King_of_the_Ring

Page 1



1


สิงห์สังเวียน รวมเรื่องสั้นอันระทึก! เรื่อง  เปสโลภิกขุ ปก  นีโอจารวาท รูปเล่ม  Dhamma Design Club พิสูจน์อักษร  มานี มีตา คลิปอาร์ต  แรงบันดาลน่าน นักออกแบบกลุ่มเซียมไท้ ฟอนต์  SILPAKORN70NEW ไพโรจน์ ธีระประภา คอมพิวเตอร์กราฟิก ibeepdesign@gmail.com ผลิตเป็นธรรมทานครั้งแรก  ธันวาคม ๒๕๖๔ สงวนลิขสิทธิ์  2021 ©Dhamma Design Club อีบุ๊คส์ www.issuu.com/dhammavalley อีเมล์ dhammadesign@hotmail.com

2


สารบัญ

ยี สละของบรรพบ ส เ ม า รุ ุษไ ... คว

ทย

แด

ป้ายห้ามก่อเหตุ เพลินภาพยนตร์ สิงห์สังเวียน สัตว์ทดลอง วัตถุน�ำโชค เมนูของใคร

3

๗ ๑๕ ๒๑ ๓๗ ๔๓ ๕๑


ค�ำน�ำ กว่าสิบปี ท่ีฉนั ทดลองเผยแผ่ธรรมะผ่านบทกวี บทความ บท สนทนา บทสัมภาษณ์ บทบันทึก ภาพถ่ายภาพประกอบ นิยายภาพฯ กระทั่งวันหนึ่งรู ส้ กึ จ�ำเจกับวิธีการน�ำเสนอเหล่านี ้ แต่มีงานเขียน กระบวนหนึ่งซึง่ ฉันแสยงขนนั่นคือเรื่องสัน้ ค่าที่องค์ประกอบของ พี่ทา่ นช่างยุบยับชวนคันยุบยิบ อาทิโครงเรือ่ ง แก่นเรือ่ ง ฉาก ตัวละคร มุมมอง เหตุการณ์ ปมขัดแย้ง บทเจรจาฯ จบหักมุมดีไหมหรือควร ปิ ดท้ายแบบดราม่า แต่เอ๊ะ! ทิง้ ไว้เป็ นปริศนาก็ไม่เลว หากสมมติตนเองเป็ นศูนย์กลางของกาแล็กซีแอนโดรเมดาฉัน ขอรวบรัดสรุปว่า คุณลักษณะโด่เด่ของผูท้ ำ� งานสร้างสรรค์คือมัก “หาเรื่อง” มาท้าทายตัวเองอยูเ่ สมอ ในที่สดุ ฉันจึงทดลองถ่ายทอด ธรรมะผ่าน Fiction ซึง่ ท�ำให้ฉนั ได้เรียนรูว้ า่ แม้ไฟฝันจะลุกโชติชว่ ง พ่วงด้วยทุนทรัพย์ ครัน้ ลงมือท�ำสิ่งใหม่ๆ ผลลัพธ์ท่ีได้มกั ขาดๆ เกินๆ หากยังคลุกคลีอยู่ในวงการนัน้ และหมั่นฝึ กฝนต่อเนื่องยาวนาน อาการที่เรียกว่า “เก๋า” จึงจะบังเกิด ทว่าชีวิตเป็ นทรัพยากรที่มีอยู่ อย่างจ�ำกัด เรามีเวลาไม่มากพอส�ำหรับพิชิตหมื่นล้านความใฝ่ ฝัน จงหั่นให้เหลือน้อยที่สดุ ! จงลงทุนกับความฝันที่คมุ้ ค่าที่สดุ ! เปสโลภิกขุ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๔ วารินช�ำราบ อุบลราชธานี 4


งานศึกษาชิ้นหนึ่งระบุว่า... การอ่านนวนิยายเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ส�ำคัญส�ำหรับเยาวชน เพราะพลังของวรรณกรรมหรือบันเทิงคดี จะเพิ่มความเห็นอกเห็นใจชีวิตอื่นให้กับผู้อ่าน ที่มา: https://www.psychologicalscience.org/news/reading-fictionimproves-empathy-study-finds.html

5


ป้ายห้ามก่อเหตุ

6


“แม็ค! ตืน่ ได้แล้วลูก เดีย๋ วไม่ทนั ถวายอาหารหลวงพ่อ” ผูห้ ลุดจากภวังค์ตลบผ้าห่ม ยกแผ่นหลังจากที่นอนนุม่ นั่งห้อย ขาบนเตียง หยิบสมาร์ทโฟนแวววาวใกล้หมอน “ต๋อง! ทุม่ นึงเจอกันที่รา้ นเดิม” “ท�ำไมตื่นเช้าจังวะ” “กูกำ� ลังจะไปวัด” “อ�ำกูตงั้ แต่ไก่โห่เลยนะมึง” “เรือ่ งจริง เซ็งเป็ นบ้า ปาร์ตีท้ งั้ คืนแต่ตอ้ งตื่นเช้า” “กูก็กะตื่นเที่ยง แต่โดนพ่อปลุกให้มาช่วยล้างรถ” “น่าสนุก” “ของมึงสนุกกว่าเยอะ ไปนานไหมวะ” “กว่าจะออกจากวัดคงใกล้เที่ยง แล้วไปต่อบางแสน” “ฮะ ฮะ ฮ่า! อยูน่ านขนาดนัน้ ไฟท่วมตัวมึงแน่ ขนาดกูแค่เฉียดๆ ยังร้อนแทบบ้า” “มึงก็พดู เกินไป แต่คราวนีเ้ ลี่ยงไม่ได้จริงๆว่ะ” “ท�ำไมวะ” “แม่กจู า้ ง รุน่ ล่าสุดเลยนะมึง ชาร์จแบบไร้สาย สีโคตรสวย” “ไปดีมาดีนะเพื่อน” สะพานคอนกรีตทอดตัวสูท่ ิศตะวันออก วงกลมระอุเรืองแสง 7


ป้ายห้ามก่อเหตุ

สีแสดเจิดจ้าเหนือหมูอ่ าคารตะปุ่ มตะป�่ ำ ล้อยางบดถนนดังกึกกัก ราวหนึ่งชั่วโมงรถยนต์แล่นลงทางด่วนบูรพาวิถี เลีย้ วเข้าซอยลึก ระหว่างภูเขาเขียวชอุม่ ผ่านประตูเหล็กดัดรูปดอกบัว ศาลาทรงไทย ใต้ถนุ สูงขนาดยี่สบิ คูณสามสิบเมตรเด่นตระหง่าน ปั กษานานาพันธุ์ เจือ้ ยแจ้ว กระรอกปุกปุยสองตัวกระโดดจากกิ่งมะม่วงสูก่ า้ นไทร พ่อแม่ลกู บนเก้าอีย้ าวบิขนมปั งหว่านลงอ่างเก็บน�ำ้ ยินเสียงผลุบโผลง ดุก ช่อน สวาย เทโพ ผุดว่ายอย่างร่าเริง ญาติโยมเรือนร้อยปูเสื่อ ใต้ตน้ กันเกรา ช่อดอกกระจิรดิ เหลืองละออก�ำจายกลิ่นกรุน่ ผูใ้ ฝ่ ธรรมกว่าห้าสิบคนนั่งเต็มพืน้ ที่ชนั้ บนของตัวอาคาร หลังประกอบพิธี ถวายสังฆทาน ประธานสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนาราวสามสิบนาที จากนัน้ พระภิกษุสามเณรอวยชัยให้พรด้วยภาษาบาลี แล้วประคอง บาตรเดินลงบันไดไปรับภัตตาหาร รู ปแบบการขบฉันของสมณะแต่ละท้องถิ่นแตกต่างกัน คณะ สงฆ์ในวัดย่านตัวเมืองจะนั่งล้อมวงพิจารณาภัตรดารดาษบนโต๊ะ และฉันสองมือ้ คือเช้ากับเพล ส่วนบรรพชิต ณ อารามแห่งนีต้ อ่ โต๊ะ หลายตัวตามแนวยาว แล้วน�ำอาหารที่ผ่านการรับประเคนไปจัด ระเบียบ เริม่ จากข้าวสุก ต้มผัดแกงทอด ขนม ปิ ดท้ายด้วยผลไม้ ท่านตักคาวหวานตามปริมาณที่ตอ้ งการด้วยตัวเองเรียกตามประสา โลกย์วา่ “บุฟเฟ่ ต”์ จากนัน้ ถือภาชนะกลับไปนั่งเรียงแถวหน้ากระดาน 8


ป้ายห้ามก่อเหตุ

บนเตียงมะค่าสูงจากพืน้ ห้าสิบเซนติเมตร โดยจัดต�ำแหน่งตามอายุ สมาชิกภาพเรียกว่า “พรรษา” แต่ละรูปมีบาตรเพียงหนึ่งใบตัง้ อยู่ เบือ้ งหน้า ขวดน�ำ้ กระโถนและของใช้อ่ืนวางอยูข่ า้ งตัว “วันนีห้ ลวงพ่อเทศน์จบั ใจมากเลยนะคุณ” มารดาเอ่ยยิม้ ๆ “ผมชอบที่ทา่ นยกอุปมาเรือ่ งกรรม...ตัวเราเปรียบเหมือนกวาง กรรมเหมือนสุนขั ล่าเนือ้ ถ้าสุนขั ไล่ทนั กวางก็ถกู ตะครุบ” หนุม่ กรุงเทพฯ เบ้ปาก หันไปทางอาสน์สงฆ์ ตาวาววูบ ยกโทรศัพท์ ขึน้ ตรงหน้า แตะที่จอเบาๆ ย้ายมุมกล้องไปยังป้ายผนึกบนผนังฝั่ง ขวาของศาลา พยัญชนะไทยสีขาวสะอ้านบนกระดานสีนำ้� ตาลเข้ม เขียนว่า “ห้ามถ่ายรูป! ขณะพระฉันภัตตาหาร” เครือ่ งปรับอากาศฝังเพดานครางฟู่ ไอเย็นแผ่ซา่ น ฝ้าขาวเกาะ เหนือกระจกใสสูงสองเมตรกรุ ตลอดแนวก�ำแพงปูนเปลือยยาว ห้าเมตร ไฟสีนวลส่องสว่าง ล�ำโพงกังวานเพลง H.M. Blues พนักงานบริษัทสามสี่คนหัวเราะครืน้ เครงอยู่หน้าเคาน์เตอร์ วัย คะนองสองหน่อทอดหุย่ บนเก้าอีบ้ นุ วมติดผนัง คาราเมลแฟรบปูชิโน่ บนโต๊ะพร่องไปค่อนแก้ว “กล้องหลังสามตัว เลนไวด์ซูมแบบออปติคอลห้าเท่า มึงดู หลวงพี่รูปนีส้ ”ิ แม็คระเบิดเสียงหัวเราะ “ฮะ ฮะ ฮ่า! เคีย้ วตุย้ ๆ ท่าทางน่าอร่อย เอาลงเฟซบุ๊คคงได้ 9


ป้ายห้ามก่อเหตุ

หลายร้อยไลค์” เขาเอือ้ มมือรับวัตถุทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ามาพิเคราะห์ อึดใจเดียวดวงตาของเขาเบิกโพลง ขนตัง้ ชัน มือสั่นระริก “มะ-มึง ถ่ายติดผี!” “ไหนดูซิ! ” เจ้า ของฉกมัน กลับ ไป ภายในกรอบกระจก เส้นทะแยงมุมหกจุดหนึ่งนิว้ แสดงภาพสาวน้อยหน้าเรียว ทรงผม สัน้ เต่อ ผิวเผือดซีด อายุราวสิบหกปี ก้มหน้าอยูข่ า้ งป้ายประกาศ ห้ามถ่ายรูป ร่างผ่ายผอมปรากฏเฉพาะศีรษะ ล�ำตัว แขน ต้นขา ตัง้ แต่หวั เข่าลงไปเป็ นเพียงเงาด�ำรางๆ “มึงอ�ำกูหรือเปล่าวะ” “ไม่ได้อำ� กูเพิ่งได้โทรศัพท์มาเมื่อวาน ยังไม่มีเวลาโหลดแอพ แต่งรูปเลย” ตะวันระเรือ่ เหนือกลุม่ สถาปั ตยกรรมทรงกล่อง พาหนะโดยสาร ส่วนบุคคลวิ่งฉิวบนสะพานสูเ่ สนาสนะกลางหุบเขา กิจกรรมทาง พระศาสนาในวันสุดสัปดาห์ดำ� เนินไปตามปรกติ หลังรับประทาน อาหาร เด็กหนุม่ ผุดลุกผุดนั่งอยูใ่ ต้ศาลา ครัน้ เห็นนักบวชทยอยอุม้ บาตรและบริขารเดินลงมาจึงปรีข่ นึ ้ ไปหาพระเถระ “วัดนีม้ ีผีหรือเปล่าครับ” ผูค้ รองจีวรนิ่งขึง หันไปทางป้ายที่อยู่ห่างราวสิบเมตร “ท�ำไม ถามอย่างนัน้ ” 10


