและมนุษย์ด้วยกัน เช่นนี้จึง สมควรที่จะเรียกว่าการพัฒนาอย่างยั่งยืน ร่ายย่นๆมาถึง สว่างอยู่กลางไร่นา | 93


บรรทัดนี้อุปมาอิงไร่นาของหลวงปู่ชา ก็ท�ำให้ฉันต้องรีบ กระตุกหางตัวเอง “ใครที่อยากให้ไก่เป็นเป็ด อยากให้เป็ด เป็นไก่ก็ต้องทุกข์ไปจนวันตาย” แหล่งข้อมูล http://www.prachatham.com/detail.htm?code=i1_17032011_01 http://www.storyofstuff.org http://www.iurban.in.th/highlight/bhutan-aims-worlds-100organic-nation/ http://www.seub.or.th/index.php option=com_ content&view=article&id=1000: seubnews&catid=5:2009-10-07-10-58-20&Itemid=14 http://www.thailandometers.mahidol.ac.th/2013/index.php http://www.thaifly.com/TH/guide/bhutan.php http://www.st.ac.th/suda/topography.html

94 | สว่างอยู่กลางไร่นา



The Way to Nowhere

Words by Pesalo Bhikkhu / Photographs by Andrew Binkley Translated from Thai to English by Pesalo Bhikkhu & Friend.


Inspired by a song name “Wish You Were Here”. Studio album by Pink Floyd, released in September 1975. The Way to Nowhere | 97




































เธออ้างถึงสรวงสวรรค์โดยปิดบังนรกโลกันต์ เธอเอ่ยถึงท้องฟ้าสีครามขณะซุกซ่อนความปวดร้าว รอยยิ้มราวกับเหล็กเยียบเย็นเร้นอยู่ใต้ใบหน้า ระหว่างที่เธอพรรณาถึงทุ่งข้าวเขียวขจี When you’re talking about the Heaven, you’re hiding the Hell. When you’re talking about the blue sky, you’re hiding the pain. Your cold steel smile hiding under the face, when you’re talking about a rice field.































เธอยอมแลกวีรบุรุษกับภูติผี เถ้าถ่านร้อนคลั่งกับต้นไม้ อากาศร้อนประลัยกับสายลมเย็น You trade heros for ghosts. Hot ashes for trees. Hot air for cool breeze.





























วันแล้ววันเล่าที่เราเคว้งคว้างวิ่งไปบนเส้นทางสายเดิม เราพบอะไรบ้าง? นอกจากความทุกข์ยากซ�้ำแล้วซ�้ำเล่า Day after day we run on the same old track. What’ve we found? The same old suffering.




















































ฉันอยากให้เธออยู่ตรงนี้ ที่ซึ่งความสุขผลิบานจากภายใน และอยู่กับเรานานแสนนาน I wish you were here. The place where happiness blossoms inside and belongs to us forever.


เชียงใหม่สบายดี


อาจเป็นเพราะอาการหูออื้ ขณะเครือ่ งบินลงจอด จึงท�ำให้ฉนั ลืมไปว่าเคยนัง่ รถโดยสารระหว่างจังหวัดครัง้ สุดท้ายเมือ่ ไหร่ ทีจ่ ริงแล้วฉันก็ยงั อยากใช้บริการรถบัสเดินทางไปไหนต่อไหน เชียงใหม่สบายดี | 243


แต่ญาติโยมตัวดีให้เหตุผลก่อนตีตั๋วเครื่องบินถวายฉัน ๒-๓ เทีย่ วในปีทผี่ า่ นมาว่า “อายุจะ ๔๐ อยูร่ อมร่อ พรรษาก็ใกล้จะ ๒๐ สมควรจะนั่งเครื่องบินได้แล้ว” ฉันหาเหตุผลมาคัดค้าน ข้อมูลดิบเหล่านี้ไม่ได้ จึงโอนอ่อนผ่อนตามแต่โดยดี แต่มา หนนี้ฉันรีบโทรสั่งให้ญาติโยมจองตั๋วรถบัสแบบสายฟ้าฟาด เพื่อไม่ให้เขามีโอกาสตั้งตัว เมื่อหลายต่อหลายใครที่เคยผ่าน การโดยสารเครือ่ งบินทราบว่า ฉันจะนัง่ รถบัสจากอุบลราชธานี ไปเชียงใหม่ พวกเขาก็แสดงน�ำ้ เสียงสีหน้าอากัปกิรยิ าแปลกๆ ขณะทีฉ่ นั ก�ำลังนัง่ รอรถเข้าเทียบสถานี พระธรรมเทศนา ของหลวงปู่ชาก็ปรากฏ “พระสมัยนี้ รถไม่ติดแอร์ก็ไม่อยาก จะนัง่ กันแล้ว” เป็นค�ำพูดของท่านเมือ่ ๓๐ กว่าปีมาแล้วหรือ อาจนานกว่านัน้ ทว่าการโดยสารรถบัสปรับอากาศ Gold Class ส�ำหรับฉัน ผู้เคยผ่านการติดตามครูบาอาจารย์เดินธุดงค์ และทะลุดง จากอุบลราชธานีไปเชียงใหม่เมื่อบวชได้เพียง ๓ พรรษา เป็นเรื่องสะดวกสบายอย่างเทียบกันไม่ได้เลย ใน 244 | เชียงใหม่สบายดี


ระหว่างทีน่ งั่ อยูบ่ นรถฉันยังนึกอยูว่ า่ คงจะมีบางต�ำแหน่งบน เส้นทางสายนีท้ ฉี่ นั เคยพักปักกลด และออกบิณฑบาตในยาม เช้าเพือ่ ยังชีพ มันช่างให้ความรู้สกึ เป็นอิสระ อย่างทีผ่ คู้ นุ้ เคย กับอากาศยานอาจไม่เคยสัมผัส ส่วนอาการหลับๆตื่นๆปวด เมื่อยเนื้อตัวขณะนั่งอยู่บนรถบัสก็เป็นเรื่องจิ๋วจ้อย ส�ำหรับ ผูท้ เี่ คยผ่านการฝึกเดินจงกรมสลับนัง่ สมาธิตงั้ แต่หวั ค�ำ่ ยันสว่าง เมือ่ สิบหกชัว่ โมงผ่านไปฉันก็ลถุ งึ เชียงใหม่ อากาศ ณ เวลา สี่นาฬิกาเย็นสบายอย่างที่ควรจะเป็น แต่ก็ไม่เห็นใครใส่ เสือ้ กันหนาว เนือ่ งจากย่างเข้าฤดูรอ้ นแล้ว เมือ่ ญาติโยมมารับ ที่สถานี เราก็จรลีไปยังที่พักซึ่งอยู่ระหว่างรอยต่อของอ�ำเภอ เมืองกับอ�ำเภอสันก�ำแพง ฉันจัดแจงเก็บกระเป๋าแล้วเข้าห้องน�ำ้ ช�ำระร่างกาย จากนัน้ ก็ฉนั อาหารเช้าชุดเล็ก หกนาฬิกาเราเดิน ทางย้อนกลับเข้าไปในเมืองเพือ่ ส�ำรวจ “ตลาดนัดเกษตรอินทรีย์ เจเจ มาร์เก็ต (‘เจเจ’ ย่อมาจาก ‘จริงใจ’)” ตลาดมีเฉพาะ วันเสาร์กบั วันพุธ ตัวอาคารเป็นศาลาเปิดโล่งมุงด้วยกระเบือ้ ง เชียงใหม่สบายดี | 245


แบบล้านนา บรรยากาศคึกคักน่าดูชม ฉันโฉบเข้าไปชมดูใกล้ๆ แล้วพบว่าสินค้าส่วนใหญ่เป็นผักพืน้ บ้านและผลไม้ นอกจากนี้ ก็มีขนมพื้นเมืองและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค เช่นซี้อิ้วขาวหรือ เต้าเจี้ยว เมื่อญาติโยมที่มาด้วยกันจับจ่ายเสร็จสรรพก็ท�ำให้ ทราบข้อมูลสุกว่า สินค้าที่นี่ราคาถูกกว่าตลาดอื่น ผลไม้ที่ซื้อ มาคือกล้วยน�ำ้ ว้ากับมะละกอ มีผลใหญ่อวบอิม่ กว่าทีเ่ คยเห็น โยมถามฉันว่าจะไปไหนกันต่อ? อากาศเย็นๆอย่างนี้ฉัน จึงเสนอว่าไปหาสวนกว้างๆ เดินยืดเส้นยืดสายคลายเมื่อย ก้นกันหน่อยดีกว่า ซึ่งคงไม่มีที่ใดเหมาะเกินหน้าเกินตา “สวนหลวงราชพฤกษ์” เมือ่ เดินทางไปถึงสวนฯประตูทางเข้า ก็เปิดพอดี เราเดินชมดอกไม้ไปเรื่อยๆ เห็นป้ายประกาศแล้ว นึกดีใจเพราะ “เทศกาลดอกไม้บาน” เพิง่ สิน้ สุดไปเมือ่ วานซืน เหตุทดี่ ใี จเพราะเราไม่ตอ้ งเดินเบียดฝูงชนและดอกไม้กย็ งั บาน ให้ชื่นชม ฉันเดินถ่ายรูปเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ ปรากฏดอกไม้ หลากสีหลายทรงประดับอยู่ตามมุมต่างๆ เมื่อเดินเท้ามาถึง 246 | เชียงใหม่สบายดี


ไฮไลท์คอื อาคารล้านนาสะพรัง่ ทองทีช่ อื่ ว่า “หอค�ำหลวง” ก็ไม่ ผิดหวังในความอลังการ ประมาณเก้าโมงเช้ากลุม่ นักท่องเทีย่ ว ทัง้ ไทยและเทศเริม่ ทยอยกันเข้ามาชมสวน ซึง่ ก็ตรงกับเวลาที่ เราก�ำลังจะทยอยออก เราแวะดูดน�้ำมะพร้าวก่อนขึน้ รถแล้ว ดิ่งไปที่วัดสวนดอกเพราะท้องเริ่มร้องเจี๊ยกๆ เรามิได้มาทีน่ เี่ พือ่ อาศัยข้าววัดประทังชีวติ แต่ประการใด เหตุทเี่ ราเดินทางมาวัดสวนดอก เพราะมีรา้ นอาหารมังสวิรตั ิ เพื่อสุขภาพซุกซ่อนอยู่ นี่เป็นอีกหนึ่งรายการที่ฉันวาดฝัน ไว้ก่อนจะเดินทางมาเชียงใหม่ โลกไซเบอร์เปิดเผยข้อมูล เกี่ยวกับการจัดอันดับ “สิบเมืองมังสวิรัติ” ไว้ว่า เนื่องจาก เป็นเมืองที่หาร้านอาหารมังสวิรัติรับประทานได้ง่าย และมี การรณรงค์ให้งดเนื้อสัตว์ทุกวันจันทร์ แซนแฟรนซิสโกจึง ติดอันดับหนึ่งอย่างหมดข้อกังขา แต่ที่ไม่น่าเชื่อก็คืออันดับ ที่เก้าเป็นจังหวัดหนึ่งซึ่งบรรจุอยู่ในประเทศไทย ใช่แล้ว... เชียงใหม่ของเรานี่เอง นี่เป็นเหตุผลให้ฉันหอบกระเพาะมา เชียงใหม่สบายดี | 247


เยี่ยม ‘ร้านพันพรรณ’ รายการอาหารของทางร้านมีให้เลือก หลากหลาย แต่ที่ต่างไปจากร้านอาหารมังสวิรัติทั่วไปก็คือ ความเป็น “ทีส่ ดุ ” ซึง่ ปรากฏอยูบ่ นเมนูดงั ว่า “เพือ่ ให้ประชาชน มีทางเลือกในการบริโภคอาหารที่สะอาดและปลอดภัยมาก ที่สุด” “เน้นการใช้พืชผักปลอดสารพิษ ไม่ใส่ผงชูรส และ ปราศจากพืชพันธุด์ ดั แปลงพันธุกรรมให้ได้มากทีส่ ดุ ” “วัตถุดบิ หลักเช่นเต้าหู้ นมถัว่ เหลือง ชีส ถัว่ งอก แยม น�ำ้ สลัด พริกแกง แหนมเห็ด เราพยายามทีจ่ ะท�ำเองให้มากทีส่ ดุ ” เพราะความ เป็น “ที่สุด” ถึงเพียงนี้ ไม่นานนาทีถัดมา ข้าวซอย เย็นตาโฟ โรตี และชาผสมเครื่องเทศ ก็ทะยอยกันม้วนตัวลงไปตุงอยู่ ในกระเพาะน้อยๆ ของฉันใน “ที่สุด” สิบเอ็ดนาฬิกาเศษๆฉันขอให้โยมพาขับรถ เข้าไปวน ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สักหนึ่งรอบ โดยมีประตูด้านคณะ วิจิตรศิลป์เป็นผู้เชื้อเชิญ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่วันนี้มีตึกผุด ขึ้นมากมาย จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็น Concrete Jungle 248 | เชียงใหม่สบายดี


