ไม่เคยหมดสิน้ ความน่าค้นหาสำ�หรับนางแบบและนักแสดงเชือ้ สายไทย-ฝรัง่ เศส ฟลอเรนซ์ วนิดา เฟเวอร์ หนึ่งในหลักฐานที่ยืนยันว่าบางสิ่งในโลกเป็นศิลปะชั้นดีมา แต่เกิด ไม่ต้องเสกสรรปั้นแต่ง แค่สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ ก็สร้าง “แรงบันดาลใจ” ได้เป็นอย่างดี (คำ�เตือน: ขออภัยผู้อ่านที่ต้องคงศัพท์ภาษาอังกฤษไว้ในหลายจุดในครั้งนี้ DONT ไม่มีเจตนาอื่นใด นอกจากต้องการคงน้ำ�เสียงของผู้ถูกสัมภาษณ์คนสำ�คัญ ไว้ให้ได้อย่างครบถ้วน )
Speak of ‘The Devil’
จากสาวน้อยหน้าเก๋ไม่ซ้ำ�ใครในรายโทรทัศน์ขวัญใจวัยรุ่นในอดีตอย่าง ทีนทอล์ก หลังปีสองพันสาวฟลอเรนซ์ที่ไม่เคยทิ้งบุคลิกเงียบขรึมแต่ซ่อนความหวาน ในรอยยิ้มพลิกความคาดหมายของมหาชนที่เข้าขั้น ‘แอนตี้’ ที่จะให้สาวลูกครึ่งไทยฝรั่งเศส หน้าแปลกผิวเข้มที่มารับบทนำ� ‘มณีจันทร์’ ในหนังรักอิงประวัติศาสตร์ที่ สวยจับจิตอย่าง ‘ทวิภพ’ (หรือ The Siam Renaissance) ก่อนเธอจะลัดฟ้าไปสู่เวที การแสดงและโมเดลลิ่งในโลกกว้างของมหานครนิวยอร์ก ในปี 2006 เธอปรากฏตัว แบบเซอร์ไพรส์เราสุดๆ ในภาพยนตร์ The Devil Wears Prada ทั้งยังมีโอกาสลิ้มรส แฟชั่นวีคระดับโลก เรายังได้เห็นเธอในแคมเปญโฆษณาของอเมริกันแบรนด์อย่าง Banana Republic และอื่นๆ หลังจากการถ่ายแฟชัน่ เซ็ทปกเสร็จสิน้ ลง เราปล่อยให้ “ฟลอร์” ทีถ่ อนหายใจ น้อยๆ ได้พักเหนื่อยก่อนที่จะเริ่มต้นพูดคุย เธอเล่าว่าเวลาที่เริ่มงวดเข้ามาก่อนที่จะต้อง บินกลับอเมริกายังมีภารกิจยาวเป็นหางว่าวในเมืองไทยที่ต้องสะสาง “ขอหยิบน้ำ�ขวดหนึ่งได้ปะ เอาปะ” เธอถามขณะดีดตัวขึ้นจากโซฟาอย่าง คล่องแคล่วและกลับมาพร้อมยื่นน้ำ�ให้ผู้สัมภาษณ์หนึ่งขวดเมื่อกล่าวขอบคุณออกไป “ค่ะ” เธอตอบรับสั้นๆ ง่ายๆ เช่นนั้นพร้อมทิ้งตัวสวบลงบนโซฟาตามเดิม สาวสวย สวมเดรสสั้นแขนกุดยิ่งเผยร่างระหงที่สูงถึง 174 เซนติเมตร ผมประบ่าปาดข้าง คิว้ โก่งและดวงตาสีนำ้ �ตาลสวยประหลาดทีม่ แี ววเยือกเย็นอันเป็นเอกลักษณ์ ทัง้ องค์รวม และรายละเอียดทำ�ให้ไม่แปลกใจเลยที่เธอได้ไปโผล่ในหนังปอกเปลือกโลกแฟชั่น จากนิยาย Best Seller “เล่นเป็นหนึง่ ใน ‘super clackers’ ซึง่ ในนิยายคือผูห้ ญิงสวยๆ ทีเ่ ดินไปเดินมา ทำ�งานในออฟฟิศ Vogue เป็นเลขาหรืออะไรแนวๆ นี้ ทุกคนที่ทำ�งานในออฟฟิศโว้ก ต้องสวยดูดี ทำ�งานในวงการแฟชั่นทุกคนอยากเป็นนางแบบใช่ปะล่ะ” แน่นอนเธอพูด ถึงหนัง The Devil Wears Prada และแม้จะปรากฏกายแค่เสี้ยววินาทีช่วงเปิดเรื่องใน ฉากยามเช้าของมหานครนิวยอร์กอันวุ่นวายแต่น่าหลงใหล ย่อมเป็นเสี้ยววินาทีที่สาวๆ ทั่วโลกอยากไปยืนอยู่ตรงนั้น…แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่สาวผู้โชคดีคนนี้ “แหม แต่ไม่ได้พูดอะไร เลยนะ บทมันเล็กมากอะ” “เขาหาคนที่เป็นนางแบบและเป็นนักแสดงด้วยเพื่อที่จะมาเล่นอะไรเล็กๆ น้อยๆ ใน หนัง แล้วไปเห็นหนังของฟลอเรนซ์ที่กำ�ลังฉายที่อเมริกาเรื่อง Elephant King เขาชอบมากและเห็นว่าเราเป็นนางแบบด้วยเลยเอามาแคสต์ แต่ตอนที่ติดต่อเขาไม่เคลียร์ กับเราว่าให้เล่นบทอะไรไง แล้วต้องไปนั่งรอกับคนเป็นร้อยๆ มีอีกฉากในลิฟต์ซึ่งไม่เห็น ด้วยซ้ำ�แต่ไปรอทั้งวัน...ทั้งวัน!”