ป้ายห้ามก่อเหตุ

“แค่อยากรูน้ ะ่ ครับ ที่น่ีเคยมีคนตายหรือเปล่า” “เดือนที่แล้ว...” น�ำ้ เสียงของสมภารปนสังเวช “ตอนนัน้ พระก�ำลัง ฉันข้าวกันอยู่ เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งเอาแต่ถ่ายรู ปแล้วหัวเราะคิกคัก เธอไม่ทนั ระวังเลยพลัดตกบันไดหัวกระแทกพืน้ ญาติโยมช่วยกัน น�ำส่งโรงพยาบาล แต่เธอเสียเลือดมาก หมอช่วยไว้ไม่ทนั ” “รูปร่างหน้าตาเป็ นยังไงครับ” “หน้าหมวยๆ ผมสัน้ ๆ” “ดะ-โดนแล้วกู!” เขาใจหล่นวูบ เหงื่อเย็นซึมออกมา ขบวนยานยนต์คบื คลานผ่านทิวมะพร้าวเรียงรายตลอดแนวถนน เก้าอีผ้ า้ ใบกระจัดกระจาย ลมทะเลโชยรสเกลือเจือกลิ่นปลาหมึก ย่าง ขอบฟ้าเปลี่ยนจากน�ำ้ เงินสดเป็ นสีแสดเจือชมพู ผูแ้ จ้งแก่เหตุ ลีล้ บั คว้าวัตถุแบนบางทาบแก้ม “ไอ้ตอ๋ ง! ทุม่ นึง ร้านเดิม” “วันนีท้ า่ จะสายหน่อย” “ท�ำไมวะ” “แม่กใู ช้ให้ลา้ งส้วม” “ด่วนเลยนะมึง กูมีเรือ่ งหลอนๆจะเล่าให้ฟัง” “เรือ่ งอะไรวะ” “มึงรีบมาละกัน กูอยากเห็นกับตาว่าได้ยินเรือ่ งนีแ้ ล้วมึงจะท�ำ หน้ายังไง” 11


ป้ายห้ามก่อเหตุ

ร้านกาแฟช่วงหัวค�่ำแน่นขนัดด้วยลูกค้า หนุ่มรุ น่ กระทงคาบ หลอดในปาก ดูดเครื่องดื่มเย็นลงล�ำคอ พินิจภาพถ่ายที่เพิ่งผ่าน การไขปริศนา กระเป๋ าติดล้อสีดำ� ขนาดย่อมซุกอยูข่ า้ งแปลงดอกเข็ม ใกล้แนวกระจกนอกตัวอาคาร ผูค้ นเดินผ่านไปราวกับมันเป็ นเพียง สุนขั ขนเกรียนนอนแอ้งแม้งอยูห่ น้าร้านสะดวกซือ้ ฉับพลันกัมปนาท กรีดค�ำราม เกิดแรงกระแทกอัดวูบอย่างรุนแรง พวกเขารูส้ กึ ราวถูก ฟ้าผ่า แยกสลายอวัยวะออกจากกัน เศษแก้ว หิน ปูน เหล็ก กิ่งไม้ ชิน้ ส่วนมนุษย์กระจายเกลื่อน สาบเนือ้ เกรียมไหม้ปะปนกลิ่นน�ำ้ มัน เบนซินอบอวลในอณูอากาศ ควันสีเทาพวยพุ่งจากเสาสูงทรงเหลี่ยมประดับลายปูนปั้ น เปลวเดือดเคีย้ วศพดังอือ้ อึงอยู่เบือ้ งล่าง สังขารเปลี่ยนเป็ นเศษ กระดูกขาวโพลนและเถ้าธุลีในเวลาไม่ทนั ข้ามคืน ญาติมิตรโกย ใส่ผอบน�ำไปประกอบศาสนพิธี ผูบ้ งั เกิดเกล้าของแม็คชักชวน คนใกล้ชิดเดินทางไปท�ำบุญอุทิศให้บตุ รชายยังวัดฝ่ ายอรัญวาสี ชานเมืองชลบุรี เพื่อนสนิทของผูว้ ายชนม์ปลีกตัวไปเดินเล่น ลมเย็นผะแผ่ว น�ำ้ พริว้ เป็ นระลอก เงาไม้รมิ ฝั่ งกะพริบไหว ป้าย กว้างหนึง่ ฟุต ยาวเจ็ดสิบเซนติเมตรแขวนติดต้นปี บตวัดตัวอักษรว่า “วัดมิใช่สถานที่พรอดรัก โปรดส�ำรวมกาย วาจา ใจ” รอยยิม้ วูบขึน้ 12


ป้ายห้ามก่อเหตุ

ที่มมุ ปาก เขาล้วงกระเป๋ ากางเกง ฉวยอุปกรณ์มาถ่ายรูป วาดนิว้ บนกรอบกระจกครึง่ นาที ไฟล์ดจิ ิทลั แพร่สสู่ งั คมออนไลน์ สองสาม อึดใจต๋องหยิบโทรศัพท์ขนึ ้ มา ตาของเขาเบิกกว้าง ลมหายใจชะงัก เลือดเย็นเฉียบ ภาพบนจอคือแผ่นป้าย ม้านั่งริมน�ำ้ เด็กสาวผมสัน้ ในอ้อมกอดของแม็ค *เรื่องนีไ้ ด้รบั แรงสังเวชใจจากเหตุวินาศกรรมบริเวณศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๘ นาฬิกา ๕๕ นาที

13


เพลินภาพยนตร์

14


ขาก...ถุย! ก้อนเขฬะม้วนตัวลงจากชัน้ ลอยทิ่มกบาลชายฉกรรจ์ เขาลุกพรวดทแยงนิว้ สี่สบิ ห้าองศาพร้อมตวาด ไอ้เด็กเวร! มึงหัดมี มารยาทซะบ้าง! ผูก้ ่อเหตุผลุบเข้าเงามืด การเสพความบันเทิงใน ต่างอ�ำเภอมักเจอเหตุการณ์เช่นนี ้ หนุม่ เหน้าสาวสวยที่นิยมความ ทันสมัยและไม่อยากข้องแวะกับบรรยากาศถ่อยเถื่อน จึงโดยสาร รถประจ�ำทางไปใช้บริการโรงมหรสพในตัวจังหวัด ซึ่งมีทงั้ เบาะ นุ่มนิ่มสบายก้นและความเย็นฉ�่ำจากเครื่องปรับอากาศ แต่ถา้ ใครอัตคัดและไม่รงั เกียจจริตบ้านนอก ต้องอดใจรอให้โปรแกรมที่ หมายตาลาโรงแล้วย้ายมาฉายที่น่ี ตะวันคล้อยบ่ายไล้แสงลงพุม่ ดอกกระถินณรงค์ เงาทอดยาว เรียงรายตลอดแนวรัว้ เหล็กดัด รถกระบะปุโรทั่งลากสังขารผ่านถนน ลาดยางหน้าโรงเรียน ภาพวาดบุรุษก�ำย�ำศีรษะโล้นสวมกางเกง ขายาวสีเหลืองในท่วงท่ากังฟูดดุ นั บนแผ่นไม้อดั กว้างสองเมตร สูง หนึ่งเมตรครึง่ ขนาบทัง้ สองด้าน สารถีบรรยายเรื่องย่อสลับดนตรี ดังสนั่น นักเรียนชายหญิงชัน้ ประถมศึกษาวิ่งมามุง ผมกับทโมน สองสามตัวจ�ำ้ ตามแล้วกระโจนขึน้ ห้อยโหน รถยนต์เลือ้ ยแซง ชายชราผมยาวหนวดเครารุงรังสีขาวแซมเทาบนอานจักรยาน “สนุก เข้าไป! เดี๋ยวได้ตายห่ากันหมด!” เขาแผดเสียง พวกเราแลบลิน้ ปลิน้ ตา ต่อให้ฟา้ ถล่ม ดินทลาย ไฟบรรลัยกัลป์ ผลาญโลก ก็ตอ้ ง 15


เพลินภาพยนตร์

ไปเรียนวิทยายุทธของวัดเส้าหลินให้จงได้ ผมแทบตะโกนออกมา ข้าวเหนียว ส้มต�ำ ไก่ยา่ งลงไปขลุกขลิกในกระเพาะของผมกับ เพื่อน เราช่วยกันล้างจานแล้วปั่ นสองล้อฝ่ าแดดหลังเที่ยงวันไปยัง อาคารไม้สองชัน้ ขนาดใหญ่ จูงพาหนะคูใ่ จไปจุดรับฝากด้านข้าง ซึง่ แน่นขนัด ผมซือ้ ผลไม้ดอง ไอ้เกลอแวะรถเข็นขายลูกชิน้ ปิ ้งกับ น�ำ้ อัดลม ครูห่ นึ่งจึงพบกันหน้าช่องจ�ำหน่ายตั๋ว ราคาที่น่ งั ชัน้ ล่าง ถูกกว่าชัน้ บนเกือบครึง่ แน่นนอนเราเลือกแบบประหยัด จากนัน้ ยื่น ตั๋วให้พนักงาน แหวกม่านสีแดงเข้มผืนหนาก้าวสูเ่ งามืด เพลงจีน ดังกระหึม่ ไฟเหลืองนวลส่องจอพลาสติกสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาวขนาด สิบห้าเมตรคูณยี่สบิ เจ็ดเมตร ขลิบขอบทุกด้านด้วยแถบน�ำ้ เงินยึด เต็มพืน้ ที่ฟากหนึ่งของโถง ร่างเล็กๆ กระโดดโลดเต้นเล่นเงาอยู่ หน้าเวที พัดลมเส้นผ่าศูนย์กลางหกสิบเซนติเมตรจ�ำนวนหกตัว ผนึกกับผนังครางหึง่ ล�ำแดดแยงมาตามรอยแตกของฝาไม้ไล่เรียง ตัง้ แต่พืน้ จรดเพดาน ผูค้ นทยอยจับจองที่น่ งั ประดิษฐ์จากกระดาน ชิน้ หนาเสริมพนักพิง แบ่งเป็ นช่องพอดีลำ� ตัวด้วยที่เท้าแขน ถ้าตั๋ว ขายหมดเกลีย้ งสถานบันเทิงแห่งนีส้ ามารถจุผชู้ มได้เกือบสามร้อย ประสาทตาปรับตัวเข้าหาความสลัว ผมกับคูห่ เู ดินไปสุขาชาย ซึ่งอยู่ดา้ นหลังที่น่ งั แถวบนสุดฝั่ งขวามือ ด้านในมีหอ้ งขนาดเล็ก 16