แบบหลวมๆ แต่ไม่ว่าจะมองจากมุมใดก็ยังเห็นดอยสุเทพ ตระหง่านเป็นศรี แม้ฤดูกาลนี้จะเปลี่ยนจากสีเขียวสดเป็น สีน�้ำตาลกรุบกรอบ รถวิ่งฉิวทะลุทะลวงออกมาด้านหน้า มหาวิทยาลัย ผ่านศาลาธรรมสีแดงชาดรายล้อมด้วยต้นสัก สลัดใบ แล้วก็มาถึงศาลาโล่งกว้างใกล้อ่างแก้ว ที่นี่เมื่อยี่สิบปี ทีแ่ ล้วฉันกับเพือ่ นๆนักศึกษาปีหนึง่ เคยเป็นหางเครือ่ งในงาน “ลูกทุง่ วิจติ รฯ” ความบันเทิงประจ�ำปีทวี่ ยั รุน่ ทัว่ นครพิงค์ตงั้ ตา รอ ครัน้ รถเลีย้ วขึน้ ถนนห้วยแก้วมุง่ หน้าเข้าหาเมือง ฉันก็ตอ้ ง สุมาเต๊อะดอยสุเทพทีม่ าแอ่วเหนือเทีย่ วนีไ้ ม่ได้แวะไปทักทาย เนือ่ งจากมีเวลาจ�ำกัด เอาไว้โอกาสหน้าฟ้าแจ้งถ้าแข้งขายังดี มีกำ� ลัง จะย้อนรอยย้อนหลังเดินร�ำลึกถึงวันรับน้องขึน้ ดอย แหล่งข้อมูล http://travel.truelife.com/detail/1984579 http://thai.punpunthailand.org/

เชียงใหม่สบายดี | 249


เชียงรายสบายจัง


หลังจากตรวจสอบแผนที่ผ่าน WIFI ในร้านกาแฟริมถนน นิมมานเหมินทร์ ย่านสุด Chic ของเชียงใหม่ ฉันก็ได้ข้อมูล ว่าหากเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคล จากจุดนี้ไปยังวัดป่า เชียงรายสบายจัง | 251


แห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านขนาดกลางในต�ำบลแม่เปา อ�ำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย จะใช้เวลาประมาณ ๓ ชั่วโมง รวมระยะทางทั้งสิ้น ๒๒๒ กิโลเมตร เป็นเรื่องดี เหลือล้นทีก่ อ่ นค�ำ่ มีฝนตกหนักปานกลางประมาณครึง่ ชัว่ โมง จึงส่งผลให้หมอกควันทีเ่ กิดจากการเผาไร่เผานาของชาวบ้าน ชาวป่ามอดม้วยมลาย อากาศยามเช้าในวันถัดมาจึงเย็นสดชืน่ ระรื่นปอด เหมาะแก่การเดินทางไกลเป็นยิ่งนัก เมื่ออาหารเช้ากลิ้งเข้าไปอบอุ่นหนุนกระเพาะ ฉันกับ โยมอีกสองท่านก็ได้ฤกษ์สะดวกออกเดินทางในเวลา ๘ นาฬิกา ๓๐ นาที พลันพ้นเขตจังหวัดเชียงใหม่ฝนก็พร�ำลงมาเป็น ระยะๆ หนักบ้างเบาบ้างตามแต่พระพิรุณจะเห็นสมควร ฉันคอพับครึ่งหลับครึ่งตื่นจนเกือบถึงอ�ำเภอเวียงป่าเป้า เรา ตัดสินใจแวะพิจารณาก๋วยเตี๋ยวปลากับข้าวแต๋นเป็นอาหาร กลางวัน แล้วออกเดินทางกันต่อ สองข้างทางปรากฏร้าน กาแฟทั้งประเภทเมล็ดพันธุ์ท้องถิ่น และน�ำเข้าจากต่างแดน 252 | เชียงรายสบายจัง


ประดับอยูเ่ ป็นระยะ แต่ละแวกทีช่ กุ ชุมและมีบรรยากาศโลคัล น่านัง่ กระจุกอยูท่ อี่ ำ� เภอแม่สรวย ครัน้ เข้าเขตจังหวัดเชียงราย เราก็แวะยืดเส้นยืดสายจิบน�้ำส้มผสมมะนาวที่ร้าน Hip แห่งหนึ่ง เจ้าของร้านอารมณ์ดีชักชวนให้ฉันสั่งเค้กผลไม้ไป ลองชิม ฉันยิ้มละไมแล้วบอกว่าถ้าน�ำมาเสนอก่อนเที่ยงก็ พออะลุ้มอล่วย แต่ตอนนี้มันจะบ่ายโมงอยู่แล้ว หล่อนได้ยิน ดังนั้นแล้วหัวเราะขวยเขินเดินคอตกกลับไปที่เคาน์เตอร์ ฉันค้นดูแผนที่ผ่าน WIFI อีกครั้งจึงท�ำให้พบว่า อีกเพียง ๕๕ นาทีจากจุดนี้ เราก็จะเดินทางไปถึงวัดที่เป็นเป้าหมาย ปลายฝัน ฉันนึกถึง “บ้านด�ำ” ขึ้นมาอย่างไร้ปี่ไร้ขลุ่ย จึงลอง สืบค้นข้อมูลซึ่งก็แจ้งอยู่ตรงหน้าว่าไม่ไกลเกินเอื้อม ว่ากันว่า “วัดขาว” หรือวัดร่องขุ่น ของคุณน้าเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เป็นตัวแทนของสวรรค์ ส่วน “บ้านด�ำ” ของคุณตาถวัลย์ ดัชนี เป็นตัวแทนของเอ่อ... นรก ย้อนภาพกลับไปขณะทีร่ ถวิง่ ผ่าน วัดร่องขุ่นก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที หนึ่งในญาติโยมที่มาด้วยกัน เชียงรายสบายจัง | 253


ถามฉันว่า ไม่แวะไปถ่ายรูปสักหน่อยเหรอ? ฉันตอบว่า วัดร่องขุ่นเคยเห็นบ่อยแล้วตามสื่อต่างๆ ขอผ่านไปเลยก็ แล้วกัน ทว่า “บ้านด�ำ” ทีเ่ ราก�ำลังจะไปเหยียบเยือน ไม่คอ่ ย ได้เห็นกันว่ามันเป็นฉันใด ครั้นเดินทางไปถึงเราก็ไม่ผิดหวัง ในความด�ำและเข้มขลังอลังการ นอกจากสถาปัตยกรรม ล้านนาแล้ว วัตถุทโี่ ดดเด่นเป็นเสน่หด์ บิ ๆของทีน่ กี่ ค็ อื บรรดา อสุภซากที่วางประดับกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกอาคาร เท่าที่ สังเกตเห็นก็ได้แก่งูเหลือม ควาย หมูป่า จระเข้ แรด เสือ ช้าง นกยูง กวาง หมีฯ สิ่งที่น่าผิดหวังประการเดียวของที่นี่ ก็คือ “ส้วมด�ำ” ฉันอนุมานจากอาคารไม้สีด�ำทรงล้านนาว่า โถส้วมที่จัดวางอยู่ด้านในน่าจะเป็นสีด�ำด้วย แต่เมื่อก้าวข้าม กรอบประตูเข้าไปกลับพบว่าโถส้วมเป็นสีขาว! แต่ไม่เป็นไร ความแรงของชักโครกพอจะชดเชยส่วนนี้ได้ ขณะที่เราก้าวออกจาก “บ้านด�ำ” นักท่องเที่ยวทั้งชาว ไทยและชาวต่างประเทศ ก็ยังทยอยกันเข้ามาชมไม่ขาดสาย 254 | เชียงรายสบายจัง


วันนี้อากาศเย็นสบายดีด้วย รถวิ่งย้อนกลับเข้าไปในตัวเมือง เชียงราย แล้วเลี้ยวไปทางอ�ำเภอเทิง ตามด้วยอ�ำเภอพญา เม็งราย ประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษๆเราก็ลุถึงวัดเป้าหมาย ฉันน�ำโยมที่มาด้วยกันเข้าไปกราบพระอาจารย์เจ้าอาวาสที่ ศาลา นอกจากพระอาจารย์กย็ งั มีพระชาวสาธารณรัฐเชคอีก ๒ ท่าน ซึ่งเดินทางมาจากวัดป่าจิตตวิเวก ส�ำนักสาขาของ วัดหนองป่าพงในประเทศอังกฤษ ขณะนั้นเป็นเวลาฉันน�้ำ ปานะพอดี จึงเป็นโอกาสให้เราได้สนทนาปราศรัยกัน เมื่อ ได้เวลาพอสมควรฉันก็ขอตัวไปสรงน�้ำ เนื่องจากอากาศเย็น ลงทุกทีๆ กระปรี้กระเปร่าดีแล้วฉันก็เดินไปที่บ้านพักของ อุบาสก เพือ่ บอกว่าพรุง่ นีจ้ ะมีการสวดมนต์ทำ� วัตรเช้าร่วมกัน และถ้าใครสนใจจะติดตามพระไปบิณฑบาตในหมู่บ้านก็ได้ รวมระยะทางทัง้ ไปและกลับประมาณหกกิโลเมตรเท่านัน้ เอง หลังจากบอกข่าวเล่าก�ำหนดการให้ญาติโยมได้ทราบแล้ว ฉันก็เดินส�ำรวจอาณาบริเวณขณะฝนตกปรอยๆ จนกระทัง่ ไป เชียงรายสบายจัง | 255


พบอาคารหลังหนึ่งซึ่งพื้นผิวของวัสดุและสีสันคล้ายบ้านดิน เมื่อก้าวเข้าไปดูจึงรู้แจ้งว่า นี่คือห้องสมุดที่ Groovy ที่สุดใน โลก! ตัวอาคารแบ่งเป็นห้องขนาดใหญ่สองห้อง บรรจุหนังสือ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นจรดเพดาน เมื่อเดิน ผ่านโถงซึ่งกั้นระหว่างห้องทั้งสองก็ทะลุถึงระเบียงด้านหลัง ปรากฏเถาดอกไม้สีม่วง ส้ม ชมพู ขาว เลื้อยเกาะเกี่ยวเที่ยว ท่องไปบนล�ำไม้ไผ่ผา่ ซีก ซึง่ ถูกตรึงดัดจัดวางไว้เป็นรูปรังไหม บังเอิญมาพบองค์ประกอบเป็นใจ เจือกลิ่นหอมอ่อนๆของ ดอกส้มโอแบบนี้ ฉันก็ได้แต่บอกตัวเองว่า อย่าเพลิดเพลิน เดินหลงเข้าไปในดงอักษรจนหาทางออกไม่ได้นะไอ้เกลอ

256 | เชียงรายสบายจัง



บันทึกมีนาคมห่มหนาว


๕ มีนาคม ๒๕๕๖ ตอนเช้าไปบิณฑบาตที่ตลาดประจ�ำหมู่บ้าน ญาติโยม กุลีกุจอมาใส่บาตร พระอาจารย์บอกว่าวันนี้มาเช้าไปหน่อย โยมหายไปหลายคน ที่หมู่บ้านนี้อาจจะไม่มีอาหารมังสวิรัติ มีนาคมห่มหนาว | 259


หรือออร์แกนิก แต่มันเป็นหน้าที่ของพระที่ต้องปรับตัว เรา ถูกฝึกให้เป็นผูเ้ ลีย้ งง่าย เพราะต้องฝากปากท้องไว้กบั ศรัทธา สาธุชน หลังภัตตาหารฉันกับญาติโยมสองท่านที่ขับรถมาส่ง ออกเดินชมสิง่ ปลูกสร้างภายในวัด บอกตามตรงว่าฉันเคยเห็น อาคารกึ่ง Minimal กึ่ง Tropical กึ่ง Eco กึ่ง Local กิ๊บเก๋ แบบนีเ้ ฉพาะในหน้านิตยสาร นีเ่ ป็นครัง้ แรกทีไ่ ด้เห็นของจริง พระอาจารย์เล่าให้เราฟังหลังจากเดินกลับมาทีศ่ าลาว่า “มัน เป็นความท้าทายที่จะสร้างอาคารราคาถูกให้ออกมาดูดี” ที่วัดมีพระฝรั่ง ๒ รูป ทั้งคู่มาจากยุโรป แต่วันนี้พระฝรั่ง รูปหนึ่งจะเดินทางไปวัดป่าอุดมวารี ส�ำนักสาขาของวัด หนองป่าพงที่อ�ำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เป็นเหตุให้พระ ที่วัดเหลืออยู่เพียง ๓ รูป ช่วงบ่ายท่านเจ้าอาวาสจากวัดที่อยู่ ห่างออกไปประมาณครึ่งชั่วโมง มาเรียนภาษาอังกฤษกับ พระอาจารย์ ทราบภายหลังว่ามีญาติโยมชาวสิงคโปร์และ ชาวมาเลเซียมาที่วัดบ่อย จึงจ�ำเป็นต้องเข้าใจภาษาอังกฤษ 260 | มีนาคมห่มหนาว