50
DONT
แสดงว่าถึงแม้จะจริงจังในสายนางแบบ ฟลอเรนซ์ก็มีศักดิ์ศรีของความเป็นนักแสดง อยู่เต็มตัว? “ไม่ใช่นะ แต่เราเล่นบทที่มี speaking part แล้วอะ ถึงจะไม่ได้เล่นหนังเยอะ ขนาดนั้น แต่เป็นนางเอกแล้ว แล้วเราให้เราไปเล่นเป็นแบบ…ตัวนี้อะเหรอ ฟลอเรนซ์ ไม่บอกเพือ่ นคนไหนเลยนะว่าไปเล่นมา ไม่เลย แต่ปรากฏว่าคนประทับใจ ชอบกันหมดเลย อ้าว เพื่อนไปเห็นในโรงหนัง ‘เฮ้ย นั่นฟลอร์นี่!’ ตัวฟลอเรนซ์เองหนังออกไปได้สามปี ถึงจะได้ดู แล้วก็ไม่ได้คิดว่ามันมีอะไรมาก ไม่ได้มองว่าเป็นงานแสดงของเราเลย แค่เผอิญมันเป็นหนังใหญ่” ที่ผ่านมางานแสดงชิ้นไหนที่ฟลอเรนซ์ภูมิใจบ้าง “ The Elephant King กับ ทวิภพ ค่ะ” ตอบอย่างไม่ต้องคิด “เรามีส่วนอินพุท ของเรา ส่วนใน Elephant King จะมีการ discuss ด้วยกัน โยนกันไปงานเป็นอาร์ต ร่วมกันของคนที่ได้ทำ�งานด้วยกัน อย่างช่วงรันทรูก่อนแสดงจริงเขาจะดูว่าเรามีอะไร ให้เขาบ้างและเขาก็จะแบบ…โอเคตรงนีอ้ กี นิด มีการปรุงรส ‘ทวิภพ’ ก็เป็นงานทีส่ ำ�คัญมาก รักมาก มันสวยมาก” “จะบอกว่าเมืองไทยทำ�งานต่างจากเมืองนอกคงไม่ใช่ แล้วแต่วิธีการทำ�งานของ แต่ละคน” เมื่อเธอเอ่ยถึงภาพยนตร์สองเรื่องจากสองฝั่งโลก เราจึงขอให้เธอแชร์ ประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะว่าหนังอย่าง ทวิภพ หรือ Siam Renaissance เธอได้ทำ�งานกับผู้กำ�กับที่มีความละเมียดละไมหาตัวจับยากอย่าง สุรพงษ์ พินิจค้า แต่แน่นอนเมื่อนำ�นวนิยายคลาสสิกขึ้นแท่นมารีเมกย่อมกลายเป็นประเด็นร้อน “ได้ข่าวนะว่าแอนตี้กันเยอะ เพราะอาจจะเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ไม่สวยเลย ดำ�ก็ดำ� ไม่เหมือน สิเรียม (ซึ่งเคยแสดงในเวอร์ชั่นละคร) เลย อีกอย่างคือเป็นฝรั่งพูดไทยไม่ชัด เอาใคร มาเล่นไม่รู้ คนเลยไม่ชอบ แต่พอคนดูกันแล้วทุกวันนี้ยังมีคนมาชมเยอะมาก เดินอยู่ ข้างถนนยังมีคนเข้ามาทัก ‘พี่ฟลอเรนซ์หนูชอบทวิภพมาก เมื่อคืนเพิ่งจะดูติดกัน สามรอบ ดีใจมากได้เจอพี่” “สามครั้งในคืนเดียวอะ !” “ฟลอเรนซ์ชอบงานอาร์ตๆ ที่อินสไปร์เรา อย่างงานโมเดลลิ่งที่มีการเล่น อารมณ์มากขึ้น พอถ่ายแล้วเราก็อินกับมันทำ�ให้ไหลไปเรื่อยๆ ชอบการเข้าหากัน อย่างทำ�งานกับผูก้ ำ�กับหรือช่างภาพ เขาส่งให้เรา เราส่งให้เขา ทำ�งานแล้วมีอนิ สไปเรชัน่ ”
Artistic Origin
“คนแปลกใจกันมาก ทักกันมากๆ ว่าฟลอเรนซ์ไม่เปลี่ยนเลย” เธอเน้นคำ�สุดท้าย “แต่เราก็ไม่แน่ใจนะว่าเขาหมายถึงหน้าตาหรืออะไร หรือ เขาคิดว่าเราควรจะ แก่ขึ้นแต่เราไม่แก่ขึ้นเลย เราก็...เหรอ จริงปะ เออก็ดีเนอะ” เธอหัวเราะสนุก ดูเหมือนคนดังมากมายจะต้องมีภูมิหลังดราม่ามาปรุงความน่าสนใจ เช่น เคยไม่สวยก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง ฟลอเรนซ์มีเรื่องราวแบบนั้นบ้างไหม “ตอนเด็กๆ ฟลอเรนซ์เป็นเด็กขี้อายมากแต่ไม่เคยไม่ชอบตัวเอง ส่วนรักสวย รักงามเพิ่งจะมาชอบเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว เป็นนางแบบมาตั้งแต่อายุ 15-16 ตอนนั้นคือ ไม่แคร์เลยนะว่าหน้าตาเป็นยังไง เมคอัพเป็นยังไง ไม่เคยเรื่องมากใส่ใครเลย