เพลินภาพยนตร์

สองห้อง ปิ ดบังความอุจาดด้วยประตูไม้คร�ำ่ คร่า โถส้วมสีขาวแบบ นั่งยองเจี๋ยมเจีย้ มอยูข่ า้ งภาชนะดินเผาเคลือบโทนสีนำ้� ตาล ประดับ ลวดลายมังกรสีเหลืองหม่นสูงระดับเอว น�ำ้ จากก๊อกไหลจ๊อกๆ ผมแค่ปวดเบาจึงย่องไปเขย่งอยู่หน้าโถปั สสาวะซึ่งมีอยู่สามอัน กลิ่นของเสียจากองคชาติระคนฉุนของลูกเหม็นท�ำให้ผใู้ ช้บริการ ต้องกลัน้ หายใจ “นั่งตรงไหนดีวะ” ผมกวาดสายตา “แถวหลังนี่แหละเห็นชัดดี” “โห! เอ็งจะทนกลิ่นเยี่ยวไหวเหรอ” “งัน้ ก็ไปช่วงกลางๆ โน่นไง ตรงนัน้ ว่างพอดี” สองก้นหย่อนลงบนเก้าอีก้ ระด้าง เคีย้ วของว่างหนุบหนับ เมื่อ เพลงสรรเสริญพระบารมีบรรเลง ทุกคนพร้อมใจยืนตัวตรง ฟิ ล์ม ตัวอย่างถูกน�ำมาฉายเรียกน�ำ้ ย่อย ยี่สิบนาทีถัดมาจึงถึงเวลา โลดแล่นในยุทธจักร ฉากภูเขา แม่นำ้� บ้านเมืองตระการตา ท่าหมัด มวยขึงขังจนผมเผลอชกลม เสียงเตะต่อยตวัดอาวุธประกอบดนตรี ท�ำให้ใจของผมเต้นโครมคราม ขณะใช้กำ� ลังภายในช่วยจอมยุทธ เสี่ยวลิม้ ยี่ได้เพียงครึง่ ชั่วโมง ผมรูส้ กึ ปวดบิดเหมือนถูกตะปบด้วย กงเล็บเหล็กที่พงุ กลมๆจนมันร้องโครกคราก “ปวดท้องว่ะ สงสัยธาตุไฟเข้าแทรก” ผมกระซิบคูซ่ ี ้ ใบหน้าเหยเก 17


เพลินภาพยนตร์

“มะม่วงดองล่ะสิ สมน�ำ้ หน้า อยากกินจุบกินจิบเหมือนผูห้ ญิง ดีนกั ” “ข้าต้องไปส้วมแล้วว่ะ” ผมเดินย่อตัวกระมิดกระเมีย้ นออกมานอกแถวที่น่ งั ประคอง สรีระไต่ระดับไปตามพืน้ ซีเมนต์ลาดเอียง หนูซุ่มซ่ามตัวหนึ่งพุ่ง ชนตาตุม่ ! ผมสะดุง้ โหยง! ของเหลวอุน่ ๆ กระฉอกจากทวารหนัก ฉิบหาย! ผมกัดฟั นขมิบหูรูดกระดืบไปข้างหน้า ระยะทางเพียงสิบ เมตรแต่หา่ งไกลราวหมื่นลี ้ ถึงจุดหมาย ดึงบานประตู เผ่นแผล็ว ขึน้ โถสุขภัณฑ์ ขณะถ่ายเทอาหารเก่าสูห่ ลุมเบือ้ งล่าง ผมคาดเดา เหตุการณ์ในท้องเรือ่ งด้วยความเสียดาย จูๆ่ ตวาดของตาแก่ลกึ ลับ กรีดก้องในโสตประสาท “สนุกเข้าไป! เดี๋ยวได้ตายห่ากันหมด!” ผมรูส้ กึ อบอ้าว เหงื่อท่วมใบหน้าและล�ำตัว อึดใจเดียวเสียงเอ็ดตะโร ดังขึน้ “ฟะ-ไฟไหม้!” ผมทะลึง่ พรวด สวมกางเกง ปลดกลอน ถีบ ประตู ถลันไปยังทางออก เปลวสีสม้ โหมมาขวางหน้า ไอร้อน เฉือนผิวหนังแทบพองเกรียม ผมเอีย้ วตัวกลับ ทะยานรวดเดียวถึง ปากโอ่ง อัดลมเข้าปอด ด�ำดิ่งสูอ่ ณูฉ่ำ� เย็น สายน�ำ้ จากรถดับเพลิงพุง่ เข้าหาเปลวคลั่งสีโลหิต ควันทะมึน บิดม้วนเหนือซากสิ่งปลูกสร้าง ท้องฟ้าแดงฉาน ถ่านเถ้าปลิวฟุ้ง 18


เพลินภาพยนตร์

ชาวบ้านหิว้ หอบสัมภาระจ้าละหวั่น ทว่าหลังอัคคีภยั ผมกลับ ไม่ทราบชะตากรรมของมิตรสหาย เพราะวันถัดมาหนังสือพิมพ์พาด หัวข่าวหน้าหนึ่งเพียงว่า...โรงหนังวอดสิบล้าน สังเวยเพลิงพิโรธ ห้าสิบแปดศพ สุดสลดเด็กหนีลงโอ่ง น�ำ้ เดือดดับอนาถ *โอ่งมรณะ - วัตถุพยานจากเหตุการณ์ไฟไหม้โรงภาพยนตร์จดั แสดงอยู่ท่ี ‘พิพธิ ภัณฑ์นติ เิ วชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน’ โรงพยาบาลศิรริ าช กรุงเทพมหานคร

19


สิงห์สังเวียน

20


“ผมสัญญาครับ” ฉันประนมมือหว่างอก น�ำ้ ตาซึม “หมั่นสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนทุกวันนะ” หลวงพ่อยิม้ เยือกเย็น “หนึง่ ... สอง... สาม... สี่... ห้า... หก...” กรรมการเสียงขึงขัง “สิงห์! ลุกขึน้ โว้ย!” เพื่อนตะเบ็งฝ่ าโห่รอ้ งของผูช้ ม ฉันถ่มเลือดเค็มปร่า ป่ ายเชือกลุกยืนโงนเงน แปลกชะมัด จูๆ่ บทสนทนาเมื่อครัง้ เป็ นสามเณรพรวดพราดมาตอนหน้าสิ่วหน้า ขวาน ไอ้หนุ่มอเมริกนั หมัดคมเอาเรื่อง บึกบึนขนาดนีน้ ่าจะหนัก กว่าฉันสักยี่สบิ กิโลกรัม ต้องท�ำใจ ที่น่ีไม่ใช่ราชด�ำเนินหรือลุมพินี ชกเวทีสนามหญ้าหลังบ้านในซานฟรานซิสโกก็ตอ้ งเป็ นแบบนี ้ ไม่มี การชั่งน�ำ้ หนัก ถ้าคูต่ อ่ สูเ้ ห็นดีเห็นงามก็ซดั กันเลย นวมไม่จำ� เป็ น แค่ผา้ พันมือก็เกินพอ ยังไม่หายมึน หมียกั ษ์คลุม้ คลั่งก็ถลันเข้ามา ก�ำปั้ นแหวกอากาศวูดวาด ฉันฉากหลบ จ้วงเตะขาเรียวสามทีซอ้ น ไม่ทนั ระวัง หมัดเหล็กขว้างมากระแทกปลายคางหนักหน่วง ใบหน้า ของฉันบิดหมุนเหมือนถูกฟาดด้วยไม้เบสบอล เส้นประสาทสั่นระริก สังขารสูญก�ำลังต้านแรงดึงดูดของโลก “หนึง่ ... สอง... สาม... สี่... ห้า... หก... เจ็ด...” “วันนีเ้ ป็ นอะไรวะ” มิตรสหายหน้าถอดสี “สงสัยเมื่อคืนดื่มเพลินไปหน่อย” ฉันชันกายขึน้ ตาพร่า “ลงเงินไปเยอะ ไหวหรือเปล่า” 21


สิงห์สงั เวียน

“เฮ้ย! สบาย...มือชัน้ นีแ้ ล้ว” ฉันอัดออกซิเจนเข้าปอด ปวดตุบๆ ขมสากในล�ำคอ เจ้าแยงกี ้ อายุอ่อนกว่าฉันราวสิบปี ปราดเปรียวกว่า ดุดนั กว่า แต่สิงห์ สังเวียนไม่ใช่บาร์บีคิวให้ใครเคีย้ วง่ายๆ ประเมินจากลีลาการออก อาวุธ หมอนี่นา่ จะใช้พนั ธุกรรมของแชมป์ เปี ้ยน *MMA แม้ชว่ งบน ของเขาอวบอัดด้วยมัดกล้าม แต่ช่วงล่างเหินห่างจากการหวด กระสอบทราย ขาทัง้ สองจึงเก้งก้างเหมือนตะเกียบ ดีเอ็นเอที่ฉนั ปรับแต่งให้ตวั เอง (เพื่อความประหยัด) มาจากยอดฝี มือชาวไทย ในต�ำนานที่นอ้ ยคนนักจะรูจ้ กั อย่าเพิ่งเบ้ปาก สิงโตทอง เกียรติบางแสน ขยันลงนวมซ้อมไม่เป็ นรองใคร ขณะวิเคราะห์คตู่ อ่ สู้ ไม้เบสบอลเหวี่ยง มาห้าหกครัง้ ติดๆ ฉันดีดตัวออกจากเส้นรอบวงมหาภัย ฟุตเวิรค์ ไป รอบๆ เรียกสติสมั ปชัญญะ สบช่องจึงกระหน�่ำเตะจุดอ่อน ศัพท์ใน วงการเรียกว่าเจาะยาง ได้ผล...ยางของเขาเป็ นรูพรุน กรรมการนับ ถึงแปด ผูเ้ พลี่ยงพล�ำ้ ฮึดฮัดลุกขึน้ ฉันไม่รอให้ตงั้ หลัก ปรีเ่ ข้าไปตวัด ________________________ *MMA - Mixed martial arts คือการน�ำศิลปะการต่อสูห้ ลายแขนงมาผสม ผสานเช่นมวยไทย มวยปล�ำ้ ยูโด คาราเต้ฯ ในแต่ละปี มีการจัดการแข่งขัน หลายรายการ

22


สิงห์สงั เวียน

ตีนขวา กระดูกล�ำแข้งคมแข็งสับลงก้านคอเต็มรัก ปรปั กษ์เอียงวูบ หัวทิ่ม นอนเหยียดยาวราวตุก๊ ตาหมียยู่ ่ี เสียงปรบมือเกรียว ฉันส่ายตูด ดุกดิก ฝูงชนฮาครืน รถโฟล์คแวนสีฟ้าตุ่นๆอมสนิมบรรทุกหกชีวิต ทะยานจาก ละแวกเบย์เอเรียมายังซานตาบาร์บาร่า เพื่อนของเราคนหนึ่งเปิ ด ร้านจ�ำหน่ายอุปกรณ์กีฬาอยู่ท่ีน่ี ยามว่างจากการสอนมวยไทย ฉันมักมาเล่นกระดานโต้คลื่นกับพรรคพวกที่เมืองชายทะเลแห่งนี ้ เงินพนันจากการสัประยุทธ์รวมกับดอลลาร์ท่ีสะสมไว้ เพียงพอ ส�ำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับประเทศไทยและปาร์ตีเ้ ล็กๆ เม็ดทรายคลายไออุ่น ลมพริว้ อ่อนๆ เปลวสีสม้ เบือ้ งหน้าไหวๆ เสียงไฟเคีย้ วฟื นคลอเคลียกังวานกีตาร์ลอยล่องด้วยท่วงท�ำนอง โหยหาอิสรภาพผ่านบทเพลง Redemtion Song ของราชันย์เรกเก้ นามบ๊อบ มาร์ลีย ์ “เธอจะกลับไปท�ำอะไรที่เมืองไทย” สาวผมบรอนซ์เงยหน้ามอง ท้องฟ้าดาดาว พ่นควันสีเทาบางๆ ฉันกางนิว้ คีบมวนยับย่นจากหล่อนมาทาบริมฝี ปาก จุดสีแดง สว่างวาบ กลิน่ หอมเขียวกรุน่ ก�ำจายคลุกเคล้าค�ำตอบ “บวชเป็ นพระ” “อะไรนะ!” “อธิบายยากส�ำหรับคนไม่มีศาสนาอย่างพวกนาย” 23


สิงห์สงั เวียน

“เส้าหลิน...ฝึ กกังฟู อะไรท�ำนองนีห้ รือเปล่า” “ฮะ ฮะ ฮ่า! นั่นมันหนังจีนก�ำลังภายใน” “ก็เคยเห็นแต่แบบนี”้ “นึกขึน้ มาได้...พระที่วดั แถวโกลเด้นเกตปาร์คเคยเล่าให้ฟัง คนขับรถของวัดแวะเติมน�ำ้ มันที่ป๊ ั ม ท่านลงไปเข้าห้องน�ำ้ ใน ซุปเปอร์มาร์เก็ต ตอนกลับออกมาแคชเชียร์ถามว่า...คุณเหาะได้ไหม” “ฮะ ฮะ ฮ่า! แล้วเหาะได้ไหม” “เป้าหมายของการบวชคือความพ้นทุกข์ ไม่ใช่เหาะเหินเดิน อากาศ” “ทุกข์อะไรนักหนา พวกเราอยูด่ ว้ ยกันที่น่ีก็มีความสุขดี” “บอกแล้วอธิบายยาก เคยไหม...นั่งอยูด่ ีๆ ความคิดเรื่องชีวิต ผุดขึน้ มาเอง” “เคยสิ” “แล้วท�ำไง” “ก็ทำ� อย่างที่เคย...เล่นเซิรฟ์ พีก้ ญ ั ชา ปาร์ตี ้ มีเซ็กส์” “เฮ้อ! งัน้ ก็ชา่ งมันเถอะ” “อ้าว! นี่เรือ่ งจริง” “ฉันรู.้ ..ฉันอยูก่ บั พวกนายมาร่วมสิบปี แล้ว” “งัน้ ก็อยู่ต่อสิ อเมริกาออกจะใหญ่โต เบื่อทะเลก็ไปภูเขา... อุทยานแห่งชาติโยเซมิตีเป็ นไง” 24