ฉันได้ยินแว่วๆว่าบทเรียนส�ำหรับวันนี้เป็นเรื่อง Tense เมื่อ ตอนเอาคอมพิวเตอร์ไปชาร์จแบตเตอร์รี่ที่ห้องสมุด ที่วัดใช้ ไฟฟ้าซึง่ ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ ต้องรอวันทีม่ แี ดดจัดๆ จึงจะท�ำกิจกรรมนี้ได้ ช่วงฉันน�้ำปานะตอนเย็นฉันถือโอกาส ทบทวนเรื่อง Tense กับพระอาจารย์ เพื่อเป็นการเพิ่มเติม ความรู้ภาษาอังกฤษที่ก�ำลังแหว่งวิ่น

๖ มีนาคม ๒๕๕๖ ก่อนออกบิณฑบาตพระอาจารย์เดินขากระเผกมาบอก ว่าวันนี้ไปบิณฑบาตไม่ไหว (ท่านมีโรคประจ�ำตัว) ฉันจึงเดิน สนทนากับพระฝรั่งไปเรื่อยๆ ฉันถามพระฝรั่งว่าที่ประเทศ อังกฤษสามารถเดินธุดงค์ได้ไหม? ท่านตอบว่าวัดป่าในประเทศ อังกฤษทีท่ า่ นสังกัดอยู่ จะบิณฑบาตตัง้ แต่วนั จันทร์ถงึ วันศุกร์ บางเส้นทางใช้เวลาเดินเข้าไปในตัวเมืองประมาณ ๓ ชั่วโมง มีนาคมห่มหนาว | 261


และต้องยืนรอญาติโยมมาใส่บาตรอีก ๒ ชั่วโมง จากนั้นจึง ไปนั่งฉันภัตตาหารในบริเวณสุสานระหว่างเวลา ๑๑.๐๐๑๒.๐๐ น. เมื่อท�ำภัตกิจเสร็จแล้วก็เดินกลับวัด ได้ยินท่าน อธิบายละเอียดถึงขนาดนีแ้ ล้ว ฉันก็พดู ว่า เท่านีก้ เ็ พียงพอแล้ว ส�ำหรับการเดินธุดงค์ บ่ายวันนี้พอจะมีแดดแพลมออกมาบ้าง ฉันจึงหิ้ว คอมพิวเตอร์ไปที่ห้องสมุดด้วยหมายจะชาร์จไฟ แต่ปรากฏ ว่าน�้ำกลั่นในแบตเตอรี่ที่เก็บไฟจากแผงพลังงานแสงอาทิตย์ แห้งขอด จึงต้องยกไปวันพรุง่ นี้ ไม่เป็นไรวันนีไ้ ปถ่ายรูปก็แล้ว กัน ฉันเดินไปที่กุฏิรับรองพระเถระซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาค่อน ข้างสูงชัน เมือ่ ถ่ายภาพทัง้ ภายในและภายนอกอาคารทุกซอก ทุกมุมแล้ว ขณะที่ออกมายืนอยู่ริมระเบียงก็เกิดค�ำถามขึ้น มาว่า “การได้ใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการออกแบบ ตกแต่งอย่างดี อัดแน่นไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกสรรแล้วว่า ต้องตามรสนิยมของผูเ้ ป็นเจ้าของ มันท�ำให้ผอู้ ยูอ่ าศัยมีความ 262 | มีนาคมห่มหนาว


สุขจริงหรือ?” ฉันถามเองตอบเองว่า “ตราบใดที่ยังมี ‘สิ่ง รบกวน’ ภายในจิตใจ จะอยู่บ้านเรโทรหรือโมเดิร์นก็ไม่มีวัน ได้รับความสุขสบายอย่างแท้จริง”

๗ มีนาคม ๒๕๕๖ ขณะที่เราก�ำลังจะออกบิณฑบาต พระอาจารย์ก็เดิน ลากขามาบอกว่าขอพักอีกหนึ่งวัน ฉันจึงไปบิณฑบาตกับ พระฝรั่งเพียง ๒ รูป โดยวันนี้ฉันท�ำหน้าที่เป็นผู้ฟัง ท่านเล่า ว่าก่อนจะมาที่นี่ คิดว่าเมืองไทยคงเป็นประเทศที่เต็มไปด้วย Spiritaul culture แต่ปรากฏว่าผิดคาด เพราะคนไทยไล่ตาม เทคโนโลยีแบบสุดๆ โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตรุ่นใหม่ วางตลาดได้ไม่นานก็เห็นญาติโยมมีใช้กันแล้ว ในขณะที่ ชาวยุโรปยังใช้เครือ่ งรุน่ เก่า ฉันบอกว่า Consumer culture ก็แบบนีแ้ หละ จ�ำไม่ได้แล้วว่าท�ำไมเราจึงคุยกันถึงเรือ่ งนางงาม มีนาคมห่มหนาว | 263


จักรวาล น้องชายของพระฝรั่งเล่าให้ฟังว่า นางงามจักรวาล ชาวสาธารณรัฐเชคคนหนึง่ ฝึกสมาธิตดิ ต่อกันมาเป็นระยะเวลา นาน เมื่อนักข่าวถามถึงสาเหตุในการฝึกสมาธิ หล่อนตอบว่า เพราะอยากมีตาสวยเหมือนกูรชู าวอินเดีย (ฮา) ก่อนจะเข้าไป รับบิณฑบาตในหมูบ่ า้ น เราพบชาวบ้านคนหนึง่ ท�ำท่อประปา แตก สาเหตุเนือ่ งมาจากเขาถางหญ้าแล้วบังเอิญมีดแฉลบไป โดนท่อน�ำ้ ท�ำให้เกิดน�ำ้ พุสงู ประมาณ ๓-๔ เมตร เมือ่ เดินผ่าน จุดนั้นฉันก็ได้ฝึกภาษาอังกฤษอีกหนึ่งประโยค “We were just coming to the village, when the pipe broke”. ฉันเพิง่ ทราบในเช้านีเ้ องว่าพระฝรัง่ เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ให้กับนักธุรกิจและนักศึกษาที่ก�ำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ช่วงปัดกวาดตอนบ่ายฉันคิดไปคิดมาว่า ท�ำไมเราจะต้อง เปลี่ยนค�ำกิริยาเป็นช่องที่ ๒ ให้มันยุ่งยากล�ำบากด้วยนะ ใน เมือ่ ใช้คำ� กิรยิ าช่องที่ ๑ (break broke broken) ก็เข้าใจแล้ว ว่าท่อมันแตก จากนัน้ ฉันก็คดิ มาคิดไปว่า ในเมือ่ กฏของภาษา 264 | มีนาคมห่มหนาว


มันเป็นอย่างนี้ เราก็ปรับลิน้ ปรับใจตามเขาไปก็แล้วกัน จะไป คิดแหกกฏแหกคอกท�ำไมให้มันยุ่งวุ่นวาย กฏของธรรมชาติ คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตาก็เช่นกัน หาวิธีปรับตัวปรับใจตาม เขาไป จะได้ไม่ต้องเดือดพล่านทั้งปัจจุบันและอนาคต

มีนาคมห่มหนาว | 265



๘ มีนาคม ๒๕๕๖ จุดหมายปลายทางของวันนี้คือ “ดอยตุง” เราแวะพัก ฉันกาแฟก่อนเที่ยงวันที่ร้านแห่งหนึ่ง เมื่อถ้วยกาแฟมาถึง โต๊ะฝนก็กระหน�่ำลงมาอย่างหนัก เราต่างหวั่นใจพอหอม ปากหอมกาแฟ เกีย่ วกับสภาพอากาศและภูมทิ ศั น์บนตอยตุง แม้ในขณะที่รถแล่นออกมาจากร้านกาแฟ ฝนก็ยังโปรย ลงมาไม่ขาดสาย แต่เมือ่ ขึน้ ไปถึงยอดดอย ทัง้ ฟ้าและแดดกลับ สดใส เราตีตวั๋ เข้าไปเดินชมดอกไม้นานาพันธุซ์ งึ่ จัดวางได้อย่าง น่าเจริญใจ มีการเล่นระดับสูงต�่ำและน�้ำพุ ที่ดอยตุงจะเน้น อวดดอกไม้ซึ่งต่างจาก “สวนหลวงราชพฤกษ์” ของจังหวัด เชียงใหม่ที่เน้นงานสถาปัตยกรรม เมื่อเดินมาถึงซุ้มกล้วยไม้ พระฝรั่งก็ขออนุญาตถ่ายรูปคู่กับพระไทย ท่านบอกว่าจะส่ง ไปให้โยมพ่อโยมแม่ดู หลังจากเดินวนจนรอบเราก็แวะสนับสนุนร้านกาแฟ มีนาคมห่มหนาว | 267


ดอยตุง แต่หนนี้ฉันเลือกอุดหนุนน�้ำผลไม้ ฉันเคยมาที่นี่เมื่อ ประมาณสิบปีที่แล้ว แต่ครั้งนั้นยังไม่มีอาคารที่ชื่อว่า “Hall of Inspiration-หอแห่งแรงบันดาลใจ” เป็นอาคารทีร่ วบรวม ความเป็นมาของราชสกุลมหิดล ประวัติและกรณียกิจของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีหรือสมเด็จย่า ตลอด จนพระราชประวัตแิ ละพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นการจัดนิทรรศการที่น่า ทัศนากว่าหลายแห่งที่ฉันเคยเห็นมา มีการน�ำมัลติมีเดียมา ใช้ได้อย่างน่าสนใจ บางจุดผู้ชมสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมกับ มัลติมเี ดียนัน้ ๆได้ เนือ้ หาสาระก็เข้มข้นให้แรงบันดาลใจสมชือ่ สถานที่ เมือ่ ออกจากส่วนนิทรรศการแล้วขึน้ บันไดเลือ่ นวกกลับ มาบริเวณด้านหน้าของตัวอาคาร พระราชด�ำรัสของสมเด็จย่า ซึง่ ประทับอยูบ่ นผนังข้างประตูทางเข้าก็ตอกย�ำ้ ซ�ำ้ แรงบันดาลใจ อีกหนึง่ ระบัด “ฉันอบรมบุตรให้เป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ ทัง้ การ ศึกษา สุขภาพดีและมีจิตใจดีด้วย” ถ้าแต่ละครอบครัวท�ำได้ อย่างนี้ ความสงบสุขของประเทศไทยไม่ตอ้ งถามหา...มันมาเอง 268 | มีนาคมห่มหนาว


*หมายเหตุพิเศษ รางวัลทีอ่ งค์กรในสังกัดของสหประชาชาติทลู เกล้าถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีดังต่อไปนี้ ๑. เหรียญฟิแล Philae Medal โดยองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก (๒ ธันวาคม ๒๕๓๔) ๒. เหรียญทองเทิดพระเกียรติในฐานะทีท่ รงอุทศิ ตนเป็น แบบอย่างในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ธรรมชาติ UNEP Gold Medal of Distinction, in recognition of long, deicated, exemplary and eminent contributions to the improvement of the environment and nature conservation โดยโครงการสภาวะแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นอีพี (๔ พฤศจิกายน ๒๕๓๕) ๓. เหรียญทองสุขภาพดีถ้วนหน้า Health-for All Gold Medal in recognition of His Majesty’s outstanding contributions to achievement of the social goal of มีนาคมห่มหนาว | 269


health of all by the year 2000 โดยในฐานะทีท่ รงส่งเสริม ให้เกิดความส�ำเร็จตามเป้าหมายการพัฒนาสุขภาพส�ำหรับ ประชาชนอย่างเท่าเทียมภายในปี ๒๕๔๓ องค์การอนามัยโลก (๒๔ มิถุนายน ๒๕๓๕) ๔. รางวัลเทิดเกียรติในฐานะที่ทรงมีบทบาทโดดเด่น ในความพยายามที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของยาเสพติด ในไทย Award of appreciation, in recognition of His majesty’s outstanding contributions to drug control efforts in Thailand โดยโครงการเพือ่ การควบคุมยาเสพติด นานาชาติของสหประชาชาติ (๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๗) ๕. เหรียญอากรีโคลา Agricola Medal, in recognition of His Majesty’s devotion to the well-being and happiness of all people in thailand, particularly those who till the soil,tend the waters and nuture the forests ในฐานะที่ทรงอุทิศพระองค์ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดขี ึ้น และความสุขของประชาชนในประเทศองค์การอาหารและ 270 | มีนาคมห่มหนาว


เกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือเอฟเอโอ (๖ ธันวาคม ๒๕๓๘) ๖. รางวัลเทิดพระเกียรติในฐานะที่ทรงสนับสนุนงาน อุตุนิยมวิทยาและการน�ำทรัพยากรน�้ำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ Award of recongnition of His Majesty’s strong for meteorology and operational hydrology โดยองค์การ อุตุนิยมวิทยาโลก (๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๐) ๗. เหรียญเทเลฟู้ด Telefood Medal, in recognition of His Majesty’s dedication to Thailand’s agricultural development, with the aim fo raising the farmer’s standard of living and establishing food security ในฐานะทีท่ รงอุทศิ พระองค์เพือ่ พัฒนาการเกษตรในประเทศ เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรและสร้างความ มั่นคงด้านอาหาร เอฟเอโอ (๘ ธันวาคม ๒๕๔๒) ๘. แผ่นจารึกเทิดเกียรติขององค์การอนามัยโลก WHO Plaque, in recognition of His Majesty’s unstinting and powerful moral leadership and example in มีนาคมห่มหนาว | 271


public health ในฐานะทีท่ รงเป็นผูน้ ำ� ทีเ่ ปีย่ มด้วยจริยธรรม และความเมตตา ทั้งยังเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องสาธารณสุข องค์การอนามัยโลก (๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๓) ๙. รางวัลเทิดพระเกียรติของยูเอ็น-ฮาบิแทต UN-Habitat Scoll of Honour Award, in recognition of His Majesty’s outstanding contribution to sustaining habitats and improving the quality of life o the people in cities and communitues in the Kingdom of Thailand ในฐานะทีท่ รงมีบทบาทโดดเด่นในการพัฒนาทีอ่ ยูอ่ าศัยอย่าง ยั่งยืน และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งในเมืองและ ในชนบทของประเทศ ศูนย์ว่าด้วยเรื่องถิ่นที่อยู่อาศัยแห่ง สหประชาชาติ (๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗)

272 | มีนาคมห่มหนาว


๙ มีนาคม ๒๕๕๖ ขากลับจากบิณฑบาตพระฝรัง่ ถามว่า “Butterfly” ภาษา ไทยพูดว่ายังไง? “ผีเสื้อ” ฉันตอบโดยไม่ต้องคิดมาก แล้ว ค�ำว่าผีเสื้อมันแปลว่าอะไร? พระฝรั่งถามต่อไปอีก ฉันขยาย ความว่า “ผี” ภาษาอังกฤษใช้ค�ำว่า “Ghost” ส่วน “เสื้อ” ภาษาอังกฤษใช้คำ� ว่า “Shirt” แต่เมือ่ น�ำมารวมกันมันก็ไม่ได้ แปลว่า “เสื้อของผี” เช่นเดียวกับ “Butterfly” ซึ่งเป็นการ รวมตัวกันของค�ำว่า “Butter” กับ “Fly” แต่มันก็ไม่ได้แปล ว่า “เนยบินได้” พระฝรั่งพยักหน้ายิ้มเห็นสม ฉันพบบทวิจารณ์-แนะน�ำหนังสือ DHAMMASCAPES จาก นิตยสาร Secret ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๑๐๕ วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ในห้องสมุดของวัดโดยบังเอิญ อ่านแล้วทั้งข�ำทั้งเขิน ...ส�ำหรับผูอ้ า่ นทีช่ อบหนังสือธรรมะนอกกรอบ ขอแนะน�ำให้ รูจ้ กั กับเปสโลภิกขุ พระภิกษุหนุม่ อดีตนักศึกษาศิลปะ ผูส้ นใจ มีนาคมห่มหนาว | 273


ธรรมะและตั้งใจอย่างแรงกล้า ที่จะผลิตหนังสือธรรมะแนว ทดลองให้คนรุ่นใหม่วัยแสวงหาได้หยิบอ่าน หนังสือธรรมะ สังเขป (DHAMMASCAPES) ของท่านนั้นอ่านง่าย ดีไซน์ สวย มีความแปลกแตกต่าง อีกทัง้ ทุกบรรทัดยังรุม่ รวยไปด้วย อารมณ์ขัน... อะไรจะแซ่บเว่อร์ขนาดนั้น

๑๐ มีนาคม ๒๕๕๖ เช้าตรูว่ นั นีพ้ ระสามรูปออกเดินทางฝ่าหมอกหนา มุง่ หน้า สูบ่ า้ นและคลังวัสดุกอ่ สร้างแห่งหนึง่ ในตัวจังหวัดเชียงราย เพือ่ เจริญพระพุทธมนตร์ร่วมกับพระอีก ๓ วัด เนื่องจากเจ้าของ สถานที่ปรารภการท�ำบุญประจ�ำเดือน เมื่อไปถึงจุดหมาย เจ้าภาพบอกว่าอุณหภูมิเมื่อเช้านี้คือ ๑๖ องศาเซลเซียส หลวงพ่อผู้เป็นประธานเดินทางมาจากส�ำนักสาขาของวัด หนองป่าพง ในอ�ำเภอพาน จังหวัดเชียงราย งานนี้มีพระมา 274 | มีนาคมห่มหนาว


ร่วมพิธี ๑๐ รูป ก่อนฉันภัตตาหารหลวงพ่อเทศน์ในหัวข้อ ฆราวาสธรรมยาวนานหนึ่งชั่วโมง ฉันอุทานเชิงบ่นปนหิวอยู่ ในใจว่า “โอ้โห! เดีย๋ วจะต้องเจริญพระพุทธมนตร์กนั อีกนะเนีย่ ” แต่เหตุการณ์กลับผิดคาด เมือ่ เทศน์จบหลวงพ่อก็ให้ญาติโยม กล่าวค�ำถวายสังฆทานแล้วกรวดน�ำ้ รับพร ท่านบอกว่า “เจริญ พระพุทธมนต์ก็คือธรรมะนั่นแหละ แต่มันเป็นภาษาบาลี คนรุ่นใหม่ฟังไม่เข้าใจ เอาแบบที่พาท�ำวันนี้ดีกว่า ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งกุศล” จากนั้นญาติโยมก็ทยอยล�ำเลียงภัตตาหารมา ถวาย เมื่อพระลงมือฉัน ญาติโยมก็ลงมือรับประทานอาหาร เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันไป หลังจากท�ำกิจกรรมส�ำเร็จ เราก็ชกั ชวนกันไปเดินชมส�ำนัก สาขาของวัดหนองป่าพงทีว่ า่ นี้ คงจะร่วมสิบแล้วทีฉ่ นั ไม่ได้แวะ มา สังเกตเห็นร่องรอยการรือ้ อาคารบางหลังเพือ่ ขยับขยาย จึง ท�ำให้เกิดลานโปร่งโล่งไม่แออัดเหมือนเมือ่ ก่อน แต่สงิ่ ทีย่ งั คง เส้นคงวาก็คือความเงียบสงัดตามแบบฉบับของวัดป่า เราใช้ มีนาคมห่มหนาว | 275


เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ ๓๐ นาที เมื่อไปกราบลาหลวงพ่อ ท่าน ก็ให้โอวาทซึง่ จับใจกว่าฆราวาสธรรมทีไ่ ด้ฟงั ในตอนเช้า “เรา ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับตัวเอง แม้แต่ฆราวาสก็เหมือนกัน ลูกเมียทรัพย์สมบัติเป็นของสมมติ คนมาอยู่ในโลกก็ทึกทัก เอาว่าเป็นของตัวเอง หลวงพ่อชาสอนว่าบวชมาแล้วต้องทิ้ง ให้หมด อย่าเอาอะไร ถ้าจะเอาอะไรมันก็เป็นทุกข์ แม้แต่ จะเอาความสงบ สงบหรือไม่สงบก็ดูกันไปตามเรื่องของมัน” วันนีเ้ ป็นวันโกน กลับมาถึงวัดฉันจึงล้างบาตรแล้วซักจีวร ช่วงหัวค�่ำเอาหนังสือไปคืนที่ห้องสมุด จากนั้นก็ขึ้นไปเดิน จงกรมบนดาดฟ้า อากาศเย็นพอสมควร ประมาณ ๑๙.๓๐ น. จึงกลับกุฏิ ระหว่างที่เดินผ่านพระอุโบสถกลางน�้ำซึ่งอยู่ครึ่ง ทาง ฉันเห็นฝูงหิ่งห้อยบินเรี่ยรายอยู่เหนือผิวน�้ำประมาณ ๒๐ ตัว เงาสะท้อนจากผืนน�้ำท�ำให้แสงหิง่ ห้อยเพิม่ จ�ำนวนขึน้ อีกหนึ่งเท่าตัว ฉันไม่ได้เห็นหิ่งห้อยมานานนักแล้ว

276 | มีนาคมห่มหนาว



๑๑ มีนาคม ๒๕๕๖ อากาศหนาวจนพ่นไอขุน่ ขาวออกจากปากได้ หลังจากรับ บินฑบาตที่บ้านหลังสุดท้าย พระ ๓ รูปก็นั่งรถย้อนกลับเข้า ไปในหมูบ่ า้ นอีกครัง้ เพือ่ เยีย่ มแม่อยุ๊ อายุแปดสิบกว่าปีซงึ่ ก�ำลัง ป่วยหนัก แม่อยุ๊ อยูใ่ นสภาพผอมแห้ง ใบหน้าตกกระสีนำ�้ ตาล มองไม่เห็นฟันภายในปากแม้แต่ซเี่ ดียว เมือ่ เราไปถึงก็เห็นลูก หลานรายล้อมอยู่เต็มบ้าน พระอาจารย์นั่งลงข้างๆแล้วบอก ให้แม่อยุ๊ ร�ำลึกถึงบุญกุศลทีเ่ คยสัง่ สมมา ฉันทราบภายหลังว่า แม่อุ๊ยท�ำบุญตักบาตรเป็นประจ�ำสม�่ำเสมอตั้งแต่เริ่มสร้างวัด คือเมื่อประมาณสิบกว่าปีมาแล้ว จนกระทั่งช่วงหลังแม่อุ๊ย เจ็บไข้จึงว่างเว้นไป แต่ลูกหลานก็ได้ท�ำหน้าที่นี้สืบต่อมา ก่อนสิ้นสุดการเยี่ยมเยียน เราเจริญพระพุทธมนต์พอสังเขป เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งบุญกุศล แม่อุ๊ยพนมมือไว้ที่หน้าอก เมื่อเรากลับถึงวัด กิจวัตรทุกอย่างยังคงด�ำเนินไปตามปรกติ จนกระทั่งเวลาประมาณสิบเอ็ดนาฬิกา ลูกหลานของแม่อุ๊ย 278 | มีนาคมห่มหนาว


โทรมากกราบเรียนพระอาจารย์ว่า...แม่อุ๊ยไปดีแล้ว

๑๒ มีนาคม ๒๕๕๖ พระฝรั่งบอกว่าอุณหภูมิช่วงฤดูหนาวของที่นี่ประมาณ ๑๓ องศาเซลเซียส ก่อนที่ฉันจะมาวัดแห่งนี้อากาศร้อนมาก แต่ในระยะหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาอากาศกลับหนาวซ�้ำอีก เช้านี้เราแวะไปรับบิณฑบาตที่บ้านแม่อุ๊ยซึ่งก�ำลังมีการ จัดเตรียมงานฌาปนกิจ บรรยากาศก็เหมือนงานศพทั่วไป ที่สัมผัสได้ตามชนบท มีการปิดถนน มีการกางเต็นท์ มีชุด โต๊ะเก้าอี้ มีเครื่องขยายเสียง มีการเตรียมอาหารไว้ตอนรับ แขกเหรื่อ และที่ส�ำคัญก็คือมีศพ เราเดินลอดเต็นท์เข้าไป บริเวณลานบ้าน นั่งบนเก้าอี้ที่ทางเจ้าภาพจัดไว้ ญาติโยม น�ำอาหารมาใส่บาตร กรวดน�้ำรับพรเป็นอันเสร็จพิธี จากนั้น เราก็เดินออกมาจากบ้านแม่อยุ๊ เพือ่ รับบิณฑบาตยังบ้านถัดๆไป มีนาคมห่มหนาว | 279


ระหว่างที่เดินผ่านบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่จัดงาน เพียงไม่กี่ก้าว ฉันก็ได้ยินเสียงสามีกับภรรยาทะเลาะกันเป็น ภาษาพืน้ เมือง อาศัยว่าเคยคลุกคลีกบั ชาวล้านนาจึงจับใจความ ได้หนึ่งประโยค ซึ่งพอจะแปลเป็นภาษาไทยภาคกลางได้ว่า “ใครพูดอย่างนั้นขอให้รถสิบล้อชนตาย!” เฮ้อ! ยามรัก น�้ำต้มผักก็ว่าล�ำแต้ๆ กลับจากบิณฑบาตฉันเล่าให้พระฝรั่งฟังว่า โยมผู้ชาย ทีม่ าปฏิบตั ธิ รรม เมือ่ คืนเขานอนอยูท่ ศี่ าลา เขาบอกว่ากลัวผี พระฝรัง่ พูดว่า “Not unusaul-การกลัวผีเป็นเรือ่ งปรกติของ คนไทย” ฉันพูดขึ้นบ้างว่าที่อังกฤษก็มีเรื่องผีเยอะ สมัยเป็น ลูกช้างเชิงดอยฉันเคยฟังรายการวิทยุ BBC ภาคภาษาไทย พิธีกรเล่าว่าพระราชินีองค์หนึ่งถูกประหารชีวิตโดยการตัด พระเศียร วันดีคืนดีจะมีคนเห็นพระนางไร้หัวควบม้าเล่น รอบปราสาท (จ�ำไม่ได้ว่าม้ามีหัวหรือเปล่า) พระฝรั่งเล่าว่าที่ อังกฤษมีปราสาทโบราณอยู่เป็นจ�ำนวนมาก แต่ละแห่งก็จะ 280 | มีนาคมห่มหนาว