สิงห์สงั เวียน

“มันไม่ใช่อย่างนัน้ ฉันสัญญากับใครคนหนึง่ ไว้” “ใคร” “หลวงพ่อ เอ่อ...พระที่บวชมานาน ท่านอายุเยอะแล้ว” “สัญญาอะไร” “ฉันเป็ นเด็กก�ำพร้า ญาติเอาไปฝากไว้ท่ีวดั ให้บวชเณร ฉันอยาก เรียนรูโ้ ลกจึงสึกออกมา ฉันสัญญากับหลวงพ่อว่าถึงเวลาสมควร จะกลับไป” “นี่ถงึ เวลาแล้วรึ” “คิดว่างัน้ ” นักดนตรีทรงผมฟั่ นเป็ นเกลียวเชือกระเรี่ยสองไหล่ พรมนิว้ บรรเลงเพลง No Woman No Cry ตัวโน๊ตกะหนุงกะหนิงแต่เนือ้ ร้องหมองหม่น “เมื่อวานเธอสูไ้ ด้สนุกดี เล่นเอาฉันลุน้ แทบแย่” “คืนก่อนชกดื่มเกินเวลาไปนิด” “รูว้ า่ ต้องขึน้ เวที ท�ำไมไม่เข้านอนแต่หวั ค�่ำ” “ไม่รูเ้ ป็ นอะไร หลับๆตื่นๆ” “มีอะไรหรือเปล่า” “หลายอย่างปนเปกัน เศร้าใจที่ตอ้ งจากที่น่ี...แคลิฟอร์เนียเป็ น เหมือนบ้าน แต่ก็ต่ืนเต้นที่จะได้กลับเมืองไทย พอๆ กับกังวลว่าจะ 25


สิงห์สงั เวียน

ปรับตัวเข้ากับสังคมเดิมไม่ได้” “อาการแบบนีเ้ ขาเรียกว่า ‘รีเวิรส์ คัลเจอร์ ช็อค’ เคยได้ยินคน พูดกัน” “แต่อาจเป็ นผลข้างเคียงจาก ‘คริสเปอร์’ ก็ได้” “มีรายงานไหม” “มีอยูเ่ รือ่ ยๆ จ�ำพวกประสาทสัมผัสไวกว่าคนปรกติ ฝันถึงเรือ่ ง เดิมๆ ซ�ำ้ ๆ เห็นเหตุการณ์ลว่ งหน้าในช่วงเวลาสัน้ ๆ” “ก็ไม่ได้แย่น่ี” “ไม่แย่เท่าไร แต่ละเคสเป็ นอยูไ่ ม่นานก็หาย บริษัทจะอัพเดท ข้อมูลให้ลกู ค้าทางแอพ แต่คริสเปอร์ของฉันเป็ นแบบโฮมเมด” “เธอน่าจะไปตรวจสุขภาพ” “ช่างมันเถอะ หมดมวนนีอ้ าการพวกนัน้ ก็หายเป็ นปลิดทิง้ ” ฉันระบายไอขุน่ เป็ นทางยาว พาหนะเหล็กกล้าสีขาวเชิดหัวออกจากท่าอากาศยานนานาชาติ ซานฟรานซิสโก ฉันปิ ดหน้าต่าง ปรับพนักเก้าอีเ้ อียงๆ เสียบหูฟัง วาดนิว้ บนจอสี่เหลี่ยมผืนผ้าผืนน้อยเบือ้ งหน้า แต่จนแล้วจนรอด ยังหาหนังที่อยากดูไม่เจอ ฉันชอบหนังแอ๊คชั่นอิงประวัตศิ าสตร์ท่ีใช้ คนแสดงจริง–บางระจัน! ภาพยนตร์ซง่ึ เป็ นที่สดุ ของที่สดุ ในดวงใจ ชาวบ้านตาด�ำๆ ร่วมหัวจมท้ายปกป้องมาตุภมู ิจากผูร้ ุกราน โดยมี 26


สิงห์สงั เวียน

นักพรตจอมขมังเวทย์เป็ นที่พง่ึ ทางจิตวิญญาณ พวกเขาสละชีวิต เพื่อให้คนรุ น่ หลังอยู่สขุ สบาย พอกระหวัดถึงคมดาบเฉือนลึกถึง ชัน้ ไขมันจนเลือดแดงไหลโกรก ฉันยกมือลูบแผลเป็ นที่หางคิว้ และ โหนกแก้ม...มันเทียบชัน้ ไม่ได้เลย ฉันรับน�ำ้ เปล่าจากแอร์โฮสเตสมาดื่มแล้วเปลี่ยนไปช่อง สารคดีจนพบค�ำว่า The Age of Superhumans เรือ่ งราวเกี่ยวกับ ‘คริสเปอร์-แคส’ มันคือการน�ำความรูพ้ ืน้ ฐานด้านพันธุศาสตร์มา ประยุกต์ใช้ในการศึกษาและงานวิจยั ด้านพันธุวศิ วกรรม เพื่อปรับปรุง สารพันธุกรรมในสิ่งมีชีวิตที่มีความผิดปรกติหรือต้องการจะแก้ไข ค้นพบตัง้ แต่ปี ค.ศ. ๑๙๘๗ โดยการศึกษาล�ำดับดีเอ็นเอในเชือ้ แบคทีเรียที่สามารถเข้าจับอย่างจ�ำเพาะกับสารพันธุกรรมในไวรัส ที่อาศัยอยู่ในแบคทีเรีย เรียกล�ำดับดีเอ็นเอนีว้ า่ The Clustered Regilarly Interapaced Short Palindromic Repeat หรือ CRISPR ซึง่ ท�ำหน้าที่ในกระบวนการต้านเชือ้ ไวรัสในแบคทีเรียเรียกว่า Adaptive immune system ต่อมาในปี ค.ศ. ๒๐๐๕ มีการศึกษาเชือ้ แบคทีเรีย Streptococcus thermophilus ท�ำให้พบว่ามีโปรตีนชนิดหนึง่ ซึง่ มี ส่วนร่วมในการท�ำงานของ CRISPR จึงเรียกโปรตีนนีว้ า่ Cas ย่อ มาจาก CRISPR-associated system การค้นพบนีท้ ำ� ให้สามารถ พัฒนาเทคโนโลยีในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงล�ำดับนิวคลีโอไทด์ 27


สิงห์สงั เวียน

ที่เป็ นเป้าหมายได้ตามที่มนุษย์ตอ้ งการ นกเหล็กสยายปี กร่อนลงสนามบินสุวรรณภูมิ ฉันผ่านขัน้ ตอน ตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋ า แวะซือ้ แซนวิชแล้วลงไปชัน้ ล่างเพื่อ ขึน้ แท็กซี่ การใช้ชีวิตนานปี ในอเมริกาท�ำให้ฉนั แทบไม่รูจ้ กั ใครที่ เมืองไทย จึงไม่ตอ้ งรอให้ญาติมารับ รถวิ่งขึน้ ทางด่วนมอเตอร์เวย์ แล่นฉิวถึงชลบุรี ฉันบอกสารถีขบั ออกไปชานเมือง เลีย้ วเข้าถนน ลาดยางเลียบเลาะเชิงเขา สิบห้ากิโลเมตรถัดมาจึงพบป้ายวัดป่ า ขันติธรรม จ่ายค่าโดยสาร กระชับเป้บนหลัง ลากกระเป๋ าผ่านประตู เหล็กดัด ภิกษุสามเณรนับสิบถือบาตรทยอยเดินลงจากชัน้ บนของ ศาลาการเปรียญใต้ถนุ โล่ง ส่วนใหญ่อยูใ่ นวัยคะนอง มีเพียงสองหรือ สามรูปล่วงเข้าวัยกลางคน หนึ่งในนัน้ เสกสักอักขระสีเขียวมอซอ ทั่วสรีระผอมเกร็งจนแทบไม่เห็นผิวหนังเดิม ฉันย่องเข้าไปด้านล่าง กราบพระพุทธรูป บนโต๊ะหมูบ่ ชู า กลิ่นหอมเย็นจากพวงมาลัยมะลิ โชยมาจางๆ พับเพียบอยูค่ รูห่ นึง่ พระผูเ้ ฒ่าถือไม้เท้าเดินย่องแย่งมา นั่งบนเก้าอีห้ วาย ฉันกระโหย่งตัวกราบเบญจางคประดิษฐ์ “หลวงพ่อจ�ำผมได้ไหมครับ” ท่านขยับแว่น ยิม้ อ่อนโยน “เอ...ใครกัน” “สิงห์ครับ...อดีตสามเณรสิงห์” เสียงของฉันสั่นเครือ “อ้อ! สิงห์...อายุเท่าไหร่แล้ว” 28


สิงห์สงั เวียน

“สามสิบเจ็ดครับ” “หายไปนานมาก กินข้าวกินปลามาหรือยัง” “เรียบร้อยแล้วครับ ผมเพิ่งกลับจากอเมริกา ผมกลับมาท�ำตาม สัญญาครับ” “เดินทางมาไกล พักผ่อนให้สบายก่อน กุฏิใกล้โรงย้อมยังว่าง ไปพักที่น่ นั ก็แล้วกัน” ล�ำแดดสีทองเล็ดลอดกิ่งก้านโกร๋น ใบแห้งปรุดารดาษบนดินด�ำ จักจั่นกรีดก้อง จวนสองสัปดาห์ระบบประสาทจึงคุน้ ชินกับการขึน้ ลง ของดวงอาทิตย์ในซีกโลกตะวันออก เย็นย�่ำวันหนึง่ ฉันจึงไปคารวะ ประธานสงฆ์เพื่อยืนยันความตัง้ ใจ “ผมได้ใช้ชีวิตตามความใฝ่ ฝันแล้ว ผมมาขอบวชครับ” “อนุโมนาในกุศลเจตนา” “หลวงพ่อจะให้ผมบวชเมื่อไหร่ครับ” “สิงห์คงรูธ้ รรมเนียมปฏิบตั ิของที่น่ี” “ผมทราบดีครับ ผูป้ ระสงค์จะบวชต้องเป็ น ‘ปะขาว’ โกนหัว ถือศีลแปด ตื่นแต่เช้า ติดตามพระออก บิณฑบาต กลับมาท�ำกิจวัตร ปั ดกวาด ล้างกระโถน อุปัฏฐากครูบาอาจารย์ จนกว่าคณะสงฆ์ จะเห็นว่าพร้อม” “ดีแล้ว...หาต�ำรับต�ำรามาท่องค�ำขานนาคให้คล่อง” 29


สิงห์สงั เวียน

“ครับ” “ฝึ กตัดเย็บย้อมไตรจีวร เตรียมบาตร เตรียมบริขาร” “ผมยินดีปฏิบตั ติ ามทุกอย่างครับ” “พร้อมเมื่อไหร่คอ่ ยก�ำหนดวันท�ำพิธี แต่ผทู้ ่ีจะบอกว่า ‘พร้อม’ คือตัวของคนๆ นัน้ ” เหง่งหง่างเวลาสามนาฬิกาสนั่นไพร ฉันกุลีกจุ อลุกขึน้ ล้างหน้า กวัดแกว่งไฟฉายไปตามทางเดินเล็กๆ หริง่ หรีดเรไรหวีดระงม แก้วหู สะท้าน ลุถงึ พระอุโบสถ ก้มกราบพระพุทธปฏิมา สวดมนต์ นั่งสมาธิ ภาวนาร่วมกับเพื่อนพรหมจรรย์ ห้านาฬิกาย้ายมาศาลาเพื่อเตรียม สถานที่ทำ� ภัตกิจ แสงอรุ ณจับขอบฟ้า ผูค้ รองจีวรเดินเรียงแถว สะพายบาตรเข้าหมูบ่ า้ น เมื่ออาหารหวานคาวเต็มภาชนะ ฉันหยิบใส่ ถังสีเหลืองสองใบที่หวิ ้ มาด้วย วันหนึง่ รองเจ้าอาวาสหุน่ ท้วมเอ่ยถาม “ปะขาวเคยอยูท่ ่ีน่ีกบั หลวงพ่อตอนเป็ นสามเณรใช่ไหม” “ใช่ครับ” “แล้วไปเที่ยวที่ไหนมา” “ผมสึกตอนอายุสบิ แปด ไปอยูค่ า่ ยมวยที่บางแสน กินนอนที่ นั่นเลยครับ” “สนุกไหม” “สุดๆ เลยครับ โดยเฉพาะตอนไปสอนมวยที่อเมริกา” 30


สิงห์สงั เวียน

“ไปอเมริกาด้วยรึ” “ครับ ช่วงนัน้ คนก�ำลังเห่อปรับแต่งพันธุกรรม ผมก็เอากับเขาด้วย” “เคยได้ยินมาบ้าง แต่ไม่รูร้ ายละเอียด” “มันคือการเอาส่วนที่สร้างปั ญหาออก แล้วใส่ส่งิ ที่เป็ นประโยชน์ เข้าไป แต่ลงลึกถึงระดับยีน ไม่ใช่แค่อวัยวะใดอวัยวะหนึง่ ในร่างกาย ครับ” “อืม! คนยุคไหนก็เป็ นแบบนี”้ “ท�ำไมหรือครับ” “ให้ความส�ำคัญกับการปรับปรุงร่างกายมากกว่าจิตใจ” ส�ำนักกรรมฐานแห่งนีฉ้ นั ภัตตาหารเพียงหนึง่ ครัง้ ต่อวันในเวลา แปดนาฬิกา ตามธุดงควัตรที่สืบทอด มาแต่ครัง้ พุทธกาล จากนัน้ เหล่าผูแ้ สวงวิเวกจึงกลับไปที่พำ� นักซึง่ ปลูกห่างกันเป็ นเอกเทศใน ราวป่ า สิบห้านาฬิกาเป็ นเวลาท�ำความสะอาดห้องสุขาส่วนกลาง กวาดใบไม้รอบบริเวณ ฉันน�ำ้ ผลไม้หรือสมุนไพร ช�ำระร่างกาย รอสัญญาณระฆังเพื่อร่วมกันบ�ำเพ็ญเพียรรอบค�่ำ กิจวัตรหมุนเวียน ซ�ำ้ แล้วซ�ำ้ เล่าจนถึงวันอุปสมบท ฉันจึงได้รบั ฉายาว่าขันติโก (แปลว่า ผูม้ ีความอดทนอดกลัน้ ) จากพระอุปัชฌาย์ ราตรีวนั ธรรมสวนะพระมหาเถระเทศนาร่วมชั่วโมง กว่าบรรดา 31


สิงห์สงั เวียน

ผูบ้ ำ� เพ็ญตบะจะแยกย้ายกันเวลาก็ลว่ งไปค่อนคืน วงรัศมีสขี าวจาก อุปกรณ์ในมือส่องเป็ นล�ำยาว เขียดน้อยกระโดดดึ๋งตัดหน้า งูเลือ้ ย แล่นตามติด ฉันหยุดกึก เดินต่ออีกยี่สบิ เมตรจึงถึงจุดหมาย เปิ ด ก๊อกน�ำ้ ล้างเท้า เช็ดจนแห้งแล้วขึน้ อาศรม ปูเสื่อ จัดหมอน คลี่ผา้ ห่ม เอนกายลง ครูห่ นึง่ ได้ยินเสียงสวบสาบใกล้เข้ามาจึงเยี่ยมหน้าต่าง “ผมมีธรุ ะจะคุยด้วย” นักบวชห่มยันต์ยกึ ยือถือไฟฉายยืนจังก้า ฉันลงบันไดไปหา “มีอะไรหรือครับ” “ทราบมาว่าท่านเคยเป็ นครูมวยและดัดแปลงยีน” “ครับ แต่ผมวางมือแล้ว” “ผมมาขอดูเชิงมวย” “จะดีหรือครับ เราบวชเป็ นพระกันแล้ว” “เอาแค่พอให้รูว้ า่ วิชาอาคมจะสูว้ ิทยาศาสตร์ได้ไหม” “อย่าดีกว่าครับ หลวงพ่อรูเ้ ข้าจะโดนดุเอา” ฉันอมยิม้ อารมณ์ขนั ของพระรูปนีไ้ ม่ธรรมดา แม้สีหน้าของท่านจะเคร่งขรึม คิดอะไรอยู่ เพลินๆ จูๆ่ ก�ำปั้ นของผูม้ าเยือนฉกเข้าหน้าท้อง ว่องไวปานอสรพิษ ล�ำตัวของฉันงอหงิกเป็ นกุง้ เผา อะไวะ! เข่าคมแหลมพุง่ ทแยงหมาย ปลายคาง เฮ้ย! ฉันเบี่ยงตัวหลบ ถอยกรูด เอาจริงหรือนี่! อาคันตุกะ บุกทะลวง รัวหมัดซ้ายขวาสลับฟั นศอกหลายชุด ฉันยกท่อนแขน ปิ ดป้องใบหน้า ฉวยจังหวะสลัดตีนถีบยอดอกเสียงดังผัวะ ฝ่ ายรุก ผงะ ฉันเหวี่ยงขาซ้ายหลอก หมุนตัวสามร้อยหกสิบองศาสะบัด 32


สิงห์สงั เวียน

แข้งขวา ส้นเท้าหวดกกหูฉะฉาด ศัพท์วงในเรียกว่าจระเข้ฟาดหาง แขกยามวิกาลเซถลา อึดใจเดียวง้างหมัดกระโจนเข้ามา พอได้แล้ว! ฉันทะลึง่ พรวด หอบแฮก เหงื่อเม็ดเป้งสะพรั่งทั่วร่าง ป่ ายมือหา นาฬิกา หน้าปั ดเรืองแสงบอกเวลาเที่ยงคืน นกแก๊กสี่หา้ ตัวโฉบลงเกาะกิ่งไทรลูกแดงระย้า กระแสอากาศ เจือกลิ่นดินหมาดฝนผะแผ่วผ่านใต้ถุนสถาปั ตยกรรมทรงไทย วันกลางสัปดาห์ไม่มีญาติโยมมาถวายสังฆทาน ล้างบาตรเสร็จ สรรพฉันจึงถือโอกาสกราบสนทนากับผูท้ รงคุณธรรม “หลวงพ่อครับ ผมอยูท่ ่ีวดั มาเกือบปี แต่เหมือนไม่ได้อะไรเลย” “ใจเย็นๆ ของแบบนีร้ บี ร้อนไม่ได้” “เมื่อคืนผมยังฝันเห็นตัวเองต่อยมวยอยูเ่ ลยครับ” “ค่อยๆ ฝึ กไป ‘สมณสัญญา’ ไม่ได้เกิดขึน้ ง่ายๆ” “ผมอุตส่าห์ทงิ ้ ความสุขทางโลกมาบวช กลัวว่าจะเสียเวลาเปล่า” “พระศาสดาใช้เวลาตัง้ หกปี กว่าจะบรรลุพระโพธิญาณ ท่าน เป็ นครูบาอาจารย์ของเรา เราเป็ นลูกศิษย์ ของท่าน แต่จะเอาให้ เร็วกว่าท่าน มันจะไหวหรือ” ฉันคล้องบาตร สะพายย่าม เดินถอนหายใจเฮือกกลับเสนาสนะ นับจากวินาทีนนั้ กระทั่งหัวถึงหมอน เวลาผ่านไปเชื่องช้าราวกับ 33


สิงห์สงั เวียน

แหวกว่ายในมหาสมุทรไร้จุดสุดสิน้ ขณะลืมตาโพลงพลิกซ้าย ป่ ายขวาอยูบ่ นเสื่อ เสียงก้าวฉับๆ มาหยุดอยูข่ า้ งกุฏิ ใครกันมาเอา ป่ านนี ้ ฉันแยงกระบอกแสงจ้าผ่านกรอบหน้าต่าง สมณะท่าทาง กร้านโลกสักลายพร้อยทัง้ ตัวแหงนมอง ใบหน้านิ่งขึง รอยยิม้ ปรากฏ ที่มมุ ปากข้างหนึง่ ของฉันอย่างไม่มีป่ี มีขลุย่

34


35


สัตว์ทดลอง

36


ร่างรุ งรังขนสีนำ�้ ตาล หางยาว หายใจรวยรินอยูบ่ นโต๊ะโลหะ ล�ำตัวขนาดห้าสิบเซนติเมตร หนักหกกิโลกรัมสั่นระริกด้วยแรง สะเทือนระดับสองจุดเก้าริคเตอร์ “แผ่นดินไหวอีกแล้ว ชักรุนแรงขึน้ ทุกที” นักวิทยาศาสตร์ผอม เปรียวเปรย แววตาหวาดกังวล “ผมเพิ่งดูพยากรณ์ ช่วงนีจ้ ะเกิดถี่หน่อย” เพื่อนร่วมงานพุงพลุย้ กล่าวพลางก้มหน้างุดๆ ตรวจกายวิภาคของสัตว์เลือดอุน่ “บางทีพยากรณ์ก็คลาดเคลื่อน” “อย่าให้ถงึ หกริคเตอร์ก็แล้วกัน ไม่งนั้ พังพินาศกันหมด” “โลกวิปริตขึน้ ทุกวัน ไม่รูพ้ วกเราจะอยูก่ นั ได้อีกนานแค่ไหน” “คิดมาก...ธรรมชาติก็ตอ้ งมีการเปลี่ยนแปลงเป็ นธรรมดา” “ป่ าเขาล�ำเนาไพรไม่เหลือ อาคารบ้านเรือนต้องติดเครือ่ งฟอก อากาศ ฝนตกลงมาก็เป็ นพิษ คุณยังมีหน้ามาพูดว่าธรรมดาอีกหรือ” “มันก็เป็ นของมันอย่างนีแ้ หละ” “ท�ำเป็ นทองไม่รูร้ อ้ นไปได้ ที่สตั ว์พวกนีส้ ญ ู พันธุจ์ นเราต้อง เอามาโคลนนิ่ง ก็เพราะมนุษย์น่ีแหละที่ไปท�ำลายที่อยู่อาศัยของ พวกมัน นี่ถา้ ไม่ตอ้ งชดใช้กองทุนกูย้ ืมเพื่อการศึกษาของบริษัท ผมคงไม่มายืนอยูต่ รงนี ้ สงสัยจะคิดผิดที่มารับงานนี”้ “คิดผิดยังไง” “พระท่านว่า ‘การค้าขายสัตว์มีชีวิตเพื่อน�ำไปฆ่าเป็ นอาหาร’ 37


สัตว์ทดลอง

เป็ นมิจฉาอาชีวะ” “วิตกจริตไปได้ เราท�ำงานในห้องแล็บ ไม่ได้ไปค้าขายกับใคร” “แต่มนั อดคิดไม่ได้น่ี ยิ่งคิดยิ่งไม่สบายใจ” “ไม่สบายใจแล้วจะคิดท�ำไม คุณนี่ธมั มะธัมโมเกินเหตุ” “คงเป็ นนิสยั ติดตัวมาตัง้ แต่ตอนเป็ นพระ ผมบวชเรียนอยูห่ ลาย พรรษา” “คุณคงลืมไปแล้วว่าลิงพวกนีม้ าจากการโคลนนิ่ง ไม่ได้เกิดจาก การตัง้ ครรภ์ตามธรรมชาติ” “แต่มนั ก็มีปฏิสนธิวิญญาณ” “โอ้โห! นี่คณ ุ เล่นอ้างบาลีเลยเหรอ” “ก็มนั จริงนี่” “วิญญาณนี่หมายถึงผีหรือเปล่า ถ้าอย่างนัน้ ในห้องนีก้ ็มีผีลงิ เต็มเลยสิ ฮะ ฮะ ฮ่า!” “คุณนี่ม่วั วิญญาณในทางพระพุทธศาสนาหมายถึงตัวรู ้ สภาวะ ที่รูใ้ นสิ่งที่เห็นหรือได้ยิน ไม่ใช่ผีสางนางไม้ท่ีไหน” “อ้าว! งัน้ เหรอ” “วิญญาณก็คือจิตนี่แหละ หลังจากเซลล์ของพ่อกับแม่ผสมกัน จะเกิดปฏิสนธิ จึงถือว่าชีวิตก�ำเนิดขึน้ แล้ว” “แต่การโคลนนิ่งมันต่างกัน เราแค่เอาเนือ้ เยื่อของพ่อกับแม่มา ผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ไม่ได้ผสมพันธุโ์ ดยตรง” 38