มีเรื่องผีๆ ท่านเล่าสืบไปว่าเจ้าอาวาสของวัดป่าแห่งหนึ่งใน ประเทศอังกฤษลาสิกขา ต่อมาท่านก็เสียชีวิต อยู่มาวันหนึ่ง พระอาจารย์ชาวไทยที่มีความรู้พิเศษเดินทางไปเยี่ยมวัด แห่งนีบ้ อกว่าเจ้าอาวาสรูปก่อนไปเกิดเป็นรุกขเทวดาสิงสถิตย์ อยู่ที่ต้นไม้ใกล้ศาลา ช่วงเย็นฉันมีโอกาสฉันน�้ำปานะร่วมกับพระอาจารย์ ที่มาเรียนภาษาอังกฤษกับท่านเจ้าอาวาส ท่านบวชเป็นพระ ๓๐ กว่าพรรษา เมื่อครูบาอาจารย์ของท่านมรณภาพ ท่าน จึงสืบทอดต�ำแหน่งเจ้าอาวาส ฉันถามท่านว่าธรรมะข้อใดที่ ครูบาอาจารย์ของท่านเน้นย�ำ้ มากทีส่ ดุ ? ท่านตอบว่า “สัจจะ... ถ้าเราตั้งสัจจะไว้ต้องท�ำให้ส�ำเร็จ เช่นการนั่งสมาธิ เราอยู่ใน ท้องแม่ ๙ เดือนยังอยูไ่ ด้ ท�ำไมเราจะนัง่ สมาธิ ๙ ชัว่ โมงไม่ได้” นอกจากนีท้ า่ นยังเล่าถึงการสูบบุหรีข่ องพระ “ครูบาอาจารย์ ของผมเมือ่ ก่อนท่านก็สบู พระลูกวัดก็สบู ต่อมาท่านพาเลิกโดย ให้เหตุผลว่า สมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน ญาติโยมเขารังเกียจ มีนาคมห่มหนาว | 281


พระจะสูบบุรี่ก็ต้องหลบๆซ่อนๆ มันไม่งาม มันไม่เหมาะแก่ สมณสารูป” ช่วงท้ายของการสนทนาท่านให้ขอ้ สังเกตว่า “คน ทางภาคนีบ้ วชไม่ทน สูท้ างอีสานบ้านเราไม่ได้ ครูบาอาจารย์ บอกให้ทนเอาหน่อย เขาก็อดทนอยู่กันได้”

๑๓ มีนาคม ๒๕๕๖ ที่เรานัดหมายกันว่าจะไปร่วมงานฌาปนกิจของแม่อุ๊ย ผู้ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ ๘๙ ปี รถมารับตอนเที่ยงเศษๆ เมื่อ ไปถึงบ้านแม่อยุ๊ ชาวบ้านก็ตงั้ แถวรออยูแ่ ล้ว มีสามเณรห่มผ้า สีสม้ สดถือด้ายจูงศพอยูห่ น้าขบวน ๓ รูป พระห่มผ้าสีแก่นขนุน ๓ รูปลงจากรถแล้วเข้าไปจับด้ายออกเดินน�ำ เสียงเพลง พื้นบ้านล้านนาบรรเลงคลอเคล้าขณะที่เราเคลื่อนขบวนไป ช้าๆ ประมาณครึง่ ชัว่ โมงก็ถงึ สุสาน ซึง่ แขกผูม้ เี กียรติและเมรุ เผาศพก�ำลังรออยู่ พิธีกรผู้ช�ำนาญการประกาศว่า “พิธีกรรม 282 | มีนาคมห่มหนาว


ของแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน เช่นป่าช้าบางแห่งห้าม ถ่ายรูป แต่ทนี่ เี่ ราอนุญาตให้ถา่ ยรูปได้เพราะถือว่าเป็นเกียรติ แก่ผู้วายชนม์ และนานๆครั้งญาติพี่น้องจึงจะได้มาอยู่พร้อม หน้ากัน เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเวลาของแขกผู้มีเกียรติจน เกินไป เราจะประกอบพิธีอย่างเรียบง่ายและรวบรัดตัดสิ่งที่ ไม่จำ� เป็นออก” พิธกี รเป็นคนพูดจริงท�ำจริงเพราะก่อนจะยืน ไว้อาลัยได้ประกาศว่าจะใช้เวลา ๓๐ วินาที แต่เอาเข้าจริงก็ ไม่ถึง สมัยที่ฉันเป็นเด็กจ�ำได้ว่าเขาใช้เวลาในการยืนไว้อาลัย ตั้ง ๑ นาที ซึ่งเอาเข้าจริงก็ไม่ถึงเช่นกัน เมื่อเจ้าคณะต�ำบลและพระลูกวัดตลอดจนสามเณรชัก ผ้าบังสกุลแล้วเสร็จ พิธีกรก็ประกาศว่าถ้าลูกหลานจะขึ้นไป ดูหน้าผู้วายชนม์เป็นครั้งสุดท้ายก็สามารถท�ำได้ บัดนั้นพระ ห่มผ้าสีแก่นขนุน ๓ รูปก็ก้าวขึ้นสู่เมรุ รับแก้วน�้ำมะพร้าว เทรดลงไปบนใบหน้าศพแม่อุ๊ย วางดอกไม้จันทน์ แล้วเดิน ลงมา จากนั้นแขกผู้มีเกียรติก็ทยอยขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์ มีนาคมห่มหนาว | 283


ระหว่างนั้นพระก็ร่วมกันสวดมาติกา กิจกรรมด�ำเนินมาถึง ขัน้ ตอนสุดท้าย คือพิธกี รประกาศเชิญก�ำนันมากดสวิทซ์เพือ่ จุดไฟ ตั้งแต่เดินเข้ามาในสุสานจนกระทั่งเสร็จงานใช้เวลา เพียง ๑ ชั่วโมงเศษๆ จากนั้นเราก็แยกย้ายกันกลับบ้านใคร บ้านมัน วัดใครวัดมัน ขณะนัง่ รถกลับวัดพระคุยกันว่า “รุน่ เรา อยู่ถึงหกสิบก็หรูแล้ว”

284 | มีนาคมห่มหนาว



๑๔ มีนาคม ๒๕๕๖ ประมาณ ๑๗ นาฬิกา ๔๕ นาที ฉันออกไปเดินบนถนน รอบวัดกับพระฝรัง่ ซึง่ ท่านจะเดินเวลานีท้ กุ วันแต่ฉนั เพิง่ เคย มาเป็นครั้งแรก ชาวบ้านที่มีสวนอยู่รอบวัดส่วนใหญ่ปลูก ยางพาราตามนโยบายของรัฐบาลเมือ่ หลายปีกอ่ น เราสนทนา กันหลายเรือ่ ง หัวข้อเท่าทีฉ่ นั พอจะจ�ำได้กค็ อื ดินฟ้าอากาศ / ญาติพนี่ อ้ ง / การถือธุดงควัตรข้อเนสัชชิก / การท�ำความเข้าใจ กับคนในครอบครัวทีไ่ ม่นบั ถือศาสนาใดๆ / ความยากล�ำบากใน การปรับปรุงอาคารเก่าของวัดป่าในประเทศอังกฤษ / ปัญหา หยุมหยิมในการซ่อมแซมอาคารใหม่ของวัดป่าในประเทศไทย ซึง่ มีสาเหตุมาจากการก่อสร้างเร่งรีบเกินไป / ปลวก / เสาไฟฟ้า / ความเป็นไปได้ในการก่อตัง้ ส�ำนักสาขาของวัดหนองป่าพงบน เกาะบาหลี / ประเทศอินเดีย / ความเสื่อมของพระหนุ่ม / หนังสือ / ฮิปปี้ / บีทเจเนอเรชั่น / ผู้หญิงไทยที่แต่งงานกับ ฝรั่งเพราะดอลล่าร์ หล่อนขับรถหรูหราและชอบซื้อสินค้า 286 | มีนาคมห่มหนาว


แบรนด์เนม / เทคโนโลยี / ระดับความเข้มข้นของศรัทธาที่มี ต่อพระพุทธศาสนา ระหว่างพระไทยกับพระฝรัง่ / ยุงตัวหนึง่ ในประเทศอังกฤษ / ตุก๊ แก / งูมพี ษิ และไม่มพี ษิ / ศูนย์วปิ สั สนา กรรมฐานและร้านอาหารไทยในสาธารณรัฐเชค / ฝรัง่ มักเข้าใจ ว่าชาวพุทธถือมังสวิรัติกันทั้งหมด / ออร์แกนิค / โยคะ / แฟชั่นการท�ำสมาธิ / จักรยาน / พลังงานทางเลือก / รถ แทรคเตอร์ของชาวไร่ในประเทศอังกฤษไม่จำ� เป็นต้องมีคนขับ เพราะใช้ระบบควบคุมผ่านสัญญาณดาวเทียม / เนยถั่วเป็น ที่นิยมในประเทศสหรัฐอเมริกา / Marmite รสชาติคล้าย ขนมปังจิ้มน�้ำปลา ฯลฯ เมื่อเดินวกกลับมาเกือบถึงหน้าวัดเราก็สนทนากันเรื่อง Tense ฉันทดลองพูดหลายประโยค แต่พระฝรัง่ ก็ตอ้ งปรับแก้ ให้ทกุ ทีไป จนกระทัง่ ประโยคสุดท้าย ก่อนทีเ่ ราจะแยกย้ายกัน บริเวณหน้าห้องสมุด เมือ่ เวลาประมาณ ๑๘ นาฬิกา ๒๐ นาที... I felt cold, when I was coming back to the monastery. มีนาคมห่มหนาว | 287


๑๕ มีนาคม ๒๕๕๖ หลังภัตตาหารพระอาจารย์เจ้าอาวาสมอบหมายงานให้ ชิ้นหนึ่ง นั่นก็คือการเป็น “พระอนุสาวนาจารย์” ส�ำหรับพิธี อุปสมบททีจ่ ะมีขนึ้ ในวันพรุง่ นี้ พิธอี ปุ สมบทแต่ละครัง้ จะต้อง มีพระอุปัชฌาย์ และพระคู่สวดสองรูปซึ่งเรียกชื่อต่างกันว่า “พระกรรมวาจาจารย์” กับ “พระอนุสาวนาจารย์” นอกจากนัน้ ก็มีพระที่เข้าร่วมในพิธีซึ่งปรกติควรจะมี ๑๐ รูปขึ้นไป แต่ใน ท้องถิ่นที่กันดารพระ อนุโลมให้มี ๕ รูปเป็นอย่างน้อย ฉัน จ�ำใจต้องรับงานนี้ทั้งๆที่ไม่เคยฝึกสวดมาก่อน เพราะพรุ่งนี้ พระในจังหวัดเชียงรายจ�ำนวน ๑,๐๐๐ รูป ต้องเดินทาง ไปเข้าร่วมพิธีกรรมส�ำคัญและรับบิณฑบาตที่อ�ำเภอแม่สาย พระอาจารย์หาใครมาท�ำหน้าที่นี้แทนไม่ได้จึงมาลงเอยที่ฉัน เอาน่า...ลองดูกันสักตั้ง ช่วงบ่ายฉันกับพระอาจารย์ทดลอง สวดคู่กันที่ศาลา ช่วงเย็นย้ายไปยังพระอุโบสถกลางน�้ำ เพื่อ ให้พ่อนาคได้ลงซ้อมในสถานที่จริง 288 | มีนาคมห่มหนาว


๑๖ มีนาคม ๒๕๕๖ พิธีอุปสมบทด�ำเนินไปอย่างราบรื่นเรียบง่าย เป็นช่วงที่ อากาศยามเช้าก�ำลังหนาวสบาย คือระหว่างเวลาเจ็ดนาฬิกา กว่าๆถึงแปดนาฬิกาเศษๆ มีพระร่วมในพิธี ๕ รูป ญาติโยม ประมาณ ๔๐ ท่าน หลังฉันภัตตาหารพระอาจารย์กับฉันพูด คุยกันถึงการเดินทางในวันพรุ่งนี้ ใช่แล้ว...ฉันก�ำลังจะเอ่ย ค�ำลา เมื่อคุยเรื่องนี้เสร็จ เราก็ต่อด้วยเรื่องเกี่ยวกับญาติโยม ผูก้ อ่ ตัง้ นิตยสารฟรีกอ็ ปปีฉ้ บับหนึง่ ทีก่ ำ� ลังเป็นทุกข์เพราะทีม ท�ำหนังสือชุดใหม่ไม่เข้าใจเจตนารมณ์ดั้งเดิม ซึ่งก็คือความ ปรารถนาให้ผู้อ่านได้เสพสิ่งดีๆ ที่นอกเหนือไปจากการกิน ดืม่ เทีย่ ว ผูก้ อ่ ตัง้ ยังไม่อยากเลิกราเพราะการได้ทำ� สิง่ ทีต่ วั เอง ชอบ ช่วยหล่อเลี้ยงจิตใจของเขาให้มีชีวิตชีวา ฉันมองเรื่องนี้ ว่าเป็นเหตุการณ์สามัญประจ�ำโลก หากใครเอาความสุขของ ตัวเองไปแขวนไว้กบั สิง่ ภายนอกก็ตอ้ งประสบกับปัญหานี้ แม้ จะมีความตัง้ ใจสูงและเจตนาดีกต็ าม เพราะสิง่ ภายนอกขึน้ ๆ มีนาคมห่มหนาว | 289