สัตว์ทดลอง

“ถึงยังไงก็มีปฏิสนธิวิญญาณอยูด่ ี เพียงแต่เราระบุไม่ได้วา่ มัน เกิดขึน้ ในขัน้ ตอนไหน” “เอาไงก็เอา ผมขีเ้ กียจเถียงกับคุณแล้ว ว่าแต่คณ ุ เคยกินสมอง ลิงไหม ผมชักหิวขึน้ มาตงิดๆ” “อย่าว่าแต่กินเลย แค่คิดผมก็คลื่นไส้” “ผมเคยสองสามครัง้ ” “นี่คณ ุ พูดจริงรึ” “จริงสิ แพงเอาเรือ่ งเหมือนกัน” “รูว้ า่ แพงยังดิน้ รนไปกินอีก” “นานทีปีหนมีญาติผใู้ หญ่มาเยี่ยม ผมอยากให้เขาประทับใจ เลยพาไปกินของแปลก” “ได้ขา่ วว่าองค์กรต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์เคลื่อนไหวเรือ่ งนี ้ มานาน แต่หน่วยงานของรัฐเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เพราะมีผล ประโยชน์ทบั ซ้อน” “ช่างหัวองค์กรต่อต้าน พวกนัน้ ลืมแล้วหรือไงว่า มนุษย์เป็ นสิ่ง มีชีวิตที่มีสญ ั ชาตญาณในการแสวงหาอาหารเพื่อความอยูร่ อด” “ด้วยการกินสมองลิงนี่นะ! ‘ลิงเป็ นบรรพบุรุษของมนุษย์’ หวังว่าคุณคงจ�ำทฤษฎีวิวฒ ั นาการของชาร์ลส์ ดาร์วินได้ นี่ถา้ นักวิทยาศาสตร์ผทู้ รงอิทธิพลรูว้ า่ มนุษย์กินบรรพบุรุษของตัวเอง เป็ นอาหาร คงร้องไห้เป็ นวรรคเป็ นเวร” 39


สัตว์ทดลอง

“ช่างหัวชาร์ลส์ ดาร์วนิ ถึงยังไงร่างก็ตอ้ งบ�ำรุงด้วยร่าง สมองต้อง บ�ำรุงด้วยสมอง ผมนับถือเทพเจ้าวานรซุนหงอคง ผูท้ รงอิทธิฤทธิ์ มากกว่า” “คุณนี่วติ ถาร ท�ำไมต้องกินสมองลิง มีอย่างอื่นให้เลือกตัง้ เยอะ” “ใช่ ภัตตาคารนั่นมีให้เลือกเยอะจริงๆ ทัง้ สมองลิง หอยนางรม ปลาหมึก งู กบ กุง้ สดๆ ทัง้ นัน้ ตอนบ๋อยยกมาเสริฟพวกมันยังดิน้ กระแด่วๆ กันอยูเ่ ลย” “เวรกรรม” “แต่เด็ดสุดก็สมองลิงนี่แหละ ได้ลองสักครัง้ จะติดใจ” “ติดใจยังไง” “บ๋อยจะจับลิงเป็ นๆ สอดเข้าใต้โต๊ะที่มีรูกลมๆอยู่ตรงกลาง พอมันโผล่หน้าบ๊องแบ๊วขึน้ มาก็ลอ็ คคอด้วยคีมขนาดใหญ่” “คุณพระช่วย!” “เขาจะใช้ฆอ้ นจิ๋วทุบหัวเจ้าจ๋อ ถ้าคันไม้คนั มือเราจะทุบเองก็ได้ พอมันตายก็เอามีดกรีดหนังหัว งัดเปลือกกระโหลก ใช้สอ้ มจิม้ สมอง จุม่ ซอสรสเด็ด รับรองแซ่บลืมตาย” “อะ-โอ้ก!” คูส่ นทนาตะปบมือปิ ดปาก ถลันออกจากห้อง “ฮะ ฮะ ฮ่า!” บุรุษสวมเสือ้ คลุมสีขาวชูลงิ แสมขึน้ ระดับสายตา “น่ากินจริงๆ อีกหน่อยวิญญาณของแกก็ตอ้ งออกจากร่างไปห้อยโหน ร้องเจีย๊ กๆ กับเพื่อนผีลงิ สินะ” เขาฉีกยิม้ หิว้ สังขารป้อแป้เดินกลับ 40


สัตว์ทดลอง

ไปที่กรง พลันเสียงแหลมแผดกึกก้อง ประกายสีแดงจากกล่องทรง กระบอกขนาดหนึง่ ฟุตเหนือประตูควงแสงวูบวาบ ผนังคอนกรีตลั่น เปรีย้ ะ ชัน้ วางอุปกรณ์เอียงวูบ กล้องจุลทรรศน์และหลอดแก้วร่วง กราว สรีระอ้วนฉุหงายหลัง ท้ายทอยฟาดขอบโต๊ะ มือเหวี่ยงสัตว์ ทดลองปลิวคว้างจรดเพดาน แรงดึงดูดฉุดกระชาก สองกระโหลก กระแทกกัน ลิ่มเลือดทะลักออกมา เสียงโอดโอยผสานไซเรนกรีดระงม หมอ พยาบาล ทหาร ต�ำรวจ เจ้าหน้าที่หน่วยกูภ้ ยั กระวีกระวาด สังขารห่อผ้าด้ายดิบสีขาวชุ่ม โลหิตเกลื่อนสนามหญ้า กลิ่นคาวลอยคลุง้ ในอากาศ ชายหนุ่ม คุกเข่าลงข้างมิตรผูเ้ คราะห์รา้ ย ของเหลวสีแดงซึมแผ่ท่วั ผ้าพันแผล รอบศีรษะ ฮือๆ ครวญอยู่ในล�ำคอ “อะไรนะ คุณอยากได้อะไร” เขาเอียงหูเข้าหาริมฝี ปาก “อย่าท�ำเสียงอูอ้ ีแ้ บบนีส้ ิ เอ...หรือว่า จะหิวน�ำ้ งัน้ รอเดี๋ยว ผมจะไปเอามาให้” ผูป้ ราถนาดีผดุ ลุก เดิน สองสามก้าว “จะ-เจีย๊ ก! จะ-เจีย๊ ก!” หวีดเสียดโสตดังมาจากด้านหลัง เขาสะดุง้ วูบ หันขวับ ขนลุกซู่ ปลอบตัวเองว่าหูฝาดไป

41


วัตถุน�ำโชค

42


ลูกไฟสีเพลิงเส้นผ่าศูนย์กลางหนึง่ เมตรโฉบเฉวียนฉีกความมืด มาตามแนวสีส่ บิ ห้าองศา ปฐพีส่นั สะเทือนราวถูกโบยด้วยอสุนีบาต ต้นไม้ใหญ่นอ้ ยเหนือหลุมลึกสองเมตรล้มระเนระนาดกินรัศมีกว่า ยี่สบิ เมตร กลิน่ ฟื นสดเจือลมระอุวหู่ วิว ท้องฟ้าสว่างโร่ สะเก็ดปลิวว่อน สองเงาตะคุม่ ริมหนองน�ำ้ ตะลึงเพริด ฉวยฉมวกกับข้องใส่กบจ�ำ้ อ้าว เข้าหากลุม่ ควันสีขาวทึบ “ระวังนะโว้ย! ตูมตามขึน้ มาได้ตายห่ากันหมด” ชายฉกรรจ์โพก ผ้าขาวม้าหอบตัวโยน เทหวัตถุทรงกลมหวีดเสียงแหลมเปี๊ ยว มวลอากาศบีบอัดพุ่ง กระแทกนักส�ำรวจกระเด็นไปคนละทางทิศ ร่างล่อนจ้อนห้ารยางค์ ขนาดแมวโตเต็มวัยลอยคว้างเหนือยอดไม้แล้วดิ่งวูบลงแนบดิน ทัง้ สองไอโขลก ชันกาย ลุกยืนปั ดเศษผงตามเส้นผมและเสือ้ ผ้า ย่องไปมุงก้อนเนือ้ คลุกฝุ่ น “รุกขเทวดาหรือเปล่าวะ” “ตัวเล็กๆ แบบนีน้ า่ จะเป็ นมักกะลีผล” ใจของเขาเต้นตึกๆ “อะไรก็ชา่ งเถอะ เก็บไปก่อน เดี๋ยวคนแห่กนั มาจะไม่ได้อะไรติด ไม้ตดิ มือ” บุรุษกล้ามโตแกะผ้าโพกศีรษะช้อนสังขารกระจ้อยร่อย “เอาไปไหนดีวะ” “บ้านมึงนั่นแหละ” เขายื่นวัตถุในมือให้ผอู้ อ่ นอาวุโส 43


วัตถุนำ� โชค

“จะดีหรือ” “ดีสิ มึงตัวคนเดียว แถวบ้านมึงมันเปลี่ยวดีดว้ ย ให้เรือ่ งเงียบก่อน ค่อยคุยกันว่าจะเอายังไง” เจ้าโต้งโก่งคอขัน แสงมลังเมลืองจับขอบฟ้า รถจีป๊ ทหารสองคัน วิ่งน�ำรถบรรทุกคลุมผ้าใบสีเขียวขีม้ า้ ตามติดด้วยพาหนะสมบุก สมบันอีกสามคัน ขบวนยวดยานกระเด้งกระดอนบนถนนลูกรัง อาบน�ำ้ ค้าง พริบตาเดียวเลีย้ วหายในระหว่างทุง่ ข้าวสดเขียว ล่วง ไปหนึ่งเดือนผูก้ มุ ความลับจึงสบโอกาสนั่งหารือกันบนแคร่ใต้ถนุ เรือน เครื่องจักสานกองเรี่ยราย ด้านหลังกัน้ เป็ นห้องครัวด้วย ไม้ระแนง ตอกตะปูแขวนหม้อกระทะตะหลิว ถ้วยชามไหวางเกลื่อน พืน้ เส้นลวดโยงระหว่างเสาเรือนพาดเสือ้ กางเกงมอมแมม นอก ชายคาปรากฏลอมฟางและยุง้ ฉางสร้างด้วยแผ่นกระดานหยาบ “บ้านมึงนี่รกชิบหาย เผลอทิง้ ก้นบุหรีล่ งไปได้วอดวายกันหมด” หนุม่ ล�่ำสันส่ายหน้า พ่นควันโขมง “บ้านหนุม่ โสดก็แบบนีแ้ หละ” “อยูไ่ หนวะ เอาออกมาดูหน่อย” “ไม่ตอ้ งห่วง กูซอ่ นไว้ในไหตัง้ แต่วนั นัน้ ” เจ้าของบ้านเดินเข้า ครัว ครูห่ นึง่ ตระกองห่อผ้าออกมา “แปลกว่ะ! เนือ้ ตัวไม่เน่า” 44


วัตถุนำ� โชค

“เอาไงกันต่อดีวะ” “กูเคยเห็นในโทรทัศน์ ซากลูกวัวสองหัว จิง้ จกสองหาง คนแห่ ไปจุดธูปขอหวยกันเพียบ” “เข้าท่า! เราหาแผ่นทองมาปิ ดน่าจะขลังดี ตัง้ ตูร้ บั บริจาคด้วย” “แต่เพื่อความเป็ นสิรมิ งคล กูวา่ เราไปปรึกษาหลวงพ่อกันก่อน ดีกว่า” วงกลมสีหมากสุกเรืองรองคล้อยลงใกล้แปลงนา หรีดหริง่ เรไร เสียงขรม ลมเย็นโชยอ่อนๆ สองเกลอสะพายย่ามใบเขื่องมุง่ หน้า สูท่ ิศอุดร ราวห้ากิโลเมตรจึงผ่านซุม้ ประตูพระอาราม ภิกษุวยั ต้น หกสิบนั่งอยูบ่ นเก้าอีห้ วายเพียงล�ำพังบนศาลาการเปรียญ ผูม้ าเยือน ถอดรองเท้าที่เชิงบันได ก้าวขึน้ ไปก้มกราบพระมหาเถระ “หลวงพ่อสบายดีไหมครับ” “ก็ตามอัตภาพนั่นแหละ อายุปนู นีแ้ ล้ว” “พวกผมมีเรื่องจะปรึกษาครับ” เขาคลี่มว้ นผ้า เผยให้เห็น กายวิภาคแห้งกรัง “นี่มนั อะไร” “มักกะลีผลครับ” “แน่ใจรึ” “ครับ เราคิดกันว่าจะเอาไปปิ ดทองแล้วให้ชาวบ้านมาขอ 45


วัตถุนำ� โชค

โชคลาภ หลวงพ่อว่าดีไหมครับ” พระผูเ้ ฒ่ายิม้ ส่ายหน้าช้าๆ “อย่าเลย...มันจะท�ำให้คนงอมือ งอตีนหวังรวยทางลัด” “ชาวบ้านยังปากกัดตีนถีบอยูน่ ะครับหลวงพ่อ” “พระพุทธเจ้าให้ ‘คาถาเศรษฐี ’ ไว้แล้วนี่” “มีดว้ ยหรือครับ” “มีสิ ‘อุ อา กะ สะ’ ยังไงล่ะ” “ผมเพิ่งเคยได้ยิน” “อุฏฐานสัมปทา...ขยันหมั่นเพียรในอาชีพสุจริต อารักขสัมปทา... รูจ้ กั ปกปั กรักษาทรัพย์ท่ีหามาได้ กัลยาณมิตตตา...คบมิตรสหาย ดีงาม สมชีวิตา...เลีย้ งชีวิตสมควรแก่ฐานะของตน ท�ำได้ตามนี ้ รับรองเป็ นเศรษฐี กนั ทุกคน” “ท�ำสองอย่างควบกันก็ได้น่ีครับ คาถาเศรษฐี ดว้ ย เลขเด็ดด้วย” “เอาอย่างงัน้ เลยรึ” สมภารยิม้ เย็นๆ “การอ้อนวอนนอนคอย ไม่ใช่คำ� สอนของพระพุทธเจ้า” “ถ้าหลวงพ่อไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็ นไร พวกเราจะท�ำกันเอง” ธูป เทียน สายสิญจน์ ทองค�ำเปลววางอยู่เบือ้ งพระพักตร์ องค์พระพุทธชินสีห ์ สองสามมือเอือ้ มฉกแล้วสาวเท้าลงบันได รุง่ เช้า เหล่าผูด้ ือ้ รัน้ ใช้ดา้ ยดิบพันแขนขาสังขารลีบเล็กในกระด้ง ปิ ดทอง 46


วัตถุนำ� โชค

เหลืองอร่าม น�ำไปวางบนเตียงไม้ไผ่ จุดเครือ่ งบูชาควันโขมง ข่าว แพร่สะพัด ผูค้ นหลากวัยแห่แหนมามืดฟ้ามัวดิน เสียงอธิษฐาน อือ้ อึง ขอให้ถกู หวย หายเจ็บไข้ เจอเนือ้ คู่ ขอให้มีอำ� นาจล้นฟ้า ไหดินเผาสูงสี่สบิ เซนติเมตรแน่นขนัดด้วยเหรียญและธนบัตรตลอด ระยะเวลาสิบเดือน “วันนีป้ ิ ดเร็วหน่อยก็ดี” “ท�ำไมวะ ยังไม่มืดเลย” “เงินล้นไหแล้ว” “สงสัยต้องหาโอ่งมังกรมาเปลี่ยน” “ฮะ ฮะ ฮ่า! มึงนี่ฉลาด...ปิ ดบ้านแล้วไปฉลองที่รา้ นอาโกกัน” “กูเอามักกะลีผลไปเก็บข้างบนก่อน” “อย่าลืมใส่กญ ุ แจด้วยนะโว้ย! เดี๋ยวหมาคาบไปแดก” รถกระบะสีดำ� ทมิฬจอดนิ่งเยือ้ งร้านอาหาร บุรุษใบหน้ากร้าน โลกนั่งบนเก้าอีร้ ิมประตูเพียงล�ำพัง เขายกแก้วเทน�ำ้ สีอำ� พันลง ล�ำคอ ชายตามองสองเศรษฐี ใหม่ท่ีเพิ่งเดินผ่านหน้าไป จุดบุหรี่ อัด ควันเข้าปอด ระบายออกมา บทสนทนากับผูจ้ า้ งวานก้องอยูใ่ นรูหู “หวยออกแต่ละงวดกูแทบต้องขายบ้านเอาไปจ่ายพวกมัน” สรีระจ�ำ้ ม�่ำสวมเสือ้ ลายดอกแยกเขีย้ ว “เฮียจะให้ผมลงมือเมื่อไหร่” 47


วัตถุนำ� โชค

“ยิ่งเร็วยิ่งดี ขืนปล่อยไว้นานจะฉิบหายกันใหญ่ ปี นีเ้ มียกูย่ิงรับ เป็ นเจ้าภาพทอดกฐิ นอยูด่ ว้ ย” “ได้ครับเฮีย” “เอาใครไปด้วยไหม” “ไม่ตอ้ งหรอกเฮีย ผมชอบลุยเดี่ยว” “มึงต้องการเครื่องไม้เครื่องมืออะไรก็บอก เดี๋ยวกูส่ งั ลูกน้อง จัดการให้” “ไม่ตอ้ งอะไรมากหรอกเฮีย แค่เบนซินสองแกลลอนก็ราบเป็ น หน้ากลอง” *มักกะลีผลเกิดจากต้นไม้ในป่ าหิมพานต์ซง่ึ ออกผลเป็ นหญิงสาว เมื่อครบ เจ็ดวันจะเหี่ยวเฉา ปรากฏอยูใ่ นวรรณคดีไทยหลายเรือ่ ง **คาถาเศรษฐี มีช่ือเป็ นทางการว่า “ทิฏฐธัมมิกตั ถประโยชน์ - ประโยชน์ใน ปั จจุบนั ” ซึง่ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” สอดคล้องกับธรรมะหมวดนี ้ จึง สามารถน�ำไปปฏิบตั ไิ ด้จริง! ความพอเพียงมีสองประเภทคือ (๑) ความพอเพียง ด้านร่างกายซึง่ อาศัยอาหาร สถานที่พำ� นัก เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค (๒) ความพอเพียงด้านจิตใจ คนทั่วไปมีความต้องการด้านวัตถุไม่สดุ สิน้ แต่บคุ คล ที่ได้รบั การฝึ กฝนด้านจิตใจ สามารถด�ำเนินชีวิตอย่างเป็ นสุขโดยอาศัยสิ่ง เกือ้ หนุนเช่นปั จจัยสี่เพียงเล็กน้อย เนื่องจากท่านเหล่านัน้ มองทะลุว่ามี 48


วัตถุนำ� โชค อย่างอื่นที่ควรค่าแก่การเข้าถึงในชีวิตนี ้ ยิ่งกว่าการแสวงหาความสุขจาก การบ�ำรุงบ�ำเรอด้วยวัตถุ นอกจากนีผ้ มู้ ีความพอเพียงยังสามารถน�ำส่วนเกิน ไปแบ่งปั นผูอ้ ่ืนได้อีกด้วย

49


เมนูของใคร

50


“ไม่ฆา่ แล้วจะกินอะไร” ผูใ้ หญ่บา้ นตาขวาง อุบาสกอุบาสิกาผมสีดอกเลาสวมเสือ้ ขาวราวหกสิบคนนั่งส�ำรวม บนศาลาการเปรียญ ใกล้บนั ไดด้านทิศตะวันออก แซงแซวเกาะกิ่ง ชิงชันอาบรัศมีตะวัน “บางคนคงก�ำลังเถียงอาตมาว่าไม่ฆา่ ปูฆา่ ปลาแล้วจะกินอะไร ช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์เขาต้องกินมอเตอร์ไซค์ดว้ ยไหม เขาก็เอาเงิน ค่าจ้างนั่นแหละไปซือ้ อาหาร ไม่ตอ้ งท�ำปาณาติบาตเขาก็มีชีวิต อยู่ได้ เราต้องใช้สติปัญญาในการด�ำเนินชีวิตจึงจะได้ช่ือว่าเป็ น ชาวพุทธ เอาล่ะ! วันนีเ้ ห็นจะพอสมควร ตัง้ ใจกรวดน�ำ้ รับพร...” พระเถระลงจากธรรมาสน์ ยืนให้เลือดลมสูบฉี ดทั่วสังขาร จึงออกไปทางประตูดา้ นหลังเพื่อท�ำภัตกิจยังหอฉันท้ายศาลา คณะสงฆ์กราบพระพุทธปฏิมาแล้วเดินตาม ผูน้ ำ� ชุมชนช�ำเลือง กลุม่ นักบวชจนลับสายตา “สัตว์พวกนัน้ เกิดมาเป็ นอาหารของคน ปู่ ย่าตายายก็ทำ� มา แบบนี ้ เราโตเป็ นผูเ้ ป็ นคนมาได้ก็เพราะปาณาติบาตนี่แหละ” “ที่ผใู้ หญ่วา่ ก็มีสว่ นถูก แต่ท่ีหลวงพ่อเทศน์ก็สมเหตุสมผล” “หลวงพ่อเทศน์แบบนีบ้ อ่ ยๆ อีกหน่อยคงได้ฉนั แต่ขา้ วเปล่าๆ” “โอ๊ย! ท่านไม่สะดุง้ สะเทือนหรอก สมัยเป็ นพระหนุม่ ท่านธุดงค์ 51


เมนูของใคร

ไปตามชายแดน ฉันแต่ขา้ วเหนียวทุกวันชาวบ้านแถวนัน้ ไม่นิยม ท�ำกับข้าวใส่บาตร จนวันหนึ่งมีคนเดินตามท่านมาที่ปักกลด พระป่ าเทอาหารหวานคาวรวมกันในบาตรแล้วจึงฉัน เขาเพิ่ง เคยเห็น เลยไม่รูว้ า่ ในบาตรของท่านมีแต่ขา้ วเปล่าๆ” “แล้วหลวงพ่อท�ำยังไง” ผูเ้ ปิ ดประเด็นเลิกคิว้ “ท่านหงายฝาบาตรขึน้ เทน�ำ้ ลงไป ปั้ นข้าวเหนียวจิม้ น�ำ้ เปล่า แล้วจึงฉัน ชาวป่ าชาวดอยเห็นแบบนัน้ เลยถามว่า ‘แบบนีจ้ ะอร่อย หรือ มีกบั ข้าวด้วยได้ไหม’ ท่านตอบว่า ‘ถ้ามีก็ฉนั ได้’ นั่นแหละเขา จึงจัดอาหารมาถวาย แต่กว่าจะรู เ้ รื่องกันหลวงพ่อก็ฉนั ข้าวเปล่า นานแรมเดือน ถ้าเป็ นเราคงหอบบริขารหนีตงั้ แต่วนั แรก” “นั่นน่ะสิ ไม่รูจ้ ะทนอยูท่ ำ� ไม อดอยากปากแห้งขนาดนัน้ ” “หลวงพ่ออยูท่ ่ีน่นั นานเพราะภาวนาดีและอยากโปรดชาวบ้าน” “ถึงยังไงหมู เห็ด เป็ ด ไก่ กุง้ หอย ปู ปลาก็เกิดมาเป็ นอาหาร ของคน มันจะเป็ นอย่างนีต้ ลอดไป ไม่มีวนั เปลี่ยนแปลง ‘กมฺมนุ า วตฺตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็ นไปตามกรรม’ พวกเอ็งคงเคยได้ยิน” “โอ้โห! ผูใ้ หญ่ซดั บาลีเต็มๆ สมกับจบเปรียญธรรมสามประโยค” “คนได้รบั การศึกษาจะพูดอะไรต้องมีหลักมีเกณฑ์ ไม่ใช่เอาแต่ เทศน์ปาวๆ ผูร้ ูจ้ ะติเตียนเอาได้” “ถึงหลวงพ่อจะไม่ได้เรียนปริยตั มิ ากมาย แต่ทา่ นปฏิบตั เิ คร่งครัด ตามธรรมวินยั นะผูใ้ หญ่” 52