ลงๆตรงๆบิดๆไปตามเหตุปัจจัยที่มากระทบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรา ควบคุมไม่ได้ ตัวฉันเองแม้จะมีความสุขกับการท�ำหนังสือ แต่ ก็เป็นเพียงความสุขที่มาเสริม เพราะฉันมีความสุขอย่างอื่น เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจไว้เป็นหลักอยู่แล้ว

๑๗ มีนาคม ๒๕๕๖ สวดมนต์นั่งสมาธิแล้วเสร็จในเวลาประมาณ ๖ นาฬิกา เศษๆ ฉันร�่ำลาพระฝรั่งและพระใหม่ เช้านี้พระอาจารย์ เจ้าอาวาสกับฉันจะเดินทางไปฉันภัตตหารทีบ่ า้ นของญาติโยม ในเมือง ขณะนั่งรถสู่จุดหมายหมอกบางๆยังมีปรากฏให้เห็น หลังภัตตาหารและล้างบาตรเสร็จสรรพ ฉันก็จัดแจงบรรจุ บาตรขนาดเจ็ดนิว้ ลงในกระเป๋าเดินทาง จากนัน้ ก็ยา้ ยมานัง่ ที่ ร้านกาแฟ นี่เป็นกาแฟแก้วที่ ๔ ของฉันส�ำหรับปีนี้ เครื่องบิน จะเหินออกจากสนามบินแม่ฟ้าหลวงประมาณบ่ายสามโมง 290 | มีนาคมห่มหนาว


ยังพอมีเวลา Hang out ญาติโยมจึงนิมนต์ไปเดินชมสวน แม่ฟ้าหลวง ไม่น่าเชื่อว่าขับรถออกมาเพียงไม่กี่นาทีจาก เขตเมือง เราก็ได้พบบรรยากาศที่เงียบสงบสงัดโล่งจมูก สถาปัตย์และศิลปหัตถกรรมพืน้ บ้านล้านนา จากจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือตอนบน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นของเก่าโบราณ แคลสสิก มาชุมนุมกันอยู่ที่นี่อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ยิ่งเดินลึก เข้าไปยิ่งพบมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเต็มไปหมด ฉันกดชัตเตอร์ อย่างมันมือ ที่ไม่อาจผ่านเลยก็คือชื่อของต้นไม้จากหลาย ภูมิภาคของประเทศไทยซึ่งมีป้ายเขียนบอกไว้ ฉันว่ามัน ประหลาดเหลือหลาย ไม่เชื่อลองอ่านกัน... ล้างเสนียด! มะนาวผี! หมีเหม็น! เขยตายยาก! ชมพู่สากกระเบือ! ขันทอง พยาบาท! กล้วยนิ้วจระเข้! เราเพลิดเพลินกับความรูแ้ ละร่มรืน่ อยูภ่ ายในไร่แม่ฟา้ หลวง จนลืมดูเวลา แต่ทา้ ยทีส่ ดุ ฉันก็มานัง่ ทัศนาภูมทิ ศั น์ ของจังหวัด เชียงรายผ่านบานหน้าต่างสองชั้นของเครื่องบิน ซึ่งก�ำลัง มีนาคมห่มหนาว | 291


ทะยานสู่กรุงเทพมหานครฯ เมืองหลวงของประเทศที่ถูกจัด อันดับ โดยสถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ว่า มีความสงบสุขเป็นอันดับที่ ๑๒๖ จากทั้งหมด ๑๕๘ ประเทศทั่วโลก

292 | มีนาคมห่มหนาว



นครราชสีมาดีไปดี


เพียงสามชั่วโมงครึ่งจากกรุงเทพฯฉันก็มายืนอบไอร้อนที่ ธรณีประตูสู่อีสาน เมื่อญาติโยมที่คุ้นเคยกันทราบว่า ฉันมา เยือนจังหวัดนครราชสีมาหรือทีม่ ชี อื่ เล่นว่า “โคราช” ก็ถงึ กับ นครราชสีมาดีไปดี | 295


หัวเราะร่วนพลางถามว่า ท่านไปท�ำอะไรทีน่ นั่ ? เหตุทญ ี่ าติโยม ออกอาการเยี่ยงนี้ เพราะโคราชไม่ใช่เส้นทางสัญจรปรกติใน วงจรชีวติ ของฉัน ความประหลาดใจจึงไปกระตุกต่อมข�ำของ เขา แต่ถึงอย่างไรฉันก็ต้องจรลีมาทีเ่ มืองย่าโม เพราะย่าแท้ๆ ซึ่งปัจจุบันมีอายุ ๙๖ ปีประสบอุบัติเหตุตกเตียงข้อมือหัก ย่า (แม่ของโยมพ่อ) เป็นเพื่อนสนิทกับยาย (แม่ของโยม แม่) ย่ามีรูปร่างผอมเพรียวและพูดน้อย ส่วนยายมีรูปร่าง ท้วมและพูดคุยสนุก ใครๆมักจะเห็นย่ากับยายไปท�ำบุญที่ วัดป่าด้วยกันอยูเ่ สมอ จึงพากันเรียกจนติดปากว่า “ยายจ่อย” กับ “ยายอ้วน” ยายจากย่าไปสู่สัมปรายภพด้วยโรคมะเร็ง เมื่ออายุ ๖๖ ปี ฉันเคยได้ยินย่าบ่นคิดถึงยายอยู่บ่อยๆว่า “ไม่นา่ อายุสนั้ ” ย่าพักอยูก่ บั ลูกซึง่ เป็นโยมอาของฉัน พวกเรา ต่างรูก้ นั ดีวา่ ย่าปฏิเสธอุปกรณ์สมัยใหม่ เช่นแว่นตาหรือเครือ่ ง ช่วยฟังมาตั้งแต่ไหนแต่ไร น้องคนหนึ่งบอกว่า “คุยกับย่า แล้วเหนื่อย” เพราะต้องตะโกน มาหนนี้ก็เช่นกัน แม้อาการ 296 | นครราชสีมาดีไปดี


บวมที่แขนข้างขวาจะทุเลาลงแล้ว แต่กระดูกก็ยังปูดโปน ออกมาให้เห็นเพราะย่าไม่ยอมใส่เฝือก ลูกหลานจึงได้แต่ชว่ ย กันพยาบาลด้วยการทาน�้ำมัน ไม่ไกลจากบ้านโยมอามีสำ� นักสาขาของวัดหนองป่าพงอยู่ แห่งหนึ่ง ฉันจึงขออนุญาตจากพระอาจารย์เจ้าอาวาสพ�ำนัก อยู่ที่วัดแห่งนี้เป็นเวลา ๔ วัน ระหว่างนั้นฉันไปเยี่ยมย่าเกือบ ทุกวัน บางวันก็ท�ำภัตกิจที่บ้านโยมอา เพื่อให้ย่ามีโอกาสได้ ใส่บาตรและกรวดน�้ำรับพร ในช่วงเวลาสิบเจ็ดปีที่ฉันครอง เพศสมณะ ฉันพบย่าหลายครั้งที่บ้านของลูกคนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง ทุกครั้งที่พบกันย่ามักจะถามว่า “สบายดีไหม?” เมื่อฉันตอบว่า “สบายดีตามประสาพระ” ย่าก็จะพูดต่อไป ว่า “สบายดีก็อยู่ไปเรื่อยๆ” หลังจากเสร็จภัตกิจและการร�่ำลา ฉันมักจะหาโอกาส เดินทางไปเยือนบางสถานในโคราช จุดทีน่ กั ท่องเทีย่ วส่วนใหญ่ นครราชสีมาดีไปดี | 297


ไม่พลาดกันก็คือ “ด่านเกวียน” ฉันเคยมาที่นี่สองครั้งเมื่อ หลายปีก่อน นอกจากงานเครื่องปั้นดินเผาแบบบ้านๆแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดสะดุดใจฉันมากนัก จนกระทั่งได้เช็คข้อมูลทาง อินเทอร์เน็ตจึงพบว่า ด่านเกวียนมีแกลลอรี่เก๋ๆอยู่แห่งหนึ่ง ครัน้ มาถึงฉันก็ถกู ชะตากับความโปร่งสบายไม่พลุกพล่าน อาจ จะเป็นเพราะวันนี้เป็นวันปลายสัปดาห์ ภายในอาคาร ๓ ชั้น มีงานเครือ่ งปัน้ ดินเผา ประติมากรรมส�ำริด และภาพจิตรกรรม อยู่พอสมควร แม้ไม่กลาดเกลื่อนเหมือนร้านอื่นๆ ทว่าแต่ละ ชิ้นล้วนได้รับการออกแบบและคัดสรรมาอย่างดี ต่างจาก ผลิตภัณฑ์ของด่านเกวียนที่ฉันเคยเห็นมา มุมหนึ่งด้านหน้า แกลลอรี่มี “สามเณรประดับสวน” ในสามอิริยาบถคือ นั่ง สมาธิ นั่งชันเข่า และนอนคว�่ำเอามือเท้าคาง ซึ่งก�ำลังอยู่ใน ช่วง SALE วัสดุที่ใช้ประดิษฐ์เป็นหินทรายหล่อหลายเฉดสี ในจ�ำนวนเกือบสามสิบชิน้ ฉันเลือกชิน้ หนึง่ ซึง่ แคลสสิกดูดมี มี ติ ิ กว่าชิน้ อืน่ ๆ ได้รบั การบอกเล่าจากพนักงานขายในภายหลังว่า เป็นเพียงชิ้นเดียวที่ผ่านการพ่นสี อากาศร้อนก�ำลังได้เรื่อง 298 | นครราชสีมาดีไปดี


หลังจากนิมนต์สามเณรไปนัง่ สมาธิรออยูใ่ นรถแล้ว เราก็ดงิ่ เข้า สูก่ าแฟสถานซึง่ อยูห่ า่ งจากแกลลอรีเ่ พียงไม่กกี่ า้ ว ฉันไม่แน่ใจ ว่าผู้เป็นเจ้าของสร้างแกลอรี่ประดับร้านกาแฟ หรือสร้าง ร้านกาแฟประดับแกลลอรี่ เพราะต่างก็มีแรงดึงดูดพอๆกัน ในระยะเวลา ๔ วันทีโ่ คราช เรือ่ งหนึง่ ทีป่ ะทุขนึ้ ท่ามกลาง บทสนทนา ระหว่างอาๆหลานๆอย่างไม่อาจผ่านเลยก็คือ การบุกรุกพืน้ ทีป่ า่ และการสร้างรีสอร์ทในเขตอ�ำเภอวังน�ำ้ เขียว ไม่นา่ เชือ่ ว่าในอ�ำเภอแห่งนีจ้ ะมีรสี อร์ทกระจัดกระจายอยูถ่ งึ ๕๐๐ แห่ง แต่ผผู้ า่ นทางเช่นฉันก็พอจะสละเวลาท�ำความเข้าใจ ได้ว่า คนเมืองต้องการอากาศบริสุทธิ์ให้แก่ร่างกาย และ ความเงียบสงบให้แก่จิตใจ ทางเลือกหนึ่งที่จะสนองได้อย่าง สะดวกก็คือ การเดินทางมาผ่อนคลายยังรีสอร์ท ท่ามกลาง ธรรมชาติในวันหยุดสุดสัปดาห์ ส่วนใครที่มีเงินถุงเงินถังก็ อาจขยับขยายไปซือ้ ทีด่ นิ สักแปลง ปลูกผักปลูกหญ้าปลูกบ้าน สไตล์คนั ทรี เพิม่ ดีกรีความเป็นส่วนบุคคลให้กบั ตนเอง อย่างไร นครราชสีมาดีไปดี | 299


ก็ตาม ถ้าพอมีเวลาว่างหายใจเข้าลึกๆหายใจออกยาวๆ ก็ควร จะสูดเอา “ค�ำพระ” ไปพิจารณาเผื่อขาดเผื่อเกินเอาไว้บ้าง เพราะเวลาทีผ่ า่ นไปในแต่ละวันหัน่ ชีวติ ของเราให้สนั้ ลงทุกที และโลกยุคแต่งกลิ่นเจือสีสังเคราะห์เช่นทุกวันนี้ จะอนุญาต ให้สักกี่ใครได้มีอายุยืนยาว สายเมเก น ทิสฺสนฺติ ปาโต ทิฏฺฐา พหู ชนา ปาโต เอเก น ทิสฺสนฺติ สายํ ทิฏฺฐา พหู ชนา ตอนเช้า ยังเห็นกันอยูม่ ากคน พอตกเย็น บางคนก็ไม่เห็น เมือ่ เย็น ยังเห็นกันอยูม่ ากคน ตกถึงเช้า บางคนก็ไม่เห็น แหล่งข้อมูล “อมฤตพจนา” พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) http://www.komchadluek.net/detail/20110803/104766/ เหตุเกิดที่วังน�้ำเขียว:ใครถูก–ใครผิด.html#.UVExAnCKf5k