เมนูของใคร

“ข้าไม่เห็นว่าพระวัดนีจ้ ะท�ำประโยชน์อะไร วันๆ เอาแต่เดิน จงกรมนั่งสมาธิ มันต้องอ่านพระไตรปิ ฎกบาลีให้แตกฉานก่อนค่อย มาปฏิบตั ิ มันจึงจะได้ผล” “ไม่วา่ จะยังไงพวกเราก็ศรัทธาในวัตรปฏิบตั ขิ องหลวงพ่อ” “งัน้ ก็เชิญพวกเอ็งตามสบาย” “เพิ่งนึกขึน้ ได้ เรือ่ งรถไฟใต้ดินที่กรุงเทพไปถึงไหนแล้ว เขาว่า รัฐบาลพยายามจะปิ ดข่าว” “จะปิ ดได้ยงั ไง รถไฟหายไปทัง้ ขบวน ข้าก�ำลังจะไปประชุม อยูน่ ่ี บังเอิญตรงวันพระ แม่บา้ นเขาขอให้มาเป็ นเพื่อน” “ข้าเสียวไส้ยงั ไงไม่รู ้ อุโมงค์ก็อยูใ่ กล้แค่นี ้ คนหมูบ่ า้ นเรายิ่งใช้ รถไฟกันเป็ นประจ�ำอยูด่ ว้ ย” “อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ เท่าที่ขา้ รูม้ นั เกิดกับรถไฟใต้ดนิ ที่มีระบบ รางซับซ้อน บ้านนอกคอกนาอย่างเราเป็ นระบบรางคู”่ รางเหล็กดังกึงกัง หวูดหวีดค�ำราม พาหนะยาวเฟื ้ อยมองจาก สายตาเหยี่ยวราวปลาไหลอ้วนๆ เลือ้ ยแหวกผืนนาเหลืองละออโอบ ล้อมขุนเขาทะมึนเทียมเมฆ เสียงโลหะเบียดบดกันลั่นเอีย๊ ด ขบวน รถหยุดกึก ผูโ้ ดยสารกุลกี จุ อลุกจากเก้าอี ้ เอือ้ มมือหยิบสัมภาระบน ชัน้ วางของเหนือศีรษะ เดินเรียงแถวลงบันได ประชาสัมพันธ์จาก ล�ำโพงดังประสานค�ำทักทาย 53


เมนูของใคร

“สวัสดีครับลุงผูใ้ หญ่” “สวัสดี ไปไงมาไง” “ผมมาเยี่ยมแม่ครับ ลุงผูใ้ หญ่ละ่ ก�ำลังจะไปไหน” “ข้ามีประชุมในตัวจังหวัด เอ็งเรียนหนังสือไปถึงไหนแล้ว” “ผมเรียนอยูป่ ี ส่ี อีกเทอมเดียวก็จบแล้วครับ” “ดีแล้ว เรียนสูงๆ จะได้มาช่วยพัฒนาหมูบ่ า้ นของเราให้เจริญ” “ครับ ผมก็คดิ แบบลุงผูใ้ หญ่” “นี่ปิดเทอมแล้วรึ” “ยังครับ รัฐบาลสั่งให้รถไฟทั่วกรุงเทพหยุดวิ่ง มหา’ลัยก็เลยให้ นักศึกษาหยุดตาม” “หยุดวิ่งก็ดี เดี๋ยวหายไปอีกจะยุง่ กันใหญ่” “ล่าสุดหายไปสามแล้วครับ ตอนผมเรียนอยูป่ ี สาม ยุโรปก็หาย ไปสาม ตอนเรียนปี สอง ญี่ปนุ่ หายแค่สอง” “พับผ่าสิ! นี่มนั เกิดอะไรขึน้ ” “ผมเคยอ่านนิยายวิทยาศาสตร์...ชุมทางรถไฟใต้ดนิ ที่มีเส้นทาง ต่างระดับมารวมกัน จนเกิดเป็ นโครงข่ายซึ่งมีเอกลักษณ์แปลก ประหลาดเฉพาะตัวอย่างลึกซึง้ จะท�ำให้เกิดช่องว่างระหว่างมิต”ิ “พูดอะไรของเอ็ง ท�ำเอาข้าเวียนหัว” “นิยายน่ะครับ รถไฟหลุดเข้าไปในมิตอิ ่ืนสองสามเดือนแล้วกลับ ออกมา แต่ของจริงหายไปตัง้ หลายปี ยงั ไม่โผล่สกั ขบวน” 54


เมนูของใคร

ผูน้ ำ� ชุมชนพลิกข้อมือดูนาฬิกา “ข้าต้องไปขึน้ รถไฟแล้วล่ะ เอาไว้วนั หลังค่อยคุยกันใหม่” หัวรถจักรลากตูเ้ หล็กห้าโบกีอ้ อกจากชานชาลา โขยกเขย่าแหวก ทุง่ รวงทองลอดอุโมงค์ใต้ภผู า ครัน้ ถึงพิกดั กึ่งกลางพลันเกิดประกาย แปลบปลาบ กัมปนาทสนั่นแก้วหู กรวดหินกรูกราว กรีดร้องดังวูบ เดียวแล้ววิบหายไปในอณูอากาศเยียบเย็น “ขบวนรถยังมาไม่ถงึ เลยครับ” นายสถานีกำ� โทรศัพท์แน่น เหงื่อ ชุม่ หน้าผาก “นานหรือยัง” ผูบ้ งั คับบัญชาหูผง่ึ “ประมาณสิบห้านาทีครับ” “ติดต่อคนขับได้ไหม” “ผมโทร.เป็ นสิบครัง้ แล้วแต่ไม่มีใครรับสาย สถานีตน้ ทางยืนยัน ว่ารถไฟออกตรงเวลา ระหว่างทางก็ไม่มีอบุ ตั เิ หตุ” “หรือว่า...มันเกิดขึน้ อีกแล้ว!” ดาวฤกษ์มหึมาปลดปล่อยพลังงานมหาศาลแก่บริวารต่าง สัณฐานจ�ำนวนสิบหกดวง ระบบนิเวศบนดาวเคราะห์ลำ� ดับที่เจ็ด เอือ้ ต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรียเซลล์เดียว จึงเป็ นจุดก�ำเนิดของ สิง่ มีชีวติ ชนิดหนึง่ พวกเขาผ่านการล้มลุกคลุกคลานทางวิวฒ ั นาการ 55


เมนูของใคร

หลายล้านปี จนมีอารยธรรมและเทคโนโลยีสงู ส่ง กระทั่งสามารถ ทัศนาจรสูก่ าแล็กซีหา่ งไกลด้วยยนตรกรรมทรงเกือกม้าเทียบเท่า ยี่สบิ สนามฟุตบอล “ผมกับภรรยาเพิ่งเดินทางกับ ‘ยานส�ำราญ’ เป็ นครัง้ แรก” “ยินดีตอ้ นรับสูภ่ ตั ตาคารของเราครับ จุดนีว้ ิวสวยที่สดุ เชิญ นั่งครับ” ั ม้ ีเมนูอะไรน่าสนใจ” “วันนี “ผมขอแนะน�ำเมนูพิเศษที่กำ� ลังได้รบั ความนิยมสูงสุดเป็ น ประวัตกิ ารณ์...เนือ้ ตุน๋ อบซอสครับ” “พิเศษยังไง” “วัตถุดิบหลักที่ภตั ตาคารของเราคัดสรรมาอย่างพิถีพิถนั คือ เผ่าพันธ์ทุ ่ีเรียกตัวเองว่า ‘โฮโมเซเปี ยนส์’ สัตว์เลีย้ งลูกด้วยนมจาก ดาวเคราะห์สนี ำ้� เงินเปี่ ยมพลังชีวติ ที่อยูอ่ กี ฟากหนึง่ ของทางช้างเผือก ทราบกันดีในหมูน่ กั โภชนบ�ำบัดว่ามีสรรพคุณในการบ�ำรุงสุขภาพ และรสชาติยอดเยี่ยม” “คุณน�ำเสนอซะผมหิว จัดมาสองชุดก็แล้วกัน” “ด้วยความยินดีครับ” โดมแก้วครึง่ วงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางห้าร้อยเมตรโดดเด่นอยู่ ปี กขวาของอวกาศยาน เคลื่อนเนิบๆผ่านม่านอนธการประดับเมล็ด 56


เมนูของใคร

ระยิบระยับนับอสงไขย “วิวร้อยแปดสิบองศาน่าประทับใจจริงๆ วิศวกรออกแบบยาน ล�ำนีไ้ ด้นา่ ทึง่ มากเลยนะคุณ” “น่าสงสาร” “สงสารใคร? วิศวกร?” “เปล่าค่ะ สงสารโฮโมเซเปี ยนส์” “อย่าคิดมากเลยคุณ พวกนัน้ เกิดมาเป็ นอาหารของเราอยูแ่ ล้ว” “มันจะเป็ นอย่างนีต้ ลอดไปหรือคะ” “ใช่ มันจะเป็ นอย่างนีต้ ลอดไป ไม่มีวนั เปลี่ยนแปลง”

57


เปสโลภิกขุ เกิด วารินช�ำราบ อุบลราชธานี ปี ๒๕๑๖ เรียน คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่ไม่จบ บวช วัดหนองป่ าพง อุบลราชธานี ปี ๒๕๓๙ ปฏิบตั ศิ าสนกิจ สหรัฐอเมริกาและยุโรป รวมระยะเวลา ๕ ปี ผลงาน ๒๕๕๐-๒๕๕๙ ผลิตสื่อเป็ นธรรมทาน ๒๕ ชิน้ ทัง้ หนังสือเล่มและ อีบ๊คุ ส์ เผยแพร่ทางเว็บไซต์ www.issuu.com/dhammavalley นอกจากนีย้ งั ตีพิมพ์หนังสือธรรมะแนวใหม่กบั ส�ำนักพิมพ์จำ� นวน ๕ เล่มได้แก่ ๒๕๕๓ Dhammascape (พาบุญมา) ๒๕๕๖ อะไรเป็ นอะไร (โพสต์บ๊คุ ส์) ๒๕๕๗ เมื่อเกรียนไปเรียนธรรม (อมรินทร์ธรรมะ) สัตว์สอนธรรม (ฟี ลกูด้ ) อเมริกาประสาหนุม่ (โพสต์บ๊คุ ส์) ๒๕๕๙ - ๒๕๖๐ เขียนบทความและถ่ายภาพประกอบลงคอลัมน์ Stories from Abroad นิตยสารซีเคร็ต

58


รางวัลและอื่นๆ ๒๕๕๙ “เมื่อเกรียนไปเรียนธรรม” ได้รบั รางวัลหนังสือแนะน�ำ ประเภทวรรณกรรมส�ำหรับเยาวชน จากการประกวดเซเว่นบุ๊คส์ อวอร์ด ครัง้ ที่ ๑๓ ๒๕๖๐ “สาส์นจากความเงียบ” เป็ นหนึง่ ใน ๓๘ ผลงานที่ผา่ นเข้า รอบเข้มข้น (Short List) จากต้นฉบับ ๗๒๑ ชิน้ ในโครงการประกวด ต้นฉบับ Amarin Readers Choice Award ครัง้ ที่ ๑ ๒๕๖๑ “แม่ขอร้อง” ได้รบั รางวัลรองชนะเลิศ จากโครงการประกวด เรือ่ งสัน้ ส่งเสริมคุณธรรม รางวัลเบญจวาช ครัง้ ที่ ๑ โดยวัดราชผาติการาม วรวิหาร กรุงเทพมหานคร ๒๕๖๒ “ต๊กโตเจ้ากรรม” เรือ่ งสัน้ ที่ถกู น�ำไปดัดแปลงเป็ นภาพยนตร์ อนิเมชั่นเผยแพร่ทาง Youtube ๒๕๖๓ “เมล็ดครอบจักรวาล” เป็ นหนึง่ ใน ๓๕๓ ผลงานที่ผา่ นเข้า รอบคัดเลือก (Long List) จากต้นฉบับ ๒,๓๓๘ ชิน้ ในโครงการ ประกวดเรื่องสัน้ โดยหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และสมาคมนักเขียน แห่งประเทศไทย


กมฺมุนา  วตฺตี  โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

60


อนุโมทนา นักออกแบบกลุม่ เซียมไท้ ส�ำหรับฟอนต์ และคลิปอาร์ตเท่ๆ ไทยๆ

61


Designed by Dhamma Design Club in

62


UBON RATCHA THANI

63


64




Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.