300 | นครราชสีมาดีไปดี



จิ้งจอกเร้นกาย

เรื่อง ขุทฺทกนิกาย ชาดก / เรียบเรียง เปสโลภิกขุ สตอรี่บอร์ด อิทธิวัฏก์ สุริยมาตย์


ค่อนมาทางปลายปี ๒๕๕๕ ฉันวางแผนว่าจะผลิตหนังสือ การ์ตูนจากนิทานชาดกสักเล่มหนึ่ง จึงท�ำการค้นคว้า พระไตรปิฎกแปล ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และ จิ้งจอกเร้นกาย | 303


พระไตรปิฎก-อรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย โดย เริ่มจากสิคาลชาดก เป็นชาดกที่ว่าด้วยสุนัขจิ้งจอกเข้าอยู่ใน ท้องช้าง จากนัน้ ก็เรียบเรียงเนือ้ เรือ่ งส่งไปให้นกั เขียนการ์ตนู ชื่ออิทธิวัฏก์ สุริยมาตย์ สเกตซ์แล้วน�ำมาติชมร่วมกันก่อน จะวาดมันออกมาเป็นฉบับสมบูรณ์ ขณะนั้นอิทธิวัฏก์ก�ำลัง เตรียมตัวเดินทางไปรับรางวัล Silver Award จากการประกวด การ์ตูนนานาชาติครั้งที่ ๖ ประจ�ำปี ๒๕๕๖ ที่ประเทศญี่ปุ่น อิทธิวัฏก์ท�ำงานเร็วมาก ไม่กี่สัปดาห์การ์ตูนเรื่องแรกก็แล้ว เสร็จ ฉันตั้งชื่อเรื่องว่า “จิ้งจอกเร้นกาย” การ์ตนู ชาดกส่วนใหญ่ทปี่ รากฏอยูใ่ นท้องตลาดจะมีบคุ ลิก ใสสะอาดน่าเอ็นดู ฉันอยากให้การ์ตนู ชาดกเล่มนีต้ า่ งออกไป จึงคัดสรรชาดกจ�ำนวน ๑๐ เรื่องซึ่งล้วนมีเนื้อหาอุดมไปด้วย ความดิบดาร์ค ประหนึ่งภาพยนตร์แนว Film Noir หลังจาก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับการ์ตูนเรื่องแรก ฉันก็พบความจริงที่ยาก จะปฏิเสธว่า การ์ตูนหนึ่งเรื่องจ�ำนวน ๑๗ หน้ากระดาษต้อง 304 | จิ้งจอกเร้นกาย


จ่ายค่าวาดเฉียดหมืน่ ! ถ้าการ์ตนู สิบเรือ่ งจะต้องจ่ายเท่าไหร่? ฉันปรึกษาตัวเลขในบัญชี นอกจากนี้ในการจัดพิมพ์หนังสือ เพื่อแจกเป็นธรรมทานแต่ละครั้งของ Dhamma Design Club ที่ผ่านมา โดยมากเราก็มีก�ำลังพิมพ์ได้เพียงครั้งละ ๑,๐๐๐ เล่ม เมื่อบวก ลบ คูณ หาร แล้วได้ข้อสรุปว่ามัน ไม่คุ้มค่าที่จะท�ำ ฉันจึงวานให้โยมโอนปัจจัยค่าวาดการ์ตูน เข้าบัญชีของอิทธิวัฏก์ ซึ่งเขาก็คิดราคาให้อย่างเป็นมิตร แล้วม้วนโครงการนี้ซุกไว้ใต้หมอนด้วยความเสียดาย ทั้งๆที่ ออกแบบปกและรูปเล่มไว้แล้ว ในระยะไล่เลีย่ กัน ฉันก�ำลังตระเตรียมต้นฉบับหนังสือความ เรียงเชิงธรรมะที่ชื่อว่า “อะไรเป็นอะไร” จึงได้น�ำ “จิ้งจอก เร้นกาย” มารวมเล่มในฐานะแขกรับเชิญ จนกระทั่งเดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ทางส�ำนักพิมพ์โพสต์บุ๊คส์ติดต่อมาว่า สนใจที่จะตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้เพื่อวางจ�ำหน่ายทั่วประเทศ ...ฉันอมยิ้มแล้วตอบตกลง จิ้งจอกเร้นกาย | 305


ปลายเดือนเมษายน ๒๕๕๖ ระหว่างที่ฉันก�ำลังตรวจ ต้นฉบับ “สาส์นจากความเงียบ” อิทธิวัฏก์ก็โทรศัพท์มาแจ้ง ว่า เขาได้นำ� แนวความคิดและการ์ตนู ชาดกเรือ่ ง “จิง้ จอกเร้น กาย” ไปน�ำเสนอกับส�ำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ซึ่งทางส�ำนักพิมพ์ สนใจที่จะท�ำหนังสือการ์ตูนชาดกตามแนวความคิดของฉัน แต่ทางส�ำนักพิมพ์ตอ้ งการผลิตออกมาเป็นหนังสือสองภาษา อิทธิวฏั ก์จงึ ขอให้ฉนั ช่วยหาทีมแปลเนือ้ หาของการ์ตนู เรือ่ งนี้ เป็นภาษาอังกฤษแล้วส่งกลับไป เพื่อจะได้น�ำไปจัดลงในช่อง การ์ตูนแล้วเสนอต่อที่ประชุม...ฉันยิ้มกว้างแล้วตอบตกลง

306 | จิ้งจอกเร้นกาย


สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งออกหากินอยู่ริมฝั่งแม่น�้ำใกล้ชายป่า มันเดินเลียบแม่น�้ำไปพบซากช้างเชือกหนึ่ง สุนัขจิ้งจอกคิด ว่าลาภชิ้นใหญ่ลอยมาถึงเราแล้ว มันตรงเข้าไปกัดที่งวงช้าง แต่รู้สึกราวกับว่าก�ำลังกัดงอนไถ มันคิดว่าตรงนี้ไม่ควรกิน จึงย้ายไปกัดที่งา มันรู้สึกราวกับว่าก�ำลังกัดเสา กัดที่หู รู้สึกราวกับว่าก�ำลังกัดขอบกระด้ง กัดที่ท้องรู้สึกราวกับว่า ก�ำลังกัดยุง้ ข้าว กัดทีเ่ ท้ารูส้ กึ ราวกับว่าก�ำลังกัดครก กัดทีห่ าง รู้สึกราวกับว่าก�ำลังกัดสาก มันคิดว่าไม่มีอวัยวะใดน่ากินเลย มันเดินวนรอบซากช้างแล้วสังเกตเห็นทวารหนักมีลักษณะ อ่อนนุ่ม จึงเข้าไปกัดที่นั่น ครั้งนี้มันรู้สึกราวกับว่าก�ำลังกิน ขนม สุนัขจิ้งจอกกัดกินทวารหนักจนเป็นช่องขนาดใหญ่ แล้วเข้าไปในท้องช้าง มันเคี้ยวกินตับไตล�ำไส้และหัวใจอย่าง เอร็ดอร่อย เมือ่ กระหายน�ำ้ มันก็เลียกินเลือด เมือ่ ง่วงมันก็เอา พื้นท้องเป็นที่นอน แล้วมันก็คิดว่าซากช้างนี้เป็นเหมือนบ้าน ของเรา มีอาหารให้กนิ อย่างเหลือเฟือ มีทนี่ งั่ ทีน่ อนแสนสบาย เราไม่จำ� เป็นต้องไปทีไ่ หนอีก คิดดังนีแ้ ล้วสุนขั จิง้ จอกก็อาศัย จิ้งจอกเร้นกาย | 307


อยู่ในท้องช้างตั้งแต่นั้นมา หลายวันผ่านไป เมื่อซากช้างถูกลมพัดและแดดแผดเผา ก็หดตัว ช่องทวารหนักทีส่ นุ ขั จิง้ จอกใช้เป็นทางผ่านเข้าไปใน ซากช้างก็ปดิ สนิท ภายในท้องช้างมืดมิดและอึดอัด สุนขั จิง้ จอก รู้สึกราวกับว่าตนก�ำลังอยู่ในขุมนรก เมื่อซากช้างเหี่ยวแห้ง เนื้อและอวัยวะน้อยใหญ่ก็พลอยแห้งเหี่ยวไปด้วย อีกทั้ง เลือดก็เหือดหาย สุนัขจิ้งจอกได้รับความทุกข์ทรมานแสน สาหัสเพราะขาดทั้งอาหารและอากาศ มันกระเสือกกระสน ทุรนทุรายไปกัดทางโน้นทางนี้เพื่อหาทางออก ครัน้ ผ่านไปสามวันฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่ เมื่อซากช้างชุ่ม ด้วยน�้ำก็พองตัวขึ้น บัดนั้นช่องทวารหนักจึงแย้มเปิด สุนัข จิง้ จอกเห็นแสงทีเ่ ล็ดลอดผ่านช่องทวารหนักประหนึง่ ดวงดาว มันคิดว่าคราวนีเ้ รารอดตายแล้ว มันถอยหลังไปจนชนหัวช้าง แล้วรวบรวมก�ำลังทัง้ หมดพุง่ ตัวสูช่ อ่ งนัน้ ในทีส่ ดุ มันก็รอดออก 308 | จิ้งจอกเร้นกาย


มาได้อย่างทุลักทุเล แต่ด้วยความที่มันผอมโซ ขนของมันจึง ติดอยู่ที่ทวารหนักของซากช้าง สุนัขจิ้งจอกวิ่งไปครู่หนึ่งแล้ว หยุดดูร่างไร้ขนของตัวเองพลางร�ำพึงว่า “ทุกข์ของเราครั้งนี้ สิ่งอื่นมิได้มาท�ำให้เลย แต่เพราะความโลภเป็นตัวการ เราจะ ไม่ยอมอยูใ่ ต้อำ� นาจของความโลภอีกต่อไป ขึน้ ชือ่ ว่าซากช้าง แล้วล่ะก็ เราจะไม่ขอเข้าไปอีก”

จิ้งจอกเร้นกาย | 309




The Wolf in an Elephant’s Stomach. Story: Jataka Tales Words: Pesalo Bhikkhu Translated (Thai / English): Piyapon Vongprachanh Storyboard: Ittiwat Suriyamas

312 | จิ้งจอกเร้นกาย


One day, a wolf is out hunting. He found an elephants body by the river. He thought to himself “how lucky am I?”. He went to the body and bit at the trunk, it feels like a plough. “I shouldn’t eat it” He bit at the foot, it feels like mortar. He bit at the ear, it feels like the edge of a threshing basket. He bit at the stomach, it feels like a barn. He bit at the tail, it feels like a coarse. He bit at the tusk, it feels like a pole. Wherever he bites, it’s tasteless and hard. He looks at the elephants bottom and tried to bite it. It tastes so delicious, like a dessert. He finally found what part he should eat. He จิ้งจอกเร้นกาย | 313


kept biting at the elephant’s bottom until it went inside the elephant stomach. He ate the liver and heart. When he’s thirsty, he drank the blood. When he get tired, he slept inside the elephant’s stomach. Therefore, the wolf thought this is the most comfortable place to live. When he is hungry, he can eat as much as he wants. There is no reason to leave this place, so he stayed inside the elephant’s stomach. A few days later, the elephant’s body started to dry because of the wind and sun. The elephant’s bottom had been closed. It was very dark inside and hot like living in hell. When the body is dry, the flesh and blood were also dried. He couldn’t 314 | จิ้งจอกเร้นกาย


find the way out, that made him very scared, He looked all over for an exit. He was like a flour ball in a boiling pot. A few days later, it started to rain. The body absorbed water, it started to bloat until it became normal size. The elephants hole had opened like a shining star. The wolf saw the hole, he was sure he would be safe. He back himself to the elephant’s head and ran forward. He ran toward the hole. Because he was skiny, his hair got stuck around the hole.

จิ้งจอกเร้นกาย | 315


He ran for a little while and stopped. He found himself looking so pittiful. My suffering this time, nobody was involved. It was because of greed. I will not let that have power over me again. If it’s a dead body, I will not go near it.

316 | จิ้งจอกเร้นกาย



แท็บเล็ตผัดเผ็ด


หลังจากนมแตกพานได้ไม่นานฉันก็ใฝ่ฝันจะเป็นนักเขียน ต่อมาเมื่อบวชเป็นพระได้ ๓ พรรษา อายุ ๒๕ ปี ฉันก็ ได้ยินค�ำว่า “อินเทอร์เน็ต” เป็นครั้งแรก ไม่นานจากนั้น แท็บเล็ตผัดเผ็ด | 319


ผูเ้ ชีย่ วชาญด้านเทคโนโลยีชาวต่างประเทศก็ประกาศก้องโลก ว่า “อินเทอร์เน็ตจะท�ำให้หนังสือที่พิมพ์ด้วยกระดาษถึงกาล อวสาน” แรกได้ยินฉันถึงกับแน่นหน้าอกตกใจ เพราะตัวเอง ยังไม่มวี แี่ ว่วว่าจะคลอดหนังสือออกมาเลยสักเล่ม อีกทัง้ ฉันก็ ไม่รู้จักมักจี่กับอินเทอร์เน็ตเลยแม้แต่น้อยว่าเขาคือใคร แล้ว ฉันจะย่องไปข้องเกีย่ วกับเขาเพือ่ ปัน้ ฝันของตัวเองให้เป็นเนือ้ เป็นตัวได้โดยวิธีใด ขณะนั้นฉันมืดมนขนหัวลุกไปทุกทิศทาง เจ็ดปีตอ่ มาฉันจึงมีโอกาสฝึกจิม้ คียบ์ อร์ดเป็นครัง้ แรก ให้ รู้สึกอึดอัดขัดใจเพราะถ้อยค�ำมันพรั่งพรูอยู่ข้างใน แต่กลับ ไหลออกมาปรากฏบนหน้าจออย่างกะปริบกะปรอย แต่ฉัน ก็ยังคงบรรจงจิ้มบรรจงจุ่มเรียนรู้ถูกผิดทีละเล็กทีละน้อย จากนั้นไม่น่าจะนาน หนังสือที่เกิดจากการจิ้มจุ่มคีย์บอร์ดก็ คลอดออกมาตามล�ำดับ ตรุษจีนปี ๒๕๕๖ ทิดสึกใหม่กับศรีภรรยาร่วมกันถวาย 320 | แท็บเล็ตผัดเผ็ด


แท็บเล็ตเครื่องหนึ่งให้แก่ฉัน แรกได้มาฉันยังงงๆอยู่ว่าจะท�ำ อย่างไรกับมันดี ความรู้สึกหลังจากแกะกล่องประลองสัมผัส ประหนึ่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปหัดจิ้มคีย์บอร์ด ต่าง ก็แต่หนนี้นอกจากจะจิ้มๆจุ่มๆได้แล้ว ยังสามารถเขี่ย เขย่า ขยุ้ม ขยาย พลิก หงาย ตะแคงฯ Applications หมวดแรกๆ ทีฉ่ นั ดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในแท็บเล็ตเป็น Apps (แหม...เรียก ซะคุ้นเคยเชียวนะ) พจนานุกรมพูดได้ หนังสือภาพถ่ายและ การเดินทาง เพียงพลิกผ่านไม่กี่แผ่นฉันก็ตื่นตะลึง ในความ สดสะดุง้ สะเด็ดของสีทปี่ รากฏอยูต่ รงหน้า แม้จะน�ำภาพถ่าย สถานที่ท่องเที่ยวขนาดเดียวกันนี้ ไปตีพิมพ์ลงบนกระดาษ คุณภาพดีที่สุด ก็ไม่มีทางเทียบได้กับสิ่งที่ก�ำลังแสดงผลอยู่ บนจอเรตินา ฉับพลันฉันก็แจ้งแก่ใจว่า โลกของคนรักหนังสือ ได้เปลี่ยนโฉมหน้าไปตลอดกาล ย้อนกลับไปช่วงเข้าพรรษาปี ๒๕๕๕ ฉันรับหน้าที่ให้ ความรูด้ ้านพระวินยั และข้อวัตรปฏิบตั ิแก่พระภิกษุสามเณร แท็บเล็ตผัดเผ็ด | 321


จึงจ�ำเป็นต้องหอบต�ำราพระวินัยและหนังสืออ้างอิงอื่นๆ ซึ่ง ทั้งหนาและหนักใส่ลงตระกร้า หิ้วกลับไปกลับมาระหว่างกุฏิ กับพระอุโบสถตลอดทัง้ เดือน เมือ่ แท็บเล็ตเครือ่ งนีต้ กมาถึงมือ ฉันจึงเก็บไฟล์พีดีเอฟของต�ำรากว่า ๑๐ เล่มที่จ�ำเป็นต้องใช้ ในช่วงเข้าพรรษา รวมทั้งต�ำราทางพุทธศาสนาอื่นๆ ที่เด็ด ก็คือ App Payutto ซึ่งบรรจุหนังสือของพระเดชพระคุณ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) ทั้งภาษาไทยและภาษา อังกฤษไว้กว่า ๑๗๐ เล่ม! ฉันบรรจุขอ้ มูลเหล่านีล้ งในอุปกรณ์ ที่มีความสูง ๙.๕ นิ้ว / กว้าง ๗.๓๑ นิ้ว / หนา ๐.๓๗ นิ้ว / หนัก ๖๕๒ กรัม และใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ได้ ๑๐ ชั่วโมง หนังสือของคณะสหายธรรมหนุ่ม (Dhamma Design Club) ขบวนหนึง่ ทีช่ อื่ “บทกวีในทีอ่ นื่ ” มีขนาดเท่ากับหนังสือ ที่ผู้อ่านก�ำลังถืออยู่ในมือ อุดมไปด้วยภาพสีจ�ำนวน ๘๐ หน้า ฟอนท์และภาพถ่ายขาวด�ำจ�ำนวน ๒๖๔ หน้า แต่เดิมถูก ออกแบบไว้เพือ่ ตีพมิ พ์ลงบนกระดาษปอนด์ขนาด ๘๐ แกรม 322 | แท็บเล็ตผัดเผ็ด


เข้าเล่มโดยการเย็บกี่ผสมไสกาวเช่นเดียวกับเล่มนี้ แต่เมื่อ เห็นใบเสนอราคาส�ำหรับการจัดพิมพ์ขั้นต�่ำหนึ่งพันเล่ม เป็นตัวเลขเต้นเร่าจ�ำนวนหกหลัก ฉันก็ถึงกับชงักแล้วถอน หายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเปลี่ยนกระบวนท่าใหม่ ไปสู่การ บรรจุต้นฉบับทั้งหมดลงในเว็บไซต์ฟรีอีบุ๊คส์ ซึ่งเป็นที่รู้จัก ของคนรักหนังสือทัว่ โลก และผลก็ปรากฏออกมาว่ามันไปได้ (สี) สวยทีเดียว แม้ไม่อาจระบุลงไปชัดเจนว่า “สาส์นจากความเงียบ” จะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ชิ้นสุดท้ายของคณะสหายธรรมหนุ่ม แต่ วินาทีนกี้ พ็ อจะพูดได้วา่ เราก�ำลังให้ความสนใจกับการถ่ายทอด ธรรมะสู่โลกไซเบอร์ เพราะมันสอดคล้องกับยุคสมัยและเหตุ ปัจจัยที่เรามีอยู่ในมือ อีกทั้งยังพอจะอนุโลมได้ว่าเหมาะแก่ สมณสารูป หากใช้ถูกต้องตามกาลเทศะและเกื้อกูลแก่ชีวิต แต่ก็เช่นเดียวกับสรรพสิ่งที่มีอยู่ในโลก สื่อสิ่งพิมพ์และสื่อ ดิจิทัลต่างก็มีคุณสมบัติเด่นด้อยภายในตัวเอง จึงเป็นเหตุให้ แท็บเล็ตผัดเผ็ด | 323


มนุษย์ต้องใช้สติปัญญาเลือกเฟ้นระหว่าง “ได้น้อยเสียมาก” กับ “ได้มากเสียน้อย” นี่คือสิ่งที่โลกหยิบยื่นให้แก่เรา แต่ ถ้าใครปรารถนาความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ก็มีอยู่วิธีเดียวคือ ต้องหนีไปพระนิพพาน เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

324 | แท็บเล็ตผัดเผ็ด



326 |


| 327


เปสโลภิกขุ • เคยเป็นไอ้หนุ่มผมยาวที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ๒.๕ ปี • เคยใช้ชีวิตพระป่าในประเทศสหรัฐอเมริกา ๒ ปี • เคยตีพิมพ์หนังสือกับส�ำนักพิมพ์ ๔ เล่ม • เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงโลกหลายครั้ง

328 |


ผลงานตามล�ำดับ Dhamma Design Issue 1: Experimental (๒๕๕๐), บทกวีในที่ว่าง (๒๕๕๐), Dhamma Design Issue 2: Evolution (๒๕๕๑), แดนสนทนา (๒๕๕๑ / สนพ.หนึ่ง), เรื่องเป็นเรื่อง (๒๕๕๒), หนึ่งร้อย (๒๕๕๒), เรื่องของเรา (๒๕๕๒ / สนพ.หนึ่ง), เสียงฝนบนภูเขา (๒๕๕๒), Poems on the Road (๒๕๕๒), Pesalocation (๒๕๕๓), Dhammascapes (๒๕๕๓ / สนพ.พาบุญมา), Fearless Diary + Spring Talk (๒๕๕๔), To be Awake + Enchanted Hiking (๒๕๕๔), The Organic Experience (๒๕๕๕), จุดชมวิว + 38 วัน ฉัน ซิดนีย์ (๒๕๕๕), บทกวี ในที่อื่น (๒๕๕๖ / E-BOOK), อะไรเป็นอะไร (๒๕๕๖ / สนพ.โพสต์บุ๊คส์), อเมริกาประสาหนุ่ม และ สัตว์สั่งสอน (๒๕๕๖ / อยู่ในระหว่างด�ำเนินการผลิต)

| 329


Andrew Binkley is an American artist based

in Hawaii, who attended the Kansas City Art Institute. Later Binkley left school to live throughout China, which eventually led to his ordaining as a Buddhist monk in Thailand for several years. Since leaving monastic life, Binkley has devoted himself to the practice of art and exhibited internationally with The Kaohsiung Museum of Fine Arts (Taiwan), the Downtown Film Festival (Los Angeles), the Queens Museum of Art (New York), Shanghai Zendai Museum of Modern Art (China), and The Contemporary Museum, Honolulu. He has also exhibited sitespecific works in venues ranging from an ancient castle in England to a WWII air-raid shelter in Poland to the streets of Seattle. Binkley was the recipient of the 2009 Cynthia Eyre Award 330 |


nominated by Laura Hoptman, Senior Curator of the New Museum, New York and presented by Honolulu Academy of Arts as well as receiving the 2010 Best of Show award by Carol McCusker PhD, Curator of Photography at the Museum of Photographic Arts, San Diego. His artworks and written articles have been featured in publications such as Interior Design and ZOOM Magazine including its cover for the Sept/Oct 2009 edition. Binkley has presented lectures at Fudan University, Shanghai and The University of Hawaii at Manoa, and done collaborative video performances with renowned electronic musician, Christopher Willits. His works may be found within the collections of Shanghai Zendai MoMA and Hawaii State Foundation on Culture and the Arts. | 331


อนุโมทนาน่าดูชม วัดป่าบุญล้อม  อุบลราชธานี ที่พักสงฆ์ธรรมาราม  กรุงเทพฯ พระมหากีรติ  ธีรปัญโญ พระบรม  อติธมฺโม คุณสนธิ-คุณสุกัญญา  สุวรรณกูล คุณรัฐพล-คุณอรอุสา  สุวรรณกูล ด.ช.พุทธมนตร์-ด.ญ.พุทธิฌา  สุวรรณกูล คุณเวียง-คุณปิยพร  วงศ์พระจันทร์ ด.ญ.อลีนตา-ด.ญ.ฤๅชุตา  วงศ์พระจันทร์ คุณพุทธพร  สุวรรณกูล คุณนาธาน-ด.ช.บาลิน  นอร์ตัน คุณอุดมศักดิ์-คุณวารุมาศ  สุวรรณกูล คุณพุทธพงศ์-คุณภานุวัฒน์  สุวรรณกูล คุณเซี่ยมอี่  แซ่ตั้ง คุณเบญจพร  อ้วนเจริญกุล คุณกิตติพงค์-คุณศศิวรรณ  ทุมนัส 332 |


ด.ญ.สุมานัส-ด.ญ.ภูริชญา-ด.ญ.ณฏฐ  ทุมนัส ครอบครัวสุวรรณเบญจางค์ คุณอโณทัย  คลังแก้ว  และครอบครัว คุณลดาวัลย์-คุณดาริน  ตั้งทรงจิตรากุล คุณพูนเกียรติ-คุณณัฐหทัย-คุณกิตติพงษ์  วะระทรัพย์ คุณเพียงพร  พึ่งโพธิ์ และบุตรหลาน คุณวราพิทย์  ทองนพเนื้อ คุณแม่ลี่จิง-คุณนภาพร  โสวัฒนากูร คุณใจรัก  ศิริค�ำ คุณสุดธิดา สุทธิกุลพานิช คุณสุรีวรรณ รุมาคม คุณปวเรศ  อยู่ส�ำราญ และครอบครัว คุณฉัตมณีศ์  อินทรัตน์ และครอบครัว คุณอิทธิวัฏก์  สุริยมาตย์ คุณป้าบังอร และครอบครัว คุณอุ๊ และคุณแนต

| 333


วันหนึ่งผมดูวิดีโออยู่ที่องค์การนาซ่า ‘โธมัส อัลวา เอดิสัน’ พูดไว้ก่อนตายว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะไม่ผลิตอะไรให้พวกเราใช้เลย เพราะจิตใจของมนุษย์ยังไม่ดีพอ ที่จะอยู่กับเทคโนโลยีเหล่านี้ ดร.วรภัทร ภู่เจริญ จากนาซ่าสู่ป่าช้าเมืองไทย รายการเจาะใจ (๒๑-๐๑-๑๐)

334 |


| 335




*ผู้อ่านสูงวัย ควรได้รับ ค�าแนะน�า จากบุตรหลาน


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.